“ก็เพลินไม่มีเงินมาไถ่ไร่คืนจากคุณเหนือเมฆนี่คะป้าน้อย พ่อเอาไปจำนองเขาไว้ตั้งหลายปีเพลินเองก็เพิ่งรู้”
“เหรอคะป้านึกว่าแค่กู้เงินกันเฉย ๆ” ป้าน้อยทำหน้าเหมือนคนไม่รู้ คงคิดว่าแค่ไปกู้เงินไร่เหนือเมฆมาเท่านั้น ไม่คิดว่ามีการจำนองไร่กันด้วย
“คุณเหนือเมฆของป้าน้อยฉลาดจะตายไปค่ะ ให้ทนายทำสัญญาเอาไว้หมดเลย เพลินก็นึกว่าจะใจดีให้ทนายมาจัดการเรื่องมรดกให้”
“แล้วไม่ดีเหรอคะ”
“ดีที่ไหนล่ะคะ เขาตั้งใจทำให้ถูกต้องเพื่อที่เขาจะยึดที่นี่ได้ตามกฎหมาย และให้ทายาทอย่างเพลินยอมให้เขายึดไปอย่างถูกต้องยังไงคะป้าน้อย นี่เพลินก็เพิ่งเซ็นรับมรดกไป เลยต้องรับหนี้ของพ่อมาด้วย”
“อย่างนั้นเองเหรอคะ ไม่เป็นไรค่ะคุณหนูเพลิน ถ้าเกิดไร่เราถูกยึดไปจริง ๆ ป้าจะลองขอคุณเหนือเมฆทำงานที่ไร่ต่อ แต่ไม่รู้ว่าเขาจะรับหรือเปล่า แต่บ้านที่ท้ายไร่คิดว่าเขาคงไม่ให้ป้าอยู่หรอกค่ะ คนงานของไร่โน้นค่อนข้างเยอะอยู่ ป้ากับลุงคงต้องไปหาบ้านเช่าเอาค่ะ” ป้าน้อยพูดเหมือนคนปลงตกกับชีวิต ทว่าแววตาแสดงความเสียใจออกมาอย่างชัดเจน พาเพลินเห็นแล้วก็เกิดหนักใจขึ้นมา
“เพลินจะอยู่ที่นี่ค่ะ” หญิงสาวตัดสินใจเอ่ยคำนี้ออกมา
“คุณหนูเพลินว่ายังไงนะคะ” ป้าน้อยเงยหน้าขึ้นมาถามอย่างไม่เข้าใจ
“เพลินบอกว่าจะอยู่ที่นี่ค่ะป้าน้อย จะอยู่จ่ายหนี้แทนพ่อเองค่ะ ดูจากสัญญาแล้วเขาคงไม่ยึดไร่เราง่าย ๆ หรอก ถ้าเรายังผ่อนจ่ายเขาไหวอยู่ อย่างน้อยจ่ายดอกก็ยังดี น่าจะยื้อได้บ้างล่ะค่ะ”
“แต่ถ้าไม่ไหวล่ะคะ”
“ก็ต้องลองดูก่อนค่ะ เพลินเองก็มีปัญหาที่กรุงเทพฯ ไม่อยากกลับไปรับรู้อะไรอีกแล้ว มาอยู่บ้านไร่ก็ดีเหมือนกันนะคะ สงบดีไม่วุ่นวาย เพลินขอสู้เพื่อพ่อให้ถึงที่สุดดูก่อนค่ะป้าน้อย ถ้าอนาคตไม่ไหวยังไงค่อยว่ากัน เพลินอยากทำเพื่อพ่อบ้าง อยากรักษาไร่ของพ่อเอาไว้ค่ะ” หญิงสาวเอ่ยเสียงเศร้าดวงตาเคลือบไปด้วยหยาดน้ำใส ๆ
“คุณหนูเพลิน” ป้าน้อยยกมือขึ้นปิดปาก หลุดเสียงร้องไห้ออกมาเบา ๆ พาเพลินตกใจรีบเข้าไปนั่งด้านข้างของหญิงสูงวัย
“ป้าน้อยจะร้องไห้ทำไมคะ”
“ป้าดีใจค่ะคุณหนูเพลิน ที่คุณหนูเพลินยอมอยู่ที่นี่ยอมสู้เพื่อคุณอรรถ” ป้าน้อยปาดน้ำตาออกจากหน้าแล้วยิ้มให้พาเพลิน
“เพลินเองก็ทำไม่ดีกับพ่อไว้เยอะ ทิ้งพ่อไปแบบไม่เหลียวแลเลย เพลินไม่มีโอกาสได้ขอโทษพ่อด้วยซ้ำ เพลินอยากทำอะไรเพื่อพ่อบ้างค่ะป้าน้อย” หยาดน้ำตาหล่นอาบแก้มของคนพูด ป้าน้อยเอื้อมมือมาจับมือพาเพลินเอาไว้ ตบปลอบบนหลังมือเบา ๆ
“ดีใจที่คุณหนูเพลินคิดแบบนี้นะคะ ป้ากับลุงจะช่วยสนับสนุนคุณหนูเพลินทุกอย่างเองค่ะ”
“เพลินก็พูดดูดีไปงั้นแหละค่ะ จะเริ่มต้นตรงไหนยังไม่รู้เลย แต่ที่แน่ ๆ เพลินว่าเจ้าหนี้อย่างคุณเหนือเมฆคงจะไม่พอใจแน่นอน ที่เพลินไม่ทิ้งไร่ไปเหมือนที่เขาต้องการ” พาเพลินปาดน้ำตาออกจากหน้า พอเอ่ยถึงเหนือเมฆแล้วทำไมแรงใจในการจะอยู่ที่นี่ถึงได้เพิ่มขึ้น เหมือนเธอไม่อยากให้เขาสมหวังง่าย ๆ
“คุณเหนือเมฆไม่ได้เลวร้ายแบบนั้นหรอกค่ะคุณหนูเพลิน อย่ามองแกในแง่ร้ายนักเลยค่ะ”
“ป้าน้อยนั่นแหละค่ะที่มองเขาแง่ดีเกินไป แค่อ้าปากเพลินก็เห็นลิ้นไก่แล้วว่าเขาอยากได้ไร่นี้แค่ไหน ว่าแต่เขาอายุเท่าไหร่กันเหรอป้าน้อย” พาเพลินอยากรู้อายุของเขาขึ้นมา
“เอ ป้าว่าน่าจะสามสิบเจ็ดสามสิบแปดนี่แหละค่ะ สามสิบแปดแน่ ๆ ป้าจำได้แล้ว แกจัดงานวันเกิดครบรอบสามสิบแปดไปเมื่อต้นปีนี้เอง ป้ากับลุงยังไปงานของแกอยู่เลยค่ะ” หญิงสูงวัยทำหน้านึกออกหลังจากครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง
“สามสิบแปดเองเหรอคะ ไม่จริงมั้ง สงสัยจะทำงานหนักหน้าเลยแก่ก่อนวัย เพลินนึกว่าจะสี่สิบแล้วเสียอีก” พาเพลินพูดทีเล่นทีจริงให้เป็นเรื่องตลกขบขันไป ความจริงเขาก็ไม่ได้แก่หรอก ครั้งแรกที่เจอกัน เธอยังเดาอายุเขาได้ใกล้เคียงความจริงด้วยซ้ำ
“คุยเรื่องคุณเหนือเมฆแล้วค่อยยังชั่วขึ้นนะคะ คลายเครียดขึ้นมาหน่อย” ป้าน้อยเองก็พลอยขำตามหญิงสาวไปด้วย
“ค่ะเพลินก็ว่างั้นแหละ อายุขนาดนี้น่าจะมีลูกเมียแล้วเนอะ”
“ไม่มีค่ะคุณหนูเพลิน”
“จริงเหรอคะ เป็นไปได้ยังไงเพลินไม่เชื่อหรอกค่ะ”
“ก็เกือบจะได้แต่งงานเหมือนกันค่ะราว ๆ ห้าปีก่อนโน้น แต่ว่าที่เจ้าสาวยกเลิกงานแต่งไปก่อน ไปแต่งงานกับคนใหม่ที่รวยกว่าอยู่กรุงเทพฯ โน่นค่ะ ประมาณหนุ่มไร่แพ้หนุ่มเมืองกรุง”
“คนอย่างคุณเหนือเมฆถูกสาวทิ้งไม่น่าเชื่อ แต่เอ๊ะ ดูจากคำพูดคำจาก็มีแววนะคะ อ้อ เพลินเข้าใจอะไรบางอย่างแล้วล่ะ” เพราะเหตุผลนี้นี่เองเขาถึงได้อคติกับสาวเมืองกรุงอย่างเธอ
“คะคุณหนูเพลิน เข้าใจอะไรคะ”
“ไม่มีอะไรหรอกค่ะ เพลินไม่รบกวนเวลาทำงานของป้าน้อยดีกว่า อีกอย่างคือเพลินยังไม่มีเงินเดือนให้ป้าน้อยกับลุงมานะคะ ไม่ต้องมาทำความสะอาดหรือทำกับข้าวให้เพลินก็ได้ค่ะ”
“ถึงไม่มีเงินเดือนก็ไม่เป็นไรค่ะ ป้ากับลุงเต็มใจทำให้ ขอแค่คุณหนูเพลินซื้อของสดที่อยากกินมาแช่ตู้เย็นไว้ ป้าทำได้หมดแหละค่ะไม่ลำบากอะไรเลย”
“เอางั้นเหรอคะป้าน้อย ว่าแต่เพลินจะไปตลาดไปซื้อพวกของกินของใช้ได้ทางไหนบ้างคะ”
“รถกระบะของไร่ไงคะคุณหนูเพลิน รถของคุณอรรถเหลืออยู่แค่คันนี้คันเดียวค่ะ ว่าไปแล้วตอนนี้ก็ต้องตกเป็นของคุณหนูเพลินถึงจะถูก ไอ้มามันอาศัยขับไปซื้อของในตลาดเหมือนกัน ปกติมันขี่มอเตอร์ไซค์ไปค่ะ วันไหนต้องซื้อของเยอะ ๆ หนัก ๆ ถึงจะเอารถไป เดี๋ยวให้มันเอากุญแจมาให้คุณหนูเพลินนะคะ”
“ขอบคุณค่ะป้าน้อย”
“งั้นป้าไปทำงานต่อนะคะ”
“ค่ะ”
ป้าน้อยเดินกลับไปทำงานของตัวเองต่อ พาเพลินทอดสายตามองไปรอบ ๆ บริเวณบ้าน เมื่อตัดสินใจจะสู้แล้วเธอก็จะต้องทำให้ถึงที่สุดเหมือนกัน มองหาหนทางที่จะอยู่ที่นี่ให้ได้ เงินเก็บที่ทำงานมาก็ยังพอสามารถจะจ่ายดอกให้เหนือเมฆได้อยู่ ระหว่างนี้เธอต้องหาทางสร้างรายได้จากที่นี่ไปด้วย