“เอวา มีเพื่อนไม่มาก เพราะเธอหยุดเรียนช่วงหนึ่ง ตอนที่เธอตั้งท้อง เธอกลับไปเรียนอีกครั้งหลังจากคลอดเดม่อน และเธอก็เปลี่ยนไปมาก เธอค่อนข้างเก็บตัวไม่ค่อยสุงสิงหรือออกสังสรรค์กับเพื่อนๆ เวลาที่เหลือของเธอทั้งหมดนอกจากงานแล้วก็จะเป็นของเดม่อนทั้งหมด...”
“เพื่อนที่สนิทของเธอก็น่าจะเป็นโดโนแวน สิครับ” ดรูว์พยักหน้ารับ “ผมขอถามอีกข้อนะครับ โดโนแวนเป็นอย่างไรบ้างครับตอนนี้”
“ก็อย่างที่บอก โดโนแวนเข้าแจ้งความและออกตามหาเอวาและเดม่อน เขาบอกให้เราสองคนรอฟังข่าว และการติดต่อกลับจากเขา”
“ล่าสุดที่เขาไปแจ้งความ เขาเล่าให้พวกคุณฟังยังไงบ้างครับ”
“เขาบอกเพียงว่า ตำรวจไม่รับแจ้งเพราะหลักฐานยืนยันว่าไม่มีการลักพาตัว” ครูสฟังจบ เขากล่าวลาทั้งสอง และทิ้งท้ายว่าเขาจะออกตามหาทั้งสองคนด้วยเช่นกัน แต่ขออย่าให้ทั้งสองบอกใครแม้แต่โดโนแวนว่าเขามาหาและมาบอกความจริงให้ทั้งสองรู้ว่าเขาเป็นพ่อของเดม่อน
“ดรูว์ ทำไมคุณถึงเชื่อผู้ชายคนนั้น” เจสถามสามีหลังจากครูสกลับไปแล้ว
“เจส คุณคิดว่า หลังจากที่เอวามาบอกเราสองคนว่าเกิดอะไรขึ้นกับเธอ และเธอไม่ยอมบอกว่าใครคือพ่อของเดม่อน แล้วผมจะปล่อยให้ทุกอย่างผ่านเลยไปโดยที่ไม่หาความจริงเลยอย่างงั้นเหรอ” ดรูว์จะพาเอวาไปโรงพยาบาลตลอดเวลา ตามนัดหมายของหมอที่เอวาไปฝากท้อง และเขาก็ปรึกษา สอบถามหมอ นับวันที่เอวาตั้งครรภ์ ย้อนหาช่วงเวลาที่เกิดเหตุการณ์ขึ้นกับเอวา และเวลาที่ใกล้เคียงที่สุดก็คืนที่เอวาไปร่วมงานโรงเรียน และนั้นเป็นคืนสุดท้ายที่เอวาไปงานสังสรรค์ปาร์ตี้ และเขาก็เคยเห็นภาพโปสเตอร์ของนักร้องที่ถูกฉีกและทิ้งลงถังขยะ คล้ายกับคนที่มาหาเขาในวันนี้ยิ่งนักและเดม่อนมีหลายอย่างที่คล้ายกับเขา ตั้งแต่เว็บแรกที่ดรูว์ได้เห็นหน้าเขา ที่เป็นตัวจริงในวันนี้
“เปาโล เพิ่มคนสืบประวัติของโดโนแวน เพื่อน ญาติทั้งสนิทและไม่สนิท ทุกคนที่โดโนแวนเกี่ยวข้องทั้งหมด”
“นายกำลังสงสัยว่า โดโนแวนเป็นคนเอาคุณเดม่อนไปซ่อนเหรอครับ”
“อย่างไม่ต้องสงสัย...เป็นมันแน่นอน” ครูสบอกอย่างมั่นใจ
“ครับ!...กลับบ้านเลยมั้ยครับ”
“ยัง...ไปหาทริกซี่” เปาโลรับคำสั้นๆและเคลื่อนรถออก จุดหมายปลายทางคือบ้านที่เขาและทริกซี่เคยอยู่ด้วยกัน ซึ่งปัจจุบันทริกซี่อาศัยเพียงลำพัง ถ้าไม่นับเขาที่ย้ายออกมานานหลายเดือนแล้ว
“สวัสดีค่ะคุณครูส” หญิงสาวทักทายครูส ทันทีที่เขาลงมาจากรถที่เข้ามาจอดหน้าประตูทางเข้าบ้านด้านในแล้ว
“ไปเรียกนายเธอมา...บอกว่าฉันมีเรื่องจะคุยด้วยสั้นๆ และบอกเธอว่าฉันไม่มีความอดทนที่จะรอเธอได้นาน ทำอะไรอยู่ให้หยุดและมาพบฉันเร็วที่สุด” หญิงสาวที่เดินตามครูสเข้ามาด้านใน พยักหน้าและรีบขึ้นชั้นสองไปทันที
“ก็อก ก็อก” เสียงเคาะประตูหน้าห้อง เรียกความสนใจของชายหญิงในห้อง ซึ่งฝ่ายหญิงดูจะอารมณ์เสียทันที เมื่อเธอไม่แม้แต่จะมาเปิดประตู เสียงเคาะก็ดังอีก ทำให้สองร่างเปลือยเปล่าที่นัวเนียกันอยู่ต้องผละออก ทริกซี่หยิบเสื้อคลุมมาสวมและเดินไปที่ประตู
“มีอะไร” ทริกซี่เสียงดังใส่คนมาเคาะประตู
“คุณครูส มาค่ะ” ทริกซี่คิ้วขมวดอย่างแปลกใจ และปรับเปลี่ยนน้ำเสียงทันที
“เขาบอกมั้ยว่ามาทำไม”
“มีเรื่องจะคุยกับคุณทริกซี่ค่ะ...คุณครูสบอกให้คุณทริกซี่รีบลงไปพบด้วยค่ะ” ทริกซี่ทำหน้าและแสดงแววตาไม่พอใจหญิงสาวตรงหน้าที่กลัวครูสมากกว่าเธอที่เป็นเจ้านายของหล่อนด้วยซ้ำ
“ทำไมฉันต้องรีบ” ทริกซี่ที่ไม่รู้สถานการณ์ของตัวเอง ยังผยอง สาวใช้นามว่าเอลเลนถอนใจ เพราะเธออยากจะบอกทริกซี่เหลือเกินว่าครูสรู้เรื่องที่ ทริกซี่เล่นชู้มาตั้งนานแล้ว จะว่าไปไม่ถึงสามเดือนที่ทั้งสองแต่งงานกันด้วยซ้ำ และเอลเลนก็รู้มาตลอดว่าครูสรู้เรื่องโดยที่เขาสั่งเธอไว้ว่า “ไม่ต้องบอกทริกซี่ว่าฉันกลับมาวันนี้...และเรื่องที่ฉันรู้ว่าเจ้านายเธอทำระยำอยู่ตอนนี้ด้วย” ครูสพูดกับเอลเลนเมื่อหลายเดือนก่อน
“ลงไปเถอะค่ะ คุณครูสบอกว่ามีเรื่องสั้นๆ จะคุยค่ะ ใช้เวลาไม่มากหรอกค่ะ” ทริกซี่มองเอลเลนอย่างไม่พอใจ แต่ก็ยอมลงไปพบครูสทันที ด้วยสภาพที่สวมเพียงเสื้อคลุม ครูสไม่ใช่แขกเธอไม่จำเป็นต้องมีพิธีรีตองมาก
“สวัสดีค่ะ คุณสามีที่กำลังจะเป็นอดีต”
“ถ้าฉันจำไม่ผิด ฉันเซ็นหนังสือขอหย่าไปนานแล้วนะ” ครูสตอบกลับทริกซี่ และมองสภาพเธอด้วยสายตารังเกียจและหยามเหยียบอย่างชัดเจน
“…สาเหตุที่ฉันยังไม่เซ็น ทนายของฉันน่าจะแจ้งคุณไปแล้ว”
“นั้นมันเรื่องของเธอ อย่ามาเสียเวลาเรื่องไร้สาระอยู่เลย ที่ฉันมาวันนี้มีงานให้เธอทำ” ทริกซี่หลี่ตามองครูสอย่างเหลือเชื่อ
“งานอะไร? และทำไมฉันต้องทำ”
“ฉันต้องการให้เธอเข้าไปตีสนิทกับผู้ชายคนนี้...ฉันส่งภาพเข้าโทรศัพท์เธอแล้ว ตอนนี้” ครูสพูดพร้อมกับกดโทรศัพท์ส่งภาพไปให้ทริกซี่ ทันทีที่พูดจบ
“เอลเลน เอลเลน” ทริกซี่เสียงดังเรียกเอลเลน และบอกให้ไปหยิบโทรศัพท์ของเธอมาให้ ทริกซี่รอไม่ถึงสองนาทีเอลเลนยื่นโทรศัพท์ของเธอให้ “ใครกัน?”
“มันชื่อ โดโนแวน”
“แล้วทำไม ฉันต้องทำแบบนั้น” ทริกซี่พูดพร้อมกับมองภาพโดโนแวน ก็ยอมรับว่าดูดีแบบจนๆ ธรรมดาในสายตา
“ถ้าเธอทำสำเร็จ บ้านหลังนี้จะเป็นของเธอ”
“อยากจะขำ ครูสลืมไปแล้วเหรอว่ายังไงบ้านหลังนี้ก็ต้องเป็นของฉันอยู่แล้ว”
“เหรอ...” ครูสยิ้มเย้ยหยัน และส่งบางอย่างเข้าโทรศัพท์หาทริกซี่ ซึ่งทำให้ทริกซี่ก้มมองโทรศัพท์ในมือเธอทันที ดวงตาที่มีนัยน์ตาสีเขียวเบิกกว้างขึ้นอย่างตกใจ
“คุณรู้!”
“ใช่!…นานมากแล้วด้วย จนเธอคาดไม่ถึงเลยล่ะ” ทริกซี่มองครูสอย่างไม่พอใจ “ตกลงว่าเธอยอมทำแล้วนะ” ครูสยิ้ม ยิ้มที่ทริกซี่เกลียดมากเพราะมันเป็นยิ้มของผู้ชนะที่เย้ยหยันคนแพ้
“แล้วไงต่อ”
“ภายในสองสามวันเท่านั้น เมื่อเธอทำสำเร็จ แจ้งฉันมา และฉันจะบอกเธอต่อจากนั้นว่าจะต้องทำอย่างไรต่อไป เธอคงรู้นะว่าฉันเป็นคนใจร้อนแค่ไหน...อย่าทำให้ฉันต้องผิดหวัง และเธอคงไม่โง่พอจะแสดงให้มันรู้ว่าเธอได้รับคำสั่งจากฉันหรอกนะ”
“ได้ แต่ก็ต้องมีค่าน้ำร้อนน้ำชาบ้างสิ”
“ฉันจะเพิ่มเงินให้เธออีกยี่สิบเปอร์จากที่เธอเคยได้...ไหนๆ ก็ตอนนี้เธอก็ฉลาดมาอีกอย่าง อย่าลืมไปจบเรื่องการฟ้องหย่าซะ ไม่อย่างนั้นเธอจะไม่เหลืออะไรเลย และถ้าเธอจะสนใจคนรอบข้างเธอบ้าง ก็ไปคุยกับพ่อเธอซะบ้าง เผื่อจะมีสำนึกขึ้นมาบ้าง” ครูสพูดทิ้งท้ายไว้แค่นั้น เขาก็เดินออกจากบ้านหลังนั้นไปทันที เปาโลที่รอพร้อมในรถแล้ว เคลื่อนรถออกไปทันทีที่ครูสเข้ามานั่ง ทิ้งให้ทริกซี่ขุ่นข้องหมองใจและสงสัยกับคำพูดของครูส พ่อเธอมาเกี่ยวอะไรด้วย
“สวัสดีค่ะพ่อ ตอนนี้พ่ออยู่ไหนคะ หนูมีเรื่องจะคุยด้วย...ด่วนค่ะ...เดี๋ยวเราเจอกันที่นั้นนะคะ” ทริกซี่ต่อสายหาทอม พ่อของเธอทันที เพราะเธอต้องรู้ให้ได้ว่าครูสหมายถึงอะไร
เอวาเดินไปเดินมารอบที่ร้อยได้แล้ว เมื่อตอนนี้เธอกำลังจะบ้า วันที่สามแล้วที่เธอหายตัวมา ติดอยู่ในบ้านหลังนี้ แม้แต่เสื้อผ้าเธอก็ไม่มีติดตัวสักชิ้น เธอต้องอาศัยผ้าคลุมเตียงที่เธอเอาพันไปมาตามร่างกายไว้ในตอนนี้ซึ่งเป็นผ้าผืนเดียวกับเมื่อวาน แต่เรื่องนี้เล็กไปเลย ถ้าเทียบกับเรื่องของเดม่อน ที่เธอค่อนข้างมั่นใจว่าคงจะร้องไห้สร้างความลำบากใจให้กับลิเดีย ที่โดโนแวนพาไปฝากไว้ ซึ่งเอวาคาดไว้ไม่ผิด เมื่อตอนนี้ลิเดียกำลังจะเครียดหนัก เมื่อเดม่อนไม่ยอมทานอะไรเลย