ใคร่รัก 01 พลอยไพลิน
“อืม…เบาหน่อย อ๊าส์ อย่าทำแรงเดี๋ยวมีรอย” ฉันร้องปรามชายหนุ่มร่างกำยำที่กำลังกระแทกดุ้นใหญ่เข้าออกร่องรักฉันอย่างสม่ำเสมอ
ถูกใจจัง
“อ่าส์ อ๊ะ ซี๊ด…อ่าห์”
เสียงครางจากบทรักเร่าร้อน ทว่าไม่ใช่สัมผัสจากคนรักได้สิ้นสุดลงเมื่อฉันถึงจุดหมายปลายทาง
ร่างกายเปลือยเปล่าไร้เครื่องนุ่งห่มลุกขึ้นยืนกำลังเดินเข้าห้องน้ำ ก่อนจะไปก็หันมาบอกหนุ่มหล่อล่ำซะก่อน “แต่งตัวออกไปรับเงินแล้วก็กลับไปได้เลย”
“ไม่ต่อเหรอครับ ผมยังไหวนะครับ” เสียงของผู้ชายขายบริการเอ่ย
“ไม่ วันนี้ฉันต้องรอรับลูกชาย ไม่สะดวก” ฉันบอกผู้ชายที่ไม่รู้จักแม้กระทั่งชื่อ ซึ่งก็ไม่จำเป็นต้องรู้จักกันลึกซึ้ง เราก็แค่ผู้ให้บริการกับผู้ใช้บริการ
หลังจากนั้นฉันพาตัวเองเข้าห้องน้ำ นอนแช่ในอ่างหลับตาพริ้ม ปลดปล่อยตัวเอง ทว่าในหัวหวนคิดถึงอดีตที่น่าเศร้าใจเมื่อครั้นฉันยังอายุเพียงแค่ 15 ปีเท่านั้น
เดิมทีครอบครัวฉันร่ำรวยเป็นมหาเศรษฐี มีหน้าตาทางสังคม ผู้คนนับหน้าถือตา
‘ความสุขที่สุด’ เมื่อครั้งวัยเด็กคำนี้ฉันเคยได้สัมผัสมัน
แต่แล้วเมื่อฉันอายุ 15 ปีครอบครัวล้มละลาย เนื่องจากพ่อไว้ใจคนผิด พ่อลงทุนทำธุรกิจกับคนเลว พ่อจบชีวิตตัวเองด้วยการยิงตัวตาย ภาพจำวันนั้นยังไม่เลือนหาย พ่อนอนจมกองเลือดข้างตัวมีปืนที่ถืออยู่ในมือ เลือดไหลออกจากบาดแผลไม่หยุด
แม่ของฉันเป็นลมล้มพับ หลังจากงานศพพ่อไม่นาน แม่ซึมเศร้าตรอมใจและตัดสินใจจบชีวิตด้วยการผูกคอตาย คนที่ไปพบก็คือฉัน ภาพที่เห็นเป็นภาพที่น่าสยดสยองและเศร้าสุดหัวใจขาแม่ลอยเหนือพื้น มือแนบติดลำตัว ลิ้นจุกปาก ฉันยังจำและไม่เคยลืมทั้งที่คิดอยากลืม ไม่อยากจำภาพสุดท้ายของพ่อและแม่
ความเศร้า ความกลัว ทุกความรู้สึกแย่ ๆ สุมอยู่ในใจฉัน รอยยิ้มที่เคยสดใสหายไป ‘ทุกข์สุดใจ’คำนี้ฉันได้สัมผัสรสชาติของมัน
ป้าปัทมาป้าข้างบ้านเป็นเพื่อนสนิทของแม่รับฉันมาเลี้ยง เนื่องจากญาติไม่เหลียวแล ฉันเหมือนคนสิ้นหวังในชีวิตแรกรุ่น ไม่รู้จะอยู่ไปทำไม ใจอยากจะตายตามพ่อแม่ไปจะได้ไม่ต้องทนทุกข์ ไม่ต้องแบกรับสายตาเวทนา เวลาเดินผ่านก็มักถูกพูดถึงในเชิงน่าสงสาร ฉันรู้ว่าชีวิตฉันน่าสงสาร แต่ไม่ได้ต้องการให้คนมาสงสาร
ฉันรู้สึกไม่อยากอยู่บนโลกที่โหดร้ายใบนี้ ทว่าฉันก็อยู่เพื่อเพื่อนสนิทที่ร้องไห้เป็นเพื่อนฉัน คอยดูแลฉัน คอยเป็นห่วง คอยกังวลกลัวฉันจะทำอะไรบ้า ๆ จนเธอไม่เป็นอันกินอันนอน ‘มุนิน’ ลูกสาวของป้าปัทมา เธอเป็นเพื่อนสนิทคนเดียวของฉัน เธอขอร้องให้ฉันมีชีวิตอยู่เพื่อเธอและเพื่อลูกของเธอ ‘อยู่เพื่อฉันสิพลอย อยู่เลี้ยงลูกช่วยฉัน เรามาดูภัทรเติบโตไปด้วยกันนะ’
มุนินอายุมากกว่าฉัน 1 ปี เธอตั้งท้องตอนอายุ 15 ปี ป้าปัทมาเสียใจ แต่ก็เข้าใจวัยรุ่นมักเกิดความผิดพลาดได้ เมื่อผิดพลาดก็แก้ไข ลูกชายของมุนินชื่อณภัทร หน้าตาน่ารักมาก เด็กน้อยตาแป๋วมองมาที่ฉันแล้วก็ยิ้มด้วยความไร้เดียงสา
อาจจะเพราะใจไม่กล้าพอทั้งยังอาวรณ์มุนินฉันถึงได้ใช้ชีวิตอยู่ต่อ
พี่เอกราชสามีของมุนินเป็นคนดี เขารักมุนินมาก ดูแลมุนินกับลูกเป็นอย่างดี พี่เอกราชอายุ 25 ปี เขากำพร้าไม่มีญาติ เขาผลักดันตัวเองให้เป็นคนขยันหนักเอาเบาสู้ จนมีเงินเก็บมากมาย สามารถเลี้ยงทุกคนได้สบาย
ด้วยความที่อายุห่างกันพอสมควรพี่เอกราชจึงมีความคิดความอ่านที่เป็นผู้ใหญ่มากกว่าฉันกับมุนิน พี่เอกราชสอนให้ฉันกับมุนินรู้จักทำมาหากิน ช่วยเหลือแบ่งเบางานป้าปัทมา
ฉันใช้ชีวิตเรียบง่าย โยนชีวิตคุณหนูพลอยไพลินทิ้ง กลายเป็นพลอยเด็กผู้หญิงที่มีชีวิตแสนธรรมดา ฉันใช้ชีวิตไปเรื่อย ๆ ไปเรียนกลับมาก็มาเลี้ยงณภัทร
เราอยู่กันแบบครอบครัวเรื่อยมากระทั่งฉันอายุ 25 ปี ทนายประจำตระกูลมาหาฉันพร้อมยื่นพินัยกรรมให้ฉัน กลายเป็นว่าชีวิตของฉันพลิกผันอีกครั้ง ฉันมีมรดกมากมายที่พ่อแม่ใส่ชื่อฉันเมื่อนมนานมาแล้ว มรดกทุกอย่างจะเป็นของฉันเมื่อฉันอายุ 25 ปี
ฉันกลายเป็นมหาเศรษฐีอีกครั้ง แบ่งเงินบางส่วนให้ป้าปัทมากับมุนินเนื่องจากทั้งสองมีบุญคุณกับฉันมาก ตลอดสิบปีที่ผ่านมาถ้าไม่ได้ป้าปัทมากับมุนินป่านนี้ฉันคงไม่มีลมหายใจ จากนั้นฉันใช้เงินส่งให้ลูกชายของมุนินได้เรียนโรงเรียนที่ดี ฉันต้องการซื้อสังคมให้ณภัทร