เวลา 20:30 น. เพื่อนของอชิรวัฒน์นับยี่สิบคนเดินทางมาจะครบทุกคนแล้ว เหลือแต่พ่อกับแม่ของเขาซึ่งกำลังเดินทางมาจากสนามบิน เพราะคนทั้งคู่เดินทางมาจากจังหวัดเชียงใหม่ นานทีปีละครั้งที่จะขึ้นมาเยี่ยมลูกชายที่กรุงเทพฯ สักที
จนกระทั่งรถตู้คันใหญ่วิ่งเข้ามาจอดภายในบริเวณบ้าน อชิรวัฒน์รีบเดินเข้าไปต้อนรับด้วยสีหน้าที่ยิ้มแย้มอารมณ์ดี
“มาถึงดึกเชียวนะครับแม่ พ่อ”
“ก็พ่อแกน่ะสิแม่บอกว่าให้มาไฟล์ทเช้าก็ไม่เชื่อ บอกว่ายังทำงานในสวนส้มไม่เสร็จ ไม่ต้องรีบอะไรนักหนาหรอก”
“ก็คนต้องรีบเคลียร์ออร์เดอร์ให้หมดนี่นา ยังไงก็มาถึงแล้วจะบ่นทำไมกันนะคุณจันทร์” คุณอิทธิพลพูดกับภรรยา ก่อนที่อชิรวัฒน์จะโผเข้ากอดบิดาด้วยความคิดถึง
“ผมคิดถึงพ่อมากเหมือนกันครับ ไม่ได้เจอกันเป็นปีแล้ว ยังคงหล่อวันหล่อคืนอยู่เลยนะพ่อผม”
“ไม่ต้องมาพูดเลย ฉันไม่ใช่สาว ๆ ที่จะหลงคารมของแกหรอกนะตาชิน”
“เอ้า! ก็ผมพูดความจริงนี่ครับพ่อ ไปครับไป เข้าไปข้างในงานกันเถอะครับ อาจจะดูน่าเบื่อหน่อยนะเพราะเป็นงานของหนุ่มสาว ผมไม่ได้เชิญผู้สูงวัยมา”
“เดี๋ยวสิตาชิน วันนี้แม่พาคนมาแนะนำให้แกรู้จักด้วยนะ”
คุณจันทร์กระจ่างบอกกับลูกชาย อชิรวัฒน์จ้องมองหน้า คิ้วเข้มขมวดเข้าหากันอย่างสงสัยและมีคำถาม
“ใครกันครับ อย่าบอกนะว่าแม่พาสาวมาดูตัวผมอีกแล้ว โอ้ย!! ผมไม่เอาหรอกนะครับแม่ ผมยังไม่อยากมีบ่วงมาผูกมัดคอในตอนนี้”
“ดู ๆ กันไปก่อน เผื่อแกชอบไงล่ะ สวยน่ารัก นิสัยดีด้วยนะ เผื่อแกอาจจะไม่รู้”
“ใครกันครับ นั่งอยู่ในรถตู้เหรอแม่ ทำไมเขาไม่ลงมาล่ะหรือต้องให้ผมขึ้นไปอัญเชิญ?”
ประตูรถตู้ถูกเปิดออกกว้าง พร้อมกับสาวสวยหน้าตาดีเดินลงมาหยุดยืนยิ้มอยู่ตรงหน้าของคนทั้งสาม
“ชิน สบายดีไหมคะ?”
เสียงที่คุ้นหู หน้าตาที่คุ้นเคยทักทายขึ้น อชิรวัฒน์คลี่ยิ้มออกมาเมื่อได้พบเจอหน้าของผู้หญิงคนที่เคยเป็นเพื่อนหญิงคนสนิทมาตั้งแต่เด็กแล้ว จนกระทั่งเมื่อ 4 ปีก่อนหน้าทั้งเธอและเขาต้องแยกจากกัน เพราะฟ้ารดาต้องเดินทางไปเรียนต่อยังต่างประเทศ เลยทำให้ไม่มีเวลาที่จะได้พบเจอกันอีกนับตั้งแต่วันนั้น กระทั่งวันนี้ได้กลับมาพบเจอกันอีก หัวใจของอชิรวัฒน์กลับเต้นแรงขึ้น เพราะเขาแอบชอบเพื่อนสาวคนสนิทเกินกว่าความเป็นเพื่อนที่มีให้กัน แต่ไม่เคยจะได้บอกกล่าวเพราะกลัวว่าจะเสียเพื่อนไปตลอดกาล
“ฟ้า นี่ฟ้าจริงเหรอ สวยจนจำแทบไม่ได้เลย มากับพ่อแม่ผมได้ยังไงกัน”
“ฟ้าเพิ่งกลับมาจากฝรั่งเศสเมื่ออาทิตย์ก่อน พอดีคุณลุงคุณป้าชวนมาเซอร์ไพรส์ชินฟ้าก็เลยมา สุขสันต์วันเกิดนะชิน ดีใจที่ได้พบเจอกันอีก”
