พาเพลินพยายามกลั้นความโกรธที่พวยพุ่งออกมาเอาไว้ ทำไมเขาต้องดูถูกเธอขนาดนี้ด้วย ผู้ชายคนนี้ช่างไร้มารยาทจริง ๆ
“ไร่พาเพลินชื่อมันก็บอกอยู่แล้วว่าเป็นไร่ของฉัน ฉันจะอยู่มันก็เป็นสิทธิ์ของฉันค่ะ”
“แน่ใจเหรอครับว่าสิทธิ์ของคุณ ผมว่าตอนนี้ผมเองก็มีสิทธิ์อยู่เกินครึ่งนะครับคุณเพลิน” เหนือเมฆเลิกคิ้วขึ้นสูง
“ฉันจะจ่ายดอกให้คุณเองค่ะ ต้องจ่ายเท่าไหร่คะ” พาเพลินถามเขากลับไปด้วยน้ำเสียงห้วน ๆ
แต่คำตอบของเหนือเมฆนั้นทำให้หญิงสาวต้องตกใจ ยอดเงินไม่ใช่น้อย ๆ เลยทีเดียว แค่ดอกยังขนาดนี้ถ้าทบต้นทบดอกจะขนาดไหน ไม่แปลกที่บิดาของเธอจะใช้เงินเก็บทั้งชีวิตจนหมด ท่านคงเอาข้าวของมีค่าในบ้านไปขาย เพื่อนำมาจ่ายดอกเบี้ยเขา เธอถึงไม่มีมรดกที่เป็นของมีค่าเลยสักชิ้น มีแค่บ้านพร้อมที่ไร่ผืนหนึ่ง
“ถึงไร่แล้วคุณค่อยบอกเลขบัญชีฉันแล้วกัน ฉันจะได้โอนเงินให้” หญิงสาวบอกเขาเสียงเบา ๆ เจ็บใจที่เธอตอบกลับเขาไปมากกว่านี้ไม่ได้
“ทำไมล่ะครับไม่มีเงินสดเหรอ”
“ค่ะไม่มีเงินสด นี่มันสมัยไหนกันแล้ว เขาโอนออนไลน์กันทั้งนั้นแหละค่ะ”
“เรื่องนั้นผมรู้ครับ แต่พ่อคุณชอบจ่ายเป็นเงินสดนะ ให้ผมไปเอาทุกอาทิตย์เลย ผมว่าทำแบบพ่อคุณก็ได้นะคุณเพลิน ผมเองก็อยากไปดูไร่ของคุณอยู่เหมือนกัน จะได้ดูเอาไว้ว่าจะต้องปรับเปลี่ยนอะไรยังไงบ้าง”
“นี่คุณเหนือเมฆ ฉันยังมีปัญญาจ่ายดอกอยู่นะ ทำไมคุณถึงได้พูดเหมือนจะมาเอาไร่ไปจากฉันง่าย ๆ แบบนี้ล่ะ” ว่าจะไม่โกรธแล้วเชียว แต่อีกคนก็จงใจหาเรื่องเธอเหลือเกิน
“มีจ่ายให้จริงเถอะครับ เพราะคุณอรรถก็ผ่อนผันมานาน พอผมจะยึดจริง ๆ ถึงค่อยมาจ่ายดอก รู้ไหมครับว่านี่ก็จะครบปีสัญญาแล้ว ถ้าคุณมีจ่ายก็ดี ผมกลัวแต่ว่าจะไม่มี” เหนือเมฆพูดเสียงแข็ง สีหน้าก็กระด้างตามไปด้วย อะไรที่เขาคาดคิดไว้ไม่เป็นไปตามนั้นเลย พาเพลินควรจะต้องกลับกรุงเทพฯ ไป และปล่อยให้เขายึดไร่อย่างถูกต้องตามกฎหมาย การขยายพื้นที่ทำฟาร์มวัวของเขาก็จะได้มีอาณาบริเวณกว้างขวางขึ้น แต่นี่หญิงสาวกลับดื้อรั้นจะอยู่ต่อ เป็นอะไรที่ขัดใจเขาเป็นที่สุด
‘คอยดูเถอะคุณเพลิน ผมนี่แหละจะเป็นเจ้าหนี้สุดโหด เขี้ยวลากดินให้คุณดู’
พาเพลินกลืนน้ำลายลงคอแบบอึดอัดใจ เหนือเมฆตั้งใจขู่เธอเพราะอยากได้ไร่ ดูเหมือนเขาอยากได้มากจริง ๆ หญิงสาวเริ่มคิดไม่ตกกับจำนวนดอกเบี้ยอันมหาศาล ที่ต้องจ่ายในแต่ละสัปดาห์ มันมากกว่าเงินที่เธอได้จากการออกงานแต่ละครั้งเสียอีก ต่างคนต่างคิดและต่างก็นั่งเงียบไปจนถึงไร่พาเพลิน
ป้าน้อยกับลุงมารีบออกมาช่วยหญิงสาวขนของเข้าบ้าน ส่วนเหนือเมฆนั้นเข้าไปนั่งรออยู่ที่ห้องรับแขก ไม่ได้คิดช่วยขนของแต่อย่างใด
“คุณหนูเพลินคะ คุณเหนือเมฆรออะไรเหรอคะ” ป้าน้อยถามระหว่างมือเก็บของไปด้วย
“รอเอาเงินค่ะป้าน้อย”
“เอาเงิน ?”
“ใช่ค่ะป้าน้อย เพลินจะจ่ายดอกให้เขาเหมือนที่พ่อเคยจ่ายค่ะ” พาเพลินยิ้มฝืนให้หญิงสูงวัย
“เฮ้อ” ป้าน้อยถอนหายใจออกมาอย่างยาวเหยียด หันไปมองสามีที่ทำหน้าไม่สบายใจอยู่ด้านข้าง ก่อนส่ายหน้าให้กันช้า ๆ
“ป้าน้อยกับลุงมาเก็บของเข้าตู้ไปนะคะ เดี๋ยวเพลินออกไปคุยกับคุณเหนือเมฆก่อน”
“ได้ค่ะ ไปไอ้มาเอาเนื้อหมูเข้าตู้เย็นได้แล้ว” สองสามีภรรยาช่วยกันเก็บของเข้าตู้เย็น พาเพลินจำต้องถือแก้วน้ำดื่มออกไปต้อนรับแขกด้านนอก
“น้ำค่ะคุณเหนือเมฆ” หญิงสาววางแก้วน้ำลงบนโต๊ะ เดินไปทรุดตัวลงนั่งฝั่งตรงข้ามกับเขา
“ขอบคุณครับ” เหนือเมฆยกแก้วน้ำเปล่าขึ้นดื่ม ก่อนนั่งรอว่าอีกฝ่ายจะเอายังไงต่อ
“ฉันขอเลขบัญชีคุณด้วยค่ะ จะได้โอนดอกให้เลย” พาเพลินเข้าเรื่องในทันที เธอไม่อยากให้เขาอยู่ในไร่นานเกินไป
“ผมใช้พร้อมเพย์เอาเบอร์โทรผมไปนะครับ ขอเบอร์มือถือด้วยครับคุณเพลิน” คนพูดหยิบโทรศัพท์มือถือออกมา ทำท่าพร้อมเตรียมกดหมายเลข พาเพลินจำต้องบอกเบอร์โทรของเธอกับเขาไป ไม่ช้าเขาก็กดโทรเข้ามาที่เครื่องของเธอ
“ใส่เบอร์มือถือผมได้เลยครับถ้าจะโอน โอนเลยไหมครับ”
‘หน้าเลือด !’
“ค่ะโอนเลยก็ได้” พาเพลินเปิดธนาคารออนไลน์ขึ้นมาในมือถือ แล้วทำการโอนเงินให้เขาไป
“เรียบร้อยแล้วค่ะ”
เหนือเมฆเปิดโทรศัพท์มือถือของตัวเองขึ้นมาดู เขาใช้ไลน์แจ้งการโอนเงินของธนาคารสีม่วง และเห็นว่ามียอดเงินเข้ามาจริง สีหน้าเขาแสดงออกว่าผิดหวังเล็กน้อย ที่อีกฝ่ายมีเงินดอกเบี้ยโอนให้เขาได้
“ขอบคุณครับ งั้นผมกลับเลยแล้วกัน”
“อ้อ เรื่องรถล่ะคะ”
“มีไลน์ไหมครับ เดี๋ยวผมส่งข้อมูลร้านให้”
“มีค่ะ รอแป๊บนะคะ” ทั้งคู่ทำการแลกไลน์กันเสร็จเรียบร้อย ฝ่ายชายก็ส่งข้อมูลเบอร์โทรกับที่อยู่ของอู่ซ่อมรถให้หญิงสาว
“ขอบคุณอีกครั้งนะคะคุณเหนือเมฆ ที่ช่วยเรื่องรถอีกทั้งยังมาส่งที่ไร่ด้วย” หากไม่นับเรื่องแย่ ๆ ก่อนหน้าของเขา เหนือเมฆก็ยังมีบางมุมที่ใช้ได้อยู่เหมือนกัน แต่แค่ใช้ได้นะ
“ครับ แต่ระหว่างนี้ถ้าคุณต้องไปไหนหรือทำธุระไกล ๆ คุณจะทำยังไงล่ะคุณเพลิน”
“คงไม่มีธุระอะไรหรอกค่ะ ตอนนี้ฉันแค่อยากพักผ่อนอยู่ไร่เฉย ๆ คิดว่าคงไม่ต้องใช้รถไปไหนมาไหน”
“อยู่ได้เหรอครับ อยู่เฉย ๆ ในไร่โทรม ๆ นี่ ผมว่าอยู่ยากนะครับ” เขาปรายตามองความเก่าแก่ของที่นี่แล้วหันมาพูดกับหญิงสาว
พาเพลินต้องสูดลมเข้าปอดลึก ๆ กับคำพูดของเขา ไม่รู้ครั้งที่เท่าไหร่แล้วของวันนี้ เหนือเมฆเกิดมาเพื่อดูถูกคนอย่างเธอหรืออย่างไรกัน เขาดูแคลนเธอแบบไม่ได้รู้สึกตัวว่าผิดเลยสักนิด
“บางครั้งคุณไม่ต้องมาคิดแทนคนอื่นก็ได้นะคะ เพราะบางทีเขาก็ไม่ได้ต้องการ” คนได้ยินหน้าชาเล็กน้อย แต่เขาก็ยักไหล่แล้วยิ้มแบบกวนประสาทคนเห็น
“งั้นผมกลับก่อนนะครับ ถ้ามีอะไรเร่งด่วน ผมหมายถึงต้องใช้รถใช้ราอะไรทำนองนี้ ระหว่างนี้โทรหาผมได้นะ ถ้าว่างผมจะมา”
“ค่ะ ไม่ไปส่งนะคะ” พาเพลินลุกขึ้นเดินกลับเข้าห้องครัวไป ปล่อยให้แขกต้องเดินออกจากบ้านไปเพียงลำพัง
‘คุณเพลิน คุณจะไปได้สักกี่น้ำเชียวผมอยากรู้’
เหนือเมฆเดินไปขึ้นรถของตนเอง แล้วขับออกจากไร่ของพาเพลินไป มีความอยากเอาชนะนางร้ายคนสวยขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก อยากทำให้รู้ว่าการเป็นชาวไร่มันไม่ง่าย ไม่ใช่ที่ที่พาเพลินจะมาอยู่เพื่อหลบข่าวฉาวโฉ่ เขาไม่เชื่อเด็ดขาดว่าหญิงสาวจะสามารถเป็นชาวไร่ได้