พบเจอหน้าครั้งแรก
ซ่า ซ่า เสียงฝนตกดังระงม ความมืดค่อยๆเคลือบคลานเข้ามา เด็กผู้หญิงตัวเล็กๆ พร้อมสัมภาระยืนหลบฝนอยู่หน้าตึก ที่กำลังก่อสร้าง ซึ้ง ณ ตอนนี้คนงานต่างพากันกลับที่พักกันหมดแล้ว
ปัง ปัง ปัง เสียงปืนดังต่อเนื่องและใกล้เข้ามาบริเวณที่เธอยืนหลบฝนอยู่ เสียงดังใกล้มาเรื่อยๆ สาวน้อยหวากวิตกรีบหาที่หลบซ้อนตัว
แชะ แชะ เสียงฝีเท้าที่วิ่งย่ำน้ำฝนที่นองพื้น วิ่งมาหยุดตรงหน้าที่สาวน้อยหลบอยู่ เธอเห็น หญิงวัยกลางคนถูกชายหนุ่มชุดดำต้อนจนจนมุม 1 ใน 3 คนชุดดำนั้นยกปืนขึ้นจ่อไปยังหญิงวัยกลางคน คนนั้น นิ้วชี้ที่กำลังเหนียวไกลปืนอย่างช้าๆ ทำให้หญิงสาวตัดสินใจพาตัวเองไปบังอีกร่างนึงไว้พร้อมกับเสียงปืนที่ดังขึ้น 1ครั้ง และเสียงปืนก็ดังขึ้นอีกสองนัดติดกัน เธอกอดร่างหญิงคนนั้นไว้แน่นก่อนที่ร่างบางจะค่อยๆทรุดตัวลงอย่างช้าๆ เปลือกตาค่อยๆปิดลง ภาพที่มองเห็นผู้หญิงและผู้ชายมากมายวิ่งกรูเข้ามาหาค่อยๆเลือนลาง จนมืดสนิท
1 อาทิตย์ผ่านไป
โรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่งในกรุงเทพมหานคร ห้องVVIP เสียงพูดคุยของบุคคลในห้อง ปลุกหญิงสาวที่นอนหลับไหลมานานตื่นขึ้นมา เธอลืมตาขึ้นมาอย่างช้าๆ กระพริบตาเพื่อปรับสายตาให้เข้ากับแสงในห้อง เธอขยับตัวเล็กน้อยก็รู้สึกถึงความเจ็บปวด เธอย้อนคิดถึงเรื่องราวที่เจอก่อนหน้านี้ จนภาพทุกอย่างไหลเข้ามาในโซนสมองดังภาพที่อัดบันทึกไว้ เป็นไงบ้างค่ะหนู เสียงจากบุคคลนึงที่เอ่ยถามเธอปลุกให้ดึงสติหันมามองยังต้นเสียงที่ถามเมื่อกี้ อาการเป็นไงบ้างค่ะ หญิงวัยกลางคนก็ยังถามหญิงสาวด้วยความห่วงใยต่อ ก่อนจะหันไปสั่งลูกน้องตนไปเรียกหมอให้เข้ามาดูอาการคนป่วยบนเตียง หมอพร้อมพยาบาลผู้ช่วยเดินเข้ามาตรวจอาการ
อาการโดยรวมตอนนี้โอเครมากครับ เหลือแต่รอให้แผลหายดีครับ หมอจะให้นอนดูอาการอีกสัก2-3 วันนะครับ ถ้าไม่มีอะไรจะอนุญาติให้คนไข้กลับบ้านได้นะค่ะ งั้นหมอขอตัวก่อนนะครับ
เมื่อหมอและพยาบาลผู้ช่วยออกจากห้องไปแล้ว หญิงวัยกลางคนก็เดินมายืนใกล้เตียงของเธอ ฉันชื่อพิมพ์นารา คุณหญิงพิมพ์แนะนำตัวแก่หญิงสาว คุณหญิงพิมพ์มองดูหญิงสาวตรงหน้าเธอด้วยความเอ็นดู ปนรักใคร่ไม่น้อย เธออยากมีลูกสาวแต่กลับได้แต่ลูกชาย
ฉันต้องขอบคุณหนูมากๆเลยที่ช่วยชีวิตฉันไว้ คุณหญิงพิมพ์เอ่ยขอบคุณหญิงสาวจากใจจริง แล้วที่นี้พอจะเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับตัวหนูให้ฉันฟังได้แล้วมั้ย คุณหญิงพิมพ์มองตาหญิงสาวสื่อว่าให้ไว้ใจตน
หญิงสาวจึงเอ่ยเล่าเรื่องราวของตัวเองให้คุณหญิงพิมพ์ฟังทุกเรื่องโดยไม่ปิดบัง
เมื่อคุณหญิงพิมพ์ได้ฟังเรื่องราวของหญิงสาวที่ช่วยชีวิตเธอ เธอก็รุ้สึกเอ็นดูหญิงสาวจับใจ
โถ อายุแค่นี้ต้องมาเจอเรื่องราวเยอะแยะมากมายแบบนี้
เอาละ ฉันตัดสินใจแล้ว หนูไปอยู่กับฉันนะลูก ฉันจะเลี้ยงดูเสมือนหนูคือลูกสาวแท้ๆเลย คุณหญิงเอ่ยความต้องการของตนให้หญิงสาวรับทราบ
แต่หนู ไม่ต้องแต่จ้ะ ฉันตัดสินใจแล้ว คุณหญิงพิมพ์ไม่เปิดโอกาสให้อีกฝ่ายได้เอ่ยอะไรทั้งนั้น
1 ปีผ่านไป จากเด็กสาวในวันนั้นกลายมาเป็นหญิงสาวที่แข็งแกร่งในทุกวันนี้ ตอนนี้เธออายุย่างเข้า 19 ปี จากเด็กผู้หญิงธรรมดาอ่อนแอคนหนึ่งถูกฝึกสารพัดรูปแบบ หนังเรื่องการต่อสู้ ทางเรื่องการทำงานบริหารงานต่างๆ จนเก่งกล้าสามารถล้มองค์กรใหญ่ๆที่มาต่อต้านได้โดยง่ายดาย
ในเช้าของอีกวัน หญิงสาวตื่นเช้าเป็นปกติของทุกๆวัน เธอเดินลงบันไดจากห้องของเธอที่อยู่บนชั้น 3 ของคฤหาสน์ แต่วันนี้เมื่อเธอเดินมาถึงโต๊ะอาหารในห้องอาหารของบ้าน กลับมีประมุขของบ้านและภรรยานั่งรอเธออยู่ก่อนแล้ว ตามหลังเธอมาด้วยลูกชายคนโตของตระกูล ตระกูลของยามาโมโตะ ซึ่งเป็นตระกูลมาเฟียที่เก่าแก่ของประเทศญี่ปุ่นรวมทั้งในแถบเอเชียด้วย โดยตระกูลของยามาโมโตะมีลูกชาย 2 คนลูกชายคนโตมีชื่อว่าไคโตะ ซึ่งได้รับตำแหน่งหัวหน้ามาเฟียคนต่อไปจากประมุขของบ้านวางมือ
เมื่อพี่ใหญ่ของบ้านก็เดินมาถึงที่โต๊ะอาหาร อาหารก็ถูกเสิร์ฟโดยแม่ครัว 4 ท่านต่างทานอาหารเช้ากันอย่างเอร็ดอร่อย มีเสียงพูดคุยจากคุณหญิงพิมพ์นาราขึ้นเป็นระยะ
เมื่อต่างทานอาหารกันเสร็จเรียบร้อย ประมุขของบ้านก็เอ่ยสั่งทุกคนไปพร้อมกันที่ห้องนั่งเล่น เพราะตนและภรรยาคนสวยมีเรื่องที่ตกลงกันจะประกาศแก่ลูกชายคนโตกับลูกสาวบุญธรรม
ไคโตะ กับฮานะ เดินเข้ามานั่งตรงข้ามกับประมุขและคุณพิมพ์นาราเพื่อรอฟังคำประกาศ
เมื่อเห็นว่าลูกทั้งสองเข้ามานั่งเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ฮิโรโตะ ประมุขของบ้านก็เอ่ยเปิดประเด็น
คืออย่างนี้นะป๊ากับม๊าได้ปรึกษากันว่าจะให้หนูฮานะช่วย ไคโตะได้ยินคำบิดาเอ่ยปากขอให้ฮานะช่วยก็รู้สึกแปลกใจและหันมองหน้าน้องสาวบุญธรรม
ฮานะยินดีช่วยป๊ากับม๊าค่ะ หญิงสาวรับปากรับคำบิดาและมารดาบุญธรรมของเธอทันทีถ้าหากว่าสิ่งที่ป๊ากับม๊าเอ่ยให้เธอช่วยทดแทนบุญคุณที่ทั้งสองมีให้แก่เธอได้บ้างเธอก็ยินดีทำตาม
หนูจะไม่ถามหน่อยเหรอลูก ม๊าพิมพ์นาราเอ่ยถามลูกสาวตน
ฮานะไม่ถามค่ะเพราะคิดว่าสิ่งที่ป๊ากับม๊ามอบให้นั้นหรือให้ตนช่วยนั้นเป็นเรื่องหวังดีของทั้งสองท่าน เพราะต่อให้ส่งเธอต้องไปจบชีวิต เธอก็ยอม
งั้นก็โอเค เรื่องที่ป๋าจะขอให้หนูช่วยมันไม่เหนือความสามารถของหนูแน่นอน คือป๊าอยากให้หนูช่วยแต่งงานกับไอ้เจ้ายูกิ ลูกชายคนน้องของตระกูล
ไคโตะ เมื่อได้ยินประโยคที่บิดาตนกล่าวออกมา ก็เกิดความโต้แย้งขึ้นในใจด้วยรู้ว่านิสัยน้องชายตนนั้นเป็นเช่นไร บวกกับรักและเอ็นดูฮานะเหมือนน้องสาวแท้ๆตั้งแต่เธอเข้ามาอยู่วันแรก
ป๊ากับม๊า คิดยังไงให้น้องไปแต่งงานกับไอ้เจ้ายูกิ ป๊ากับม๊าก็รู้ว่ายูกิมันนิสัยเป็นแบบไหน
แต่ม๊าเชื่อว่าถ้ายูกิได้เจอกับหนูฮานะ มันต้องเปลี่ยนความคิดแน่ด้วยความที่ตนนั้นเลี้ยงลูกมาเองกับมือทำไมจะไม่รู้ถึงนิสัยใจคอของลูกชายทั้งสอง
แต่!! โอเคค่ะฮานะรับปากจะแต่งงานกับเฮียยูกิ และจะทำให้เฮียเปลี่ยนแปลงให้ได้ค่ะ ไม่ทันที่ไคโตะจะได้พูด ฮานะกลับพูดแทรกขึ้นมาก่อน คนพี่ได้แต่หันมองน้องสาวอย่างห่วงใย
เมื่อสมมุติของบ้านและภรรยาคนสวยพูดถึงเรื่องสำคัญเสร็จลง ก็หันมาพูดกับลูกชายคนโตต่อ
แกก็เหมือนกัน แกกับคู่หมั้นได้เจอกันแล้วหรือยัง แกต้องมารับตำแหน่งจากป๋าแกก็ต้องรีบไปเจอหนูกอหญ้า เพื่อผูกมิตรสัมพันธ์ทำไมตรีต่อกัน หนูกอหญ้าจะช่วยดันแกให้ยิ่งใหญ่ขึ้น
ฮานะก็พอที่จะรู้จักกอหญ้าแต่ก็ยังไม่เคยได้เห็นหน้ากันเลย แค่รู้ว่ากอหญ้านั้นเป็นลูกสาวของมาเฟียใหญ่ ถึงแม้จะไม่เท่ากับตระกูลยามาโมโตะก็ตาม
ป๊าคะม๊าคะฮานะมีเงื่อนไข 3 ข้อค่ะ ประมุขของบ้านต่างหันมองหน้ากันกับภรรยา
ได้สิไม่ว่าหนูจะขออะไรป๊ากับม๊าจะให้ตามที่หนูขอ เพราะเชื่อในตัวลูกสาวบุญธรรมคนนี้ว่าถ้าเธอได้รับปากแล้ว เธอจะทำมันสำเร็จได้แน่
ข้อแรก วันแต่งงานฮานะขอใส่ชุดแต่งงานแบบกิโมโนและแต่งหน้าแบบชาวญี่ปุ่น
ข้อที่ 2ฮานะขอกลับไปเรียนต่อที่ไทยและจะขอใช้นามสกุลเดิมของตัวเอง
เละข้อที่ 3 ข้อสุดท้าย ถ้าหากฮานะทำให้เฮียยูกิเปลี่ยนใจชอบผู้หญิงได้แล้วหากแต่เฮียรักกับสาวคนอื่น ฮานะขอหย่าทันที
บิดาอย่างอิโรโตะ และคุณหญิงพิมพ์นาราต่างเข้าใจในเงื่อนไขของบุตรสาวที่ตั้งขึ้น ทั้งสองตอบตกลงในเงื่อนไขโดยไม่คิดโต้แย้งใดๆ ถึงลึกๆแล้วอยากให้ทั้งสำเร็จและก็อยากได้ลูกสะใภ้คนนี้ด้วย ทั้งสองก็ต้องทำตามคำสัญญา
อีกด้าน
เมืองไทย (กรุงเทพมหานคร)
07:00 น. เวลาในประเทศไทย ซึ่งจะช้ากว่าเวลาที่ประเทศญี่ปุ่นอยู่ 2 ชั่วโมง
ในห้องนอนที่ตกแต่งด้วยโทนสีดำเทาทั้งห้อง บ่งบอกถึงตัวตนของเจ้าของห้องที่นอนหลับไหลอยู่บนเตียงได้เป็นอย่างดี
?? เสียงโทรศัพท์ดังขึ้น ปลุกให้ร่างสูงที่พึ่งได้นอนไปแค่ 3 ชั่วโมงเองตื่นขึ้นมารับโทรศัพท์อย่างงัวเงีย ยูกิ กดรับโทรศัพท์ที่ดังไม่หยุดมาแนบกับหูโดยทั้งๆที่ไม่ได้ลืมตาดูว่าเป็นสายของใครที่โทรเข้ามา
(ยูกิ มาเองนะลูก ทำงานหามรุ่งหามค่ำอีกแล้วใช่ไหม ป่านนี้ถึงได้ยังไม่ตื่น) เสียงแว๊ดๆจากมารดาที่คุ้นหูทำให้ยูกิตื่นขึ้นเต็มตัว
ม๊าโทรมาแต่เช้ามีเรื่องอะไรครับ ยูกิไม่ตอบคำถามของมารดาพร้อมกับถามกลับไป พยุงร่างอันเหนื่อยล้าจากการทำงานขึ้นนั่งพิงหัวเตียง(ยูคิ ฟังม๊านะค่ะ ม๊ามีเรื่องจะบอกลูก)คุณพิมพ์นาราเอ่บบอกลูกชาย
ครับ
(คือ อาทิตย์หน้ายูคิต้องกลับมาแต่งงานนะลูก)
จากที่ยังง่วงยุ่ทำให้ยูคิหายจากอาการง่วงเป็นปลิดทิ้ง "แต่งงาน"ยูคิทวนซ้ำแล้วซ้ำอีก
(ใช่ลูก แต่งงาน และก็ไม่ต้องมาปฏิเสธด้วยเข้าใจใช่มั้ย)คุณหญิงพิมนาราพูดดักลูกชายตนเพราะเดาใจลูกชายตัวดีของเธอออกและวางสายไปทันที
ยูคิ สตั้นกับคำที่แม่ตัวเองบอก
แต่งงานหรอ แต่งกับใคร? คำถามเยอะแยะมากมายที่เกิดขึ้นตอนนี้ทำให้ยูคินอนไม่หลับอีก ได้แต่นั่งทบทวนและคิดวิธีรับมือมารดาตนยังไง
1 สัปดาห์ต่อมา ณ ประเทศญี่ปุ่น
งานแต่งถูกจัดขึ้นท่ามกลางแขกที่สนิทเท่านั้น
หญิงสาวถูกแต่งแต้มเครื่องสำอางจนตอนนี้มองไม่เห็นใบหน้าจริงแม้แต่นิดเดียว ร่างกายของหญิงสาวถูกตกแต่งด้วยชุดกิโมโน เจ้าสาวสวยตามแบบฉบับสาวญี่ปุ่นถึงเธอจะไม่ใช่คนญี่ปุ่นแท้ๆก็ตาม ฮานะเป็นเด็กสาวที่มีใบหน้าคมคายด้วยมีดวงตาที่กลมโต ในดวงตาสีน้ำตาล ขนตายาวเป็นแพ ขับกับผมที่ยาวสลวยสีน้ำตาลเข้มเป็นธรรมชาติ จมูกโด่ง ปากกระจับ รูปร่างเล็กแต่ซ้อนรูป อกเป็นอก เอวเป็นเอว ผู้ชายคนไหนเห็นแล้วไม่เหลียวหลังเป็นไม่มี ตลอดที่เธอเรียนที่ญี่ปุ่นก็มีชายหนุ่มมาขายขนมจีบกับเธอนับไม่ถ้วน แต่ฮานะเธอไม่เคยชอบผู้ชายมาก่อน บวกกับที่เธอเป็นคนไม่ยิ้มทำให้ใครหลายต่อหลายคนไม่กล้าเข้าหาเธอ เพราะคิดว่าเธอนั้นเป็นคนหยิ่ง แต่ที่จริงแล้ว ฮานะเธอเป็นคนที่ง่ายๆอะไรก้ได้ แต่ที่ทำให้เธอเปลี่ยนไปก็คงเพราะเธอฝึกเป็นนักฆ่านี้แหละ รอยยิ้มที่เคยมีจึงจางหายไป
อีกด้าน
ยูคิ บินมาถึงญี่ปุ่นเช้ามืดก็มุ่งตรงมายังคฤหาสน์หลังใหญ่ที่ตอนนี้กำลังจัดงานแต่งในสวนข้างๆ
ุคุณพิมพ์นารา เมื่อมองเห็นลูกชายตัวดีโผล่หัวมาสักทีก็เข้าไปกระชากลากแขนให้เดินตามไปยังห้องแต่งตัวทันที
ยูคิโดนคนเป็นแม่ลากมาจนถึงห้องแต่ตัวก็ได้แต่ถอนหายใจและทำใจให้สงบ เพราะถ้าขืนตนขัดขืนแม่ตัวเองมีหวังได้บ้านแตกแน่ๆเพราะไม่เคยมีใครขัดใจคุณหญิงพิมนาราได้เลยแม้กระทั่งผู้เป็นพ่อที่เป็นถึงประมุขของบ้านและมาเฟียใหญ่ก็ตาม
แต่งตัวให้เสร็จภายใน15นาทีแล้วออกไปกับม๊า
คำสั่งเด็ดขาดของผู้เป็นมารดาทำให้ยูคิต้องทำตามอย่างขัดไม่ได้
ผ่านไป15นาที ยูคิยุ่ในชุดคิโมโนแบบผู้ชายก็ทำให้ยูคิดูดีหล่อแบดไปอีกแบบ
ทั้งสองแม่ลูกเดินกันมายังสวนที่จัดเป็นงานแต่งเพื่อทำพิธีตามแบบคนญี่ปุ่นโดยมีเจ้าสาวนั่งรออยู่ก่อนแล้ว ยูคิมองดูเจ้าสาวด้วยสายตายากคาดเดา
ผ่านพิธีต่างๆ ก็มาถึงการจดทะเบียนสมรสเป็นขั้นตอนสุดท้าย
ทั้งคู่เซ็นเอกสารของตนเองที่มีอย่างละชุด เมื่อเสร็จจากทุกอย่าง เจ้าบ่าวกับเจ้าสาวต่างถูกพาไปทักทายแขกที่มางานในวันนี้ ด้วยฝีมือของคุณหญิงพิมพ์นารา จนจวบถึงเวลาส่งตัวเข้าหอ
ทั้งคู่ก็ถูกส่งตัวมายังห้องนอนของเจ้าบ่าวที่อยู่ในตัวของคฤหาสน์หลังใหญ่ เมื่อทั้งคู่เข้ามายังห้องนอนแล้ว ต่างฝ่ายต่างไม่มีใครพูด ต่างฝ่ายต่างเงียบใส่กัน ด้วยตัวยูคิที่ไม่ชอบใกล้ชิดกับผู้หญิงด้วยแล้วยิ่งไม่อยากพูดคุยกับอีกฝ่าย สักเท่าไร ส่วนฮานะเองด้วยความที่เธอนั้นก็ไม่ชอบผุ้ชายเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ก็ยิ่งไม่อยากปริกปากพูดเหมือนกัน ทั้งคู่ตกอยู่ในความเงียบอยู่ครู่นึ่งก่อนที่ฮานะจะเดินออกไปเปิดประตูเพื่อหวังจะกลับห้องตนเอง
กึก กึก แต่เมื่อฮานะ ทำการเปิดประตูแล้ว แต่กลับโดนล็อคจากด้านนอก ฮานะจึงทำได้แต่ถอดถอนใจเท่านั้น
ยูคิ มองดูการกระทำของหญิงสาวสักพักก็เกิดนึกแปลกใจขึ้นมา และมีคำถามเกิดขึ้นมาในสมองเยอะแยะไปหมด หากแต่ตนนั้นก็ได้แต่ข่มความสงสัยนั้นเอาไว้ไม่พูดออกมาเหมือนเดิม
ทั้งคู่ต่างขบคิด ต่างหาวิธีว่าจะทำยังไงให้ออกจากห้องนี้ไปได้ จนในที่สุด ฮานะก็เป็นฝ่ายที่คิดออกมาก่อน