“ไม่ต้องเข้าข้างกัน ถ้าอยากเห็นหน้าเขาก็ไปสิอยู่ในไร่โน่น ยังไม่กลับกรุงเทพฯ หรอก ไม่รู้จะอยู่ต่อไปทำไม” ต้นประโยคประชดน้องสาว แต่ปลายประโยคมีบ่นพาเพลินไปด้วย
“อ้อ ที่หน้าบูดหน้าบึ้งอยู่นี่ เป็นเพราะคุณพาเพลินไม่ยอมกลับกรุงเทพฯ ใช่ไหมคะ พี่เมฆเลยยึดไร่เขาไม่ได้ โครงการจะผนึกร่างกับไร่โน้นก็ต้องชะงักไว้ อย่างกให้มากนักเลยพี่เมฆ คนกำลังเสียพ่อไปอย่าไปเร่งเธอเลย” ผลิขวัญรู้ทุกเรื่องที่พี่ชายของเธอต้องการ
“แล้วใครว่าพี่เร่งล่ะยัยขวัญ นี่พี่ใจดีสุด ๆ แล้วนะ ใจดีตั้งแต่พ่อยันลูกสาวเลยนะเนี่ย ช่วยสารพัดจะช่วยแล้วนี่”
“ค่า ใจดีก็ใจดีไม่เถียงแล้วก็ได้ ว่าไปคุณพาเพลินนี่ก็น่าสงสารนะพี่เมฆ” ผลิขวัญทำหน้าย่นใส่พี่ชาย ก่อนจะนึกไปถึงหัวข้อข่าวที่กำลังเป็นประเด็นร้อนอยู่ในตอนนี้
“ไปสงสารเขาทำไม มีอะไรน่าสงสาร”
“อ้าว แสดงว่าพี่เมฆไม่ได้ติดตามข่าวบันเทิงเลยล่ะสิ”
“แล้วขวัญเห็นพี่ว่างนักรึไง นี่ก็เพิ่งจัดการงานศพคุณอรรถเสร็จ ไหนจะงานที่ไร่อีกเยอะแยะไปหมด เพราะมีน้องสาวเอาแต่สนใจข่าวไร้สาระอยู่แบบนี้ไง งานพี่เลยไม่ไปไหนสักที”
“อูย มาลงที่ขวัญอีกจนได้นะพี่เมฆ แล้วใครใช้ให้พี่เมฆเสนอตัวไปจัดงานศพให้เขาล่ะ อยากได้ไร่เขามากจนต้องทำล่ะไม่ว่า”
“นี่มองพี่ในแง่ดีบ้างได้ไหม คุณอรรถก็เป็นเหมือนเพื่อนบ้านเรา เมื่อไม่มีญาติมาจัดงานศพให้ พี่ก็ต้องออกหน้าช่วยเหลือสิ”
“ลูกสาวเขาก็มี”
“โอย กว่าแม่นั่นจะขึ้นมานี่ได้ ศพคุณอรรถคงไม่ได้ออกจากโรงพยาบาลกันพอดี เห็นไหมว่าพี่เป็นคนเดินเรื่องแจ้งคนตายที่อำเภอ เป็นคนนำศพคุณอรรถออกจากโรงพยาบาล มาเตรียมงานที่วัดให้อีก อ้อ ไหนจะให้ทนายศรุตจัดการเรื่องมรดกให้ด้วย เห็นความดีของพี่บ้างไหม” เหนือเมฆร่ายยาวถึงเรื่องที่เขาทำให้คนตายด้วยความเต็มใจ ไม่ได้มีจุดประสงค์อื่นแอบแฝงอย่างที่น้องสาวใส่ความแต่อย่างใด
“ยาวไปพี่เมฆ” ผลิขวัญทำท่าไม่อยากฟังต่อ งอนพี่ชายที่ลากเรื่องโน้นมาผสมเรื่องนี้ จนเธอหาทางไปเถียงสู้ไม่ได้
