"นี่คุณ! ฉันเจ็บนะ" นันทิชาบอกเขาเสียงแข็ง เมื่อเขาดันตัวเธอลงที่เบาะรถ จัสตินไม่สนใจเสียงเธอแม้แต่น้อย เขาปิดประตูดังปั้ง! และเดินอ้อมมาขึ้นรถอีกฝั่ง ก่อนจะสตาร์ทรถและเหยียบคันเร่งพุ่งตัวไปอย่างรวดเร็ว เจค็อบมองทั้งสองคนอย่างพิจารณา ก่อนจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาพิมพ์ข้อความ...
"ดีใจที่ได้เจอแนทจริงๆ จำสปาเก็ตตี้สูตรพิเศษที่เจคเล่าให้ฟังได้ไหม คืนนี้จะได้ชิมแล้วนะ ;-)" นันทิชาอ่านข้อความและยิ้มออกมา พรางนึกถึงวันที่เธอกำลังพาเขาไปที่ห้องนวดแผนไทย ทั้งสองคุยกันเรื่องอาหารต่างๆ นานา และเจค็อบบอกว่าแม่ของเขาทำสปาเก็ตตี้อร่อยมาก แม้ว่ามันจะเป็นอาหารง่ายๆ ของที่นี่ แต่เขารับรองว่ามันอร่อยไม่เหมือนใคร และอยากให้เธอได้ชิม...
"ต่อไปนี้เวลาอยู่กับฉัน ห้ามเล่นโทรศัพท์มือถือ ปิดมันซะ!" จัสตินไม่ชอบท่าทางของนันทิชาที่ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ให้กับข้อความในโทรศัพท์
"มันจะเกินไปหน่อยไหมคุณ นี่มันเวลาพักนะ" เธอเถียงเขา เพราะเขาไม่มีเหตุผลเลยแม้แต่น้อย หน้าตาของเขาหงุดหงิดจนหัวคิ้วจะพันกันอยู่แล้ว
"ไปรู้จักกันได้ยังไง" เขาต้องการคำตอบ เพราะการที่ผู้หญิงธรรมดาๆ อย่างนันทิชา จะรู้จักและมีท่าทีสนิทสนมกับนักบาสเก็ตบอลระดับโลกนั้น มันแทบเป็นไปไม่ได้เลย
"ไม่บอก... ว๊าย!" นันทิชาปฏิเสธความต้องการของจัสตินและต้องตกใจเอามือโหนที่จับของรถไว้ เมื่อเขาหักพวงมาลัยรถจอดข้างทางกะทันหัน
"สนิทกับมันแค่ไหนกันเชียวฮะ ถึงต้องโทรหามัน" เขากระชากแขนนันทิชาอย่างแรง
"ทำไมฉันต้องบอกคุณด้วย มันเรื่องส่วนตัวของฉัน"
"ส่วนตัวเหรอ ที่บ้านเธอไม่สอนเหรอว่ายืนกอด ยืนหอมกับผู้ชายกลางแจ้งมันไม่ใช่เรื่องส่วนตัว"
"ก็นี่มันไม่ใช่บ้านฉัน ฉันรู้หรอกนะว่าอยู่ที่ไหนควรจะปฏิบัติตัวยังไง แล้วก็ไม่ลืมด้วยว่าตัวฉันเป็นใครมาจากไหน" นันทิชาเถียงกลับ
"ดี คิดแบบนี้ก็ดี" จัสตินปลดล็อคเข็มขัดนิรภัยที่รัดตัวของนันทิชาออก และดึงตัวของเธอเข้ามาใกล้ เขาระดมจูบเธอที่ริมฝีปาก และหอมเธอจนทั่วทั้งใบหน้า จนไม่มีเหลือที่ใดๆ ที่ไม่มีเขาเป็นเจ้าของ
"ไอ้ทุเรศ ปล่อยนะ หยุด!" นันทิชาร้องห้ามเมื่อเขายังไม่หยุดการกระทำแสนบุ่มบ่ามนี้
"จะบอกให้หยุดทำไมฮะ ประเทศนี้ใครเค้าจะหอมจะจูบกันตรงไหนก็ได้!
"แต่คุณทำนิสัยป่าเถื่อนแบบนี้กับฉันไม่ได้ ฉันไม่ได้เต็มใจ! อยากทำตัวทุเรศแบบนี้ก็ไปทำกับผู้หญิงคนอื่นที่พร้อมจะอ้าขาให้คุณ ฉันมาที่นี่เพื่อทำงานเป็นผู้ช่วยของคุณ ไม่ใช่นางบำเรอที่คุณคิดจะจูบ จะหอม จะทำอะไรก็ได้ตามที่คุณต้องการ ให้เกียรติฉันบ้าง ฉันกลับมาทำงานเพราะฉันให้เกียรติโรงแรมของคุณ แล้วก็ตัวคุณด้วย แม้ว่าตอนนี้ฉันจะผิดหวังกับการตัดสินใจของตัวเองมากก็เถอะ" นันทิชาผลักอกใหญ่ของจัสตินออกสุดแรง จนตัวเขากระแทกกับประตูรถ จัสตินนิ่งเงียบ เขาโน้มตัวไปคาดเข็มขัดนิรภัยให้นันทิชาคืนแล้วออกรถอีกครั้ง...
ในห้องทำงานตลอดช่วงบ่ายเป็นไปอย่างอึดอัด จัสตินไม่พูดอะไรกับนันทิชาแม้แต่น้อยตั้งแต่เหตุการณ์บนรถ เขาโทรไปสั่งงานกับเอ็มม่า และให้เอ็มม่าบอกต่อนันทิชาอีกครั้ง เอ็มม่าผู้เป็นคนกลาง เดินไปเดินมาระหว่างโต๊ะของเขาและนันทิชาจนเธอปวดขาไปหมด และตลอดเวลาเธอก็ไม่เข้าใจเหตุผลที่จัสตินทำแบบนี้สักที เธอดีใจที่ได้นันทิชามาช่วยแบ่งเบางานในตอนแรก แต่เหมือนตอนนี้เธอกลับทำงานหนักกว่าเดิม เธอคิดในใจว่าทำงานกับคนลูกเหนื่อยใจกว่าทำงานกับคนพ่อยิ่งนัก
"ถ้าพี่เอ็มม่าสงสัยก็ถามเจ้านายพี่เอ็มม่าเองแล้วกันนะคะ" นันทิชาพูดขึ้นมา เพราะรู้ว่าเอ็มม่าสงสัยในเหตุการณ์ที่เป็นอยู่ เธอสองคนเดินออกจากห้องทำงานของจัสตินหลังจากที่เขากลับไปก่อนหน้านี้ไม่นาน
"จริงๆ แล้วคุณจัสตินเป็นคนใจดีนะ แต่ที่ต้องทำตัวโหดๆ เพราะว่าต้องคุมงานคนเป็นพันๆ คน ถ้ามัวแต่ใจดี พนักงานก็ไม่ให้ความเคารพกันพอดี" เอ็มม่าออกความเห็น
"ใจดีเหรอคะ แนทไม่เห็นว่าเขาจะมีความใจดีตรงไหนเลย ถ้าเค้ามีมุมนั้นจริงๆ มันคงซ่อนอยู่ลึกมาก ลึกซะจนแนทรู้สึกไม่ได้อะค่ะ" นันทิชาบอกอย่างอารมณ์เสีย
"ขอบคุณพี่เอ็มม่ามากนะคะที่ช่วยงานแนทวันนี้" เธอบอกอย่างซึ้งใจ เพราะถ้าไม่ได้เอ็มม่าช่วย เธอคงแย่แน่ๆ
"จ้า พี่ยินดี" เธอกลับบอกตามตรง และยิ้มอย่างจริงใจต่างกับยิ้มที่ต้องคอยมอบให้เธอตอนอยู่กลับจัสติน เธอดูออกว่าเขาสนใจในตัวนันทิชามาก แต่คงไม่รู้ว่าจะต้องเอาใจผู้หญิงยังไง เพราะตลอดเวลาที่ผ่านมา ผู้ชายแบบจัสตินมีแต่ผู้หญิงห้อมล้อมคอยเอาอกเอาใจ
"แนท! แนท!" เจค็อบขยับตัวตรงหลังจากยืนพิงที่ข้างรถเพื่อรอเธอที่หน้าโรงแรม
"เจค! เรายังไม่ได้โทรหาเลย!" นันทิชาสวมกอดทักทายเจค็อบอีกครั้ง และเธอก็ลืมตัวอีกแล้วว่าเขาน่ะเป็นคนดังมากแค่ไหน
"ขอถ่ายรูปหน่อยได้ไหมพ่อหนุ่ม" หญิงสูงวัยเริ่มมีผมสีขาวแซมแทรกกับผมสีน้ำตาลอ่อน ตรงเข้ามาถามเขา นันทิชาไม่แปลกใจเลยที่เจอเหตุการณ์ตรงหน้า เพราะที่ประเทศนี้ กีฬาบาสเก็ตบอลเป็นเหมือนกีฬาประจำชาติ และได้รับความนิยมในคนทุกเพศทุกวัย
"ครับ" เขารับโทรศัพท์และย่อตัวเพื่อให้สูงเท่ากับเธอ
"เดี๋ยวแนทถ่ายให้" นันทิชาอาสา ก่อนจะลั่นชัตเตอร์สองสามครั้ง และคืนมันให้คุณป้า เธอกระซิบถามอะไรเขาสักอย่าง ก่อนที่เจค็อบยิ้มออกมาและเธอก็หัวเราะลั่นเสียงดัง
"ขอให้ทำสำเร็จนะ" คุณป้าบอกอย่างอารมณ์ดีและหันมาขอบคุณนันทิชา ก่อนจะเดินเข้าโรงแรมไป
"ไปกันเลยไหม" เจค็อบเปิดประตูรถให้นันทิชา
"Let's go!" นันทิชาขึ้นรถทันที เธอรู้สึกสบายใจที่ได้เดินทางกับเขา ต่างกับตอนที่อยู่กับจัสติน ตลอดทางไปบ้านของเจค็อบ ทั้งสองพูดคุยกันอย่างสนุกสนาน จนนันทิชาลืมเรื่องของจัสตินไปหมด เธอได้รับการต้อนรับแสนอบอุ่นจากพ่อและแม่ของเจค็อบ ท่านทั้งสองยังน่ารักไม่เปลี่ยน แถมสปาเก็ตตี้สูตรพิเศษที่เจค็อบโฆษณาไว้ ก็อร่อยสมคำร่ำลือ หลังจากจบมื้อค่ำ นันทิชาก็เล่าความเป็นมาของเธอที่ได้มาทำงานที่นี่ให้เจ้าของบ้านทั้งสามคนฟัง ทุกคนต่างยินดีที่เธอได้ทำตามฝัน และอวยพรให้เธอได้เปิดรีสอร์ทเล็กๆ ตามที่ตัวเองหวังไว้
"เจคพาแนทไปเดินชมบ้านสิ" แม่ของเจค็อบบอกหลังจากที่พูดคุยกันเสร็จ
"ครับแม่" เขาลุกขึ้นละหันไปบอกนันทิชา เขาพาเธอเดินสำรวจบ้านหลังใหญ่ที่ตกแต่งอย่างสวยงาม มันสวยกว่ารูปในนิตยสารกีฬาที่มักจะพาไปชมบ้านของนักกีฬาระดับโลกหลายๆ ประเภท เธอมองมันอย่างสนอกสนใจ จนมาหยุดอยู่ที่หน้าห้องนอนของเจค็อบ
"ห้องสุดท้ายแล้ว ห้องนอนเราเอง... เข้าไปไหม" เขาถามยิ้มๆ และวางมือที่ลูกบิดประตู
"ไม่เข้าหรอก เคยเห็นแล้ว" เธอยิ้มตอบเขาเช่นกัน
"นี่เป็นห้องที่นักข่าวอยากเข้ามากที่สุดเลยนะ แต่แนทกลับไม่อยากเข้าซะงั้น" เขายักไหล่สบายๆ แต่ในใจแอบผิดหวังเล็กน้อย และปล่อยมือจากประตู ก่อนจะพานันทิชาเดินออกไปนอกตัวบ้าน
"ก็แนทไม่ใช่นักข่าวนิ ห้องนอนเป็นห้องที่ส่วนตัวจะตาย... ชู๊ตแข่งกันไหม" นันทิชาเปลี่ยนเรื่องเมื่อเขาพาเธอเดินมาถึงสนามบาสหลังบ้าน ที่นี่เองสินะ ที่เขาฝึกซ้อมอย่างหนัก จนประสบความสำเร็จจนถึงทุกวันนี้
"เอาสิ ออมมือให้เราด้วยนะ" เจค็อบพูดอย่างถ่อมตัว
"ฮ่าๆ ได้เลย" สนามบาสหลังบ้านเต็มไปด้วยเสียงหัวเราะ ตั้งแต่นันทิชามาอยู่ที่แอลเอ เกือบหนึ่งเดือน เธอไม่ได้หัวเราะเต็มที่แบบนี้มานานแล้ว...
"วันอาทิตย์นี้ว่างหรือเปล่า" เจค็อบถามขณะที่ยื่นขวดน้ำให้นันทิชา เธอกำลังจะเปิดฝา แต่ก็พบว่ามันถูกเปิดออกแล้ว
"ขอบใจ... ที่จริงก็ว่างนะ แต่เราคิดไว้ว่าจะช่วยป้าที่ร้านอาหารน่ะ จะชวนเราไปไหนเหรอ"
"จะชวนแนทไปดูเราแข่งบาส อาทิตย์นี้เริ่มแข่งแล้วนะ"
"เออใช่ ลืมไปเลย มัวแต่สนใจเรื่องอื่น แต่แนทว่าตั๋วคงขายหมดแล้วมั้ง" เธอบอกอย่างเซ็งๆ
"เราหาให้ได้นะ แค่แนทบอกว่าจะไป..." เขารอคำตอบอย่างมีความหวัง
"โอเค แค่หาให้เราก็พอนะ เดี๋ยวเราซื้อเอง" เธอตอบตกลงและพูดดักเจค็อบ เพราะรู้ว่าเขาต้องทำแบบนั้นแน่ๆ
"เยส! ต้องเป็นเกมที่ดีแน่ๆ" เขาบอกพร้อมกับจิตนาการภาพในหัว ในบรรดาแฟนๆ กว่าห้าหมื่นคนในสนาม แต่มีหนึ่งคนที่พิเศษกว่าใครๆ มาให้กำลังใจเขาด้วย
"เราได้เวลากลับบ้านแล้วแหละ" นันทิชาตัดสินใจบอกเจค็อบ เพื่อให้เขาเลิกมองเธอด้วยสายตาหวานซึ้งสักที
"เราไปส่งนะ"
"ไม่เป็นไรน่า ต้องนอนก่อนสี่ทุ่มไม่ใช่เหรอ นี่ก็สามทุ่มแล้วนะ กว่าจะกลับถึงบ้านก็นอนดึกพอดี เดี๋ยวฟิตไม่พอ ไม่มีแรงแข่งไม่รู้ด้วยนะ" นันทิชาปฏิเสธเขาอ้อมๆ วันนี้เธอเกรงใจเขาและครอบครัวมากพอแล้ว
"นี่อ่านข่าวกีฬามากไปหรือเปล่าแนท มันไม่ต้องเป๊ะขนาดนั้นก็ได้ ก็แค่ให้พักผ่อนให้เพียงพอ"
"ก็ได้ จะได้ประหยัดค่ารถเราเหมือนกัน" นันทิชาเลิกปฏิเสธ เพราะไม่อยากให้เสียน้ำใจของเจค็อบ
"ขอบใจที่มาส่งนะเจค บ๊ายบาย" นันทิชาโบกมือให้เขาผ่านกระจกรถ
"ฝันดีนะแนท ขอให้สนุกกับงานพรุ่งนี้นะ"
"โอเค พรุ่งนี้เจคก็ตั้งใจซ้อมบาสล่ะ"