โรงพยาบาลบ้า

1467 คำ
“นางตายหรือยัง! หากยังไม่ตายข้าจะชักกระบี่แทงนางเสียให้สิ้นเรื่อง” “ทะ ท่านอ๋อง” เสียงเอะอะโวยวายดังขึ้นพร้อมกับเสียงฝีเท้ากระทบพื้น บ่งบอกอารมณ์ของผู้มาเยือนได้เป็นอย่างดี ไม่ต่างกับสตรีที่กำลังนอนหลับตาพริ้ม บัดนี้ขมวดคิ้วเข้าหากัน ขยับตัวดึงผ้าห่มขึ้นมาคลุมศีรษะ หลีกหนีเสียงน่ารำคาญพวกนั้น “คนจะนอน มารยาทน่ะมีไหมหะ!” คนใต้ผ้าห่มก่นด่าออกมาเสียงดัง เพราะคิดว่าคงเป็นเพื่อนข้างห้องที่ทะเลาะกับแฟนหนุ่ม มีปากเสียงกันทีไรก็ด่าทอกันจนไม่เกรงใจผู้อื่น ทว่าครั้งนี้ไม่เหมือนกับที่ผ่านมา... “เจ้าว่าอย่างไรนะ ช่างกล้านัก” “กรี๊ด! อึก” ร่างเล็กถูกกระชากลอยขึ้น ก่อนจะตกกระทบลงบนเตียงอย่างแรง แผ่นหลังเล็กแม้จะกระแทกกับเตียงนุ่ม แต่ก็สร้างความเจ็บร้าวไปทั่ว ดวงตาสีน้ำตาลอ่อนเบิกมองว่าเกิดสิ่งใดขึ้น ภาพที่เห็นตรงหน้าคือมีชายผู้หนึ่งกำคอเสื้อของนางจนยับยู่ไปตามแรงบีบ ใบหน้าของคนผู้นั้นแม้จะหล่อเหล่า แต่ดวงตากลับแดงก่ำ อำมหิตราวกับนักโทษเดนตาย “กรี๊ดดดด แกเป็นใคร มาอยู่ในห้องฉันได้ยังงะ-” สตรีในชุดขาวบางปัดป้องและถีบเตะจนเป็นอิสระ ถอยร่นออกห่างจากชายหนุ่มกระทั่งหลังชนฝาไร้ซึ่งทางหนี ทว่าเมื่อได้มองไปรอบๆ สถานที่นี้กลับไม่คุ้นตา ผนังไม้สีหม่น ชั้นเก็บของเอนเอียงที่พร้อมจะล้มได้ทุกเมื่อ ไหนจะเตียงนอนที่ซอมซ่อนี่อีก ดูเหมือน...จะไม่ใช่หอพักในมหาวิทยาลัย “แสร้งป่วย ทำให้ข้าเสียการใหญ่ เจ้ายังอยากมีชีวิตอยู่หรือไม่!” เสียงเกรี้ยวโกรธของบุรุษตรงหน้า มิได้ลอดเข้าหูของสาวงามแม้แต่น้อย ในหัวตอนนี้เฝ้าระลึกถึงเหตุการณ์ก่อนหน้า ว่าเกิดสิ่งใดขึ้น ชิงชิง นักศึกษาแลกเปลี่ยนจากประเทศไทยที่เข้ามาเรียนในแผ่นดินใหญ่ จำได้ว่าตัวเองส่งนิยายเรื่องแรกที่แต่งให้เพื่อนสาวนักเขียนดาวรุ่งอ่าน และตอนนั้นก็กำลังฟังคำติชมจากเพื่อนขณะเดินกลับจากมหาวิทยาลัย “ตัวละครไม่ผ่าน ดีก็ดีใจหาย ร้ายก็ร้ายสุดตีนแบบนี้มันดูไม่สมเหตุสมผล คนเราต้องมีดีมีชั่ว ใจดีได้ใจร้ายเป็น สร้างตัวละครให้มันเป็นคนหน่อยได้ไหม” เสียงของเพื่อนดังผ่านโทรศัพท์ ตอนนั้นจำได้ว่าตัวเองรีบยัดอมยิ้มในมือเข้าปาก ยกมือถือขึ้นมาพิมพ์สิ่งที่ตัวเองผิดพลาด “...โอ๊ย! ขอโทษค่ะ” “แกต้องปรับนิสัยของตัวละคร นี่แกฟังฉันอยู่ไหมหะ ชิงชิง” “ฟังอยู่ๆ ฉันยืนขวางทางเดิน แป๊บหนึ่งนะ...แกพูดต่อเลย” ใบหน้าเรียวหันมองซ้ายมองขวา เมื่อเห็นว่าไม่มีรถผ่าน เลยกะจะวิ่งข้ามถนนไปนั่งในสวนสาธารณะฝั่งตรงข้าม ขาเรียวรีบก้าวข้ามถนน แต่ด้วยความรีบร้อนและไม่ระมัดระวังพื้นที่เต็มไปด้วยหิมะ เลยทรงตัวไม่อยู่ จากนั้นรู้เพียงว่าใจร่วงลงตาตุ่ม พร้อมกับความเจ็บจี๊ดที่ศีรษะ กรี๊ด!!! ตื่นมาอีกทีก็มาอยู่ที่นี่แล้ว นางควรอยู่โรงพยาบาลมิใช่หรือ แล้วมาอยู่ที่นี่ได้อย่างไรกัน! “เจ้าอยากลองดีกับข้าใช่หรือไม่” น้ำเสียงกดต่ำ พร้อมกับร่างใหญ่ที่ทำท่าจะขึ้นมาบนเตียง สร้างความตื่นตระหนกให้กับชิงชิง จนต้องหยุดคิดหาต้นสายปลายเหตุ “อะ ออกไปนะ ฉันถีบจริงๆ นะเว้ย ว่านหางจระเข้อ่ะ รู้จักไหมหะ” ปากกล้าแต่ใจเสาะ เป็นฉายาที่เพื่อนๆ ตั้งให้ชิงชิง ฉะนั้นคนตัวเล็กจึงพูดผิดพูดถูก ยกเท้าขึ้นขู่ชายสวมชุดรุ่มร่ามยาวเฟื้อยไม่ต่างจากวีรบุรุษในสมัยโบราณ ช่วงนี้เขามีงานแสดงคอสเพลย์กันหรือยังไง “เกาชิงหรู เจ้ารนหาที่ตาย” กระบี่ในฝักถูกชักออกอย่างไม่ลังเล เขาเป็นใคร นางเป็นใคร กล้ายกเท้าเทียมหน้าเชื้อพระวงศ์ อาจหาญเกินไปหน่อยกระมัง หากไม่สั่งสอน ชินอ๋องของแคว้นเช่นเขาคงมิรู้จะเอาหน้าไปไว้ที่ใด “ทะ ท่านอ๋องโปรดระงับโทสะ หากพระชายาสิ้นพระชนม์ในจวนขึ้นมา คนไม่หวังดีต้องใช้เรื่องนี้เล่นงานเราเป็นแน่พ่ะย่ะค่ะ” อยู่ๆ ก็มีชายสมชุดเหมือนขันทีจีนสมัยก่อนเข้ามาห้ามปราม ยิ่งสร้างความฉงนให้หญิงสาวเข้าไปใหญ่ แต่ดูจากการแต่งตัวของชายทั้งสอง ก็รู้ได้ในทันทีว่าตัวเองอาจจะอยู่ใน...โรงพยาบาลบ้า ไม่ผิดแน่ อาจจะเป็นเจ้าหน้าที่กู้ภัยที่พาเข้าโรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุด เพราะหากไม่ใช่ข้อสันนิษฐานนี้ ก็คงติดว่าตัวเองหลุดมาในยุคจีนโบราณ หรือหลุดเข้ามาในนิยายที่ตัวเองแต่ง “คิกๆ” คิดแล้วก็ขำ เลอะเทอะจริงๆ “เกาชิงหรู เจ้ายังกล้าหัวเราะเยาะข้าอีกหรือ!” อ่า คนตรงหน้าโมโหง่ายเสียจริง แต่เดี๋ยวนะ เมื่อครู่เขาเรียนนางว่าเกาชิงหรูหรือ ชื่อคุ้นแหะ “เกาชิงหรู เรียกฉันหรอ” “เจ้า!!!” “ท่านอ๋องโปรดระงับโทสะ ทำการบุ่มบ่ามไม่ได้เด็ดขาดพ่ะย่ะค่ะ” “บัดซบ!” แขนเสื้อสีดำปักดิ้นทองสยายไปตามแรงสะบัด ก่อนที่เอกบุรุษจะหันหลังเดินออกจากเรือนไปด้วยอารมณ์คุกรุ่น “พระชายาอย่าได้ปลุกปั่นท่านอ๋องเลยพ่ะย่ะค่ะ ท่านก็รู้สมญานามจื่ออ๋องของพวกเราดี อย่าได้หาเรื่องใส่ตัวอีกเลย” ทิ้งท้ายไว้เพียงเท่านั้น ขันทีเฒ่าก็ตามนายไป บัดนี้จึงเหลือเพียงสตรีงามที่ยังไม่เข้าใจว่าเกิดสิ่งใดขึ้นกันแน่ ร่างเล็กก้มมองแขนขาก็มั่นใจว่าเป็นเนื้อหนังมังสาของตนเอง พอขยับลุกไปส่งกระจกเงาบานเล็ก ภาพที่สะท้อนกลับมาก็ยังเป็นตัวเอง “บ้าน่า ไม่น่าใช่หรอกมั้ง” ความร้อนใจมิอาจดับด้วยการนิ่งเฉย สาวเจ้าคว้าเอาเสื้อตัวนอกที่แขวนไว้มาใส่ แล้วเดินออกจากห้องทันที พอออกมาเช่นนี้ก็พบว่าที่ที่ตนอยู่เมื่อครู่ เป็นเพียงเรือนหลังเล็กๆ มีเพียงห้องนอนและห้องโถงเท่านั้น “ซี๊ด หนาวชะมัด” เพียงแง้มประตูออกไป ก็รับรู้ถึงไอเย็นที่มากระทบกาย ภายนอกมีหิมะโปรยปรายลงมา พื้นดินเต็มไปด้วยปุยนุ่นสีขาวโพลน คงกำลังอยู่ในช่วงฤดูหนาวไม่ต่างจากที่ที่นางจากมา กายหนาวสั่นก้าวเดินไปตามรอยเท้าของบุรุษทั้งสอง เพราะอยากรู้ว่าเรื่องที่คิดจะเป็นจริงหรือไม่ ทว่ายังมิทันไปถึงที่หมาย ก็พบชายหญิงคู่หนึ่งเดินผ่านมาเสียก่อน “พี่ชาย พี่สาว เอ่อ ที่นี่ที่ไหนหรือ พอดีฉันหลงทาง” “พระชายา ที่นี่เป็นทางไปเรือนตะวันออกของท่านอ๋อง ท่านกลับไปเสียเถิด มิเช่นนั้นจะถูกลงโทษเอาได้” ชายผู้นี้แต่งกายด้วยผ้าเนื้อธรรมดา ต่างจากบุรุษที่เข้าไปหาเรื่องนางลิบลับ “เอ่อ ท่านอ๋อง หมายถึงเจ้าของที่นี่ใช่ไหม เขาชื่ออะไร พี่พาฉันไปหาเขาได้ไหม” “หึ ท่านอ๋องไม่แวะไปหา พระชายาถึงขั้นลืมชื่อแซ่ของสวามีเลยหรือ คิดไม่ถึงจริงๆ” “...” คนถามถึงกับเอียงคอไม่พอใจกับสีหน้าของสตรีนางนี้ “เหมียนเหมียน! เอ่อ ทูลพระชายา นามของท่านอ๋อง คือ เฉิงจื่อหาน พ่ะย่ะค่ะ รู้เช่นนี้แล้วท่านรีบกลับไปเสียเถิด ประเดี๋ยวจะถูกลงโทษให้คุกเข่าอีกนะพ่ะย่ะค่ะ” ว่าเพียงเท่านั้น ชายหนุ่มก็ดึงลากสตรีที่มาด้วยกันออกไปอีกทาง ทิ้งให้คนที่ถูกเรียกว่าพระชายา อ้าปากค้างจนแมลงแทบจะเข้าไปวางไข่ได้ “ไม่จริง ไม่จริงๆ ฮื่อ!” ขาเรียวรีบสาวเท้ากลับเข้าเรือนซอมซ่อของตัวเอง แต่เข้ามาแล้ว เท้าคู่นั้นก็ยังไม่หยุดเดินไปเดินมา จะไม่ให้ร้อนใจได้อย่างไร ในเมื่อตอนนี้รู้แล้ว...ว่าหลุดเข้ามาในนิยายที่ตัวเองแต่งจริงๆ ทั้งยังเข้ามาเป็นเกาชิงหรู ชายาเอกของเฉิงจื่อหาน เหอซั่วชินหวังแห่งแคว้นหลัวเป่ย แน่นอนว่าหากเป็นสามีภรรยาที่รักใครกลมเกลียวกัน นางคงไม่เป็นกังวลอยู่เช่นนี้ เรื่องราวในนิยาย นอกจากเกาชิงหรูจะเป็นชายาชังของเฉิงจื่อหาน นางยังมีจุดจบที่น่าอนาถ ถูกโจรป่าข่มเหงจนตาย และสาเหตุก็มิใช่เพราะใครที่ไหน เป็นเฉิงจื่อหานที่ผลักเกาชิงหรูลงสู่ขุมนรกนั่น!
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม