1
เฟรชชี่
“คุณลุงคุณป้า สวัสดีค่ะ”
เสียงร่าเริงพร้อมร่างสูงชะลูดในชุดนักศึกษาที่โผล่เข้ามาทักทายแต่เช้า ทำให้สองสามีภรรยาที่กำลังนั่งดื่มกาแฟชะงัก ก่อนจะหันมามองพร้อมกัน เมื่อได้เห็นว่าใครมา ฝ่ายคนโดนเรียกว่าคุณป้าก็ลุกออกจากเก้าอี้แล้วเดินเข้ามากอด
“เป็นสาวแล้ว สาวน้อย ใส่ชุดนี้แล้วป้าแทบจำตอนที่เราวิ่งเล่นซนที่หน้าบ้านไม่ได้เลย ดูสิ เวลาผ่านไปเร็วจัง”
“แต่ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานแค่ไหน คุณลุงริทกับคุณป้าหญิงก็หน้าเด็กตลอดกาลเลยนะคะ ยังหล่อยังสวยเหมือนเดิม”
“โอ๊ะ” ฝ่ายผู้เป็นลุงอุทานเคล้าเสียงหัวเราะเบาๆ อย่างถูกใจ ก่อนจะเอ่ย
“ไม่เคยทำให้ผิดหวังเลยเจ้าเบสต์ รู้จักเอาใจคนแก่”
“ก็เบสต์รู้นี่คะว่าคนแก่น่ารักและน่าเอาใจที่สุด ไม่เหมือนใครบางคนที่ยังไม่แก่แต่เอาแต่ใจชะมัด”
“ใครกวนบาทาเข้าให้ล่ะ เดี๋ยวลุงไปจัดการมันให้”
“ผมว่าป๊าน่าจะระวังมารยาของสาวน้อยรุ่นลูกบ้างนะครับ ไม่ใช่หลงใหลได้ปลื้มกับคำเยินยอที่...ตรงกันข้ามกับความจริง”
“ไอ้เวย์ แกว่าป๊าแก่เรอะ”
“เปล่าครับ ผมจะบอกว่าป๊ากับแม่หน้าเด็กและหล่อสวยมากกว่าเดิมต่างหาก”
“เบสต์ว่าน่าจะเป็นมารยาของหนุ่มน้อยรุ่นลูกมากกว่าค่ะ ที่เราต้องระวัง”
“ให้ลุงเตะมันให้เดี๋ยวนี้มั้ยล่ะ”
“พอแล้วค่ะ เรามากินอาหารเช้ากันดีกว่าเนอะ วันนี้เบสต์กับเวย์ต้องไปเรียนมหาวิทยาลัยวันแรก คุณป๊าอย่าทำให้เสียบรรยากาศสิคะ”
“เดี๋ยวนะ สรุปสุดท้ายนี่เธอโทษว่าฉันเป็นคนทำให้เสียบรรยากาศรึ”
ผู้อาวุโสสุดของบ้านที่กลายมาเป็นคนผิดเสียอย่างนั้นถามกลับอย่างงงๆ
“อันที่จริงไม่เสียบรรยากาศอะไรเลยค่ะ เบสต์ชอบบรรยากาศแบบนี้ ไม่เงียบ มีแต่เสียงพูดคุย สนุกดีค่ะ”
“เหอะๆ”
เสียงหัวเราะเยาะของคนที่กำลังจะกัดแซนด์วิช ทำให้สาวน้อยผู้มาเยือนนึกได้ว่าธุระที่เธอมาที่นี่แต่เช้าคืออะไร เลยแย่งแซนด์วิชของโปรดออกมาจากมือเขาแล้วเอ่ย
“สายแล้ว เบสต์ไปก่อนนะคะคุณลุงคุณป้า สวัสดีค่ะ” พูดจบก็เดินลิ่วออกไป ทำให้คนโดนแย่งแซนด์วิชต้องรีบเดินตามออกไปทันทีเช่นกัน
ส่วนสองสามีภรรยาเมื่ออยู่ตามลำพังแล้วก็มองหน้ากัน ก่อนจะเป็นฝ่ายสามีที่เอ่ยขึ้นเมื่อเห็นภรรยาทำท่าจะขยับเดิน
“ไปไหนอะ”
“ถามทำไมคะ”
“มานั่งตักสิ” ว่าพร้อมกับตบตักตัวเองปุๆ
คนที่ถูกเย้าแหย่แบบนี้มาตลอดตั้งแต่แต่งงานกันมาจนกระทั่งลูกโตได้แต่ส่ายหน้าอย่างอ่อนใจ
“แก่แล้วนะคะ ยังจะบ้ากามอยู่อีก” จากนั้นก็เดินหนีเข้าไปในครัว ทิ้งให้คนโดนว่าว่าบ้ากามนั่งหงุดหงิดอยู่คนเดียว...
“เธอจะยืนจ้องหน้าฉันอีกนานไหม”
“ก็จนกว่านายจะขอโทษ”
“เพื่ออะไร ฉันไม่ได้ทำอะไรผิด”
“นิสัยไม่ดี ไม่รักษาคำพูด”
“......”
“นายบอกว่าวันนี้จะไปรับฉันที่บ้าน แล้วเราจะไปที่ ม. กันแต่เช้า ไปหาข้าวกินแล้วไปสำรวจสถานที่กันก่อนเข้าห้องเรียน แต่นายก็ตื่นสาย โทรไปก็ไม่รับ ฉันจะไปเรียนก่อนนายก็ไม่ได้ เพราะรถฉันอยู่ที่นาย ฉันให้นายยืมรถเพื่อรับสาวไปเที่ยวเพราะรถนายเสีย แต่นายไม่ได้ทำตามที่รับปากฉันเลยทั้งที่เราคุยกันแล้ว” คนมาเยือนพูดยาวเหยียดรวดเดียวจบ จากนั้นก็หยุดหอบหายใจแฮกๆ
“โอเค พูดจบยัง”
“ยัง”
พอเห็นอีกฝ่ายกลอกตา เธอเลยพูดต่อ
“ฉันหิว ฉันจะกินแซนด์วิชนาย”
“หยุด!”
คนที่ขโมยอาหารเช้าของเขามาได้หยุดนิ่ง ก่อนจะหรี่ตามองเขาอย่างจับผิด
“ฉันตื่นสายเพราะเมื่อคืนดันมีเรื่อง แล้วกว่าฉันจะได้นอนก็ตีสอง ตอนที่ฉันหมดแรงฟุบไปบนเตียงก็ไม่รู้หรอกว่าโทรศัพท์มันแบตหมดตั้งแต่ตอนไหน เพราะงั้น ฉันขอโทษ โอเค?”
ชายหนุ่มตอบโต้ยืดยาว นั่นทำให้คนที่กำลังจะยัดแซนด์วิชแสนอร่อยลงปากคำใหญ่ชะงักไว้ แล้วยอมบิออกเป็นสองชิ้น ก่อนจะยื่นให้คนที่ยังไม่ได้กินข้าวเช้าเหมือนกันไปครึ่งหนึ่ง ว่าจะไปหากินแถวที่เรียนแต่กว่าจะไปถึงจะได้กินไหมเหอะ
จากนั้นทั้งคู่ก็ตั้งหน้าตั้งตายัดแซนด์วิชแสนอร่อยเข้าปากอย่างหิวโหย ครั้นกินหมดกันแล้วฝ่ายเจ้าของบ้านเลยเอ่ย
“เธอชอบแย่งแซนด์วิชของฉันตลอด”
ฝ่ายคนที่มาด้วยความฉุนเฉียวและตอนนี้เริ่มสงบสติอารมณ์แล้วเลยเอ่ยบ้าง
“นายก็ชอบให้ฉันด่าก่อนจะอธิบายอะไรให้มันชัดเจนทุกที”
ทั้งสองจ้องหน้ากันอย่างไม่มีใครยอมใคร จากนั้นก็เหมือนมีแรงดึงดูดให้ใบหน้าของทั้งคู่ขยับเข้ามาใกล้กัน และพอหน้าผากสัมผัสกัน
เท่านั้นแหละ! ต่างคนต่างก็เอาหัวดันกันอย่างเอาเป็นเอาตายเพื่อต้องการเอาชนะ และเมื่อเอาหัวชนกันมันไม่สะใจพอและดูเหมือนจะสูสี ก็เอามือดันไหล่กันไว้ด้วย
“คิดว่าจะชนะฉันได้เหรอไอ้เวย์”
“คิดว่าฉันจะยอมแพ้หรือไงไอ้เบสต์”
แต่ไม่ทันจะได้แพ้ชนะ เสียงแตรรถที่ขับมาจอดก็ทำให้ทั้งสองหยุดชะงักการเล่นเป็นเด็กๆ เสียก่อน
“จะไปเรียนกันมั้ยมึงสองตัว!”
“ถึงฉันจะไม่ได้ไปรับพร้อมกับรถของเธอ แต่ฉันก็มีแผนสำรองให้เราได้รับความสะดวกในการเดินทาง ยัยเด็กเปรต”
พูดจบฝ่ายชายก็เอาหัวโขกหน้าผากเธอเสียงดังโป๊กแล้ววิ่งไปขึ้นรถทันที ทิ้งให้หญิงสาวหนึ่งเดียววิ่งตามไปพร้อมกับคำสบถ
“ไอ้บ้าเวย์ ไอ้คนทรยศ มันเจ็บนะ!”