ฉันกลับมาที่ห้องและกำชับห้ามให้พี่มินทร์เล่าเรื่องที่เขาไปรับฉันให้พี่คิณณ์ฟัง หลังจากที่ได้ยินสิ่งที่พี่คิณณ์พูดในโทรศัพท์ตอนนั้นมันก็ทำให้ฉันแทบไม่อยากจะเชื่อเลยว่าเขาจะกล้าทำแบบนั้นกับฉัน
เขาบอกว่ารักฉันบอกว่าอยากดูแลฉันแต่ทำไมเขาต้องทำแบบนี้กับฉันด้วย
ฉันกล้าพูดได้เต็มปากเลยนะว่าพี่คิณณ์ดีมาก เขาดูแลฉันไม่ให้ฉันลำบากเลย แต่เขาไม่ได้ดีกับฉันแค่คนเดียวไงเพราะเขาก็ดีกับผู้หญิงคนอื่นด้วยเหมือนกัน
มันน่าเจ็บใจตรงนี้ล่ะ
พอเปิดประตูเข้ามาในห้องพี่คิณณ์ก็กระโดดกอดฉันแน่นเหมือนเขาโล่งใจที่เห็นว่าฉันกลับเข้าห้องมาอย่างปลอดภัย ฉันไม่ได้พูดอะไรกับเขาเลยเพราะไม่รู้ว่าจะต้องพูดยังไงเหมือนกัน
ความรู้สึกมันเจ็บไปหมดเลยจนไม่อยากรับรู้อะไรกับความเจ็บอีกแล้ว รู้มั้ยว่าอ้อมกอดที่เขากอดฉันตอนนี้มันทำให้ฉันเจ็บมากแค่ไหน
เพราะอ้อมกอดที่เขาใช้กอดฉันเขาไม่ได้กอดฉันแค่คนเดียวไงก่อนหน้าที่เขาจะกลับเข้าห้องเขาก็คงไปกอดกับคนอื่นมาเหมือนกัน
เพิ่งรู้นะว่าคนที่เขารักกันเขาทำกันแบบนี้นี่เอง บอกว่าโคตรรักโคตรเป็นห่วงแต่ทิ้งกันแล้วไปดูแลผู้หญิงอีกคน ถ้านี่เรียกว่าความรักจากเขา
ขอเหอะขอให้เขาเลิกรักฉันดีกว่า ฉันคงไม่เจ็บมากขนาดนี้ แต่ฉันเลือกที่จะแกล้งโง่ทำเหมือนตัวเองไม่รู้เรื่องที่ตัวเองกำลังโดนสวมเขาจากน้ำมือของคนที่ฉันรักและบอกว่ารักฉัน
พี่คิณณ์มองสำรวจร่างกายฉันว่ามีอะไรผิดปกติไปจากเดิมหรือเปล่าการกระทำของเขามันเหมือนเป็นห่วงฉันมากที่สุด แต่ฉันกลับไม่ซึ้งกับสิ่งที่เขาทำเลย ไม่เลยสักนิด เขายิ้มกว้างแล้วถอนหายใจออกมาเมื่อเห็นว่าฉันไม่ได้เป็นอะไร
“พี่เป็นห่วงลิซมากรู้ป่ะ แม่งโคตรกลัวว่าจะเป็นอะไร?”
ถ้าฉันไม่ได้ยินที่เขาพูดกับพี่มินทร์ว่ากำลังดูแลผู้หญิงอีกคนอยู่ฉันก็คงหลงเชื่อคำพูดของผู้ชายหลอกลวงอย่างเขาไปแล้วล่ะ เชื่อแบบหมดใจเลยด้วยแล้วก็กลายเป็นอีโง่โดนหลอกอีกตามเคย
ฉันแกล้งยิ้มเหมือนตัวเองดีใจที่ได้ยินเขาบอกว่าเป็นห่วงฉันมากขนาดนี้ พยายามเก็บซ่อนน้ำตาของตัวเองเอาไว้ไม่ให้เขารู้ว่าข้างในใจฉันมันบอบช้ำจากสิ่งที่เขาทำมากแค่ไหน
ที่ฉันแกล้งทำเป็นโง่ยอมให้เขาหลอกต่อไปก็เพราะฉันอยากรู้ว่าเขาจะหลอกฉันไปอีกนานแค่ไหน และอยากจะรู้ว่าเขาจะหลอกฉันไปถึงเมื่อไหร่
ฉันอยากถามคนตรงหน้าฉันนะว่าสองปีที่ผ่านมามันไม่เคยมีความหมายอะไรกับเขาเลยเหรอเขาถึงนอกใจฉันแบบนี้ สิ่งที่ฉันทำให้เขาทั้งหมดเขาไม่เห็นใจฉันบ้างเหรอ
ฉันยอมให้พ่อแม่เสียใจเพื่อเลือกที่จะมาอยู่กับเขาเพื่อพิสูจน์ให้พ่อกับแม่รู้ว่าฉันเลือกคนไม่ผิด แต่สิ่งที่พ่อแม่บอกฉันมันไม่ผิดเพี้ยนเลยที่บอกว่าผู้ชายคนนี้ไม่ได้ดีอย่างที่ฉันเห็นหรอก
ตอนนี้ฉันรู้แล้วนะรู้ซึ้งเลยล่ะว่าการโดนหักหลังจากคนที่เรารักมันเป็นยังไง
บางทีที่เขาไปหาผู้หญิงคนอื่นอาจเป็นเพราะว่าฉันมันน่าเบื่อ น่ารำคาญ ชอบเอาแต่ใจตัวเองอย่างที่เขาเคยบอกไว้ก็ได้ แต่ฉันก็เป็นของฉันมาตั้งนานแล้วนี่
ทำไมตอนนี้อะไรๆ ที่เป็นฉันมันก็ผิดไปหมดนะ จากที่เคยบอกฉันว่ารักที่ฉันเป็นฉันแบบนี้และฉันไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนอะไรเพื่อเขาเลย
ฉันก็เป็นเหมือนทุกๆ วันที่ผ่านมาแต่ตอนนี้มันกลับเป็นอะไรที่เขาไม่ต้องการมันอีกแล้ว
ผู้หญิงคนนั้นคงจะไม่เคยทำให้เขาต้องหนักใจเหมือนฉันสินะ เขาถึงได้เลือกเธอมากกว่าฉัน
ฉันจะไม่เสียใจเท่านี้เลยนะหากว่าเขาเดินเข้ามาบอกว่าเขาหมดรักฉันแล้วแล้วปล่อยฉันไป การที่เขาคบซ้อนแบบนี้มันยิ่งทำให้คนที่รู้เจ็บปวดมากแค่ไหน
“พรุ่งนี้หนูไปมหาลัยเองนะคะ”
ฉันผละออกจากพี่คิณณ์แล้วฉันเดินไปหยิบผ้าเช็ดตัวจะเข้าไปอาบน้ำ แต่พี่คิณณ์ก็เดินเข้ามาขวางไว้ซะก่อน เขาทำหน้าเหมือนไม่เข้าใจในสิ่งที่ฉันบอก ก็ที่ฉันต้องไปเรียนเองก็เพราะว่าฉันไม่อยากทำตัวน่าเบื่อคอยให้เขาดูแลตลอดเวลา
