เข้ามาทำไม

1373 คำ
“แล้วตั้งแต่นั้นมา ก็มีเสียงร่ำลือเรื่องดึกดื่นได้ยินเสียงคร่ำครวญของ พระสนมมารดาขององค์ชาย หรือบางทีก็มักมีคนเห็นเงาวูบวาบ”กุ้ยอิงพูดที่ขึ้นด้วยท่าที หวาดกลัว หว่านหนิงขมวดคิ้ว ลี่หยาง ฟุบหน้าลงบนโต๊ะร่างอักษรหลับสนิท ฮ่องเต้และขันทีข้างกายฝานกงกงเดินเข้ามาพร้อมกัน “คนหนุ่มเพิ่งจะแต่งชายาเข้ามาในตำหนักเมื่อคืนคงจะอดนอน เอาเบาะมา”ฝานกงกงรีบไปหยิบเบาะมาจากแท่นบรรทม ฮองเต้ยกคอของลี่หยางขึ้นเบาๆ สอดเบาะไปรองศีรษะไว้ให้อย่างอ่อนโยน “ปล่อยเขานอนไปให้พอ ห้ามใครปลุก”ฝานกงกงยิ้ม รวบเก็บกระดาษม้วนไว้ให้อย่างเรียบร้อย ก่อนจะปิดห้องปล่อยให้ลี่หยางหลับอยู่ตรงนั้น ก็จะไม่อดนอนได้อย่างไรในเมื่อทั้งคืนใจเต้นตุมๆ ต่อมๆ ตลอดคืน ทั้งหักห้ามใจด้วยบางครั้งก็อยากจะลองแต่อีกใจก็ไม่กล้า ตำหนักร้อยดาว ฮองเฮาในอาภรณ์เต็มยศสวยสง่า แม้อายุจะล่วงเลยไปวัยกลางคนแล้วก็ตาม เดิน เข้ามาในเขตตำหนักร้อยดาวที่สะอาดสะอ้าน ต้นไม้ใบหญ้าผลิดอกออกใบเขียวชอุ่ม ด้วยมีคนดูแลรดน้ำใส่ปุ๋ย นางกำนัลเดินตามเข้ามาถึงแปดคนข้างละสี่คน แทบจะไม่ต้องเดินเองด้วยซ้ำไป “ฮองเอาเสด็จจจจ” หว่านหนิง อิงไถกับกุ้ยอิง รีบเดินมาประสานมือคุกเข่าตรงหน้า ก้มหน้านิ่ง “ชายห้าหว่านหนิง ถวายพระพรฮองเฮา” “ลุกขึ้นได้”หว่านหนิง ลุกขึ้นแล้วถอยหลังไปยืนก้มหน้าห่างออกมาสองสามก้าว กุ้ยอิงกับอิงไถ ยังคุกเข่าอยู่กับพื้น “ ชายาเจ้าห้าหน้าตาน่าเอ็นดู ตามธรรมเนียมต้องยกน้ำชาให้ข้าเช่นไรถึงละเลย เห็นทีที่ข้ามานี่เพราะมาให้เจ้ายกน้ำชาให้ถึงตำหนักร้อยดาวเช่นนั้นหรือ” “ฮองเฮาโปรดอภัย หว่านหนิงไม่รู้ธรรมเนียมแต่จะว่าไป ก็หามีใครมาเตือนเรื่องสำคัญเพียงนี้ จะว่าเรื่องนี้สำคัญก็สำคัญไม่น้อยเรื่องปากท้องยิ่งสำคัญไม่น้อยไปกว่ากัน แต่หว่านหนิงแต่งเข้ามาวันแรกต้องไปหาข้าวกินในห้องเครื่องลำพัง ไร้ผู้ใดบอกกล่าวเรื่องไม่ยกเครื่องเสวยมาที่ตำหนักร้อยดาว กว่าจะได้กินก็เกือบเลยเวลาอาหารกลางวันเกรงว่าหากเป็นอย่างนี้คงไม่พ้นเจ็บไข้” “แต่เดิมเป็นเจ้าห้าที่อยู่ที่นี่เพียงลำพัง ไม่ชอบให้ใครมาวุ่นวาย จึงไม่มีนางกำนัลขันที ไม่มีเห็นด้วยตาจะเชื่อคำร่ำลือว่าจงหว่านหนิงลูกสาวขององค์หญิง หว่านหวงลู่ผู้ปราดเปรื่องจะวาจาฉะฉานไม่แพ้มารดา”หว่านหนิงยิ้มหวานก้มหน้าประสานมือ “หว่านหนิงมิกล้า เพียงแต่เรื่องปากท้องในวังหลวงไม่น่าให้บกพร่องได้ องค์ชาย ห้าแม้เป็นองค์ชายปลายแถวแต่ก็คือองค์ชาย ไม่มีทางกลายเป็นกุลีหรือทาสไปได้การกินอยู่นับว่าสำคัญหากไม่ใช่หว่านหนิงที่มาประสบแต่เป็นแขกบ้านแขกเมืองที่พบเห็นเกรงว่าจะเป็นเรื่องเล่าขานสนุกปากกันไปเปล่าๆ ”ฮองเฮายิ้ม “คราวหน้าข้าสั่งให้เขายกเครื่องเสวยเพิ่มมาที่นี่อีกสักชุด เจ้าว่าดีหรือไม่.. พอใจหรือไม่”น้ำเสียงเหมือนยอมอ่อนข้อให้แต่ใครจะรู้ภายในใจนาง “ฝ่าบาท ทรงเมตตามีบัญชาให้จัดเครื่องครัว และวัตถุดิบในการทำเครื่องเสวยมาส่งให้หว่านหนืงทำเครื่องเสวยให้องค์ชายเอง ขอบพระทัยฮองเฮาที่ทรงเมตตา” “เจ้าจงใจว่ากล่าวข้า เพื่อที่จะอวดว่าฝ่าบาททรงให้ในสิ่งที่ข้าต้องการแล้วเช่นนั้นหรือ”แววตาขึ้งโกรธ “ฮองเฮา จะถือสานางไปทำไมกันนางยังเด็กพูดจาตามความคิดมิได้เสแสร้งเช่นนั้นจึงจะได้ชื่อว่าเป็นคนตรง ในวังหลวงแห่งนี้มีแต่คำหลอกลวง ฮองเฮาอย่าบอกข้านะว่าชอบคำหลอกลวงของผู้คนรอบกาย”ฮ่องเต้เดินมาพร้อมกับฝานกงกง คนทั้งหมดในที่นั้นย่อตัวถวายพระพรรวมทั้งหว่านหนิง “ฝ่าบาท จะเสด็จไม่เห็นบอกหม่อมฉัน จะได้ให้คนเตรียมการต้อนรับ”ฮองเฮารีบพูดขึ้นอย่างเกรงใจ” “ข้าออกเดินเล่นลัดเลาะมา หาได้ตั้งใจมาที่นี่ไม่แต่ก่อนไม่มีผู้ใดย่างการยตำหนักร้อยดาว บัดนี้กลับคึกคักอย่างไม่น่าเชื่อ” “หม่อมฉัน มอบขันทีให้มารับใช้ที่นี่ จึงตั้งใจมาดูว่าเขาทำให้ขายหน้าที่วางใจให้เขามารับใช้หรือไม่”พูดความจริงครึ่งหนึ่งความเท็จเสียครึ่งหนึ่ง “เงยหน้าเจ้าขึ้นมาให้ข้าดูหน้าเจ้าชัดๆ ”หว่านหนิงลุกขึ้นเงยหน้าขึ้นช้าๆ ฮ่องเต้มองใบหน้าผุดผาดงดงามของ หว่านหนิงยิ้มๆ “เจ้าห้าไม่เคยพบเจอชื่นชอบสาวใด ป่านนี้จะแยกแยะได้หรือยังว่าชายาของเขา งดงามกว่าหญิงใด”ฝานกงกงประสานมือตรงหน้า “เกรงว่า คงจะได้รู้แล้วพ่ะย่ะค่ะฝ่าบาทจากที่เห็นหลับฟุบไปเมื่อคืนคงอดนอน”ฮ่องเต้ยิ้ม หว่านหนิงเขินอาย “หว่านหวงลู่ สบายดีใช่หรือไม่” “ท่านแม่สบายดีเพคะ” “เจ้าใบหน้าละม้ายนางไม่น้อย คิดถึงสมัยก่อนวิ่งเล่นหยอกล้อขี่ม้าล่าสัตว์ล้วนเป็นหว่านหวงลู่ที่สอนข้า”หว่านหนิงยิ้มหวาน “ท่านแม่ พูดถึงฝ่าบาทให้ฟังบ่อยๆ ” “ข้าคิดถึงนางไม่น้อย”ฮองเฮาเชิดหน้าขึ้นด้วยความรู้สึกอิจฉา “หว่านหนิง เร่งทำความสะอาดตำหนักร้อยดาวคงอีกนานกว่าจะได้กลับไปเยี่ยม บ้านตะกูลจง” “ฮองเฮาส่งคนช่วยนางเก็บกวาดหน่อยก็คงจะดี ตำหนักใหญ่หลายสิบห้องคงไม่สะดวกนักหากจะเก็บกวาดด้วยคนไม่กี่คน” “ได้เพคะ พรุ่งนี้หม่อมฉันส่งคนให้มาช่วยนางเก็บกวาดชั่วคราว”แม้จะไม่เต็มใจแต่ก็ต้องรับปาก หว่านหนิงประสานมือตรงหน้าคารวะฮองเต้ที่เดินเอามือไพล่หลังชมนกชมไม้จากไปทันที การมาของฮองเฮาในวันนี้ นับว่าแพ้พ่ายยับเยินอย่างที่ไม่คิดว่าจะเป็นแบบนี้มาก่อนเริ่มตันก็แพ้พ่ายแก่นางประเมินนางต่ำไป นางถอดแบบมารดามาเสียทั้งหมด ไม่ว่ากิริยาหรือคำพูดจาที่พูดให้คนคล้อยตามได้ไม่ยากและพูดให้คนอื่นเกรงกลัวและรู้สึกผิดในสิ่งที่คิดจะทำหรือทำลงไปแล้ว เหนื่อยเต็มทนใช้พลังงานเยอะ ทั้งทำความสะอาดตำหนักและเสาะหาคำพูดที่เหมาะสมมาใช้กับฝ่าบาทและฮองเฮา หว่านหนิงหย่อนตัวลงในอ่างน้ำอุ่นโรยด้วยกลีบดอกไม้ที่อิงไถเตรียมไว้ให้ นอนแช่น้ำหลับตานิ่ง อิงไถกับกุ้ยอิงไปเตรียมของสำหรับทำเครื่องเสวยเย็น ปล่อยให้หว่านหนิงนอนแช่น้ำคิดถึงใบหน้าซีดขาว กับคำพูดเมื่อคืนว่า...รอให้ข้ากล้ากว่านี้... หว่านหนิงอมยิ้ม ลี่หยางเดินเข้าในตำหนักถอดเสื้อคลุมออก ไม่รู้สึกถึงความสดชื่น ตั้งใจจะอาบน้ำให้รู้สึกดีขึ้น ถอดเสื้อผ้าเปลือยกายล่อนจ้อนลืมไปเสียสนิทหรืออาจจะไม่คิดว่าจะมีใครอยู่ในนั้น เปิดผ้าม่านออกเดินเข้าไปข้างอ่างไม้ ตกใจสุดขีดเมื่อเห็นหว่านหนิงในร่างเปลือยเปล่านอนแช่น้ำอยู่ ดึงผ้าม่านมาคลุมตัวเปล่าเปลือย หว่านหนิงลุกขึ้นจากน้ำด้วยความตกใจร่างเปลือยเปล่าไร้อาภรณ์มีเพียงหยดน้ำเกาะพร่างพราว “องค์ชาย ท่านเข้ามาทำไม”ตกใจไม่น้อยคิดว่าอีกคนกำลังจะทำเรื่องอย่างว่า “เจ้า...เจ้าเจ้า ข้าไม่ได้มาทำอะไรเจ้า ….ข้าไม่รู้ด้วยซ้ำไปว่าเจ้าอยู่ในนี้ในสภาพแบบนั้น”พูดได้เพียงแค่นั้น รีบหันหน้าหนีหว่านหนิงจับผ้าผืนใหญ่มาคลุมร่างเปลือยเปล่า
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม