ภายในนั้นมีเหล่าชายฉกรรจ์มากมายกำลังวุ่นวายกับการขนข้าวของเข้าไปไว้ในบ้านให้กับลูกพี่ของพวกตน ไม่ไกลกันนั้น มีหญิงสาวร่างเล็กน้อยกำลังวุ่นวายกับการจัดแจงที่นอนหมอนมุ้งประหนึ่งว่าเป็นสถานที่สำคัญที่สุดภายในบ้านหลังนี้ พอจัดการตรงนี้เสร็จ หล่อนก็ไปสาละวนกับการจัดที่จัดวางในครัว ปล่อยให้เขาได้นั่งพักผ่อนจวบจนการขนของเข้ามาในบ้านเสร็จสิ้นลง
“พี่หมอกมานั่งตรงนี้สิจ๊ะ ฉันชงน้ำชามาให้ ดื่มน้ำชาร้อนๆ ก่อนนะ จะได้หายเหนื่อย”
คนฟังถึงกับมองหน้าหญิงสาวที่เพิ่งจะเดินโผล่ออกมาจากครัว
“ร้อนจะตายห่า เหงื่อข้าก็ท่วมปานนี้ เอ็งยังจะให้ข้าดื่มน้ำชาร้อนๆ อีกรึ”
ควันลอยฉุยเชียว อากาศข้างนอกก็ร้อนระอุ ไม่รู้ว่านิ่มนวลคิดอะไรอยู่ถึงได้ชงชามาให้เขาเสียกาใหญ่เชียว
“ดื่มน้ำชา มันจะได้ขับเหงื่อ นี่ไม่ใช่ชาธรรมดานะจ๊ะ เป็นชาของพวกชาวเขาชาวดอย ฉันได้ยินมาว่าชาของที่นี่มีสรรพคุณช่วยขับล้างสารพิษในร่างกาย พอสารพิษออกจากร่างกายไปหมดแล้ว ก็จะทำให้กระชุ่มกระชวยกระปรี้กระเปร่า ถึงได้ชงมาให้พี่ดื่ม”
พอจะเดาได้ว่าเจ้าหล่อนคงจะได้ใบชาพวกนี้มาจากฟ้าฮ่ามเมื่อครู่ เขาไม่พูดอะไร นอกจากเดินตรงเหมือนนั่งยังม้าไม้โยก เท่านั้นนิ่มนวลก็รีบบุหรี่กุลีกุจอเข้ามาหา
“นี่จ้ะพี่หมอก ดื่มชาเสียก่อนนะ”
รินน้ำชาให้เรียบร้อยเสร็จสรรพอีกด้วย ชายหนุ่มหันมองทันใด ก็พบว่าดวงหน้าพริ้มเพราฉาบพรายไปด้วยรอยยิ้มดังเดิม
“ข้าถามจริงๆ นะนิ่มนวล”
“ถามอะไรเหรอจ๊ะพี่”
“เมื่อไรเอ็งจะกลับบ้านกลับช่องของเอ็งไปวะ บ้านช่องเอ็งอยู่ที่ไหน”
ไม่ใช่ครั้งแรกที่เขาถามคำถามนี้ นับครั้งไม่ถ้วนแล้ว แต่ก็ไม่เคยได้คำตอบที่แท้จริงเลย
“จะอยู่ไหนล่ะจ๊ะ บ้านฉันก็อยู่ที่บ้านพี่นี่ไง พูดแปลกๆ”
“เอ็งนั่นละที่พูดแปลกๆ เอาดีๆ นะเว้ย ข้าถามเอ็งมาหลายครั้งแล้ว ไม่เคยได้คำตอบสักครั้ง บ้านเอ็งอยู่ที่ไหนกันแน่”
“อย่าถามอะไรไร้สาระเลย พี่พักผ่อนเถอะ ดื่มน้ำชาก่อน”
เปลี่ยนเรื่องเสียอย่างนั้น เสือหมอกจึงดัดหลังด้วยการไม่ยอมรับถ้วยน้ำชาที่หล่อนส่งมาให้
“พี่หมอก…”
พอไม่รับ หญิงสาวก็ร้องเรียก เขาจ้องหน้าหล่อน เคลื่อนใบหน้าเข้ามาใกล้แล้วถามเสียงเข้มด้วยคำถามเดิมอีกครั้ง
“บ้านช่องเอ็งอยู่ไหน ข้าปล่อยตัวเอ็งไปตั้งนานแล้ว จะมาตามข้าอยู่อีกทำไม ทำไมไม่ยอมกลับบ้านไป”
คราวนี้ถามรัวเลยทีเดียว แทนที่จะได้คำตอบ นิ่มนวลกลับอ้อยอิ่ง วางถ้วยน้ำชาในมือลงบนโต๊ะใกล้ๆ พูดพล่ามไปเรื่อย
“สงสัยน้ำชาคงจะร้อนไป ต้องรอให้เย็นอีกสักหน่อย พี่ถึงจะดื่มได้”
“นิ่ม…นวล…”
จงใจเรียกชื่อหญิงสาวออกมาทีละคำ เขาเกลียดเหลือเกินกับการแกล้งทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ของหล่อนแบบนี้
“ถ้าเอ็งไม่ยอมตอบ คืนนี้เอ็งก็ไปนอนนอกบ้านซะ”
แล้วก็ต้องขู่ออกมา ทำให้นิ่มนวลทำปากยู่ ปั้นหน้าไม่พอใจใส่เขาทันที
“พี่กล้าไล่ฉันออกไปนอนนอกบ้านได้ลงคอเลยเหรอ”
“ข้ากล้าทำมากกว่านี้อีกถ้าเอ็งมัวแต่เล่นลิ้น ไม่ยอมตอบคำถามของข้ามาสักที”
“คำถามของพี่คือ…?”
“ทำไมเอ็งไม่กลับบ้าน บ้านเอ็งอยู่ที่ไหน”
ทวนคำถามให้ก็บอกปวดขมับขึ้นมาตุบๆ
เขาถามตั้งหลายรอบแล้ว ทำไมไม่รู้จักฟังบ้าง!
แต่การถามในครั้งนี้ก็ทำให้นิ่มนวลนั่งนิ่งไปชั่วขณะ
“ฉันอยู่กับพี่ มันไม่ดีเหรอจ๊ะ ที่นี่ไม่มีผู้หญิง พี่ใช้ชีวิตไม่สะดวก มีฉันอยู่ก็จะได้คอยช่วยดูแลอะไรต่อมิอะไรให้ พี่จะได้สบายขึ้น”
“ความจริงมันก็ดี แต่ข้าไม่ได้อยากให้เอ็งมาอยู่ด้วย ถึงได้ถามว่าบ้านช่องของเอ็งอยู่ที่ไหน ข้าจะได้เอาเองไปส่ง”
“ไม่อยากให้ฉันมาอยู่ด้วยเพราะอะไรเหรอ”
“ข้าไม่อยากมีภาระ”
“แค่ฉันคนเดียว ไม่ใช่ภาระหรอก”
ตอบโต้กันมาจนถึงตรงนี้ เสือหมอกก็ชักจะปวดหัว นิ่มนวลเก่งเหลือเกินกับการบ่ายเบี่ยงประเด็น อีกทั้งยังคิดเข้าข้างตัวเองไปเรื่อยเปื่อย ทั้งที่เขาพูดชัดเจนแล้วว่าเขาต้องการอะไรและไม่ต้องการอะไร
“ทำไมเองคิดว่าตัวเองไม่ใช่ภาระวะ?”
น้ำเสียงหงุดหงิดใจหลุดออกมาจากปากของเขาในทันที เขาไม่ได้คาดหวังเลยว่าจะได้รับคำตอบที่ดีจากหล่อนสักเท่าไร แล้วก็เป็นอย่างนั้นเมื่อหล่อนฉีกยิ้มกว้าง ก่อนจะพูดออกมา
“เมียคนเดียวคงไม่ใช่ภาระหนักหนาอะไรหรอกมั้งพี่”
เมียอะไรกันล่ะ เขาไม่เคยทำอะไรหล่อนเลยสักหน่อย!
ถึงกับต้องยกมือขึ้นลูบใบหน้า นี่ก็ไม่ใช่ครั้งแรกเหมือนกันที่นิ่มนวลเอ่ยอ้างตนเองว่าเป็น ‘เมีย’ ของเขาอย่างนี้ อันที่จริงแล้ว เขาพลาดเองที่ในวันแรกที่เจอตัวหล่อนว่าแอบตามพวกเขามาด้วย เขากลัวว่าหล่อนจะถูกพวกลูกน้องซึ่งเป็นชายกลัดมันทำมิดีมิร้าย จึงได้พาตัวเข้ามานอนในที่รโหฐานเดียวกับเขา ซึ่งนั่นเป็นการตัดสินใจที่ผิดพลาด เพราะหลังจากนั้น หล่อนก็กล่าวอ้างตัวว่าเป็นเมียของเขา ไม่สนเลยว่าใครต่อใครจะรู้ดีว่าแท้จริงแล้วเสือหมอกกับหล่อนยังไม่ได้มีอะไรกัน
หน้าด้านหน้าทน คงต้องยกให้กับผู้หญิงคนนี้เลยล่ะ!
“เอ็งอย่าพูดอย่างนี้นะนิ่มนวล เดี๋ยวผีผลักขึ้นมาจะเป็นเรื่อง” เสือหมอกดุออกมา
“ถ้าผีจะผลักก็ให้ผลักสิ ฉันก็รออยู่” คนฟังไม่ได้สนใจอะไรเลย
“เอ็งอย่ามาพูดเล่นนะ”
“ฉันก็ไม่ได้พูดเล่น ฉันรออยู่จริงๆ”
ได้ยินอย่างนั้น เสือหมอกถึงกับถอนหายใจออกมาเต็มแรง
“พ่อแม่เองมาได้ยิน จะว่ายังไงวะ”
สีหน้าของนิ่มนวลดูจะเจื่อนลงไปเล็กน้อย แม้ว่าหล่อนจะพยายามประคองรอยยิ้มเอาไว้บนใบหน้า หากแต่เสือหมอกก็จับสังเกตได้
“พ่อแม่ฉันคงจะไม่ว่าอะไรหรอก เพราะตอนนี้ฉันไม่มีพ่อแม่แล้ว ไม่มีแม้กระทั่งญาติพี่น้อง พี่สบายใจได้เลยว่าไม่มีใครมาขัดขวางการเป็นผัวเป็นเมียของเราแน่”
ก็ยังจะติดตลกอยู่ แต่ก็นับว่าเป็นเรื่องใหม่เลยทีเดียวที่เสือหมอกเพิ่งจะได้รู้
“เอ็งไม่มีที่ไปหรือ”
พอถามมาอย่างนี้ หญิงสาวก็พยักหน้าหงึกหงัก
“ใช่แล้ว ถ้าฉันกลับไปที่เดิมที่ฉันมา ก็คงไม่พ้นได้ไปเป็นกะหรี่เหมือนเดิมอยู่ดี พี่อุตส่าห์ช่วยฉันออกมาจากนรกแล้ว เรื่องอะไรที่ฉันจะกลับไป สู้อยู่เป็นเมียพี่ดีกว่า”
“แต่เอ็งไม่ใช่…”
“ถึงตอนนี้จะยังไม่ใช่ แต่การได้อยู่กับพี่ กับพวกพ้องของพี่ ก็ยังดีที่มีคนคอยดูแลเป็นห่วงฉัน ยังน้อยๆ ฉันก็ยังมีเพื่อน ถึงพวกลูกน้องของพี่จะไม่ค่อยชอบขี้หน้าฉันเท่าไรก็เถอะ”
นิ่มนวลกลั้วหัวเราะ มีก็แต่เสือหมอกเท่านั้นที่หัวเราะไม่ออก อยู่ด้วยกันมาตั้งสามเดือน เขากลับไม่รู้อะไรเกี่ยวกับตัวหล่อนเลย ไม่ใช่ว่าไม่ถาม แต่หล่อนไม่เคยเล่า ไม่เคยแม้แต่จะพูดถึง เพิ่งจะมีครั้งนี้ ส่วนเรื่องที่พวกลูกน้องของเขาไม่ชอบขี้หน้าหล่อน มันก็ไม่เชิงขนาดนั้น แค่ไม่สบายใจที่มีผู้หญิงร่วมอยู่ในก๊กด้วยก็เท่านั้นเอง จริงๆ แล้วก็ไม่ได้มีปัญหาอะไรหรอกกับการดูแลผู้หญิงแค่คนเดียว
