ตอนที่ 3

1634 คำ
       “มานี่เร็วนังเดือน คุณจักรินมาหาน่ะ”              เมื่อเห็นเดือนกันยาเดินกลับเข้ามาในบ้าน อำภาพรก็รีบไปฉุดกระชากลากถูทันที              “เดือน...ไม่ว่างน่ะจ้ะแม่”              เดือนกันยาไม่ได้รักไม่ได้ชอบพอจักรินเลย แต่เพราะถูกแม่กับพ่อยัดเยียดให้เสมอ ทำให้หล่อนเต็มไปด้วยความอึดอัด              “ไม่ต้องมาไม่วงไม่ว่างเลย”              คนเป็นแม่กระชากไม้กวาดและกรรไกรตัดหญ้าไปจากมือลูกสาว ก่อนจะเอ็ดตะโรเสียงดัง              “ดูสภาพสิ มอมแมมราวกับลูกหมา แล้วไอ้ไม้กวาดกับกรรไกรตัดหญ้าเนี่ย เอาไปไหนมา ไปรับจ้างทำสวนมาหรือไงยะ”              เดือนกันยาหน้าเจื่อน น้ำตารื้น              “เปล่าจ้ะ ฉันไม่ได้ไปรับจ้างทำสวน”              “แล้วแกไปไหนมานังเดือน”              “เดือนไป...”              อำภาพรจ้องหน้าบุตรสาวเขม็ง              “อย่าบอกนะว่าแก...”              เมื่อลูกสาวไม่ตอบ เอาแต่ก้มหน้าก้มตา อำภาพรจึงรู้ทันทีว่าหญิงสาวไปไหนมา              “สั่งห้ามแล้วไม่ใช่เหรอว่าอย่าไปยุ่งกับไอ้สวนสาธารณะบ้าๆ นั่น ปล่อยมันร้างไปเถอะ มันไม่เกี่ยวกับเราสักหน่อย”              “แต่...แต่เดือนอยากดูแลที่นั่น...”              “หน้าที่ของแกคือทำยังไงก็ได้ให้คุณจักรินรับแกเป็นเมียออกหน้าออกตา พ่อกับแม่จะได้สบาย เข้าใจไหมนังเดือน”              “แต่เดือนไม่ได้รักคุณจักรินนี่จ๊ะแม่”              “ความรักมันกินเข้าไปได้หรือไง ทำตามที่ฉันสั่ง” อำภาพรตวาดเสียงเขียวปัด              “ไปอาบน้ำอาบท่าให้สะอาด แล้วรีบลงมาต้อนรับคุณจักริน เร็วๆ เข้า ไปสิ!”              เมื่อเห็นมารดาเงื้อมือที่มีไม้กวาดอยู่ขึ้นสูง หญิงสาวจึงต้องรีบผวาหนีและรับคำ              “จ้ะแม่”              “จ้ะก็รีบไปสิ เร็วเข้า เดี๋ยวคุณจักรินรอนานแล้วจะพานโกรธเคืองเอาได้”              เดือนกันยาไม่มีทางเลือก จำต้องเดินก้มหน้าขึ้นบ้านไป ทำไมนะ ทำไมแม่กับพ่อจะต้องบังคับให้หล่อนรับความรักของจักรินด้วย ทั้งๆ ที่หล่อนไม่ได้รักเขาเลยแม้แต่นิดเดียว              มือเล็กยกขึ้นป้ายน้ำตาทิ้ง ความหม่นหมองโอบล้อมรอบดวงใจจนมืดมิด              จักรินฉีกยิ้มกว้างเมื่อเห็นเดือนกันยาเดินเข้ามาหา เขารีบลุกขึ้นและเลื่อนเก้าอี้ให้หญิงสาวที่ตัวเองหมายตาจะเคลมทันที              “สวัสดีครับน้องเดือน”              “เอ่อ สวัสดีค่ะคุณจักริน”              ชายหนุ่มขยับเก้าอี้เข้ามาใกล้ และฉวยโอกาสกุมมือของหญิงสาว เดือนกันยาตกใจกำลังจะกระชากมือออก แต่เหลือบไปเห็นสายตาดุๆ ของมารดาเสียก่อน              หล่อนจำต้องยอมปล่อยให้จักรินกุมมืออยู่แบบนั้นด้วยความทุกข์ทรมานใจ              “ออกไปกินข้าวมื้อค่ำกับพี่นะครับ”              “เดือน...”              “ไปสิเดือน พ่อกับแม่อนุญาต” อำภาพรรีบเสนอทันที              จักรินฉีกยิ้มกว้าง “ขอบคุณครับคุณน้าที่ไว้ใจผม งั้นผมไม่เกรงใจนะครับ”              “ตามสบายเลยค่ะคุณจักริน จะพานังเดือนไปขึ้นเขาลงห้วยที่ไหนก็ได้ น้าไม่ว่าอะไรหรอก”              เดือนกันยาก้มหน้ามองมือของตัวเองด้วยความอับอาย เสียใจที่มารดาพูดแบบนี้กับตนเอง              “ผมสัญญาว่าจะดูแลน้องเดือนเป็นอย่างดีครับ แต่อาจจะกลับมาส่งดึกกว่าทุกวัน”              “โอ๊ย...ไม่เป็นไรหรอกค่ะ จะมาเช้า...เอ่อ น้าหมายถึง ดึกๆ หน่อยไม่มีปัญหาค่ะ”              ยิ่งได้ฟังจักรินก็ยิ่งได้ใจ คืนนี้หมายมั่นปั้นมือว่าจะทำให้เดือนกันยาเป็นของตัวเองให้จงได้ “ขอบพระคุณมากครับ”              จักรินปล่อยมือของเดือนกันยา แล้วเดินเข้าไปหาอำภาพรกับเด่นชัยที่ยืนอยู่ตรงระเบียง              “ผมลืมซื้อของฝากติดมือมา ยังไงคุณน้าทั้งสองรับเอาไว้ด้วยนะครับ”              ธนบัตรปึกใหญ่ถูกยื่นไปตรงหน้าของทั้งสองคน              “พ่อกับแม่คงรับไม่ได้หรอกค่ะคุณจักริน”              เดือนกันยาปฏิเสธ แต่พ่อกับแม่ของหล่อนกลับแย่งกันคว้าธนบัตรไป หญิงสาวเต็มไปด้วยความอดสู จักรินคิดจะซื้อหล่อนด้วยเงินมากมายของเขา              “แกพูดอะไรของแกนังเดือน พ่อกับแม่จะปฏิเสธได้ยังไงกันล่ะ เสียน้ำใจคุณจักรินหมด”              จักรินยิ้มเยาะ ก่อนจะเดินออกมาหยุดใกล้ๆ เดือนกันยา “ไปกันเถอะครับน้องเดือน คืนนี้พี่จะพาไปเปิดหูเปิดตาให้ทั่วกรุงเทพฯ เชียว”              “คือเดือนไม่อยากเที่ยวไหนหรอกค่ะ”              “นังเดือน ห้ามขัดใจคุณจักริน จำเอาไว้นะ”              แม่ของหล่อนแย้งขึ้นเสียงขุ่น              “ใช่ๆ ห้ามขัดใจคุณจักรินเด็ดขาด ไม่อย่างนั้นไม่ต้องมาเรียกข้าว่าพ่อเลย เข้าใจไหม”              เดือนกันยาสะอื้นในอก เจ็บปวดทรมานเหลือเกิน หล่อนลุกขึ้นยืนและเดินนำจักรินออกไป แต่ชายหนุ่มตามมาคว้าแขนเรียวเล็กเอาไว้ พร้อมกับรั้งให้หยุดเดิน              “รอพี่ก่อนสิครับน้องเดือน”              “เดือนไม่อยากไปเที่ยวค่ะ”              “แต่น้องเดือนก็ได้ยินที่คุณน้าทั้งสองบอกแล้วนี่ครับ” จักรินโน้มตัวเข้ามาหา กระซิบเบาๆ อย่างเหนือกว่า “ว่าห้ามขัดใจพี่”              หญิงสาวพูดไม่ออก บิดแขนจะเดินหนี แต่จักรินไม่ยอมปล่อย “อย่าขัดใจพี่ดีกว่า ถ้าไม่อยากให้พี่ฟ้องคุณน้าทั้งสอง”              หล่อนมองคนพูดด้วยสายตาขยะแขยง แต่ก็ทำได้แค่มองเท่านั้น เพราะสุดท้ายก็ต้องยอมให้จักรินลากขึ้นรถไปอยู่ดี              เมื่อไหร่กัน หล่อนถึงจะหลุดพ้นจากวงจรนรกนี่สักที              สถานบันเทิงหรูหรามีระดับที่พอเข้ามาเหยียบแล้วก็พอจะรู้ว่าที่นี่คงมีแต่นักท่องราตรีกระเป๋าหนักเท่านั้นที่มีสิทธิ์เยื้องย่างเข้ามา แม็กซิมัสมองไปรอบๆ ตัวด้วยสีหน้าไร้ความยินดี ตรงกันข้ามกับลีโอนาโดที่ยิ้มแย้มพึงพอใจราวกับที่นี่คือสวรรค์ไม่มีผิด เพื่อนรักของเขาเอ่ยทักทายกับผู้จัดการร้านยันไปถึงพนักงานเสิร์ฟอย่างคุ้นเคย              “นายมาที่นี่บ่อยสินะลีโอ”              ลีโอนาโดหันมายิ้มให้ พลางไหวไหล่บึกบึนที่อยู่ใต้เสื้อเชิ้ตราคาแพงเล็กน้อย              “ทุกคืนน่ะ”              แม็กซิมัสยิ้มบางๆ ขณะเดินตามลีโอนาโดเข้าไปยังห้องวีไอพีที่ทางร้านจัดเตรียมเอาไว้ให้              “ฉันชอบที่นี่ บริการดี ผู้หญิงสวย”              “สวยแต่ไม่สะอาด” แม็กซิมัสแย้งขึ้น              ลีโอนาโอไหวไหล่น้อยๆ              “นายจะมาหาผู้หญิงสะอาดจากสาวขายบริการได้ยังไงกันล่ะ เราแค่ป้องกันให้ดีก็พอ”              “ฉันไม่ชอบแบบนาย”              แม็กซิมัสทรุดตัวลงนั่ง ลีโอนาโดเองก็นั่งลงเช่นกัน พนักงานประจำห้องวีไอพีรีบจัดการรินแอลกอฮอล์ให้อย่างรู้หน้าที่              “ก็นายมีนางฟ้าประจำใจอยู่แล้วนี่ จะมาสนใจผู้หญิงอื่นแบบหนุ่มโสดกลัดมันอย่างฉันได้ยังไงกันล่ะ” ลีโอนาโดหัวเราะ พลางส่งแก้วเหล้าให้เพื่อนสนิท              “ดื่มซะ ไม่ได้ดื่มมาสามปีเต็มเลยนี่นา”              แม็กซิมัสไม่ขัดใจเพื่อน เขากระดกแก้วเหล้าขึ้นจ่อริมฝีปากก่อนจะปล่อยหยาดน้ำสีอำพันให้ไหลผ่านลำคอลงไป รสชาติของมันบาดลึกจนต้องเบ้หน้า              “เป็นไงบ้าง รู้สึกดีขึ้นไหม” ลีโอนาโดที่นั่งมองเพื่อนอยู่เอ่ยถามอย่างใส่ใจ              “อืม” แม็กซิมัสพยักหน้ารับ “รสชาติดีเลยล่ะ”              “งั้นก็ดื่มกันให้เมาไปข้างเลยแล้วกัน”              ลีโอนาโดยื่นแก้วเหล้ามาตรงหน้า “ดื่ม” แม็กซิมัสรีบยื่นมาชน แล้วกระดกเหล้าลงไปในลำคออีกครั้ง              “ฉันจะเรียกน้องๆ มาบริการนะ”              แม็กซิมัสไม่ตอบ ลีโอนาโดจึงตัดสินใจเอง เขาหันไปสั่งพนักงาน และหลังจากนั้นเพียงไม่กี่นาทีสาวสวยสามคนในชุดนุ่งน้อยห่มน้อยก็เดินนวยนาดเข้ามาหา              “สวัสดีค่ะ พวกเรามารับใช้ค่ะ”              ลีโอนาโดกวักมือเรียกสองสาวไปขนาบข้าง ส่วนอีกคนสั่งให้ไปนั่งกับ      แม็กซิมัส              “ฝากเพื่อนพี่ด้วยนะครับ น้อง...”              “หนูชื่อดาวค่ะ ประกายดาว”              ลีโอนาโดยิ้มกริ่มมองประกายดาวด้วยสายตาผู้ชายเจ้าชู้ แต่สองมือกลับลูบไล้ต้นขาของสองสาวที่นั่งอยู่ข้างๆ              “ชื่อเพราะเสียด้วย ดูแลเพื่อนพี่ให้ดีนะครับน้องประกายดาว”              ประกายดาวลอบมองแม็กซิมัสที่นั่งดื่มเหล้าด้วยสายตาพึงพอใจ พลางนึกในอก              ‘ว่าเพื่อนหล่อลากดินแล้ว พ่อคนนี้หล่อกว่าอีก หล่อเถื่อน แบบนี้แหละถูกใจนัก’              “ด้วยความยินดีค่ะ”              พูดจบประกายดาวก็รีบเดินไปทรุดตัวนั่งข้างๆ แม็กซิมัส ขยับเสียดสีเนื้อตัวเข้ากับร่างกายกำยำของชายหนุ่ม              “คืนนี้ให้ดาวดูแลนะคะ”              แม็กซิมัสหันมามองประกายดาว ก่อนจะหันกลับ “ขอบคุณครับ แต่ผมอยากพักผ่อน”              “อยู่กับดาวก็ถือว่าเป็นการพักผ่อนนะคะ รับรองว่าดาวจะดูแลเป็นอย่างดีเลยค่ะ”              “แม็ก นายอดอยากปากแห้งเรื่องอย่างว่ามาตั้งสามปีไม่ใช่หรือไง จะอัดอั้นไปทำไมวะ จัดๆ ไปเถอะ น้องประกายดาวก็สวย หุ่นก็ออกจะเอ็กซ์ขนาดนี้”              “ฉันไม่อยาก จบนะลีโอ”              “นี่นายจะปฏิเสธความหวังดีของเพื่อนดีๆ แบบฉันอย่างนั้นหรือแม็กซิมัส ฉันเสียใจนะเนี่ย”              แม็กซิมัสถอนหายใจเบื่อหน่าย “แล้วนายจะมายัดเยียดให้ฉันทำไม นายก็เหมาไปเองเสียให้หมดสิ”              “ไม่นะคะ ดาวอยากดูแลคุณแม็ก”              ประกายดาวรีบยืนยันความต้องการของตัวเอง              “นั่นไง เห็นไหม น้องประกายดาวอยากอยู่กับแก เอาเถอะนะ เรื่องแบบนี้มันเป็นเรื่องธรรมดาของผู้ชายโสดอย่างเรา”              แม็กซิมัสถอนหายใจยาวเหยียด เขาไม่พูดอะไรออกมาอีกนอกจากนั่งดื่มเหล้าเงียบๆ
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม