แค่เล่นๆ

2245 คำ
มันยากแค่ไหน ที่ฉันต้องปั้นสีหน้าเรียบเฉย ทำเหมือนไม่ได้รู้สึกอะไรเลย ดวงตาของเขา มันเผยความรู้สึกออกมาอย่างชัดเจน ว่าเขาต้องการ และคาดหวังในตัวฉันแค่ไหน เผื่อใจไว้เถอะ ถึงยังไงฉันก็ไม่รอด ถึงยังไงฉันก็ไม่สามารถเลี่ยงความสัมพันธ์ที่จะเกิดขึ้นระหว่างฉันและเขาได้ "เฮีย.." "...ยังไม่มีเจ้าของ ยังไม่มีภรรยาใช่ไหมคะ" ลำบากแค่ไหน กว่าจะถามคำถามละลาบละล้วงแบบนั้นออกไปได้ ฉันไม่ได้อยากยุ่ง ฉันไม่ได้อยากวุ่นวาย หากแต่การเข้ามาเป็นมือที่สาม หรือเข้ามาแย่งของๆใคร หรือแม้กระทั่งการสร้างความแตกแยก ฉันไม่ยินดีที่จะทำ "ถ้าฉันมีเมีย เธอจะถอดใจงั้นเหรอ?" เขาร้องถาม พลางพลิกร่างตัวเองจากการทาบทับร่างของฉัน ก่อนที่มือหนาจะเลื่อนมากระชากที่แขนของฉัน ให้ขึ้นไปนั่งอยู่บนหน้าตักของเขาแทน ฉันรวบสาบเสื้อเข้าหากันแน่น เมื่อแรงกระชากที่เขาดึงทึ้งเสื้อของเธอ ส่งผลให้กระดุมหลุดลุ่ยขาดออกจากกัน จนไม่สามารถกลับมาเป็นแบบเดิมได้ "หนูไม่ยอมเป็นเมียน้อยของใครนะคะ" เขาคลี่ยิ้มออกมาพร้อมกับพยักหน้าให้ ท่อนแขนแกร่งรวบกอดที่เอวคอดของฉันแน่น ทั้งร่างของเรา ไม่ห่างกันเลยด้วยซ้ำไป "เหมือนกัน ฉันก็ไม่ชอบยุ่งกับของของใคร และใครหน้าไหนก็ไม่ควรมายุ่งกับของของฉันเหมือนกัน" "สำหรับตัวหนู เฮียไม่ต้องห่วงหรอกนะคะ หนูไม่มีใคร" "เธอควรยืนยันให้ชัดเจนนะ ว่าไม่มีแฟน หรือจะไม่มีใคร ระหว่างที่อยู่กับฉัน เพราะฉันไม่ชอบให้ใครมายุ่งกับผู้หญิงของฉัน" "วางใจเถอะค่ะ หนูไม่มีใครทั้งนั้น แม้กระทั่งแฟน หนูก็ไม่คาดหวังว่าจะมี ไม่มีใครอยากได้ผู้หญิงแบบหนูไปเป็นแฟนหรอกค่ะ ไร้ค่า ไม่มีศักดิ์ศรี ไม่มีใครต้องการ" ฉันกัดฟันพูดไป ต่อให้ใบหน้าพยายามยิ้มให้ แต่ไม่มีใครรู้ ว่าหัวใจของฉัน มันกำลังร้องไห้ "หากว่ามีคนต้องการ เธอก็พร้อมจะไปจากฉัน?" มือหนาประคองลำคอของฉันให้เข้าไปแนบชิดอีกครั้ง ชิดจนปลายจมูกของเราสัมผัสกัน และได้กลิ่นลมหายใจของกันและกันอย่างชัดเจน "หนูบอกแล้วไงคะ ว่าหนูไม่ได้คาดหวัง หนูไม่เคยคิดเรื่องแบบนั้นด้วยซ้ำ" "แต่ที่ผ่านมา