หญิงสาวส่งยิ้มหวานทักทาย พูดจาน่ารักไม่เคยเปลี่ยน ทำให้คนที่แอบมีใจด้วยมาตั้งนานต้องยิ้มกว้างอย่างอารมณ์ดีเช่นกัน ของขวัญในมือที่ถือมาถูกยื่นให้ตรงหน้าเจ้าของวันเกิด
“มีของขวัญมาให้ผมด้วย ขอบคุณนะฟ้า ฟ้าน่ารักไม่เคยเปลี่ยนเลย เข้าบ้านกันก่อนเถอะ เดี๋ยวพาไปแนะนำให้เพื่อน ๆ ของผมได้รู้จัก ไม่เจอแค่ 4 ปีทำไมสวยมากขนาดนี้นะฟ้า”
“แหม...ผู้ชายเจ้าชู้มักปากหวานเป็นเรื่องปกติหรือเปล่านะ”
“ฮ่า ๆ ๆ ใครกันทำไมใส่ร้ายผมขนาดนี้ ผมหรือจะเจ้าชู้ ถ้าเจ้าชู้จริงก็คงมีครอบครัวไปนานแล้วละมั้ง ที่อยู่เป็นโสดแบบนี้เพื่อรอคนแถวนี้น่ะรู้บ้างหรือเปล่า”
คำหยอกเอินของลูกชาย ทำให้คุณจันทร์กระจ่างและสามีต้องหันหน้าไปส่งยิ้มให้กันและกันอีกครั้ง
“คุณคะ สงสัยว่าเราจะได้ลูกสะใภ้เร็ว ๆ นี้แน่ ๆ เลย” คุณจันทร์กระจ่างกระซิบกระซาบกับสามี ยิ้มแย้มจ้องมองลูกชายและลูกสาวของเพื่อน รู้สึกมีความหวังกับชีวิตขึ้นมาอีกครั้ง อยากเห็นลูกชายมีครอบครัวเป็นฝั่งเป็นฝาเหมือนกับลูกชายลูกสาวบ้านอื่นเขาสักที
“ก็ดีแล้วไม่ใช่หรือไง เราสองคนจะได้เป็นคุณปู่คุณย่ากัน ดูเหมือนว่าลูกชายคุณมันจะรอหนูฟ้านะ ยิ้มแย้มหน้าบานเชียว ผมหมั่นไส้มันจริง ๆ เลย”
“เป็นแบบนั้นก็ดีสิคะ ฉันอยากอุ้มหลานจะตายอยู่แล้ว ลูกชายเราค่อนไปทางอายุจะเข้าเลข 4 แล้วนะ แต่ดูมันใช้ชีวิตสิไม่คิดจะมีครอบครัวกับเขาสักที เงินทองก็มีมากมาย ฉันกลัวว่าจะมีผู้หญิงไม่ดีมาปอกลอกเอาไปหมด ถ้าได้หนูฟ้ามาเป็นลูกสะใภ้ฉันจะยกที่ดินให้เป็นของรับขวัญ 100 ไร่เชียวล่ะ”
“ขนาดนั้นเลยเหรอคุณจันทร์ สงสัยจะปลื้มว่าที่สะใภ้มากเลยสินะแบบนี้”
“มันแน่นอนอยู่แล้ว หนูฟ้าน่ารัก หน้าที่การงานก็ดี ฐานะครอบครัวก็ดี แถมยังมีไร่ติดกับเราอีก จับรวมเป็นทองแผ่นเดียวกันง่ายไปเสียทุกอย่างเลยล่ะคุณอิทหรือคุณว่าไม่จริงล่ะคะ จากไร่ส้ม 500 ไร่ที่เรามี ถ้ารวมเข้ากับไร่นั้นอีกก็ใหญ่โตเป็นพันเลยนะ ดีออกค่ะ หนูฟ้าเขาเก่งและดูท่าว่าจะปราบลูกชายคุณอยู่หมัดได้ด้วยสิ”
“แต่บางทีเราก็ต้องถามลูกชายเราด้วยนะ มันอาจจะแอบมีเมียไว้แล้วหรือเปล่าคุณจันทร์”
“เพ้อเจ้ออะไรคุณอิท ตาชินมันไม่มีใครหรอก ถ้ามันมีมันก็ต้องพาไปแนะนำให้เราสองคนรู้จักแล้วสิคะ ฉันไม่ห่วงเรื่องนั้นหรอกเพราะฉันรู้ดีว่าตาชินมันไม่จริงจังกับใครง่าย ๆ เข้าไปข้างในกันเถอะค่ะ ฉันอยากเข้าไปนั่งพักผ่อนในบ้านแล้ว รถรากรุงเทพฯ ติดจนน่าเบื่อน่ารำคาญ มากี่ครั้งฉันก็ไม่เคยจะชอบเลยสักที”
คนสูงวัยทั้งสองเดินตามกันเข้าไปภายในบ้าน สองหนุ่มสาวที่ยืนพูดคุยและยิ้มแย้มให้กันอยู่ก็เดินเคียงคู่ ตามพ่อกับแม่ของอชิรวัฒน์เข้าไปด้วยอีกคน...