“น้ำชาเริ่มอุ่นแล้ว พี่อยากถามอะไรต่อไหมจ๊ะ”
เขาเงียบไปนานจนนิ่มนวลต้องทำลายความเงียบขึ้นมา ดวงตาคมจ้องมองหน้าหญิงสาวอีกครั้ง ต่อให้หล่อนยังคงยิ้มกว้างเหมือนเดิม แต่เขาก็รู้ว่าภายในใจของหล่อนมันอุดมไปด้วยความทุกข์เพียงใด เขาเองก็สงสารหล่อนขึ้นมาจับใจ จึงไม่เซ้าซี้ตอแยถามอะไรต่อ ไม่แม้แต่จะบีบบังคับให้หล่อนออกไปจากกลุ่มของเขาด้วย ทำเพียงแค่รับถ้วยน้ำชามาถือเอาไว้ในมือแล้วยกขึ้นจิบเท่านั้น
“อร่อยไหมจ๊ะ”
ดวงตาคู่สวยประกายระยิบระยับ เฝ้ารอคำตอบจากเขาอย่างใจจดใจจ่อ
ทั้งที่เขาอุตส่าห์ไม่เซ้าซี้แล้ว กลายเป็นว่าหล่อนเซ้าซี้เขาแทนเสียงอย่างนั้น
“อืม ก็ดี”
“พี่ดื่มน้ำชาเสร็จแล้วก็ไปอาบน้ำซะนะ ฉันตักน้ำลงตุ่มเอาไว้ให้แล้ว ผ้าขาวม้าอยู่ตรงโน้นแน่ะ ส่วนเสื้อผ้าใหม่ ฉันก็เตรียมไว้ให้หมดแล้วจ้ะ”
ทำหน้าที่ได้ดีเสียขนาดนี้ เขาจะไปกล้าพูดอะไรได้ นอกเสียจากพยักน่ารับไป แล้วโบกมือไล่ให้หล่อนไปทำอย่างอื่น เพราะไม่อย่างนั้น ดูท่าแล้วน่าจะนั่งเฝ้าเขาอยู่อีกนาน
“มีอะไรทำก็ไปทำไป ที่เหลือข้าจะจัดการเอง”
โชคดีที่ครั้งนี้นิ่มนวลเชื่อฟังแต่โดยดี อาจเป็นเพราะเพิ่งจะมาถึงที่หมาย ยังมีอีกหลายสิ่งที่หล่อนต้องทำด้วยกระมัง มันถึงได้ไม่ตามติดเขาเป็นตังเม ปล่อยให้เขาได้นั่งขบคิดอะไรอยู่ตามลำพังบ้าง
หญิงสาวลุกไปแล้ว หล่อนเข้าไปในครัว น่าจะหุงหาอาหารหรือทำอะไรสักอย่าง เพราะมีเสียงร้องเพลงดังออกมาให้ได้ยิน ก่อนจะตามมาด้วยเสียงพูดว่า…
“อุ๊ย ร้องเพลงในครัว เดี๋ยวได้ผัวแก่”
จากนั้นถึงได้เงียบไป ทำเอาคนที่นั่งฟังอยู่ถึงกับขมวดคิ้ว
หล่อนอยากได้เขาเป็นผัว ยัดเยียดความเป็นผัวให้กับเขา แต่ดันกลัวว่าจะได้ผัวแก่
แอบหลอกด่าเขาทางอ้อมหรือเปล่านะ?
เสือหมอกไม่แน่ใจเลย แต่การกระทำของหล่อนก็เรียกเสียงหัวเราะให้กับเขาได้ในลำคอเบาๆ ก่อนที่เขาจะรีบลุกไปอาบน้ำ ด้วยเกรงว่าถ้าไม่รีบจัดการตัวเองก่อนที่หล่อนจะออกมา เขาจะต้องตกเป็นผัวแก่ของนิ่มนวลจริงๆ