ผู้หญิงทุกคนก็ต้องการที่จะมีคนคอยอยู่ข้างกายทั้งนั้น ฉันไม่เชื่อหรอก ว่าเธอจะรู้สึกแบบนั้น ไม่เชื่อ ว่าเธอจะไม่คาดหวัง" "อยากให้หนูพูดคำว่าจะไม่ไป เฮียไม่ต้องการให้หนูไปอย่างนั้นเหรอคะ?" "กล้าเดินมาบอกกับฉันตรงๆไหมล่ะ หากวันนั้นมาถึง กล้าพูดตรงๆหรือเปล่าว่าจะไป หากกล้า ก็พามันมาเจอฉัน แล้วเธอจะได้รู้คำตอบ ว่าฉันจะต้องการให้เธออยู่ หรือไป!" ฉันหลับตายอมรับความเจ็บปวด เมื่อริมฝีปากร้อนกระแทกแนบชิดลงมาที่ริมฝีปากของฉัน เขาช่วงชิงลมหายใจของฉันไปกระทันหัน เขาดูดกลีบปากของฉันซ้ำๆ ก่อนที่มือหนาจะกระชากชุดนอนของฉันออกจากร่าง พลางโยนมันออกไปให้พ้นทาง ความเย็นของเครื่องปรับอากาศ กระทบมาโดนที่แผ่นหลังเปล่าเปลือย ความสว่างจ้าภายในห้องนอน ส่งผลให้เรามองเห็นร่างกายของกันและกันอย่างชัดเจน ฉันเห็นสีหน้าของเขาที่แสดงออกถึงความพออกพอใจ ในขณะที่เขามองเห็นเรือนร่างเปลือยเปล่าของฉัน ทั้งๆที่ชีวิตนี้ไม่เคยมีใครมีโอกาสได้เห็นมัน เขาดันร่างของฉันลงจากหน้าตัก เผยให้เห็นเรือนร่างขาวผ่อง ไม่มีตำหนิให้เห็น และไม่มีเสื้อผ้าปกปิดเลยสักชิ้น เขากวาดสายตามองไปตามเรือนร่างของฉันอย่างจาบจ้วง ไม่มีส่วนไหนด้วยซ้ำ ที่สายตาของเขาไม่ลากผ่าน ก่อนที่เขาจะเอ่ยปากออกคำสั่ง "เข้ามาถอดกางเกงให้ฉัน!" ดวงตาของฉันวูบไหว หัวใจตกลงไปอยู่ที่ตาตุ่ม มือบางกำเข้าหากันแน่น เพียงแต่วันแรกที่พบกัน ฉันก็กำลังจะสูญเสียทุกอย่าง ไม่มีแม้ปัญญาที่จะหยุดมัน "อึก.." ฉันกลืนน้ำลายลงคออึกใหญ่ เมื่อดวงตาคมเฉียบเลื่อนมามองสบตา เมื่อเขาเห็นว่า ฉันนิ่งไป "คืนนี้จะปล่อยให้นอนสบายๆ หากเธอทำให้ฉันพอใจ!" ฉันมองกางเกงขายาวแบบใส่นอนของเขานิ่ง เขาถอดเสื้อยืดเนื้อดีสีขาวที่อยู่บนกายเขา ก่อนจะโยนมันออกไปให้พ้นทาง รู้อยู่เต็มอก ว่าที่เขาพูด มันหมายความว่ายังไง และเขาต้องการให้ฉันทำอะไร ฉันขยับกายเชื่องช้า เพียงไม่กี่ก้าว ก็หยุดที่ตรงหน้าของเขา น้ำตาเม็ดโตทำท่าจะรินไหล หากแต่ฉันเลือกที่จะหยุดคิดในเรื่องที่ทำให้ปวดใจ แล้วหันมาก้มหน้าทำในสิ่งที่ฉันจำเป็นต้องทำแทน ฉันทรุดเลยลงต่ำ หน้าเตียงนอน พอดิบพอดีกับที่ตรงหว่างขาของเขา มือเรียววางที่ขอบกางเกงขายาวแบบใส่นอนที่เนื้อผ้าดีมาก ก่อนจะค่อยๆดึงมันลงต่ำ ความกลัวแทรกผ่าน เมื่อความยิ่งใหญ่ที่มีเส้นเลือดปูดปูนรายล้อม เด้งออกมาทันทีที่กางเกงผ้าเนื้อดีถูกดึงลง "อึก.." ฉันกลืนน้ำลายลงคออึกใหญ่ ไม่อยากมองที่ตรงส่วนนั้น แต่พอกางเกงของเขาหลุดออกไปจากขาแกร่ง ก็จำต้องเลือกโฟกัสจุดใหม่ และฉันก็เลือกที่จะมองหน้าของเขาแทน "ทำ" เขาปรายตามองที่ตรงส่วนนั้น เป็นเชิงบอกเป็นนัยๆ "นะ หนูไม่เคยทำ" ฉันร้องบอกเสียงสั่น ในขณะที่เขามองมาด้วยความไม่พอใจ "เอามือมาจับ อย่าทำท่าเหมือนรังเกียจฉัน!" น้ำเสียงที่บ่งบอกถึงความไม่พอใจ ส่งผลให้ฉันรวบรวมความกล้า แล้วเลื่อนสายตาไปมองที่ตรงจุดนั้น ก่อนจะวางมือไปทาบทับ แล้วค่อยๆครอบครองโดยการจับมัน "รูดลง ช้าๆ เบาๆ" เขาสั่ง ในขณะที่ความยิ่งใหญ่ภายในมือของฉัน ขยายซ้ำ หัวใจของฉันสั่นระรัวอย่างหนัก ค่อยๆชักรูดแก่นกายใหญ่แบบที่เขาออกคำสั่ง น้ำตาก็ตั้งท่าจะเอ่อล้นออกมา "ใช้ปาก!" คำสั่งของเขาดังขึ้นมาอีกครั้ง เป็นจังหวะที่น้ำตาของฉันล้นออกจากตาพอดี "อย่ามาบีบน้ำตาแบบนี้ ถ้าไม่ทำ ก็มานอนบนเตียง แล้วฉันจะทำเอง" ฉันส่ายหน้าเบาๆตอบรับคำพูดของเขา ดวงตาที่ถูกหล่อเลี้ยงไปด้วยหยาดน้ำตา มองความยิ่งใหญ่ที่ตรงหน้านิ่ง ฉันมองแท่งเนื้อร้อนที่ขยายเต็มที่ จนมือของฉันที่ครอบครองตัวตนของเขา แทบกอบกำไม่มิดด้วยซ้ำไป "มะ มีถุงยางหรือเปล่าคะ?" "เธอจะให้ฉันเข้าไปในตัวเธองั้นเหรอ?" ต้นแขนของฉันถูกดึงกระชากขึ้นไปหา ส่งผลให้ร่างของฉันทาบทับที่บนหน้าตักของเขา จนแท่งเนื้อร้อนเฉียดโดนที่ต้นขาของฉันอย่างไม่ได้ตั้งใจ "มะ ไม่ใช่ค่ะ นะ หนูจะทำออรัลเซ็กซ์แบบที่เฮียต้องการ แต่มันก็สวมใส่ถุงยางอนามัยก่อนได้นี่คะ" "รังเกียจ กลัวฉันแตกใส่ปาก?" "มันปลอดภัยค่ะ" ฉันตอบออกมาด้วยตัวที่สั่นเทิ้ม ท่อนแขนเรียวยกโอบลำคอหนาเอาไว้ เพื่อพยุงให้เขาไม่เหลียวมองที่สิ่งใด "ไม่ใส่ ถ้าจะให้ใส่ ก็ขึ้นมานอนบนเตียง ฉันจะเข้าไปในตัวเธอตอนนี้เลย แต่ถ้าไม่ยอม ไม่ให้ฉันใส่ ก็ทำแบบที่ฉันสั่ง หากฉันจะแตกในปากของเธอ มันก็เรื่องของฉัน หรือถ้าเรื่องมาก ก็เอาทั้งสองอย่างเลยก็แล้วกัน!" "ยอมแล้วค่ะ หนูยอมแล้ว.." ฉันรีบยกมือปาดน้ำตาออกจากใบหน้าลวกๆ ปล่อยท่อนแขนออกจากลำคอหนา พลางทรุดร่างลงไปที่ตำแหน่งเก่า วางมือไปคว้าตัวตนของเขา ก่อนจะใช้ปากครอบครองแบบที่เขาต้องการ ความยิ่งใหญ่ที่แผ่ขยายในปาก ส่งผลให้น้ำตาของฉันเอ่อล้นออกมา "อ๊า.. แบบนั้นแหละ ดูดแรงๆ ซี๊ดด.. เข้าไปลึกๆ" ฉันหลับตาพริ้ม ทำตามคำสั่งของเขาทั้งๆที่ไม่เต็มใจ ช่องปากเรียวเล็กดูดกลืนความยิ่งใหญ่เข้าออกเป็นจังหวะ ความคาวของมวลน้ำบางอย่างที่เขาผลิตมันออกมา เกือบทำให้ฉันสำลักจนถอนริมฝีปากออกมากระทันหัน หากแต่เขาวางมือลงที่ศีรษะของฉัน พร้อมกับอัดกระแทกแก่นกายใหญ่เข้ามาจนสุดแรง.. Nadthaphark ผมจ้องมองหญิงสาวที่มีโอกาสได้มานั่งร่วมทานอาหาร ภายในบ้านของผมไม่วางตา แววตาซื่อๆ ที่บางครั้งผมดูไม่ออก ว่าเธอคิดแบบไหน จ้องมองที่อาหารตรงหน้านิ่ง ทำเหมือนสนใจ หากแต่ไม่เห็นตักมันไปทาน เพียงแต่เขี่ยไปเขี่ยมาเท่านั้น บ่งบอกว่าเธอกำลังคิดบางอย่างในใจ ผมรวบช้อนวางลงจาน พลางยกแก้วน้ำเปล่ามาขึ้นดื่ม เสียงวางแก้วที่ดังกว่าทุกครั้ง ส่งผลให้เธอเงยหน้าขึ้นมาสบตาผมทันที "มานี่ดิ!" ผมกวาดสายตาพินิจมองไปทั่วดวงหน้างดงาม เครื่องสำอางอ่อนๆที่ประดับอยู่บนใบหน้า ไม่สามารถทำให้ใครดูออก ว่าเมื่อคืน เธอไม่ได้นอน "ค่ะ" ฉัตรชนกตอบรับ พลางวางช้อนลงบนจาน จากนั้นก็หยัดกายลุกจากเก้าอี้ทันที ผมขยับเก้าอี้เพียงนิด เพื่อเปิดทางให้อีกคนมานั่งบนหน้าตัก ดวงตาสวยตวัดมองที่หน้า เมื่อเห็นแบบนั้น เธอเหลือบตามามองที่ผมเล็กน้อย ก่อนที่เธอจะหย่อนสะโพกกลมกลึงภายใต้กระโปรงทรงเอสีดำลงบนหน้าตักของผม แบบที่ผมต้องการ ท่อนแขนแกร่งตวัดโอบรัดเอวคอดกิ่วทันที ก่อนที่ผมจะเคลื่อนริมฝีปากไปขบเม้มที่ลำคอขาวผ่องเบาๆ "นะ หนูมีเรียนค่ะ" เธอห่อร่องหนี อาการสั่นของร่างกายบอกได้เป็นอย่างดี ว่าเธอกลัว "นี่เป็นของเล็กๆน้อยๆที่ฉันให้ สมควรมีไว้ เผื่อว่าฉันจะโทรหา" ผมเลื่อนกล่องสมาร์ทโฟนแบรนด์ดังรุ่นท็อปสุดไปวางที่ตรงหน้า ซึ่งเธอมองเพียงหางตา ทำท่าเหมือนไม่ใส่ใจ "เธอควรเอ่ยคำว่าขอบคุณ หรือไม่ก็หันมาหอมแก้มฉัน ตอบแทนในสิ่งที่ฉันให้" แน่นอน ว่าผู้หญิงแทบทุกคนที่ผมเคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้ง แม้เพียงแค่ผมวางค่าตอบแทนของเรือนร่าง คนพวกนั้นมักแสดงท่าทีดีใจด้วยวิธีแบบนั้นเสมอๆ ร่างหอมกรุ่นภายในอ้อมกอด ตวัดหันมามองที่ผมเพียงนิด ก่อนที่ท่อนแขนเรียวจะเกี่ยวกอดที่ลำคอของผม จากนั้นก็บรรจงจูบลงมาที่แก้มของผมแรงๆ "ขอบคุณนะคะ" ผมคลี่ยิ้มให้กับท่าทีที่เธอแสดงออกมา แม้ว่าเธอจะไม่สนใจ มันก็ไม่ใช่เรื่องที่ผมควรใส่ใจ จากนั้นผมก็แนบริมฝีปากลงไปประกบแนบชิดกับริมฝีปากอวบอิ่มทันที บางครั้งการเล่นกับร่างกายของผู้หญิงนานๆ มันก็ทำให้ตื่นเต้นดีเหมือนกัน "ยังอยู่อีกเหรอวะ!" เสียงขัดจังหวะที่ดังขึ้นใหม่ ส่งผลให้ผมตวัดสายตาไปมองที่ต้นเสียงทันที 'ธีรดลย์' มันคือเพื่อนของผมเอง "กูคิดว่าเมื่อคืนกูคุยกับมึงเข้าใจแล้วนะภาคย์!" "กรณ์!" ผมเลือกที่จะเอ่ยชื่อลูกน้องคนสนิท พลางดันร่างเล็กในอ้อมกอดให้ลุกขึ้นจากหน้าตัก ศุภกรเดินเข้ามาหาหลังจากที่ผมเอ่ยเรียกชื่อของมัน ก่อนที่มันจะเข้ามาผายมือเชิญผู้หญิงของผม และพาเธอออกไป ทั้งที่ยังงุนงง "ตกลงมึงจะไม่ฟังกูใช่ไหมภาคย์ ใช้หนี้การพนันให้พ่อของเด็กคนนั้นตั้งยี่สิบล้าน มึงจำเป็นต้องถลุงเงินตัวเองเล่นว่างั้น!" ผมลุกจากที่นั่ง และตั้งท่าจะเดินผ่าน หากแต่มันเดินมาขวาง "กูกำลังคุยกับมึง!" "หยุดโวยวายได้ไหม กูรำคาญ!" ผมว่าออกไปอย่างไม่สบอารมณ์สักเท่าไหร่ วันนี้ผมมีงานต้องทำ แต่เพื่อนที่ทำตัวเหมือนพ่อกับรั้งไม่ยอมปล่อยผมให้เดินผ่านหน้ามัน "หากมึงจะแค่เล่นๆ กูจะไม่อะไรกับมึงเลย เสร็จแล้วก็ทางใครทางมัน แบบนั้นต่างหากที่เรียกว่ามึง" "กูก็ไม่ได้บอกสักคำว่าจะไม่แยกทาง กูขี้เบื่อขนาดไหนมึงรู้ดี" "แต่ถ้าจะแค่เล่นๆ มึงก็ไม่ควรเอาเข้าบ้านแบบนี้ มันจะยุ่งยากภายหลัง ทำไมต้องให้กูย้ำตลอด!" "ถ้าอย่างนั้นมึงก็เลิกย้ำ เบื่อเมื่อไหร่ กูก็เขี่ยทิ้งไปเอง!"
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม