หลังจากทำงานทุกอย่างเสร็จแล้ว ก็เป็นเวลาที่เธอจะได้ทิ้งตัวลงนอนสักที ภายในห้องพักขนาดกลางที่เธอพักอยู่เพียงคนเดียวนั้น รอบกายมืดสนิททำให้เธอมีเวลาคิดเรื่องราวต่าง ๆ ทั้งในวันนี้และที่ผานมา เธอมักจะนอนคิดเรื่อยเปื่อยแบบนี้ทุกคืนอยู่แล้ว แต่สักพักกลับต้องลุกขึ้นจากที่นอนโดยกะทันหัน นั่นก็เพราะมีสายเรียกเข้าพอดี หน้าจอปรากฏชื่อของเพื่อนสนิทเธออีกคน ซึ่งก็คือ'เจย์เดน' พ่อหนุ่มลูกครึ่งตัวตึงอีกคนของกลุ่ม
"ว่าไงมึง?"
[หมิวนอนยัง มาเก็บศพไอ้เหี้ยนี่ที ] เสียงปลายสายฟังดูแข็งกระด้างใช่น้อย แต่นั่นก็เป็นคาแรกเตอร์ปกติของเขา
"เหี้ยไหนอีกล่ะ? มีหลายตัว"
[ไอ้ซัน อยู่หน้าหอ ลงมารับร่างด้วย มันไม่ยอมกลับคอนโด]
"จะบ้าเหรอ ตอนนี้มันเที่ยงคืนแล้ว กูจะนอนเอามันไปเก็บเลย"
เธออยากจะกรี๊ด นี่มันเวลาไหนแล้วไอ้พวกขี้เมาทั้งหลายนี่กลับไม่ยอมหลับนอน แทนที่จะไปส่งเพื่อนไว้ แต่กลับต้องโทรตามเธอเนี่ยนะ เธอเป็นเพื่อนนะไม่ใช่แม่ของซันซะหน่อย
[มันโดนแฟนทิ้ง เมาเป็นหมาเลย ร้องหาแต่มึง พวกกูหมดปัญญาแล้วว่ะ ถ้ามึงไม่ลงมาพวกกูจะนำร่างไปให้มึงฌาปนกิจถึงห้อง]
เสียงแทรกมาตามสายนั่นก็คือ 'เสือ' เพื่อนอีกคนของเธอเอง รายนี้ก็ใช่ย่อยเสียที่ไหน เสือสมชื่อ
"อะไรนะ! โอเค ๆ เดี๋ยวรีบลงไป"
เพียงได้ยินสิ่งที่เพื่อนบอก คนตัวเล็กที่ปากบอกจะนอนกลับวิ่งลงมายังชั้นล่างทันทีแบบไม่ต้องคิด ทั้งที่ตัวเองนั้นแต่งตัวไม่เรียบร้อยเลยสักนิด เธอสวมเพียงกางเกงนอนขาสั้นเสื้อส่ายเดี่ยวตัวจิ๋วแถมยังโนบาร์อีกต่างหาก ด้วยความที่เป็นห่วงคนที่ถูกพูดถึงเธอจึงไม่ทันคิด รีบวิ่งสุดชีวิตลงมาจนถึงรถคันที่จอดอยู่ โดยมีเจย์เดนยืนกอดอกรออยู่เเล้ว
"มาแล้ว มาดูนี่"
"ซัน~~"
สิ่งที่เจย์เดนเรียกให้เธอมาดูนั่นก็คือสภาพของซันที่ร้องห่มร้องไห้ทั้งเมาแอ๋ โดยมี 'ทัพ' คนที่ดูจะสุภาพ?ที่สุดในกลุ่มประคองศีรษะไว้ ก่อนที่เสือจะช่วยกันดึงร่างที่ตัวโตเท่า ๆ กันนั้น พาลงมาจากรถ
"ทำไมสภาพเป็นงี้อะ?"
เธอเอ่ยถามเพื่อนที่ดูเหมือนจะสติดีทุกคน สีหน้าทุกคนล้วนแต่จริงจังและติดจะเครียดเสียด้วยซ้ำ ทำเอาเธออดแปลกใจไม่ได้ ขนาดทัพที่เฮฮาที่สุดในกลุ่มยังตึงเครียดได้ขนาดนี้เลย เกิดอะไรขึ้นในระหว่างที่เธอไม่ได้อยู่ตรงนั้นงั้นเหรอ?
"จับได้ว่าเขาไปกับผู้ชายอีกคน ไปโวยเขา เจอเขาบอกเลิกก็เลยมีสภาพนี้"
เป็นเจย์เดนที่อธิบายพร้อมกับหยิบเสื้อจากไหนไม่รู้มาคลุมให้เธออย่างเอาใจใส่ เจย์เดนสังเกตการแต่งตัวของเธอจึงช่วยเซฟร่างกายของเพื่อนสาวคนเดียวในกลุ่ม อย่างไรเสียนี่ก็ผู้ชายทั้งหมด และที่กำลังจะทิ้งไว้ก็คือผู้ชายเช่นกัน
"โง่ซ้ำซาก กูบอกหลายครั้งก็ไม่เชื่อ" เป็นเสือที่หงุดหงิดใช่น้อยเอ่ยขึ้นบ้าง
"มันรักอะไรขนาดนั้นก็ไม่รู้ " เป็นทัพพูดเสริม
"เอามันขึ้นไปข้างบนก่อนแล้วกัน"
เธอได้ฟังเพียงเท่านี้ก็เข้าใจเป็นอย่างดีแล้ว ซันรักเจนมาก นั่นจึงไม่แปลกเลยที่เขาจะเสียใจขนาดนี้ เมื่อก่อนซันเจ้าชู้มากก็จริง แต่พอมาคบกับเจนก็จริงจังและเลิกนิสัยนั้นได้ เธอก็เห็นว่าเป็นเรื่องที่ดี แต่ใครต่างก็ดูออกว่าเจนเองก็ไม่ได้ชอบซันขนาดนั้น เพียงแค่ซันอยู่ในจุดที่เชื่อใจตัวเองมากกว่าผู้อื่น
"ฮึก~ หมิว หมิว"
พอมาถึงบนห้องร่างของซันที่กึ่งมีสติกึ่งไม่มีสติ ก็ถูกวางลงบนที่นอนที่เธอนอนประจำ ตามด้วยเสียงร้องเรียกชื่อเธอตามมาติด ๆ คนตัวเล็กเดินเข้าหาหวังจะปลอบใจเพื่อนสนิท เธอรู้ซันกำลังเสียใจและต้องการกำลังใจ
"อื้อ กูอยู่นี่" เธอนั่งลงข้างเขาพร้อมกับลูบเรือนผมสั้นนั้นอย่างที่เคยทำ
"มึงช่วยพาเขากลับมาได้ไหม มึงเก่ง มึงต้องช่วยกูนะ~"
ทว่าคนที่หลับตาสนิทกลับเอ่ยขอร้องเธอเสียงเบา ช่างเป็นคำขอที่เธอเองก็ลำบากใจเหลือเกิน ไม่ว่าซันต้องการอะไรเธอมักหาให้ได้เสมอ แต่ครั้งนี้ทำไมเธอถึงไม่อยากทำกันนะ แถมยังรู้สึกจุกจนพูดไม่ออก ซันคงรักผู้หญิงคนนั้นมาก มากจนยอมทิ้งศักดิ์ศรี แม้กระทั่งเขาสวมเขาให้ยังอยากได้คนผู้นั้นคืน
"ทำไมกูอยากเหยียบไอ้นี่ซ้ำจังวะ"
เสือที่ดูจะหัวร้อนเอามาก ๆ ยกเท้าหมายจะถีบไอ้เพื่อนหน้าโง่นี่เหลือก่อน แต่เพียงแค่หญิงสาวคนเดียวในกลุ่มยกมือขึ้นห้ามโดยไร้เสียง เสือก็หยุดการกระทำทันที เพียงเพราะเป็นหมิวหรอกเขาถึงหยุด หากเป็นไอ้คนที่นอนอยู่มีหวังเขาจะกระทืบซ้ำให้ตายจริง
"มึงรักเขาขนาดนั้นเลยหรือไง เขามีคนอื่นนะ" เธอถามคนที่เมาแอ๋ แม้จะรู้อยู่เต็มอกแต่ก็อยากได้ยินอีกครั้ง คนเมามักจะพูดทุกอย่างที่อยู่ใต้จิตสำนึกออกมาเสมอ เธอคิดแบบนั้น
"กะ กูชอบเขามาก" เขาตอบกลับราวกับคนมีสติดี นั่นก็แปลว่าซันยังไม่ได้เมาจนขาดสติขนาดนั้น เพราะถ้าเขาเมามากคงไม่มีสภาพแบบนี้
"ลุกขึ้นมานั่งคุยกับพวกกูดี ๆ มึงไม่ได้เมาไอ้เหี้ยซัน"
เธอเอ่ยเสียงเรียบจนเพื่อน ๆ หันมามองเป็นตาเดียว ซันจะไม่เมาได้อย่างไรกัน? สภาพมันยิ่งกว่าหมาป่วยซะอีก พวกเขาต้องแบกออกมาจนหลังแทบเดาะกันเลยทีเดียว แต่ทุกคนก็ต้องอึ้งแทนเมื่อจู่ ๆ ซันก็ลุกขึ้นนั่งอย่างเชื่อฟัง นี่มันมาตรฐานที่สิบชัด ๆ เชื่อแล้วว่าหมิวอยู่กับซันนานจนอ่านออกทุกอย่าง
"ไอ้ห่า หลอกให้กูแบกออกมาเฉย" เป็นเสืออีกแล้วที่เอ่ยอย่างหงุดหงิด
"ใจเย็นไอ้เสือ มันอกหักอยู่นะเว่ย" ทัพรีบเข้ามาห้ามเสือที่อารมณ์ขึ้นง่ายกว่าทุกคนเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว
"พอ" เธอเพียงเอ่ยประโยคสั้น ๆ เท่านั้น เพราะไม่มีกะจิตกะใจจะพูดอะไรเยอะแยะมากมาย
"เขาทิ้งกูว่ะหมิว เขามีคนอื่น ฮึก~" คนที่เพิ่งลุกขึ้นนั่งได้ไม่นานก็กลับมาเพ้ออีกครั้ง จนเพื่อนชายสามคนแสดงอาการเดียวกันนั่นคือกุมขมับ เพราะได้ยินมาเป็นรอบที่ร้อย บอกก็แล้ว ด่าก็แล้ว มันฟังซะที่ไหน
"แล้วตายไหม?"