ขายให้หมด 1

1301 คำ
“ไม่ได้ จะมาตายแบบนั้นไม่ได้เด็ดขาด ทำยังไงดีๆ” ขาเรียวขยับสั่นด้วยความกังวลใจอยู่บนเตียง ยามนี้ค่อนข้างมั่นใจแล้วว่าตนเองหลุดเข้ามาในนิยายเรื่องครองรักที่พึ่งแต่งเสร็จรอการแก้ไข ทั้งยังเข้ามาเป็นชายาชังของตัวร้ายในเรื่องอีก อันที่จริงนิยายเรื่องนี้นางเน้นหนักเกี่ยวกับความรักของจางหลี่กวง บุตรสาวเพียงคนเดียวของราชครูจาง ซึ่งได้รับหน้าที่สอนความรู้ให้กับองค์ชายแคว้นหลัวเป่ย โดยเฉพาะองค์ชายใหญ่ เฉิงจื่อหาน และองค์ชายรอง เฉิงเยว่เทียน ด้วยเหตุนี้บุตรสาวกับลูกศิษย์จึงสนิทสนมกัน และเพราะจางหลี่กวงเป็นเด็กสาวที่น่ารัก เฉลียวฉลาดและรู้จักวางตัว เวินฮองเฮาพระมารดาของเฉิงจื่อหานจึงเอ่ยปากหมั้นหมายนางมาเป็นชายาเอกของโอรส ทั้งจางหลี่กวงและเฉิงจื่อหานจึงถือว่าเป็นคู่หมั่นหมายกันมาตั้งแต่อายุได้เพียงสิบหนาว แต่เพราะเรื่องการสิ้นพระชนม์ของเวินฮองเฮาและเรื่องศึกสงคราม เฉิงจื่อหานและจางหลี่กวงจึงยังมิได้ตบแต่ง เฉิงจื่อหานเองก็อาสาออกรบเพื่อรักษาดินแดน กระทั่งล่วงเลยมาจนอายุยี่สิบสี่หนาว ฝ่ายชายถูกแต่งตั้งเป็นชินอ๋องของแคว้น จึงมีการกำหนดวันสมรสทันที ทว่าเรื่องราวกลับไม่เป็นไปอย่างสุขสันต์ เมื่อเกาชิงหรู บุตรอนุของเสนาบดีเกา วางยาปลุกกำหนัดองค์ชายใหญ่ จนเกิดเรื่องเสื่อมเสียก่อนคืนวันแต่งงาน ถึงขั้นมาร่วมพิธีไม่ทัน จางหลี่กวงร้องห่มร้องไห้เสียใจ และก็ได้เฉิงเยว่เทียนเข้ามาช่วยปลอม เพราะเช่นนั้นความรักของทั้งคู่ก็เริ่มเบ่งบาน ยิ่งเฉิงเยว่เทียนเอ่ยว่าแอบรักคู่หมั้นของพี่ชายมาตั้งแต่เด็ก ความสัมพันธ์จึงพัฒนาไปอย่างรวดเร็ว ถึงขั้นร่วมหอลงโรง และนั่นก็เป็นสาเหตุทำให้พี่น้องที่เคยรักใคร่กลมเกลียว แตกหักกลายเป็นศัตรูกันทั้งเรื่องรัก และเรื่องการสืบทอดบัลลังก์ แน่นอนว่าตัวต้นเหตุอย่างเกาชิงหรูมีหรือจะรอดพ้น “โอ๊ย! ถ้ารู้ว่าจะได้เข้ามาในร่างนี้ คงไม่แต่งเรื่องนั้น” นึกแล้วจิตใจก็ยิ่งเหี่ยวเฉา ยามนี้ไม่ว่าจะมองไปทิศทางใดก็ล้วนมืดมน คิดจะขอผู้ใดช่วยก็หมดหนทาง เพราะคุณหนูเกาผู้นี้ นอกจากมารดาแล้ว ก็มิได้มีผู้ใดใส่ใจ จะหวังพึ่งบิดาอย่างนั้นหรือ ฝันเอาเถิด! "ไม่น่าเลย ไม่น่าเลย!" ชีวิตในฐานะพระชายาชินอ๋องของแคว้น เกาชิงหรูไม่เคยได้สัมผัสเลยสักครั้ง นางถูกทิ้งขว้างไว้ท้ายจวน ใช้ชีวิตไม่ต่างจากขอทานข้างถนน ไม่มีเบี้ยหวัด ไม่มีเสื้อผ้าสวยหรู น้ำข้าวต้องไปขอในโรงครัวกิน บ่าวไพร่ไม่มีผู้ใดนับหน้าถือตาเลยสักคน ขนาดบ่าวที่ติดตามมาจากบ้านเดิม ยังทิ้งขว้างนางไปประจบประแจงสาวใช้อุ่นเตียงของท่านอ๋องแทน ก็อย่างว่า...สาวใช้อุ่นเตียงพวกนั้นก็ยังเป็นที่โปรดปรานของท่านอ๋องมากกว่านาง “เหอะ! ไอ้คนแบบนั้นใครจะสนใจก็ช่าง” ในเมื่อเข้ามาอยู่ในร่างของเกาชิงหรูแล้ว อย่างไรก็ต้องหาทางหย่าขาดจากอ๋องอำมหิต ก่อนที่โจรพวกนั้นคิดจะใช้นางเป็นตัวประกัน “อืม เรื่องหย่าคงไม่ยาก” ฟันขาวกัดเล็บนิ้วโป้งอย่างใช้ความคิด เรื่องราวหลังจากนี้ที่ได้แต่งไว้ในนิยาย เฉิงจื่อหานพยายามยื่นข้อเสนอการหย่าให้เกาชิงหรูหลายต่อหลายครั้ง แต่เป็นชิงหรูก็ทำเมินเฉย ไม่ยอมออกจากจวนไป ฉะนั้นแล้วเรื่องการหย่าไม่น่ายาก ที่จะลำบากก็คงมีแต่เรื่อง...เงิน คิดได้ดังนั้นร่างเล็กก็รีบนำหีบเก็บของใต้เตียงออกมาดู ดวงตาเบิกกว้างเต็มไปด้วยความหวัง จำได้ว่ายามแต่งเข้าจวนอ๋อง สกุลเกาให้สินเดิมติดกายมา แน่นอนว่าทางนั้นไม่ยอมให้ขายหน้าตนเองแน่ วันแต่งงานจึงมีสินเดิมมาหลายขบวนรถ “ดูสิ มีอะไรขายได้บ้าง” ใบหน้ากลมแย้มยิ้ม เพราะคิดว่าอย่างน้อยหากเอาสินเดิมไปขาย ก็คงพอจะประทังชีวิตอยู่รอดได้ ไม่แน่อาจจะถึงขั้นร่ำรวย ฮ่าๆ แต่ดูเหมือนเรื่องจะไม่ง่ายอย่างที่คิด...เพราะไม่ว่าจะเปิดหีบใด ก็เต็มไปด้วยก้อนหินก้อนกรวด ที่ฉาบหน้าด้วยผ้าไหมเนื้อดีเพียงสองสามทับ กล่องเครื่องประดับก็มีเพียงไม่กี่ชิ้นที่เป็นหยกเนื้อดี นอกเหนือจากนั้นล้วนเป็นของธรรมดา รู้แล้วว่าเหตุใดเกาชิงหรูจึงต้องทนอยู่ในสภาพเช่นนี้ ทั้งที่มีสินเดิมจากครอบครัวติดกายมาหลายหีบ ปัง!!! “จิ๊! ไอ้คนพวกนี้” กำปั้นทุบลงบนหีบไม้อย่างหัวเสีย ชิงหรูคัดเลือกของมีค่าออกมาได้เพียงผ้าไหมเนื้อดีแปดทับ อาภรณ์งดงามสามตัว และกำไลหยกสองชิ้น อ่อ ยังมีปิ่นหยกมันแพะที่เกาชิงหรูใช้อยู่ทุกวัน หากจำไม่ผิดน่าจะเป็นของที่เสนาบดีเกามอบให้บุตรสาวในพิธีปักปิ่น เกาชิงหรูที่ไม่เคยได้รับความรัก ความอบอุ่นจากบิดา จึงได้ยึดติดกับสิ่งของ หวงแหนสิ่งที่บิดาให้เป็นที่สุด “ขอโทษนะเกาชิงหรู แต่ฉันต้องเอาชีวิตรอด” ว่าแล้วร่างระหงก็รีบลุกขึ้นไปเปลี่ยนเสื้อผ้า นำอาภรณ์ตัวใหม่ที่เจ้าของร่างคิดจะเก็บไว้ใช้ยามออกงานกับสวามีออกมาใช้ อาภรณ์สีฟ้าอ่อนถูกจัดแต่งให้เรียบร้อยเข้าที่เข้าทาง จับรวมผมมัดหางม้าโดยไม่ใส่ใจที่จะสวมเครื่องประดับ ใช้เพียงผ้าแถบอันยาวมัดผูกไว้ ก่อนจะคว้าเอากล่องเครื่องประดับติดกายมาด้วย “พะ พระชายา” “ข้าเอง ข้าจะขอออกไปตลาดเสียหน่อย คงไม่เป็นไรกระมัง” “เอ่อ เชิญพ่ะย่ะค่ะ มะ ไม่ใช่ทางนั้น อีกทางพ่ะย่ะค่ะ” ทหารที่เฝ้าประตูหลังจวนมองตามตาไม่กะพริบ ความงดงามนั้นไม่ทำให้พวกเขาตกใจ เพราะเห็นรูปโฉมของพระชายามาบ้างแล้ว แต่การแต่งกาย สีหน้า ท่าทางที่เปลี่ยนไปต่างหาก ช่างน่าประหลาดนัก เกาชิงหรูมิได้ใส่ใจสายตาของเหล่าทหาร ยกผ้าผืนบางขึ้นมาปิดบังใบหน้าส่วนล่างเอาไว้ หันซ้ายแลขวา แล้วเดินไปตามทิศทางที่ทหารพวกนั้นบอก อาศัยการสอบถามคนที่เดินผ่านไปผ่านมา กระทั่งมาถึงตลาดกลางเมืองหลวง “อ่า ดูเหมือนที่นี่จะเจริญกว่าที่จินตนาการไว้แหะ” ริมฝีปากใต้ผ้าผืนบางคลี่ออก ดวงตาเป็นประกายเมื่อได้เห็นของจริงกับตาตัวเอง เท้าก้าวย่าง ดวงตาก็สอดส่องไปทั่วเพื่อหาร้านเครื่องประดับที่เป็นเป้าหมาย เพราะอย่างไรเสียก็ต้องเป็นร้านนี้เท่านั้น “เถ้าแก่ ข้านำเครื่องประดับมาขาย ช่วยประเมินราคาให้ข้าที” “คุณหนูจะขายทั้งหมดเลยหรือ” “ใช่ ท่านให้ราคาข้าเท่าใดว่ามาได้เลย” “อืม แม้จะเป็นหยก แต่เนื้อไม่ดีเท่าใด เอาเป็นว่าข้าให้สองตำลึงทอง” “หา! ของตั้งมากมายหลายชิ้น ท่านให้ข้าสองตำลึงทองเองหรือ” เกาชิงหรูแสร้งตกใจ ทั้งที่รู้อยู่แล้วว่าร้านนี้อย่างไรก็ต้องกดราคาให้ต่ำลง “ฮ่าๆ ในเมืองหลวงก็เช่นนี้ ขายออกแพงสูงลิ่ว แต่รับซื้อถูกแสนถูก” “...” เกาชิงหรูเคาะนิ้วก็โต๊ะอย่างใช้ความคิด รอไม่นานนัก มือเหี่ยวย่นก็อาจหาญมาลูบนิ้วเรียวของชายาอ๋องเบาๆ “แต่หากเจรจาต่อรองกันนานเสียหน่อย ข้าก็พอจะขึ้นราคาให้ได้ คุณหนูสนใจหรือไม่เล่า”
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม