“หนูรุ้งไปไหนเหรอตาชิน ทำไมน้องไม่ออกมารอต้อนรับแขกช่วยล่ะ”
คุณจันทร์กระจ่างถามหาเด็กสาวคนที่ลูกชายอุปการะเลี้ยงดูมาตั้งแต่เป็นสาวแรกรุ่น ทุกครั้งที่นางมาที่นี่นางมักจะชอบพารุ่งทิวาออกไปเปิดหูเปิดตาเป็นเพื่อนกันเสมอ เด็กสาวน่ารักและนิสัยดี แถมชีวิตก็น่าสงสารเป็นที่สุด นางยังจำได้ว่าตอนที่ลูกชายมาขออุปการะเลี้ยงดูน้องสาวของเพื่อนที่เสียชีวิตไปจากอุบัติเหตุ นางไม่เคยจะเห็นด้วยเพราะตอนนั้นลูกชายเพิ่งจะเรียนจบมาหมาด ๆ ไม่เชื่อมั่นว่าลูกจะดูแลชีวิตของใครได้เลย แต่ทว่าตอนนี้ผ่านมานานนับสิบปีแล้ว ลูกชายกลับดูแลและให้ชีวิตใหม่กับรุ่งทิวาได้ดีไม่มีที่ติ จนต้องยอมรับในความสามารถที่นางเองก็คาดไม่ถึง ไม่เคยจะต้องลำบากถึงพ่อกับแม่เลยสักครั้ง เพราะอชิรวัฒน์รับปากเพื่อนรักที่เป็นพี่ชายของรุ่งทิวาว่าจะช่วยดูแลน้องสาวและส่งเสียจนเรียนจบมหาวิทยาลัย แถมรุ่งทิวายังเป็นคนที่ว่านอนสอนง่าย นางจึงรู้สึกรักเหมือนมีลูกสาวที่น่ารักมาเติมเต็มให้กับชีวิตด้วยอีกคน
“เขาคงอยู่ในครัวกับบรรดาแม่บ้านนั่นแหละครับแม่”
“แล้วแกไม่ชวนน้องออกมาร่วมงานบ้างล่ะ ไปเรียกหนูรุ้งออกมาทำความรู้จักหนูฟ้าหน่อยไป เผื่อว่าอีกหน่อยจะได้มาอยู่ร่วมบ้านด้วยกัน”
“อุ้ย! คุณป้าพูดอะไรกันคะเนี่ย”
ฟ้ารดาถึงกับทำทีท่าเขินอายกับคำหยอกเอินของคุณจันทร์กระจ่าง แม้ในใจลึก ๆ เธอเองก็หวังในตัวของเพื่อนชายคนที่นั่งอยู่เคียงข้างตอนนี้เหมือนกัน
“เขินทำไมล่ะหนูฟ้า ถ้าหนูฟ้าไม่รังเกียจลูกชายป้า ป้าจะยกขันหมากไปสู่ขอหนูให้รู้แล้วรู้รอดไปเลย แกชอบหนูฟ้าหรือเปล่าตาชิน?”
คำถามของมารดาทำให้อชิรวัฒน์หันไปมองสบตากับฟ้ารดา ก่อนจะรีบหันไปมองหน้าคนเป็นแม่ พร้อมกับแสร้งทำสีหน้าไม่พอใจให้ได้เห็น
“แม่อย่าพูดอย่างนี้สิครับ เดี๋ยวฟ้าเขาก็กลัวผมพอดี แต่ถ้าฟ้าเขายังไม่มีใคร ผมก็ไม่ปฏิเสธเหมือนกันนะ”
“ฮ่า ๆ ๆ ให้มันได้อย่างนี้สิวะไอ้ลูกหมา แม่แกคิดไม่ผิดที่วันนี้พาหนูฟ้ามาด้วยหรือว่าแท้จริงแล้ว ที่แกไม่ยอมมีใครสักทีเพราะแกรอหนูฟ้าอยู่หรือเปล่าวะ?” คุณอิทธิพลอดที่จะแซวลูกชายขึ้นมาไม่ได้
“คุณลุงคะ คุณลุงไปแซวชินแบบนั้นได้ยังไง ชินเขาคงไม่ได้ตั้งใจจะรอฟ้าหรอกค่ะ เราเป็นเพื่อนกันนะคะ”
แต่สายตาคู่สวยจับจ้องมองอชิรวัฒน์ไม่วางตา เมื่อก่อนไม่ได้สนใจเขาก็จริง แต่ทว่าตอนนี้อยากได้เขามาครอบครองจนแทบเก็บอาการไว้ไม่อยู่แล้ว ถ้าได้เป็นผู้หญิงที่ยืนเคียงข้างเขา คงจะมีผู้หญิงอีกหลายคนบนโลกที่จะอิจฉาในความโชคดีของเธอ
อชิรวัฒน์ที่ชอบพอฟ้ารดาเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว เมื่อก่อนเคยชอบอย่างไรทุกวันนี้ก็ยังรู้สึกกับเธอเช่นเดิมไม่มีเปลี่ยน ถ้าความสัมพันธ์จะพัฒนาไปมากเกินกว่าคำว่าเพื่อน เขาก็ยินดีและดีใจที่จะให้เป็นแบบนั้น
คุณจันทร์กระจ่างและคุณอิทธิพลหันไปมองสบตากันก่อนจะยิ้มให้อย่างรู้ความหมาย ความฝันที่จะเห็นลูกชายเป็นฝั่งเป็นฝา ความฝันที่จะมีหลานมาให้อุ้มชูเลี้ยงดู คงอยู่ไม่ไกลเกินจริงอีกต่อไปแล้ว
รุ่งทิวาที่เดินเข้ามาภายในห้องรับแขก พร้อมกับถาดที่มีแก้วน้ำเพื่อมาต้อนรับแขกผู้มาเยือน ทันทีที่คุณจันทร์กระจ่างได้เห็นนางถึงกับยิ้มกว้างด้วยความดีใจ หญิงสาววางแก้วน้ำทั้งสี่ใบไว้ตรงหน้าให้ทุกคนที่นั่งอยู่ ส่งยิ้มหวานทักทายทุกคนอย่างน่ารักน่าเอ็นดู
“โอ้โหหนูรุ้ง ไม่ได้เจอกันไม่ถึงปี พอมาเจอวันนี้เป็นสาวเต็มตัวสวยเชียวนะเรา”
“สวัสดีค่ะ คุณลุงคุณป้า” หญิงสาวพนมมือยกขึ้นไหว้ทำความเคารพ ยิ้มหวานส่งให้เหมือนทุกครั้งที่ได้พบเจอกัน
“ไหว้พระเถอะจ้ะ อายุเท่าไหร่แล้วนะเราปีนี้ หน้าตาผิวพรรณดูผ่อง เป็นสาวเต็มตัวมากเชียวล่ะ”
“ปีนี้ 23 แล้วค่ะคุณป้า คุณลุงคุณป้าสบายดีนะคะ”
“สบายตามประสานั่นแหละ ก็ยุ่งวุ่นวายอยู่กับไร่ส้มเหมือนเดิม ไม่ไปเยี่ยมลุงกับป้าบ้างเลยนะเรา” คุณอิทธิพลพูดขึ้น รู้สึกเอ็นดูสาวน้อยตรงหน้าตั้งแต่วันแรกที่ได้พบเจอกัน
“ใกล้เรียนจบหรือยังหนูรุ้ง” คุณจันทร์กระจ่างถามขึ้นอีกครั้ง รุ่งทิวาพยักหน้ารับเบา ๆ
“ปีสุดท้ายแล้วค่ะ”
“ดีเลย เรียนจบแล้วก็มาช่วยพี่เขาทำงาน
พี่ชายเราเขาจะได้มีเวลาจีบสาว สร้างครอบครัวกับคนอื่นเขาบ้าง”
รุ่งทิวาหันหน้าไปมองสองหนุ่มสาวที่กำลังพูดคุยหยอกล้อกัน รู้สึกสงสัยว่าทำไมผู้หญิงที่นั่งอยู่ข้างอชิรวัฒน์ถึงได้ดูสนิทสนมกันเหลือเกิน ดูท่าว่าจะรู้จักกันมานมนานแล้วสินะแบบนี้ ทำไมเขาสองคนถึงได้ดูเหมาะสมกันมากมายเหลือเกิน ถึงกับต้องหันกลับมามองสภาพตัวเองที่ไม่มีอะไรเทียบเทียมกันได้เลย
“หนูฟ้าจ๊ะ นี่หนูรุ้ง ตาชินอุปการะเลี้ยงดูมาตั้งแต่อายุสิบกว่าขวบเลยนะ”
“สวัสดีค่ะ ยินดีที่ได้รู้จักนะคะ พี่ชื่อฟ้า”
ฟ้ารดาส่งยิ้มทักทายรุ่งทิวาอย่างเป็นมิตร รุ่งทิวายกมือขึ้นไหว้ทำความรู้จักอย่างคนมีมารยาท แขกของบ้านจึงต้องรีบรับไหว้แทบไม่ทัน
“น่ารักจังเลยนะคะ มารยาทก็ดี ชินอบรมมาดีมากเลยสินะ”
“หนูรุ้งแกเป็นเด็กว่านอนสอนง่ายจ้ะหนูฟ้า รู้จักกันไว้ก็ดี เผื่อว่าวันหนึ่งข้างหน้า พี่ฟ้าจะได้มาเป็นพี่สะใภ้เราไงล่ะหนูรุ้ง”
คุณจันทร์กระจ่างหันไปพูดคุยกับรุ่งทิวา คนที่ได้ยินคำว่าพี่สะใภ้ถึงกับรู้สึกหายใจแทบไม่ออก ‘พี่สะใภ้อย่างนั้นเหรอ อย่าบอกนะว่าคนนี้คือคนรักของอชิรวัฒน์’
รุ่งทิวาฝืนยิ้มให้กับคุณป้าที่เคารพรัก เธอไม่รู้ว่าควรจะรู้สึกอย่างไรในเวลานี้ แต่ก็รู้สึกเหมือนเป็นคนนอกสำหรับครอบครัวนี้ไปแล้ว
อชิรวัฒน์จับจ้องมองอากัปกิริยาของรุ่งทิวา ถ้าหากว่าพ่อกับแม่รู้ว่าเขาและเธอเกินเลยกันมากกว่าพี่น้องไปแล้ว คนที่จะโดนยำเละก็คงจะเป็นตัวเขานี่แหละ สมภารกินไก่วัด แต่นั่นก็เป็นความพึงพอใจที่อีกฝ่ายเต็มใจที่จะอยู่แบบนี้ เขาไม่ได้ไปบังคับขู่เข็ญเธอ เรื่องราวความลับก็ยังจะเป็นความลับตลอดไป หากวันใดที่รุ่งทิวาเรียนจบและสามารถเลี้ยงดูตัวเองได้ เขาก็จะหมดหน้าที่ หมดความรับผิดชอบที่เคยสัญญาไว้กับอาทิตย์เพื่อนรักสักที
“ฟ้าออกไปสนุกกับเพื่อน ๆ ของผมข้างนอกกันไหม ปล่อยให้พ่อกับแม่นั่งอยู่ในนี้แหละ คนแก่คงไม่ชอบปาร์ตี้ครึกครื้นแบบนั้นหรอก”
“ไปสิคะ ตั้งแต่กลับมายังไม่ได้ปาร์ตี้กับใครเลยนะ เจอเพื่อน ๆ ของชินก็ดี หนุ่มเมืองกรุงมีแต่หน้าตาดี ๆ ทั้งนั้น”
“แหม... หน้าตาดียังไงก็ไม่สู้ผมหรอก ผมหล่อที่สุดแล้วในกลุ่ม ถ้าฟ้าจะมองใคร มองมาที่ผมเลยนะ”
“นี่ชินจีบฟ้าเหรอ ชินกล้าจีบฟ้าต่อหน้าทุกคนแบบนี้ไม่อายบ้างหรือไงนะ”
“หึหึ อายใครล่ะ นี่ก็พ่อกับแม่ นี่ก็เด็กในบ้าน คนกันเองทั้งนั้นล่ะฟ้า”
รุ่งทิวาปรายตาหันไปมองคนทั้งคู่ รู้สึกอึดอัดที่จะต้องนั่งอยู่ตรงนี้ฟังอชิรวัฒน์จีบผู้หญิงคนอื่นต่อหน้าต่อตา หัวใจดวงน้อยที่มันไม่รักดีก็เต้นแรงตึกตักระรัวแทบไม่เป็นจังหวะ รู้สึกเหมือนหัวใจโดนเหยียบย่ำไม่มีชิ้นดีแล้ว เธอควรจะดีใจกับเขาสิ ถ้าหากว่าผู้หญิงที่นั่งอยู่ข้างเขาในตอนนี้จะเป็นผู้หญิงที่อยู่ข้างกายเขาในวันข้างหน้า เพราะดูแล้วเหมาะสมกันมาก ดูท่าว่าเธอคนนี้จะทำให้อชิรวัฒน์มีความสุขกับชีวิตที่เหลืออยู่