“ว่าแต่เรื่องอะไรล่ะที่ขวัญบอกว่าสงสารคุณเพลินเขา” เมื่อน้องสาวทำท่าไม่อยากเล่า คนเป็นพี่ชายนั้นเกิดอยากรู้ขึ้นมาทันที
“ฮันแน่ ไปสนิทจนเรียกชื่อเล่นเขาแล้วเหรอพี่เมฆ”
“ไม่ได้สนิทอะไรหรอก ป้าน้อยแกแนะนำว่านี่คุณหนูเพลินค่ะ พี่ก็เลยต้องเรียกคุณเพลินตามยังไงล่ะ” เขาเลียนแบบเสียงป้าน้อยจนคนเป็นสาวต้องย่นหน้าใส่
“ทำไมพี่เมฆไม่เรียกคุณหนูเพลินเหมือนป้าน้อยไปเลยล่ะ”
“โอ๊ย หน้าไม่ให้ที่จะเป็นคุณหนูหรอก แม่นั่นน่ะ ลุงมากับป้าน้อยก็นอบน้อมเสียเหลือเกิน คุณหนูเพลินอย่างนั้น คุณหนูเพลินอย่างนี้ พี่ได้ยินทีไรก็ขนลุกทุกที” เหนือเมฆทำท่าขนลุกขนพองขึ้นมา จนคนเป็นน้องสาวต้องตีเผียะที่ท่อนแขนเข้าให้
“พี่เมฆ ทำไมปากร้ายแบบนี้นะ ปกติพี่เมฆไม่เคยนินทาผู้หญิงเลยนะคะ ทำไมพอเป็นคนนี้ถึงได้ออกอาการนัก” ผลิขวัญทำหน้าสงสัยในสิ่งที่พี่ชายแสดงออกมาอย่างชัดเจน
“ก็พี่ไม่ชอบแม่นั่นนี่ ว่าแต่เล่าสักทีสิเรื่องอะไร” เหนือเมฆเร่งเร้าน้องสาวอีกรอบ
“อยากรู้เหมือนกันล่ะสิ ทำเป็นมากท่าไปได้” ผลิขวัญเบ้ปากใส่พี่ชายอย่างขำ ๆ
“เปล่าไม่ได้อยากรู้เลย พี่เห็นว่าขวัญอยากเล่าพี่ก็จะรับฟัง นี่พี่ตั้งใจเป็นผู้ฟังที่ดีเลยนะเนี่ย”
“เยอะจริง ๆ พี่ชายใครก็ไม่รู้ ก็นี่ไงคะข่าวเอ็มปารินทร์ไงคะพี่เมฆ” ผลิขวัญล้วงโทรศัพท์มือถือออกมาจากกระเป๋ากางเกง เปิดหน้าเพจข่าวบันเทิงให้พี่ชายได้อ่านด้วยตัวเอง
“เอ็มควงซาซ่าตั้งโต๊ะแถลงเรื่องคบหาเป็นแฟนกัน งานนี้นางร้ายพาเพลินเหมือนถูกทั้งคู่ลากมาตบหน้ากลางสี่แยกไฟแดงก็ไม่ปาน อะไรของมันวะเนี่ย ขวัญนี่มันข่าวผัวเมียตบกันหรือยังไง พี่อ่านไม่รู้เรื่อง !” อ่านยังไม่ทันจะจบย่อหน้าเหนือเมฆก็ยื่นโทรศัพท์คืนน้องสาวเสียแล้ว
“พี่เมฆอ่าตกข่าวตลอด”
“เล่ามา ไม่อ่านปวดกบาล”
“ก็ได้ค่า คืออย่างนี้นะพี่เมฆ คุณเพลินเขาเพิ่งเปิดตัวคบกันกับเอ็มปารินทร์เมื่อครึ่งปีก่อนเอง ตอนนั้นคุณเพลินแกยังอี๋อ๋อรักกันหวานชื่นมาก แล้วนี่อะไร จู่ ๆ เอ็มก็ตั้งโต๊ะแถลงข่าวว่าเป็นแฟนกับซาซ่า พี่เมฆรู้จักซาซ่าไหม นางเอกชื่อดังที่ทางช่องดันนักดันหนาอยู่ในตอนนี้”
“แล้วมันแปลกตรงไหนก็แค่ออกข่าวว่าคบกัน”
“ก็แปลกตรงที่คุณเพลินกับเอ็มปารินทร์ ไม่เคยออกสื่อว่าเลิกกันน่ะสิ แต่จู่ ๆ เอ็มก็ไปมีแฟนใหม่แบบนี้ แถมยังเป็นช่วงที่คุณเพลินกำลังตกอับอีกด้วย ได้ข่าวมาว่าทุกคนยกเลิกการจ้างงานเธอหมดเลย ตั้งแต่มีเรื่องคุณลุงอรรถ”
“กรรมของใครก็ต้องรับกันไป ช่วยไม่ได้นะขวัญเขาทำตัวเองทั้งนั้น” ยิ่งได้รู้เรื่องของพาเพลินมากขึ้นเท่าไร เหนือเมฆก็ยิ่งรู้สึกชิงชังผู้หญิงคนนี้มากขึ้นเท่านั้น
“เรื่องของคุณลุงอรรถขวัญก็ไม่ว่าอะไรหรอกค่ะ แต่เรื่องเอ็มปารินทร์นี่สิ แย่เนอะผู้ชายแบบนี้” ในมุมมองของผู้หญิงด้วยกัน ผลิขวัญมองว่าปารินทร์คบซ้อนและไม่ได้ให้เกียรติพาเพลินเลย
“แค่แฟนไม่ใช่ผัวเมียกันสักหน่อย ผู้ชายพลาดไปก็เลือกใหม่ได้ ถ้าพี่มีแฟนแบบยัยนั่นพี่ก็เลือกคนใหม่เหมือนกันแหละขวัญ คนเรารักกันให้อภัยกันได้หมดแหละ แต่ผู้หญิงที่ทอดทิ้งพ่อแม่ของตัวเองได้ลงคอ ไม่มีผู้ชายคนไหนอยากได้มาเป็นเมียหรอก” เหนือเมฆพูดในมุมของคนผ่านชีวิตมาสามสิบแปดปีเต็ม
“ขวัญเข้าใจที่พี่เมฆพูดนะคะ แต่เล่นตบหน้ากันกลางสี่แยกแบบนี้ก็ไม่ไหวนะพี่เมฆ ไม่รู้คุณเพลินจะเป็นยังไงบ้าง หรือว่าเรื่องนี้ทำให้เธอไม่อยากกลับกรุงเทพฯ แล้วนี่พี่เมฆยังจะไปเร่งเอาไร่เขาอีก ใจร้ายที่สุด” คนเป็นน้องสาวมองค้อนพี่ชายเล็กน้อย
“หยุดเลยยัยขวัญอย่าโยงกันเด็ดขาด แล้วเลิกเล่าเรื่องยัยนั่นให้พี่ฟังได้แล้ว ไร้สาระ พี่ไปทำงานดีกว่า”
“พอรู้เรื่องแล้วก็ว่าน้องนุ่งเลยนะพี่เมฆ จะรีบไปไหนล่ะคุยกันยังไม่เสร็จเลย พี่เมฆ !” ผลิขวัญมองตามหลังพี่ชายที่ลุกขึ้นเดินจากไป คล้ายคนรำคาญเธอเต็มทน
หญิงสาวทำหน้ามุ่ยแล้วทิ้งตัวลงนั่งที่เดิม มองโทรศัพท์มือถือด้วยความแปลกใจ ปกติแล้วพี่ชายของเธอไม่เคยแสดงออกว่าเกลียดใครชัดเจนแบบนี้มาก่อน ภาพที่ทุกคนเห็นกันเป็นประจำ คือชายหนุ่มที่ชอบทำหน้าเคร่งขรึมอยู่ตลอดเวลา เป็นคนเอาจริงเอาจังกับงานทุกอย่างในไร่ แต่ทำไมกับนางร้ายพาเพลินคนนี้ ถึงได้แสดงออกว่าเกลียดหญิงสาวอย่างชัดเจน ผลิขวัญไม่เข้าใจพี่ชายของตนเองเลยจริง ๆ