บทที่ 1 ตอนที่ 2

1395 คำ
ซู่! สายน้ำจากฝักบัวไหลพร่างพราวเป็นเม็ดฝนชโลมกายเปลือยเปล่า ชายหนุ่มวัยยี่สิบแปดปี เจ้าของรูปร่างสูงใหญ่ สัดส่วนเต็มแน่นไปด้วยกล้ามเนื้อไร้ไขมันส่วนเกิน เนื่องจากเป็นคนที่ชอบออกกำลังกายอยู่เป็นประจำ ในตอนนี้เขากำลังร้อนรุ่มไปหมดทั้งกายทั้งใจ แม้จะอาบน้ำให้ชุ่มฉ่ำเปียกปอนก็ไม่อาจบรรเทาแต่อย่างใด ทุกครั้งที่อยู่ใกล้กับตีรณา เขาไม่เคยควบคุมอะไรได้...ความปรารถนาลุกโชน และมันกำลังจะแผดเผาตัวเขาให้ลมหายใจแผ่วลงช้าๆ และอีกไม่นานก็คงดับสูญ “บ้าฉิบ...” คิมหันต์สบถก่อนด่าตัวเอง มือหนึ่งกำแน่นแล้วทุบกำแพงเต็มแรงด้วยความกราดเกรี้ยวโกรธา โมโหที่ตัวเองอ่อนแอเกินไป ทำให้ปณิธานหย่อนยืดไม่เป็นท่า แต่ไม่เป็นไรหรอก...เพราะถึงเขาจะไม่เคยพบเจอความสุขเลยตลอดสิบปีที่ผ่านมา สองแม่ลูกนั่น...ก็ไม่เคยได้อยู่อย่างสงบเปรมปรีดิ์เช่นกัน เขาไม่ได้โดดเดี่ยวเสียหน่อย และถึงต้องให้ตกนรกหมกไหม้ ก็คงต้องลากทั้งคู่ไปร่วมชะตาด้วย ไม่ทางปล่อยมือเสียหรอก... ชายหนุ่มสลัดความฟุ้งซ่านในหัวแล้วรีบอาบน้ำ รู้สึกตัวเองจะหมกมุ่นกับเรื่องไร้สาระเกินไปแล้ว เสียเวลาชีวิตเป็นบ้า วันนี้มีนัดสำคัญแท้ๆ เขากลับไปนั่งเฝ้าคนพิการอยู่ค่อนคืน ช่างไร้สาระสิ้นดี เมื่อแม่หลับสนิทไปแล้ว...ร่างเล็กก็จัดการเก็บกวาดในบ้านและหยิบโน๊ตบุ๊คเก่าๆ มาวางบนโต๊ะญี่ปุ่นแล้วนั่งลงบนพื้น เริ่มต้นเขียนนิยายเป็นงานอดิเรก เพื่อหารายได้เพิ่มมาจุนเจือครอบครัว แม้จะไม่ได้เรียนจบสูงๆ แต่ด้วยใจรักในการอ่าน เธอจึงศึกษาและเริ่มต้นเขียนนิยายลงขายตามเว็บต่างๆ ซึ่งก็ได้เงินไม่มากนัก เนื่องจากเธอไม่ค่อยมีเวลา และไม่ได้มีชื่อเสียงมากนัก แต่อย่างน้อยๆ มันก็พอประทังค่าจ้างคนมาดูแลแม่ในช่วงที่เธอต้องออกไปทำงาน โดยไม่ต้องเจียดเอาจากเงินเดือน และงานพิเศษ ซึ่งส่วนนั้นต้องเอาไว้จ่ายจิปาถะระหว่างเดือน รวมไปถึงหนี้สินที่ต้องชดใช้ให้คิมหันต์ด้วย หลายครั้งเธออยากจะหนีไปให้ไกลสุดขอบฟ้า แต่ด้วยสภาพความเป็นอยู่ไม่ได้เอื้ออำนวย ไหนแม่ที่ป่วยและต้องพบหมอทุกเดือน รายได้กระท่อนกระแท่นที่อย่าว่าแต่จะย้ายไปเริ่มต้นที่อื่นเลย ทุกวันนี้ยังต้องอาศัยอาหารที่ลูกค้ากินเหลือมาประทังชีวิต และที่สำคัญเธอไม่เคยไปไหนเลย... ทั้งชีวิตวนลูปอยู่แต่ในเมืองเล็กๆ แห่งนี้มาโดยตลอด แล้วถ้าหากต้องไปนับหนึ่งใหม่..ก็ต้องมีค่าใช้จ่ายสูงเกินความสามารถที่เธอจะหามาได้ ถ้าตัวคนเดียวก็ไม่เป็นไร แต่เมื่อมีแม่ที่ป่วยต้องดูแลเป็นพิเศษ การอยู่ที่นี่จึงเป็นทางเลือกที่เธอไม่มีสิทธิ์จะเลือกด้วยซ้ำ “หงส์! หงส์เว้ย!” “...” เสียงเคาะประตูดังพร้อมๆ ขึ้นกับเสียงเรียกอันคุ้นเคย ติรณาผงกหัวขึ้นจากโต๊ะแล้วกะพริบตาถี่ๆ ด้วยความงุนงง เช้าแล้วเหรอ... เมื่อคืนเธอหลับอยู่ตรงนี้ทั้งคืนสินะ แต่มันก็เพิ่งผ่านไปไม่กี่ชั่วโมงเท่านั้นเอง หญิงสาวสะบัดมือและบิดตัวไล่ความเมื่อยขบ ก่อนจะหันไปหาแม่ที่กำลังนอนมองเธออยู่ “น้องหงส์...ตื่นแล้วเหรอลูก หิวหรือเปล่าจ๊ะ” ดวงดาวยิ้มให้ลูกสาวด้วยแววตาที่เปี่ยมไปด้วยความรัก “แม่...ทำไมวันนี้ตื่นเช้าจังคะ น้าพิมพ์มาแล้วหงส์แไปเปิดประตูให้แกก่อนนะ” “หงส์เว้ย! ตื่นหรือยัง” ด้านนอกยังคงตะโกนเรียกไม่หยุดปาก “ตื่นแล้วๆ” หญิงสาวผละจากแม่ รีบเดินไปเปิดประตูให้เพียงพิมพ์...เพื่อนบ้านผู้มีน้ำใจ คอยช่วยดูแลแม่ในตอนที่เธอต้องไปทำงาน “เมื่อคืนนอนกี่โมงเนี่ย ดูหน้าตาซิ โทรมเชียว...วันนี้หยุดนี่ ก็ได้พักให้เต็มที่ล่ะ แล้วแม่ล่ะ เป็นยังไงบ้าง” เพียงพิมพ์เข้ามาในห้องก็ไถ่ถามทั่วไป สามีของเพียงพิมพ์มีอาชีพขับรถแท็กซี่ ส่วนนางเมื่อก่อนก็ทำงานในโรงงานที่เดียวกับดวงดาว จึงรูปสักสนิทสนมกันมานาน หลังจากดางดาวล้มป่วย นางเองก็สุขภาพไม่ค่อยดี สามีจึงให้ออกจากงานแล้วมาเป็นแม่บ้านเต็มตัว ดังนั้นจึงมีเวลามากพอในการคอยช่วยติรณาดูแลแม่ หลักๆ ก็คือคอยหาข้าวหาน้ำให้กิน เปลี่ยนผ้าอ้อม และเช็ดตัวให้ วันไหนเหงาๆ ก็มานั่งคุยเป็นเพื่อน คอยช่วยพลิกเปลี่ยนท่าทางให้คนป่วยได้ผ่อนคลาย ลดอาการแผลกดทับไปในตัว มีการทำกายภาพบำบัดเบื้องต้นอย่างยกแขนยกขาให้บ้าง ก็แล้วแต่ว่านางจะว่างมากว่างน้อยในแต่ละวัน “วันนี้อยากพาแม่ออกไปข้างนอกสักพัก น้าจะไปด้วยกันไหม” หญิงสาวยืนกอดอกพิงขอบประตูพลางมองเพียงพิมพ์ที่กำลังเดินไปที่แม่ของเธอ “ไม่ล่ะ...น้าก็รอให้ถึงวันหยุดของแกนี่แหละ จะได้หลับให้ตายกันไปสักข้าง ปวดไปทั้งตัวแล้วไอ้หงส์เอ้ย...จะไปหาหมอนวดก็ต้องเสียเงินอีก เฮ้อ...” หญิงวัยกลางคนส่ายหัว แล้วหันไปสำรวจผ้าอ้อมให้คนป่วย ว่าจำเป็นที่จะต้องเปลี่ยนได้หรือยัง “หนูเพิ่งเปลี่ยนแพมเพิสให้แม่เมื่อไม่กี่ชั่วโมงเอง น่าจะยังไม่เต็มหรอก...ถ้าน้าเหนื่อยก็กลับไปพักเถอะ วันนี้เย็นๆ ตอนหงส์ไปทำงานร้านอาหารค่อยมาก็ได้” เนื่องจากต้องทำงานหลายอย่าง ดังนั้นถึงแม้ที่ทำงานหลักจะเป็นวันหยุดก็จริง แต่ร้านอาหารที่เธอเป็นพนักงานล้างจานก็ยังเปิด และเธอต้องทำงานที่นั่นทุกวัน แลกกับเงินค่าจ้างรายวันวันละสี่ร้อย ไม่ใช่งานหนักหนาสำหรับเธอ แถมยังได้อาหารกลับมากินที่บ้านอีก แม้จะต้องแลกกับการนอนดึกตื่นเช้าเพื่อไปทำงานอีกที่ เพราะร้านปิดสามทุ่ม เธอต้องอยู่ช่วยขัดล้างทำความสะอาดในครัวจนถึงเที่ยงคืนตีหนึ่งกว่าจะได้กลับ แต่มันก็จำเป็น มาถึงบ้านยังต้องดูแม่...และนั่งปั่นนิยายต่อ ในวันปกติเธอจะได้นอนเพียงสองถึงสามชั่วโมงต่อวัน เท่านั้น “เอางั้นเรอะ...ก็ดี จะได้ไปเอนหลังสักหน่อย แต่เดี๋ยวอยู่คุยกับพี่ดาวแกสักพักก่อนแหละ นี่ก็เพิ่งจะหกโมงเช้า กับข้าวกับปลาก็ทำไว้แล้ว อยู่ห้องคนเดียวก็เบื่อ” นางว่าแล้วคว้าเอาเก้าอี้มานั่งข้างๆ คนป่วย ดวงดาวมองเพื่อนสนิทอย่างสำรวจ ประหนึ่งเป็นคนแปลกหน้าที่ไม่เคยพบเจอกันมาก่อน “น้าพิมพ์ไงคะแม่...จำได้ไหม” ติรณาถาม “อ่อ...จำได้ พิมพ์มันยังไม่ตายเหรอ” “เอาแล้วไงพี่ดาว...เห็นกันอยู่หลัดๆ มาแช่งกันเสียแล้ว” เพียงพิมพ์หัวเพราะไปพลาง ไม่ได้คิดถือสา เพราะเคยชินกับอาการหลงๆ ลืมๆ ของดวงดาวมานานแล้ว “ถ้าอย่างนั้นฉันไปอาบน้ำก่อนนะน้า นั่งคุยกับแม่ไปนะ นอกจากหงส์แล้วก็คงมีแต่น้าพิมพ์นี่แหละที่พูดกับแม่รู้เรื่อง” “เออ...ก็มีกันอยู่แค่นี้แหละวะ” นางตอบอย่างอารมณ์ดี แล้วติรณาก็เก็บโต๊ะญี่ปุ่นกับโน๊ตบุ๊คของเธอไปวางไว้ตรงชั้นวางทีวี ก่อนจะเข้าไปในห้องน้ำเพื่อชำระร่างกาย เนื่องจากเมื่อคืน เธอเผลอหลับไปโดยที่ยังไม่ได้อาบน้ำด้วยซ้ำ กลับมาถึงก็เปลี่ยนผ้าอ้อมให้แม่ กวาดห้อถูห้องแล้วก็มานั่งเขียนนิยายต่อเลย ไหนจะต้องมารับมือกับคิมหันต์...คนที่ทำให้สุขภาพจิตเสียได้ทุกครั้งที่พบหน้า งานหนักที่คร่ำเคร่งทำมาทั้งวัน เทียบไม่ได้เลยความเหนื่อยใจมหาศาลเมื่อต้องพบเจอกับเขา
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม