“อันใดกันเยว่ชิง เหตุใดทำหน้านิ่วคิ้วขมวดเช่นนี้อีกแล้ว” ซูเมิ่งใช้ปลายนิ้วนวดวนหัวคิ้ว หวังให้บุตรสาวคลายปมคิ้วออก หนึ่งเดือนที่ผ่านมาเยว่ชิงเป็นเด็กเลี้ยงง่าย ไม่ร้องไห้งอแงโดยมิมีเหตุผล จะร้องไห้เพียงตอนหิวหรือไม่ก็ถ่ายหนักถ่ายเบาเท่านั้น รู้ความเสียจนน่าประหลาดใจ ทั้งยังชอบทำหน้านิ่วคิ้วขมวดอยู่ตลอดเวลา จนนางสงสัยว่าเด็กน้อยวัยเพียงหนึ่งเดือนจะมีสิ่งใดให้คิดหนักถึงเพียงนั้น
“แอ๊ๆ เอิ้ก คิก!” เยว่ชิงที่เห็นว่ามารดาทำหน้าตากังวล นางจึงรีบคลายปมคิ้วแล้วหัวเราะร่าให้มารดาเห็น มือเล็กยกขึ้นตีไปมาบนอากาศ ซูเมิ่งเมื่อเห็นว่าลูกน้อยยิ้มหัวเราะได้ก็คลายความกังวลไป คงจะเป็นเพราะนางคิดมากไปเองกระมัง
เมื่อมารดากลับไปนั่งปักผ้าดังเดิม เยว่ชิงก็กลับมานอนระลึกถึงเรื่องราวแสนอาภัพของนางเอกในนิยายเรื่องชะตาร้ายอีกครั้ง ชีวิตอาภัพของลู่เยว่ชิงในนิยายจะเริ่มขึ้นตอนลู่เยว่ชิง…
ในวัย 4 หนาว เจ้ากระต่ายน้อยที่ลู่เยว่ชิงเลี้ยงเอาไว้ได้ถูกสุนัขจรจัดกัดจนตาย ลู่เยว่ชิงเสียใจจนร้องไห้และซึมไปหลายเดือน
ในวัย 7 หนาว ลู่ลี่อิน พี่สามของลู่เยว่ชิงได้ป่วยเป็นโรคที่ต้องใช้สมุนไพรราคาสูงในการรักษา แต่ด้วยท่านพ่อของนางเป็นขุนนางตงฉิน ไม่คิดคดโกง ทำให้เบี้ยหวัดที่ได้ไม่พอจะซื้อสมุนไพรที่ว่า แม้ท่านพ่อจะพยายามขอหยิบยืมเงินมาจากสหายจนครบและซื้อโอสถจากท่านหมอมาได้แล้ว แต่ทว่ากลับไม่ทันการ ลู่ลี่อินอาการทรุดหนักจนไม่อาจรักษาชีวิตเอาไว้ไม่ได้ เหตุการณ์นี้ทำให้สกุลลู่จิตใจบอบช้ำอย่างหนัก ทั้งครอบครัวยังติดหนี้สินไปทั่ว
ในวัย 12 หนาว ลู่เฉินกง พี่ใหญ่ของลู่เยว่ชิงที่ถูกเกณฑ์ไปช่วยสงครามก็พิการขากลับมา และสาเหตุก็หนีไม่พ้น อู๋จางหมิ่น พระเอกนิยายในเรื่องชะตาร้าย หึ!!! เป็นเพราะอู๋จางหมิ่นพลาดท่าให้กับศัตรู พี่ใหญ่ของนางเห็นเข้าจึงรีบไปช่วย แต่กลับถูกอู๋จางหมิ่นดึงไปรับคมดาบแทน จนพี่ใหญ่ของนางต้องเสียขาทั้งสองข้าง! พี่ใหญ่ทนทุกข์อยู่ได้ไม่นานก็ตัดสินใจปลิดชีพตนเอง
ในวัย 15 หนาว ลู่เยว่ชิงที่พึ่งผ่านพิธีปักปิ่นมาได้เพียงแค่สิบวันกลับต้องมาสูญเสียบิดา เพราะเสนาบดีกรมคลัง อู๋หลี่เฉียง ใส่ร้ายว่าบิดาของนางลักขโมยของในพระคลังหลวง บิดาของนางจึงถูกลงทัณฑ์ให้โบยจนตาย พี่รองและบ่าวชายในเรือนถูกเกณฑ์ไปใช้แรงงานในเหมืองแร่ ยังมิหมดเท่านั้น เสนาบดีอู๋ยังแสร้งทำทีสงสารครอบครัวสกุลลู่ ทูลขอต่อองค์ฮ่องเต้ว่าจะรับฮูหยินลู่เป็นอนุและรับลู่เยว่ชิงเป็นอนุของบุตรชายอย่างอู๋จางหมิ่น ในตอนนั้นสกุลลู่อับจนหนทาง สองแม่ลูกมิอาจปฏิเสธได้ จึงต้องย้ายเข้าไปอยู่ในสกุลอู๋ในฐานะอนุ
แต่ความอาภัพของลู่เยว่ชิงยังไม่หมดเพียงเท่านี้ เพราะสามีของนางมีทั้งฮูหยินเอก ฮูหยินรอง และอนุอีกสอง หลังจากลู่เยว่ชิงถูกรับเข้ามาเป็นอนุ สามีของนางนั้นมิได้ใส่ใจดูแล จะมาพบเพียงตอนเมามายสุราเท่านั้น ถึงขนาดว่าลู่เยว่ชิงตั้งครรภ์และถูกบรรดาเมียของสามีกลั่นแกล้งจนตกเลือด สามีของนางก็ยังไม่มาดูดำดูดี จนกระทั่งนางตั้งครรภ์ที่สองและคลอดออกมาเป็นบุตรชาย สามีของนางถึงได้มาดูแล ยกย่อง แต่งตั้งขึ้นเป็นฮูหยินเอก เพราะที่ผ่านมาทั้งฮูหยินเอก ฮูหยินรอง และอนุอีกสองคนของอู๋จางหมิ่นต่างให้กำเนิดบุตรสาวทั้งหมด
หลังจากนั้น…นิยายก็ตัดจบเพียงว่าอู๋จางหมิ่นและลู่เยว่ชิงใช้ชีวิตครอบครัวกันอย่างมีความสุข ทั้งที่ในนิยายลู่เยว่ชิงยังมิรู้ด้วยซ้ำว่าเสนาบดีอู๋เป็นผู้ที่ใส่ร้ายบิดาของนาง…
เหอะ! จะให้อดีตลูกสาวเจ้าพ่อคาสิโนมาทนใช้ชีวิตอาภัพแบบนั้น ไม่เอาด้วยแน่! อย่างไรก็ต้องเปลี่ยนแปลงชะตาชีวิตพวกนี้ให้ได้!
“ฮ่าๆ เยว่ชิงลูกพ่อ เจ้ามีเรื่องให้คิดหนักถึงขั้นยกมือก่ายหน้าผากเลยหรือ” ลู่หวังเหล่ยที่พึ่งกลับมาจากทำงาน ผลัดเปลี่ยนอาภรณ์แล้วเสร็จจึงมาเล่นกับบุตรสาว ด้านเยว่ชิงตัวน้อยที่เห็นว่าท่านพ่อกลับมาแล้วก็อยากเอ่ยทักทาย
“อือๆ แอ๊” มือเล็กโบกไปมาในอากาศ ริมฝีปากน้อยๆ ฉีกยิ้มอวดเหงือกแดงของตนให้บิดาดู
“มาๆ พ่ออุ้มเจ้าดีหรือไม่ นอนทั้งวันคงจะเบื่อหน่ายแล้วกระมัง” ลู่หวังเหล่ยอุ้มบุตรสาวเข้าอก เดินไปมาอยู่ในเรือน
“ท่านพี่กลับมาเหนื่อยๆ ไม่ไปพักก่อนหรือเจ้าคะ”
“มิเป็นไร แล้วนี่ลูกๆ อยู่ที่ใดกัน ตั้งแต่พี่เข้ามายังมิเห็นแม้แต่คนเดียว” ลู่หวังเหล่ยเอ่ยถามถึงบุตรชายทั้งสามของตน
“วิ่งเล่นกันจนมอมแมม ข้าจึงให้เฉินกงพาน้องๆ ไปอาบน้ำอาบท่าก่อนจะรับมื้อเย็นเจ้าค่ะ” เยว่ชิงที่ได้ยินท่านแม่พูดว่าพี่ชายไปวิ่งเล่นด้านนอกกันก็รู้สึกอิจฉา ร่างเล็กจ้อยดีดดิ้นไปมา
อีกกี่ปีนางถึงจะได้ออกไปวิ่งเล่นบ้าง ฮื่อออ~
“ประเดี๋ยวตกไปจะเจ็บเอาได้นะเยว่ชิง นางดื้อรั้นมากหรือไม่ ทำให้เจ้าเหนื่อยแล้วซูเมิ่งของพี่ บุตรถึงสี่คนคงวุ่นวายเจ้าน่าดู”
“คงจะมิเหนื่อยเท่าท่านพี่ ท่านยังถูกกลั่นแกล้งอยู่หรือไม่เจ้าคะ” ซูเมิ่งเดินเข้าไปกอดสามีไว้แน่น นางรู้ว่าสามีของนางมักถูกเสนาบดีอู๋กลั่นแกล้งอยู่เสมอ
“ก็ตามเคย พวกเขามิชอบใจที่พี่มิยอมโอนอ่อนผ่อนปรนในเรื่องการงาน”
“คงจะเป็นเพราะข้าด้วยใช่หรือไม่”
“อืม เสนาบดีอู๋คงจะรู้สึกเสียหน้าที่เจ้าเลือกแต่งกับขุนนางขั้นห้าอย่างพี่แทนที่จะไปเป็นอนุของเสนาบดีกรมคลังอย่างเขา แต่เจ้ามิต้องคิดมากไป พี่ทำงานด้วยความสัจจริง เขาจะกลั่นแกล้งอย่างไรก็มิเป็นผล” เยว่ชิงที่ฟังความจากบิดาก็รู้สึกโมโหขึ้นมาทันที ยิ่งนางรับรู้มาก่อนว่าบิดาของนางจะถูกใส่ร้าย โดนโทษโบยจนตาย นางยิ่งโกรธเคืองคนผู้นั้น แต่นางตัวเล็กจ้อยเพียงเท่านี้จะทำอันใดได้ คงต้องรอให้นางโตขึ้นก่อนค่อยจัดการกับเสนานบดีอู๋
“ท่านพ่อ! ท่านแม่! ข้าหิวแล้วววว” เสียงเล็กของหมิงยู่ตะโกนดังลั่นไปทั่วเรือนจนผู้เป็นบิดาต้องเอ่ยปราม
“รู้แล้วๆ เจ้าอย่าได้ส่งเสียงดังนัก ประเดี๋ยวเสือร้ายก็ออกมากินตับเจ้าหรอก โฮรก~” ลู่หวังเหล่ยที่อุ้มบุตรสาวอยู่ทำท่าเป็นเสือวิ่งไล่บุตรชายไปทั่วห้อง
“กรี๊ดดดด พี่ใหญ่ น้องสาม ช่วยข้าด้วย~ เสือมันจะกัดข้าแล้ว”
จริงสิ! หากเลี้ยงกระต่ายแล้วถูกสุนัขกัดตาย ก็เลี้ยงอย่างอื่นที่สุนัขกัดไม่ได้สิ
เยว่ชิงที่จู่ๆ ก็คิดวิธีแก้ปัญหาเรื่องสุนัขกัดสัตว์เลี้ยงของนางจนตายได้ก็ดีอกดีใจยกใหญ่ ทั้งยิ้มทั้งหัวเราะเล่นกับพี่ชายทั้งสาม ครอบครัวนั่งล้อมวงทานข้าวกันอย่างมีความสุข แม้อาหารจะมิได้มากมาย แต่ก็อิ่มหนำสำราญกันอย่างถ้วนหน้า หลังจากที่ทานมื้อเย็นกันแล้ว ลู่หวังเหล่ยก็พาลูกๆ มานั่งรับลมที่ศาลาในสวนท้ายเรือน
“เยว่ชิงน้องพี่ หากโตขึ้นจะต้องงดงามที่สุดในแคว้นเป็นแน่” เฉินกงเอ่ยเย้าน้องสาวพลางเอามือจิ้มแก้มนุ่มนิ่มนั้น เยว่ชิงได้ฟังก็ชมชอบคำเยินยอของพี่ชาย เด็กน้อยยิ้มร่า ดีดแขนขาไปมาราวกับต้องการบอกพี่ชายว่า…
เอาอีกๆ ชมข้าอีก ชมข้าให้มากๆ
“น้องพึ่งจะได้หนึ่งเดือน นางอาจจะโตมาน่าเกลียดก็ได้นะ” หมิงยู่ยื่นหน้าเข้าไปมองหน้าตาของเยว่ชิงชัดๆ โตขึ้นคงมิได้งดงามถึงเพียงนั้นกระมัง
เจ้าพี่บ้า ปากเสียจริง!
ป๊าบ! เท้าเล็กฟาดเข้าแก้มของหมิงยู่อย่างจัง
“โอ๊ยยย! ท่านแม่ เยว่ชิงทำร้ายข้า ฮื่ออออ” หมิงยู่ทำท่าโอดครวญเสียใหญ่โตจนทุกคนอดหัวเราะออกมาไม่ได้
“คิกๆ ตี ตี” ไม่เว้นแม้แต่ลี่อิน เด็กน้อยวัยสามหนาว ก็ดูเหมือนจะชอบอกชอบใจที่พี่รองของเขาถูกน้องสาวกลั่นแกล้ง
“โถ่ มิมีผู้ใดอยู่ข้างข้าเลย ฮึ ข้าโกรธพวกท่านแล้ว วันพรุ่งต้องซื้อถังหูลู่มาให้ข้าสองไม้ถึงจะหาย” หมิงยู่ยกนิ้วมือป้อมๆ ขึ้นมาสองนิ้วให้บิดารับรู้ว่าเขาต้องการ สองไม้ เท่านั้น!!!
เยว่ชิงที่เห็นนิสัยและท่าทีของพี่รองแล้วก็รับรู้ได้ทันทีว่าวันข้างหน้าผู้ใดพร้อมที่จะแหกกฎกับนาง ถึงจะปากเสียไปบ้างแต่ก็พอรับได้ ปากเล็กของเยว่ชิงอ้าปากหาว ตากลมที่มองภาพความสุขตรงหน้าเริ่มปรือลงเรื่อยๆ
หาว~ หวังว่านางจะโตวันโตคืน ใช้ชีวิตกินๆ นอนๆ เช่นนี้มันน่าเบื่อเกินไปแล้ว…