EP 6 ตำแหน่งเลขา

1817 คำ
พิษรักมาเฟีย : ตอนที่ 6 ด้านของชาร์ล ช่วงบ่ายของวันเดียวกัน รถยนต์นับสิบคันขับมาจอดหน้าบริษัทยักษ์ใหญ่ที่ได้ถูกขนานนามว่าเป็นบริษัทอสังหาริมทรัพย์ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ และขยายเครือข่ายออกไปในหลายๆประเทศ ตึกสูงมากมายล้วนผ่านการก่อสร้างมาจากบริษัทนี้กันทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็นเพ้นท์เฮ้าส์ราคาร้อยล้านก็ไม่พ้นบริษัทแห่งนี้เป็นเจ้าของ ธุรกิจซื้อขายปล่อยเช่าเกี่ยวกับบ้าน ตึก คอนโด ส่วนใหญ่ในประเทศล้วนแต่เป็นของผู้บริหารหนุ่มมาดเข้มคนนี้คนเดียวทั้งนั้น เขาคือบุคคลที่หลายคนต่างจับจ้องทุกการเคลื่อนไหว ไม่ว่าจะลงทุนอะไรก็จะประสบความสำเร็จ ทำให้นักลงทุนต่างๆอยากจะมาร่วมลงทุนด้วยกันทั้งนั้น รถยนต์ประจำตำแหน่งขับมาจอดหน้าบริษัทอย่างเช่นเคย และหัวหน้าแผนกแต่ละฝ่ายจะได้รับสายจากลูกน้องคนสนิทว่าผู้บริหารจะเข้าบริษัทช่วงไหน ไม่มีใครรู้ล่วงหน้าอย่างเช่นวันนี้ที่อยู่ดีๆผู้บริหารของบริษัทก็เข้าช่วงบ่าย ทำให้ทุกคนตาลีตาเหลือกรีบวิ่งแจ้นมารอรับเจ้านายหนุ่มอย่างพร้อมเพรียง เพราะเจ้านายหนุ่มของพวกเขาสามารถชี้ได้ทันทีว่าใครคนไหนยังไม่มา นั่นเป็นอีกความใส่ใจที่เขารู้ชื่อพนักงานทุกคนไม่ว่าจะเป็นน้องใหม่พึ่งเข้ามาทำงานวันนี้วันแรก "คุณณัฐชาพนักงานใหม่ มาทำวันนี้วันแรกใช่ไหม" ฝีเท้าแกร่งหยุดชะงักก่อนจะหมุนตัวไปที่พนักงานคนหนึ่ง น้ำเสียงเข้มถามต่อหน้าพนักงานสาวที่ยืนก้มหน้าไม่กล้าสบตา ซึ่งการกระทำแบบนี้กลายเป็นธรรมเนียมของบริษัทไปแล้ว ที่ต้องมารอรับเจ้านายไม่ว่าจะเวลาไหน ราวกับการเช็คชื่อเข้าทำงาน ไม่แปลกที่ชาร์ลจะจำหน้าพนักงานได้ทุกคนไม่เว้นแม้แต่แม่บ้านหรือรปภ. "ชะ ใช่ค่ะ" หญิงสาวพูดด้วยน้ำเสียงตะกุกตะกัก เพราะมาดนิ่งของเขาน่ากลัวจนเธอตัวสั่น "บริษัทฉันเกี่ยวกับการซื้อขายอสังหาริมทรัพย์ระดับล้าน เวลาเธอพูดคุยกับลูกค้าหรือฉันที่เป็นผู้บริหารไม่ควรก้มหน้า!!" "ขอโทษค่ะ ดิฉันจะปรับปรุงตัวเองค่ะ" "บอสคะ น้องพึ่งเข้ามาใหม่อาจจะอ่อนประสบการณ์ยังไงเดี๋ยวดิฉันจะให้ทุกคนคอยเทรนด์งานให้นะคะ ต่อไปจะไม่เกิดขึ้นเป็นครั้งที่สองแน่ค่ะ" หัวหน้าแผนกรีบพูดช่วยลูกน้องทันที "เธอควรรู้เอาไว้ว่าบริษัทฉันไม่ชอบตัวถ่วงความเจริญ ถ้าคิดว่าเข้ามาแค่แต่งหน้าสวยก็กลับไปซะ" "ขอโทษค่ะบอส" ชาร์ลปรายตามองทุกคนโดยรอบทำเอาทุกคนที่ยืนอยู่ตรงนั้นไม่กล้าสบตา แต่ละคนยืนตัวแข็งทื่อราวกับโดนสาปให้เป็นหิน ก่อนที่เขาจะเดินขึ้นลิฟต์สำหรับผู้บริหารไปอย่างเช่นทุกวัน "ฟู่ววว....นี่บอสไปกินรังแตนที่ไหนมา ทำเอาข้าวเที่ยงไม่ย่อยเลย" "เฮ้อ..." "สมคำเล่าลือทั้งแก๊งค์จริงๆ เพื่อนฉันที่ทำงานอยู่บริษัทคุณคาไลน์ก็เคยเจอกับเหตุการณ์แบบนี้เลย แต่ว่าตั้งแต่คุณคาไลน์แต่งงานกลายเป็นคนละคนเลย เป็นผู้ชายอบอุ่น ยิ้มแย้มกับพนักงาน ขนาดเพื่อนฉันทำงานที่บริษัทนั้นมาหลายปียังแปลกใจกับการเปลี่ยนแปลงนี้เลย" "แล้วคิดว่าคุณชาร์ลจะเป็นเหมือนคุณคาไลน์เหรอไง แกเคยเห็นบอสควงผู้หญิงซ้ำหน้าบ้างไหมล่ะ ทุกวันนี้ต่อคิวกันเข้าบริษัทแทบจะเดินชนไหล่กันอยู่แล้ว" "ก็จริง ฉันยังนึกภาพบอสแต่งงานไม่ออกจริงๆ แต่ผู้หญิงที่เข้ามาก็แซ่บอยู่นะ" “ว่าแต่เลขาหน้าห้องคนใหม่ของบอสรอดไหม” “ฉันว่าไม่เหลือ เพราะนี่หล่อนคนนั้นก็ไม่ลงมารับเหมือนพวกเรา คงคิดว่าเหนือกว่าที่ได้นอนกลับบอสสินะ” “แต่ฉันว่ายัง บอสเปลี่ยนเลขาเป็นว่าเล่นเลยนะ และส่วนใหญ่พอโดนก็ต้องลาออกกันทั้งนั้น เพราะบอสเราขึ้นชื่อว่าไม่ชอบกินซ้ำ” “พูดเหมือนอยู่ใต้เตียง” "นินทาบอสลับหลัง ระวังพรุ่งนี้จะได้ซองขาวพร้อมเงินชดเชยแล้วไปหางานใหม่นะ" หัวหน้าแผนกหญิงวัยกลางคนพูดแทรกวงพนักงานที่ยืนพูดคุยกันอย่างออกอรรถรส "ไปทำงาน!" "ค๊าาาา..." พนักงานตอบรับเป็นเสียงเดียวกัน และรีบแยกย้ายกันไปทำงาน ทุกคนรู้ดีว่าเรื่องโดนไล่ออกมันง่ายสำหรับผู้บริหารบริษัทนี้ ติ๊ง ประตูลิฟต์เปิดออกเมื่อมาถึงชั้นเป้าหมาย เป็นชั้นของผู้บริหาร ชายหนุ่มมาดเข้มเดินด้วยท่าทางสุขุมทะมัดทะแมงกำลังจะเดินเข้าห้องทำงาน โดยมีเลขาสาวสวยนมบึ้มคัพดีสวมเสื้อเชิ้ตสีขาวแบบบางจนเห็นบราเซียสีแดงชัดเจน สวมกระโปรงทรงเอสั้นแค่คืบยืนยิ้มร่าต้อนรับเจ้านายหนุ่ม “สวัสดีค่ะบอส ลิลลี่ขอโทษด้วยนะคะที่ไม่ได้ลงไปต้อนรับบอส เผอิญมีสายจากลูกค้าโทรเข้ามาพอดี” เลขาสาวพูดจีบปากจีบคอราวกับตัวเองเหนือกว่าคนอื่น ชาร์ลปรายตามองเลขาสาวเพียงนิดก่อนจะเดินเข้าห้องไปโดยไม่ว่าอะไร ภายในห้องทำงานที่ถูกตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์ราคาแพงสีดำสลับกับขาว โต๊ะทำงานราคาแพงตั้งเด่นเป็นสง่า ด้านหลังเป็นกระจกบานใหญ่มองเห็นวิวจากมุมสูง “นายจะรับอาหารเที่ยงไหมครับ เพราะตั้งแต่ออกจากร้านนั้นมานายยังไม่ได้ทานข้าวเลย” “ให้ลิลลี่เอากาแฟมาให้กูก็พอ มึงออกไปได้ และหลังจากนี้ถ้ากูไม่เรียกก็ห้ามใครเข้ามา” น้ำเสียงเข้มสั่งลูกน้องคนสนิท ก่อนที่เทเลอร์จะก้มหัวให้และเดินออกไป ก๊อก ก๊อก ก๊อก “ขออนุญาตนะคะ ลิลลี่เห็นว่าบอสดูหงุดหงิด เลยเอาชาคาโมมายล์มาให้บรรเทาสมอง น่าจะดีกว่ากาแฟดำนะคะ” เลขาสาวเดินนวยนาดเข้ามาในห้องทำงานของเจ้านายหนุ่มหลังจากได้รับคำสั่งจากลูกน้องคนสนิท ชาร์ลปรายตามองท่าทางของหญิงสาวที่พึ่งเข้ามาใหม่ด้วยแววตาเรียบเฉย “รู้ใช่ไหมว่าฉันไม่ชอบกินซ้ำ ถ้าเธอโดนฉันเอาแล้ว เธอจะต้องออกจากตำแหน่งเลขาพร้อมกับเงินก้อนหนึ่ง” “ลิิลลี่พร้อมจะปรนนิบัติบอสให้ผ่อนคลายค่ะ” เธอรู้เรื่องนี้ดี เธอไม่ได้ชอบงานเลขาตั้งแต่แรก แต่เธออยากรู้ลีลาที่ว่าเด็ดของเจ้าของบริษัทต่างหากอีกทั้งเงินก้อนที่ว่าก็เลี้ยงตัวเองได้สบายไปหลายเดือน “จัดการทำให้ฉันผ่อนคลายเดี๋ยวนี้ ผู้หญิงร่าน!” ชาร์ลสบถคำหยาบออกมา แต่ไม่ได้ทำให้หญิงสาวโกรธเลยสักนิด เธอกลับชอบความดิบเถื่อนนี้แถมยังถอดเสื้อผ้าตัวเองออกจนหมดเผยร่างกายเปลือยเปล่าต่อหน้าชายหนุ่ม ก่อนจะมาย่อตัวตรงเป้ากางเกงของเขาพอดี มือหนาเชยคางเธอขึ้นเล็กน้อย สายตาคมกริบจ้องมองเลขาสาวตรงหน้า “เธอไม่ใช่คู่ค้าทางธุรกิจ แต่เธอเป็นแค่เลขาของฉัน ฉันจะเอาเธอคงไม่ผิดจริงไหม” “ไม่ผิดค่ะ ลิลลี่เป็นแค่ผู้หญิงธรรมดาคนหนึ่งเท่านั้น”เธอพูดพร้อมกับจัดการดึงกางเกงออกจากท่อนขาแกร่งจนเปลือยท่อนล่าง เหลือเพียงแต่ท่อนเอ็นขนาดใหญ่ที่เธอเห็นยังตกใจกับความใหญ่โตของมัน “ลิลลี่จะเลียให้ทุกซอกทุกมุมเลยค่ะ” —-//—//—//—//—//— สองชั่วโมงต่อมา ก๊อก ก๊อก ก๊อก “ขออนุญาตครับนาย” เทเลอร์มาตามที่นายของเขาเรียกหา และปรายตามองหญิงสาวที่แต่งตัวยังไม่เรียบร้อยรีบเดินสวนออกไป ข้าวของบางชิ้นร่วงหล่นอยู่ที่พื้น และเห็นร่องรอยคราบน้ำรักเลอะอยู่บนโซฟาหนังสีดำ แต่กลับทำสีหน้าปกติเพราะมันไม่ใช่ครั้งแรกที่เขาเห็น ก่อนจะหันกลับมามองเจ้านายหนุ่มที่กำลังอัดบุหรี่เข้าปอด เผยหน้าอกแกร่งภายใต้เสื้อเชิ้ตราคาแพง "งานที่กูให้ทำเรียบร้อยดีใช่ไหม" ชาร์ลถามลูกน้องคนสนิท ขณะพ่นควันบุหรี่ราคาแพงขาวคลุ้งไปทั่วบริเวณ "เรียบร้อยดีครับ ร้านนั้นประกาศปิดปรับปรุงหนึ่งอาทิตย์ แถมยังโดนสอบสวนเกี่ยวกับสารปนเปื้อนในอาหาร จนถึงวัตถุดิบทุกอย่างที่ใช้ทั้งหมดครับ ผมได้จัดการเรื่องเงินเล็กๆน้อยๆให้กับเจ้าหน้าที่เรียบร้อยแล้วครับ แต่ผมคาดว่าคงเป็นเดือนกว่าจะเห็นความบริสุทธิ์ของร้านอาหารร้านนั้นครับ" เทเลอร์รายงานความคืบหน้าของงานให้นายใหญ่ฟัง มันคือเรื่องปกติสำหรับพวกเขาที่ทำให้คนที่ขาวสะอาดกลายเป็นคนเปื้อนฝุ่นจนถึงจมโคลนได้อย่างง่าย "ดี กูอยากเห็นหน้าเด็กปากเก่งที่บอกจะรับผิดชอบเหมือนกัน" ริมฝีปากหนายกยิ้มมุมปาก "ประวัติเด็กคนนั้นอยู่ในนี้ครับ" เทเลอร์วางแฟ้มเอกสารที่มีรูปเด็กสาวร่างเล็กลงตรงหน้าเจ้านายหนุ่ม ชาร์ลปรายตามองเอกสารตรงหน้าด้วยสายตาเรียบนิ่ง เขาไม่เคยอยากยุ่งกับเธอเลยถ้าเธอไม่อวดดีปากเก่งกับเขาก่อน “อลินดา ชื่อเล่น ลิน” ชาร์ลพูดออกมาเบาๆ "ผมว่าชีวิตเธอน่าสงสารนะครับ เด็กต่างจังหวัดที่ต้องดิ้นรนหาเงินเลี้ยงตัวเอง แถมเธอยังคอยส่งเงินให้พ่อกับแม่เธอที่ต่างจังหวัดด้วย ถ้าไม่มีร้านอาหารนี้ผมไม่รู้ว่าเธอจะทำยังไงเลยครับ เท่าที่คนของเราไปสืบมาเหมือนพ่อเธอจะป่วยแต่ไม่ยอมบอกลูกสาวที่อยู่กรุงเทพนะครับ นานๆเธอจะกลับบ้านที แต่เห็นว่าหลังจากเรียนจบจะกลับไปทำงานใกล้บ้าน ตอนนั้นเธอคงรู้ว่าพ่อเธอป่วย" “แล้วก็นี่เป็นเอกสารที่ทางมหาวิทยาลัยของเธอส่งไปตามบริษัทต่างๆเพื่อพิจารณาเด็กเก่งเข้าทำงานครับ” “กูกำลังสั่งสอนเด็กคนนี้ แต่มึงกำลังบอกว่าให้กูรับเด็กคนนี้เข้าทำงานอย่างงั้นเหรอ?” “เปล่าครับ” เทเลอร์รีบตอบทันทีเมื่อเห็นสีหน้าไม่พอใจของเจ้านายหนุ่ม ตึก ตึก ตึก…. ชาร์ลเคาะนิ้วที่โต๊ะทำงานเป็นจังหวะสม่ำเสมอเหมือนกำลังใช้ความคิด สายตาคมกริบจ้องไปที่รูปถ่ายของเด็กสาวคนนั้นอยู่พักใหญ่ “หึ! ถ้ากูได้เลขาคนใหม่คงดีไม่น้อยมึงว่าไหม” เทเลอร์ได้แต่ก้มหน้าฟังคำพูดของเจ้านายหนุ่ม เขากลับรู้สึกผิดที่เอาเอกสารของมหาวิทยาลัยมาให้เจ้านายดู เพราะรู้ดีว่าตำแหน่งเลขามันไม่ใช่ตำแหน่งงานทั่วไป ถ้าเขาจับโยนทิ้งตั้งแต่แรกคงไม่ต้องดึงเด็กไร้เดียงสาเข้ามาเกี่ยวข้องอีกครั้ง
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม