ชายหนุ่มเข้ามานั่งในรถข้างหญิงสาว มองเธอผ่านๆ ทั้งหมดแค่เสี้ยววินาทีคือความพินิจ ทุกส่วนด้วยความเงียบขรึม ใจเขาเต้นผิดจังหวะ เพียงทอดมองเรียวขาเนียนที่โผล่พ้นกางเกงยีนขาสั้นสีซีดสมส่วนนั้น อารมณ์อยากเรียนภาษาไทยให้คล่องปรื๋อแล่นขึ้นมาตีตื้นในหัวเลยทีเดียว
“จะให้ไปส่งที่ไหนบอกทางด้วยนะ” คนตัวสูงเอ่ยกับเธอ
“ฉันไม่อยากกลับบ้าน” เธอพูดขึ้นมาไม่ใช่อยากอยู่กับเขา แต่เพราะจิตใจในตอนนี้แย่ยิ่งกว่าภูเขาไฟระเบิดลาวาไหลท่วมร่างซะอีก ไม่อยากกลับไปพบใครๆ ที่บ้าน เกรงปล่อยความอัดอั้นในใจราดรดทุกคนจนบ้านแตกกระเจิง ยามเธอดีแสนดีไม่ต่างจากเจ้าหญิงหากอารมณ์กรุ่นที่สะสมระเบิดคงไม่ต่างจากนิวเคลียลูกย่อมๆ ถ้าได้ไปสงบสตินอกบ้านสักพักคงกลับเข้าบ้านด้วยอาการดีขึ้น
“ช่วยไปส่งฉัน ที่ผับแถวไหนก็ได้ ได้โปรดส่งเสร็จ คุณจะกลับก็เชิญได้เลย ขอบคุณค่ะ” หญิงสาวขอพร้อมกับกล่าวขอบคุณทิ้งท้าย
“มีเรื่องอะไร” เขาถามซื่อๆ ตรงประเด็น
“คุณกับฉันไม่รู้จักกัน อย่ารู้เรื่องฉันเลยดีกว่า ไปส่งฉันเถอะขอร้อง” เธอไม่สามารถเล่าเรื่องตัวเองให้คนแปลกหน้าฟังได้ นี่ก็แปลกจริงๆ ไม่รู้จักชื่อ แถมคนละภาษาอีกด้วย
หนุ่มญี่ปุ่นสุดหล่อพยักหน้า พูดกับคนของเขาที่ทำหน้าที่ขับ ให้ทำตามที่เธอบอก ชายหนุ่มคาดเดาด้วยสายตา เธอต้องมีเรื่องทุกข์ใจ ดูจากสีหน้าและแววตาของเธอ ค่อนข้างชัด แล้วยังคำพูดขอให้พาไปส่งผับอีกด้วย
“ถ้าคุณบอกว่าเรายังไม่รู้จักกัน งั้นเรามาทำความรู้จักกันสิ” ชายหนุ่มเสนอ อย่างน้อยได้รู้จักชื่อเธอก็ยังดี
“อย่าดีกว่าปล่อยให้มันผ่านไปเถอะ บางทีการเป็นคนแปลกหน้าต่อกัน ยังดีกว่ารู้ทุกสิ่งทุกอย่างในกันและกัน” การที่เธอไม่รู้ไม่เห็นยังเจ็บน้อยกว่าได้ไปรู้ไปเห็นทุกอย่างกับตาตัวเอง ภาพเสียงเหล่านั้นย้อนกลับมาอีกครา มิ่งขวัญเสสายตาออกนอกตัวรถ ขณะยานพาหนะสมรรถนะเยี่ยมเคลื่อนไปตามถนนในยามค่ำคืนจุดหมายคือสถานเริงรมย์หย่อนใจ หากแต่จิตใจของเธอช่างไร้จุดหมายเหลือเกินในยามนี้
“ยืนยันแบบนั้นสินะ”
“ค่ะ” ตอนนี้เธอไม่อยากรู้จักใครนอกจากตัวเอง การดื่มคงเป็นการเยียวยาใจที่ร้าวรานได้บ้าง ถึงแม้ตื่นขึ้นมาหลังจากสร่างแอลกอฮอล์ภาพทุกภาพเรื่องทุกเรื่องยังคงอยู่ก็ตาม
“ก็ดีนะ” ผู้หญิงคนนี้แปลก สีหน้าแววตาราวกับเก็บงำเรื่องราวไว้ ตัวเขาก็แปลกอีกด้วย รู้สึกอยากรับรู้เรื่องราวของเธอ ทั้งที่เพิ่งเจอกัน ลำแขนนี้นึกอยากโอบกอดเธอไว้ อกแกร่งนี้หวังให้เธอซบ ใช้ระบายความอัดอั้น แอบนึกแบบนี้ได้อย่างไรก็ไม่รู้ บ้าที่สุด หากทั้งหมดก็แค่คิด ในเมื่อเธอปิดกั้นความหวังบของเขาหมดสิ้น ด้วยการไม่อยากรู้จักกันและกัน ปล่อยให้ความแปลกหน้ากลายเป็นความแปลกหน้าต่อไป
เป็นไปได้ด้วยหรือ ไม่อยากรู้จักคนที่เพิ่งช่วยเหลือ ให้พ้นจากภัยร้าย เอาเป็นว่าถ้าเธอต้องการแบบนั้น เขาก็แค่เก็บภาพใบหน้าน่ารัก แววตาเศร้าของเธอไว้ในความทรงจำเท่านั้น สักวันถ้าฟ้าเป็นใจอาจมีโอกาสได้พบกันอีก ในเวลาที่เขามีโอกาสเดินทางมาเมืองไทย ในงานสำคัญที่พ่อมอบหมาย
“ส่งฉันลงตรงถนนเส้นนี้ก็ได้ค่ะ” มาถึงถนนเส้นที่คลาคล่ำไปด้วย สถานที่เที่ยวสำหรับคนกลางคืน ร้านเหล้า ผับ บาร์
“จะดีหรือ” เขามองรอบๆ ตัว ผู้หญิงเที่ยวคนเดียว ตามสถานที่แบบนี้ นับว่าไม่ปลอดภัยต่อภัยสังคม อย่างที่เธอเจอมาเมื่อกี้ โดยเฉพาะผู้ชายคิดไม่ดี ไม่เว้นแม้แต่เขาด้วย เธอสวยมาก จึงรู้สึกเป็นห่วง คงเพราะอยู่ในวงการมืด มาจนรู้ทุกอย่าง ที่ญี่ปุ่นไม่มีคดีขมขืน ไม่มีการล่วงละเมิดทางเพศ เพราะอิสระด้านเพศกว่าเมืองไทย ผู้หญิงมัธยมต้นรู้จักการจูบกับแฟน ไม่ได้ถูกตีกรอบอย่างคนไทย ดังนั้นทั้งหญิงและชายจึงไม่เก็บกดจากเรื่องทางเพศเลย
“ดีสิ คุณว่าไม่ดีตรงไหน ถ้าคิดว่าไม่ดี อยากดูแลฉัน คุณก็ลงไปเที่ยวกับฉันสิ” เธอเสนอดีซะอีกมีเพื่อนนั่งดื่ม เป็นคนไม่รู้จัก เมาเสร็จ แยกย้าย ไม่ต้องรู้จักกันให้ปวดใจ
ชายหนุ่มสบตากับคนขับรถ
“ก็ดีผมจะลงไปเที่ยวเป็นเพื่อนคุณ” ไม่ใช่แฟน ไม่ใช่น้อง ไม่ใช่อะไรทั้งนั้นทว่าแรงดึงดูดในตัวเธอ ดึงเขาได้ง่ายดาย “เอจิเอารถไปจอดวันนี้ฉันขอเที่ยวก่อน” ทั้งที่เพิ่งมาถึงยังไม่เช็กอินเข้าที่พักด้วยซ้ำหากแต่ตอนขับรถเพื่อเดินทางไปยังโรงแรมประจำที่เคยพัก บุรุษหนุ่มภูมิฐานผู้นี้เห็นเหตุการณ์ที่กำลังเกิดขึ้นกับหญิงสาว
เขาจึงอดทนไม่ได้ที่จะแส่เรื่องคนอื่น ตามสัญชาติญาณไม่ชอบเห็นผู้หญิงถูกรังแก จึงไม่รั้งรอในการก้าวขาลงไปช่วย แล้วเมื่อเห็นหน้าหญิงสาวเต็มตา เขาจึงได้พบว่าตัวเองรู้สึกประหลาดอย่างบอกไม่ถูก ทั้งที่ตอนนี้ธุระไม่ใช่เขากลับทิ้งเวลาพักผ่อนเพื่อเที่ยวกับคนแปลกหน้าอย่างเธอ
“เจ้านาย พรุ่งนี้มีงานนะครับ เรามาที่นี่เพื่อนายใหญ่ อย่าลืมสิ” บอดี้การ์ดเตือน
“ไม่เสียเวลามากหรอกน่า” เชื่อว่าอย่างนั้น แค่ดื่มเป็นเพื่อนเธอ เท่ากับได้ดูแลให้เธอปลอดภัยด้วย
“ครับ ยังงั้นก็ได้”
“ฉันรู้หน้าที่ดี ชีวิตฉันตึงเครียดมามาก ได้เที่ยวปลดปล่อยบ้างคงดี” เพราะพ่อเขาไม่ไว้ใจใคร ดังนั้นหน้าที่หนักหน่วงจึงตกมาที่เขา ส่งเขามาสืบหาความจริงหลายๆ อย่างเกี่ยวกับเรื่องการโจรกรรมรถยนต์ที่กำลังเดินทางข้ามประเทศเพื่อส่งต่อให้กับลูกค้ากลับหายไป ด้วยนักแซงค์มืออาชีพ แบบที่จับมือใครดมไม่ได้ งานนี้สูญรายได้ร่วมหลายล้านเยน นับว่าเป็นสิ่งที่พ่อของเขายอมไม่ได้
สองหนุ่มสาวแปลกหน้าต่อกัน เดินควงคู่กันเข้าไปในผับที่ประดับประดา ด้วยแสงสีกระตุ้นสายตา ทุกสายตามองมายังสองหนุ่มสาวด้วยความชื่นชมในความดูดีเหมาะสมกัน สาวๆ หลายคนทอดสายตาไปยังชายหนุ่ม หันมากระซิบกัน พลางส่งยิ้มยั่วยวน ในขณะมิ่งขวัญได้รับความชื่นชมด้วยสายตาแปลกๆ ตกลงชื่นชมหรืออยากฆ่ากันแน่
บุรุษหนุ่มตัวสูง เท่ หล่อมากๆ เดินข้างหญิงสาว พบว่าเธอสวยมาก มากกว่าตอนอยู่ในรถกับเขาซะอีก ตอนนี้พอโดนไฟส่อง นี่ขนาดเธอยังไมได้แต่งหน้านะ หน้าสด ยังสวยเนียนเด่นชัดเลยทีเดียว แก้มเนียนรับกับดวงตากลมโตตีกรอบด้วยแพขนตางอนงาม จมูกโด่งปรากฏรอยรั้นนิดๆ ช่างสร้างเสน่ห์แก่เธอไม่ยากเย็นนัก กลีบปากได้รูปอิ่มเอิบดั่งคนสุขภาพดีชมพูระเรื่อน่าจุมพิต เขาเผลอมองกระทั่งเธอเดินไปจนสุดทางเดินถึงเคาน์เตอร์บาร์สลัวด้วยแสงนีออนที่ลดน้อยลง
“ขอเครื่องดื่มแรงๆ แก้วหนึ่ง คุณเอาด้วยมั้ย” สั่งของตัวเองเสร็จหญิงสาวหันมาถามเขาด้วยความมีน้ำใจในฐานะเจ้าบ้าน
“อืม...” ดีนะเธอไม่ลืมว่าเขามาด้วย จะบ้าตาย มาเพราะความเป็นห่วงแท้ๆ ทำไมต้องห่วงเธอที่มีนัยน์ตาเศร้าๆ คนนี้ด้วยนะ ‘มิจัง’ เขาแอบตั้งชื่อให้เธอ ในเมื่อเธอไม่ยอมบอกชื่อ เขาก็เลยถือโอกาสตั้งให้เองซะเลย
แก้วดรายมาตินีถูกวางลง หญิงสาวยกขึ้นกระดกรวดเดียวหมด สั่งใหม่แก้วที่สองก็หมดอย่างว่องไว ชายหนุ่มข้างๆ มองอย่างตกใจ ถ้าเธอไม่โดนมรสุมรุมทำร้าย ก็คงเจออะไรร้ายๆ มากมาย จึงได้ดื่มอย่างกับจะทำให้ตัวเองเมาตายอย่างนั้น
มิ่งขวัญไม่ใช่คนคอแข็ง เวลาปกติไม่ดื่มด้วยซ้ำ กิจกรรมกับงานค่อนข้าง ต้องดูแลตัวเองมากๆ รวมทั้งใช้สมาธิอยู่ตลอด ไม่อย่างนั้นอาจตายได้ง่ายๆ ที่มาต้องมานั่งดื่ม อยากลืมทุกอย่างที่เกิดขึ้นในห้องนั้นให้เร็วที่สุด ‘ดื่มเพื่อลืม’ หวังว่ามันคงทำให้เธอลืมได้
“น้อง เอามาทั้งขวดเลยก็ได้” เสียงอ้อแอ้สั่งบาร์เดินเดอร์หลังจากดื่มเรียงกันไปสี่แก้วรวด แบบไร้มิกเซอร์ มาตินีเหล้าใสๆถูกยกมาวางทั้งขวด มือบางยกขวดรินลงในแก้วทรงกรวยก้านจับยาวเกือบล้น ไม่ละเมียดรินแบบบาร์เทนเดอร์รินเลยทีเดียว ขนาดนี้ยกดื่มทั้งขวดอาจจะดีกว่า
“พอๆ ผมว่าคุณไม่ไหวแล้วนะ” เขาแย่งขวดดรายมาตินีจากมือเธอ รู้สึกเศร้าแทน อยากเป็นที่ระบายให้กับเธอ มากกว่าเอาไปลงกับเหล้า
“คุณคนแปลกหน้า อย่ายุ่งได้มั้ยฉันอยากเมา คุณไม่รู้หรอกฉันเพิ่งเจออะไรมา” เสียงเริ่มอ้อแอ้เต็มที มองคนหล่อมีหลายหน้า รู้สึกคนหล่อเต็มไปหมด “ดื่มเพื่อลืมความเลวร้ายในชีวิต” มิ่งขวัญโอดครวญด้วยภาษาไทย ที่คนข้างกายฟังไม่รู้เรื่องเพียงแต่เขาจับใจความจากน้ำเสียงไม่ปกติของเธอได้ “ขอบคุณๆ ที่อยู่เป็นเพื่อนคุณคนแปลกหน้า” เธอเลือกที่จะไม่รู้จักเขา เพราะเกรงหัวใจที่แหลกสลายมักง่ายไปชอบเขาแล้วคว้าเขามาดามหัวใจชั่วคราว เพราะเขาช่างหล่อบาดหัวใจ หล่อกว่าแฟนหนุ่มทรยศของเธอหลายร้อยเท่า
มิ่งขวัญคร่ำครวญ พลางกรอกดรายมาติลงคอ อึกแล้วอึกเล่า ไม่ใช้แก้วให้เสียวเวลา สุดท้ายดรายมาตินีลดลงมาครึ่งขวด สาวคออ่อนสั่งเหล้าแรง จึงเริ่มไม่เหมือนเดิม มาพร้อมกับเปลือกปรือ มองภาพทุกภาพเบลอไปหมด
“ไปที่โรงแรม” ชายหนุ่มสั่งคนของเขา คนตัวเล็กเพรียวบางน่ารัก ฟุบหลับกับเคาน์เตอร์บาร์เรียบร้อย จึงกระดิกนิ้วเรียกคนติดตาม พาไปโรงแรมที่ตนพัก เขาทิ้งเธออยู่ตรงนี้ไม่ลง ถ้าทิ้งไว้เชื่อว่าคงมีผู้ชายลากไปแน่ เขาสั่งให้ตัวเองปกป้องคุ้มครองเธอ จนกว่าเธอจะหายเมา แล้วส่งเธอกลับบ้านอย่างปลอดภัย
ความเป็นสุภาพบุรุษที่ไม่ค่อยมี จู่ๆ ก็แทรกเข้ามาในหัว ปกติเขาไม่เคยรู้สึกรู้สากับเรื่องพรรค์นี้ ยกเว้นเธอคนนี้เท่านั้น ที่ตนอยากปกป้อง เขารู้ว่าตัวเองไม่ควรแส่ แต่ก็อย่างว่าแส่ไปแล้วจะทำไม