ฉันอยากดูแลตัวเองบ้าง อยากช่วยเหลือตัวเองในตอนที่เขาไม่อยู่กับฉันแล้ว ฉันแค่อยากรู้ว่าถ้าการที่ฉันอยู่คนเดียวโดยที่ไม่มีเขาฉันจะอยู่ได้หรือเปล่า
ของบางสิ่งที่มันเคยเป็นของเราบางทีมันอาจจะไม่ได้อยู่กับเราไปตลอดก็ได้ เรื่องของฉันกับพี่คิณณ์ก็เหมือนกัน
อีกอย่างฉันไม่อยากคาดหวังอะไรมากไม่อยากรอให้เขามารับทั้งที่ไม่รู้ว่าเขาจะมารับหรือเปล่า ถ้าฉันสามารถทำอะไรเองได้โดยที่ไม่มีเขาฉันก็อาจจะอยู่ได้โดยที่ไม่มีเขาก็ได้
“ปกติก็ให้พี่ไปส่งไม่ใช่ไงแล้วทำไมถึงอยากไปเอง?” เขาต้องการจะได้คำตอบแบบไหนจากฉันกันแน่
ที่ถามนี่คืออยากไปส่งหรือกลัวว่าฉันจะจับได้ว่าเขาแอบไปมีผู้หญิงคนอื่น มันก็ดีแล้วไม่ใช่เหรอที่ฉันเริ่มทำอะไรด้วยตัวเอง
ฉันไม่อยากดูเป็นคนอ่อนแอที่ต้องมีเขาคอยดูแลตลอดเวลา มันก็ดีกับเขาแล้วไงเขาจะได้มีเวลาไปหาผู้หญิงคนอื่น
ต่อไปนี้ฉันจะไม่สนใจเขาไม่ถามเรื่องของเขาอีกแล้วฉันก็อยากจะรู้เหมือนกันว่าถ้าฉันเปลี่ยนไปบ้างเขาจะรู้สึกยังไง
“พอดีพรุ่งนี้หนูมีทำรายงานกับเพื่อนที่หอค่ะ เลยคิดว่าไปเองสะดวกกว่า”
“เดี๋ยวพี่ไปส่ง”
พี่คิณณ์พูดเหมือนออกคำสั่งกับฉันทั้งที่ก็รู้ว่าเขาสั่งฉันไม่ได้ ถ้าฉันคิดจะทำอะไรแล้วใครก็ห้ามไม่ได้หรอก
เขาเป็นคนบอกเองไม่ใช่เหรอว่าฉันมันเป็นเด็กนิสัยไม่ดี นึกถึงแต่ตัวเองไม่เคยนึกถึงคนอื่นหรือคนรอบข้าง เพราะงั้นครั้งนี้เขาจะมาสั่งฉันไม่ได้ ฉันเป็นคนที่ถ้าได้ตัดสินใจอะไรแล้วจะไม่ยอมให้ใครมาเปลี่ยนความคิดฉันได้
“ไม่ดีกว่าค่ะหนูเข็ดแล้ว”
พี่คิณณ์หลบตาฉันทันทีที่ฉันพูดประโยคเมื่อกี้ออกไป รู้แล้วใช่มั้ยว่าตัวเองผิดเรื่องอะไรแล้วยังไม่ขอโทษอีก
เอาเถอะเขาไม่ต้องขอโทษฉันก็ได้เพราะเขาก็เป็นแบบนี้มาตั้งนานแล้วล่ะ
“เอาเป็นว่าต่อไปนี้หนูจะไปเองและกลับเองนะคะ พี่คิณณ์จะได้มีเวลาทำงานที่พี่รักได้อย่างสบายใจโดยไม่ต้องมากังวลเรื่องของหนูอีก”
“ลิซยังรักพี่อยู่ใช่ป่ะ?”
จู่ๆ พี่คิณณ์ก็ถามคำถามนี้ออกมาทำเอาฉันต้องจ้องหน้าเขาด้วยสายตาที่ว่างเปล่า เขายังกล้ามาถามแบบนี้กับฉันอีกเหรอ คำถามนี้ควรจะเป็นฉันมากกว่านะที่ถามเขา
คนที่คิดนอกใจก่อนไม่ใช่ฉันแต่เป็นเขาที่พามือที่สามเข้ามาทำให้ความรักของเราไม่เหมือนเดิม ฉันน่ะยังเหมือนเดิมกับเขาเสมอแต่ดูเหมือนว่าเขาจะไม่ได้เหมือนเดิมกับฉันแล้ว
เพราะถ้าเขายังเหมือนเดิมกับฉันก็คงไม่ทำแบบนี้กับฉันหรอก ฉันเคยคิดนะว่าคงไม่มีใครดีกับฉันได้เท่าเขาอีกแล้วแต่ฉันก็คิดผิด
ตอนคบกันแรกๆ อะไรก็ดีไปหมด ทำผิดเขายังบอกว่าถูกเลย งี่เง่าเอาแต่ใจเขายังบอกชอบ แต่ตอนนี้มันไม่ได้เหมือนตอนนั้น เมื่อเวลาผ่านไปสิ่งที่เคยดีมันกลับกลายเป็นสิ่งที่ไม่ดีไปแล้ว
“แล้วพี่คิณณ์ล่ะคะยังรักหนูอยู่หรือเปล่า?” ฉันไม่ตอบคำถามของพี่คิณณ์แต่เลือกที่จะถามเขากลับไปบ้าง ฉันเองก็อยากรู้คำตอบของเขาเหมือนกันว่าเขาจะตอบว่ายังไงบ้าง
“...” พี่คิณณ์ไม่ตอบคำถามของฉันเหมือนเขาเองก็คงจะตอบไม่ได้
ฉันเม้มริมฝีปากเน้นก่อนจะเดินเข้าห้องน้ำแล้วล็อกประตูเอาไว้แล้วนั่งร้องไห้อยู่ในนั้นเป็นเวลานาน ฉันกลัวว่าพี่คิณณ์จะได้ยินเสียงร้องไห้ของฉัน ฉันก็เลยเปิดน้ำทิ้งไว้ให้มันกลบเสียงสะอื้น
ไม่คิดเลยว่าตัวเองจะมีวันนี้ วันที่จู่ๆ ก็กลายเป็นคนที่ถูกทิ้งทั้งที่ก็ไม่ได้ทำอะไรผิด แต่มันผิดที่ว่าฉันเหมือนเดิมมากเกินไปหรือเปล่า
เมื่อก่อนฉันเป็นคนดื้อรั้น เอาแต่ใจ ชอบให้คนอื่นมาง้อ ฉันชอบเป็นตัวของฉันเอง มาตอนนี้ฉันก็ยังเป็นลิซคนเดิมอยู่และมันก็ทำให้ฉันกลายเป็นคนผิด ผิดที่เป็นฉันในทุกๆ วัน
ฉันเองก็อยากถามพี่คิณณ์เหมือนกันนะว่าไอ้การที่ฉันเป็นแบบนี้มันทำให้เขาลำบากใจมากเลยใช่มั้ย
คำพูดที่เขาพูดกับฉันตอนที่อยู่ร้านส้มตำวันนั้นฉันไม่เคยลืม เขาบอกว่าเขาเหนื่อยกับฉันเหมือนว่าเขาจะไม่ทนที่ฉันเป็นฉันอีกแล้ว คำพูดของเขามันทำร้ายจิตใจฉันมากเลยนะ
ฉันยกโทษให้เขาก็จริงแต่คำพูดและการกระทำของเขาฉันไม่เคยลืมว่าเขาทำอะไรกับฉันเอาไว้บ้าง ฉันเองก็อยากเดินเข้าไปถามแล้วพูดคุยเรื่องนี้กับเขาตรงๆ เหมือนกันเอาให้มันเคลียร์ๆ ไปเลย
แต่อีกใจมันก็ไม่กล้าที่จะทำอย่างนั้นก็ไม่รู้ว่าเพราะอะไรทำไมตัวเองถึงไม่กล้า อาจจะเป็นเพราะว่าฉันยังไม่พร้อมที่จะเสียเขาไปก็ได้ ขอให้ฉันได้ทำใจหน่อยแล้วกันแล้วฉันจะเป็นคนบอกเลิกเขาด้วยตัวของฉันเอง
เพราะฉันเองก็ไม่อยากเป็นฝ่ายแพ้ที่โดนทิ้งก่อน