บทที่6 ไร้ค่า

2447 คำ
หลายวันต่อมา รถตู้แล่นเข้ามาจอดตรงลานจอดข้างในบ้านพงษ์ไพศาล พอประตูรถเปิดออก มินก็ลงมาเป็นคนแรกตามด้วยอัมพรกับสุวัตร ส่วนภาคินยังนั่งอยู่ในรถอยู่ มินกับคนขับรถจึงไปช่วยกันยกวีลแชร์ไฟฟ้าลงจากหลังรถ แล้วเข็นไปไว้ตรงหน้าประตูรถ เพื่อยกตัวภาคินให้นั่งลงได้สะดวก หลังจากที่ยกตัวภาคินลงนั่งบนวีลแชร์แล้วมินก็สอนการใช้งานวีลแชร์ไฟฟ้าโดยการแนะนำกดปุ่มต่างๆ จากนั้นภาคินก็กดปุ่มเดินหน้าไปทางบ้านหลังเล็กที่เป็นบ้านไม้ชั้นเดียว ซึ่งมินให้คนทำความสะอาดไว้เรียบร้อยแล้ว บริเวณบ้านมีต้นไม้ล้อมรอบทำให้ร่มรื่นน่าอยู่มากขึ้น ส่วนด้านหลังบ้านมีสระบัวขนาดกลางอยู่หนึ่งสระที่เชื่อมทางเดินด้วยไม้เข้ากับตัวบ้าน ภาคินพาตัวเองมาหยุดตรงริมสระมองไปข้างหน้าด้วยสายตาเหม่อลอย "พี่คินไปทานข้าวกันเถอะค่ะ" เดินไปหยุดตรงด้านหลังภาคิน "พี่ไม่หิว" "ไม่หิวก็ต้องทานค่ะ พี่รู้ตัวไหมว่าตัวเองผอมลงเยอะมากเลย" "ช่างพี่เถอะ" "ช่างไม่ได้หรอกค่ะ คุณพ่อกับคุณแม่รออยู่ไปเถอะค่ะ" นั่งลงยองๆ ข้างภาคินพร้อมกับจับมือและส่งสายตาอ้อนวอน "ก็ได้ไปสิ" เคลื่อนวีลแชร์นำหน้ามินไปตรงไปยังบ้านหลังใหญ่ ส่วนมินก็เดินตามไปติดๆ ภาคินเข้าไปในบ้านได้อย่างง่ายดาย เพราะช่างได้มาทำทางลาดไว้ก่อนที่จะกลับมาแล้ว พอเข้าไปในห้องรับประทานอาหารก็เจออัมพรกับสุวัตรนั่งรออยู่ก่อนแล้ว  "มาแล้วเหรอลูก เป็นไงนั่งวีลแชร์ไฟฟ้าสะดวกดีใช่ไหม ไปไหนมาไหนได้สบายเลยทีนี้" อัมพรลุกขึ้นไปสวมกอดลูกชายตัวเอง "ครับสะดวกดี"  "ทานเยอะๆ นะลูก มีแต่ของโปรดลูกทั้งนั้นเลย" สุวัตรเอ่ยขึ้น "ใช่ค่ะ ป้าทำสุดฝีมือเพื่อคุณคินเลยนะคะ" ป้าชุ่มแม่ครัวเก่าแก่ของบ้านที่กำลังยืนอำนวยความสะดวกให้ทุกคนเอ่ยขึ้น "มาค่ะ พี่คินอยากทานอะไรบอกมินได้เลยนะคะ เดี๋ยวมินตักให้"  "มินจะตักอะไรให้พี่ก็ตักมาเถอะ " "ค่ะ" รับคำแล้วตักไส้อั่วที่หั่นเป็นชิ้นๆ ใส่ลงไปในจานข้าวของภาคิน หลังจากที่ทานข้าวเสร็จภาคินก็กลับไปที่บ้านหลังเล็ก เอาแต่เก็บตัวเองอยู่ในห้อง ด้วยการจ้องมองภาพถ่ายตัวเองกับกิ่งที่อยู่ในมือถือ น้ำตาไหลเอ่อออกมาอาบแก้มทั้งสองข้างกำมือแน่น  ก็อกๆๆ เสียงเคาะประตูดังขึ้น ภาคินจึงรีบเช็ดน้ำตาทิ้งแล้วพาตัวเองไปปลดล็อกกลอนประตูเปิดออก เจอมินยืนอยู่ตรงหน้าประตูพร้อมกับส่งยิ้มให้ภาคิน "พี่คินพอดีมินมีคนมาแนะนำให้รู้จักค่ะ" "ใครเหรอ ทำไมพี่ต้องรู้จักด้วย" "ตามมินมาค่ะ"เดินนำภาคินออกไปตรงหน้าบ้าน ภาคินจึงเคลื่อนวีลแชร์ตามหลังมินออกไป "พี่คิน นี้พี่น้อยค่ะ พยาบาลที่จะมาทำกายภาพให้พี่ทุกวันแล้วอยู่คอยช่วยเหลือพี่"  "สวัสดีค่ะ" เอ่ยทักทายภาคิน "พี่ว่าไม่จำเป็นหรอก"  "จำเป็นสิคะ เดี๋ยวมินจะให้พี่น้อยพักอยู่อีกห้องหนึ่งก็แล้วกัน เผื่อตอนกลางคืนพี่ต้องการความช่วยเหลือจะได้ช่วยทัน" จริงๆแล้วบ้านหลังเล็กเป็นบ้านสำหรับไว้รับแขกจึงมีสองห้องนอนพอดี "อยากทำอะไรก็ทำแล้วอย่าโวยวายทีหลังก็แล้วกัน"พูดจบก็พาตัวเองเข้าไปข้างในห้องเหมือนเดิม "พี่น้อยอย่าถือสาพี่คินเลยนะคะ ตามมินมาค่ะ" เดินนำไปยังห้องนอนที่อยู่อีกฝากหนึ่งของบ้าน "ค่ะ" เดินตามหลังมินไปข้างในห้อง "เป็นไงคะ พอจะอยู่ได้ไหม"  "ยิ่งกว่าอยู่ได้อีกค่ะ" ส่งยิ้มให้มิน "ดีเลยค่ะ มินคงจะไม่ต้องแนะนำอะไรพี่มาก เพราะพี่ก็ผ่านงานแบบนี้มาเยอะแล้ว" "ค่ะ แต่ว่าอยู่ที่ตัวคนไข้ด้วยว่าจะให้ความร่วมมือหรือเปล่า" ดูจากท่าทางภาคินแล้วเหมือนจะไม่อยากจะให้ใครยุ่งด้วย "เรื่องนั้นมินว่าพี่น้อยค่อยๆ ทำความรู้จักกับพี่คินไปนะคะ มินจะช่วยพูดให้อีกแรงหนึ่งค่ะ" "ค่ะ" "งั้นก็ไปหาพี่คินกันค่ะ" มินเดินนำออกไปจากห้อง มินเดินไปหยุดตรงหน้าประตูห้องภาคิน เคาะไปตามมารยาทแล้วเปิดประตูเข้าไปเห็นภาคินกำลังนั่งหันหลังให้พร้อมกับมองออกไปนอกหน้าต่าง "พี่คินค่ะ จะให้พี่น้อยช่วยเหลืออะไรก็บอกได้เลยนะ"  "ยังไม่มีออกไปก่อนเถอะ" "พี่คินจะเข้าห้องน้ำหรือจะอาบน้ำอะไรก็บอกให้พี่น้อยช่วยเลยนะคะ อย่าทำเองเดี๋ยวจะล้มลงไปกับพื้น"  "พี่รู้แล้วตอนเย็นค่อยเข้ามาอีกทีก็แล้วกัน"  "ก็ได้ค่ะ"  "คุณคินเรียกใช้พี่ได้ตลอดเลยนะคะ ไม่ต้องเกรงใจ" น้อยเอ่ยขึ้นก่อนจะเดินออกมาจากห้อง "มินยอมรับนะคะ ว่าพี่คินไม่เหมือนเดิมคงต้องเอาใจหน่อย" มินบอกกับน้อย "พี่เข้าใจค่ะ จากคนที่เคยเดินได้ปกติต้องมาอยู่ในสภาพนี้"  "มินหวังว่าพี่คินจะใหัความร่วมมือกับพี่นะคะ"  "พี่ก็หวังว่าจะเป็นอย่างนั้นเหมือนกันค่ะ"  ด้านกิ่งกำลังคุยโทรศัพท์กับแม่ของตัวเองที่อยู่ต่างประเทศ ด้วยอารมณ์ขุ่นมัว  "แม่ค่ะ ก็กิ่งบอกไปแล้วไง ว่ากิ่งไม่ได้รักพี่คินแล้ว" "แสดงว่าลูกโกหกทางโน้นใช่ไหม ว่าคินเขาขอถอนหมั้นลูกเอง" "ไม่ได้โกหกค่ะ พี่คินเขาบอกทางพ่อแม่เขาแบบนั้นเอง" "ถ้าทางโน้นรู้ว่ากิ่งไม่พูดความจริงทั้งหมด เขาจะคิดยังไง กิ่งเคยคิดบ้างไหม"  "แม่หยุดพูดเรื่องนี้ สักทีเถอะค่ะ " "คงไม่ได้หรอก คุณสุวัตรเขาโทรมาขอโทษฝ่ายเราตั้งแต่เมื่อวานแล้ว ที่คินเขาขอเลิกกับลูก แล้วอีกอย่างเขาก็ไม่อยากให้คินมาเป็นภาระให้ลูก เห็นไหมเขาดีกับเรามาก แต่ทำไมลูกถึงนอกใจนอกกายเขาได้ แม่ไม่เข้าใจเลยจริงๆ"  "แม่ก็พูดได้สิ แม่ไม่ลองมาเป็นกิ่งแม่ไม่เข้าใจหรอก แค่นี้ก่อนนะคะ" กดวางสายทันทีด้วยความโกรธ ด้านมะลิกำลังเดินตรวจคนไข้กับหมอต้นที่แผนกผู้ป่วยหญิง ทั้งคู่สนิทสนมกันจนเพื่อนพยาบาลคนอื่นอิจฉามะลิกันยกใหญ่โดนเฉพาะไอซ์พยาบาลสาวร่วมแผนก "มะลิจ้ะให้ฉันช่วยอะไรไหม" ไอซ์มองหน้าหมอต้นไม่วางตา "ไม่มีจ้ะ ใกล้จะตรวจเสร็จแล้วล่ะ"เดินตามหลังหมอต้นไป "เห็นว่าหมอชอบก็เลยได้ใจ คิดจะเก็บไว้คนเดียวล่ะสิ" ไอซ์คิดในใจแล้วเดินออกไป "มะลิหมดแล้วใช่ไหมคนไข้" หมอต้นหันมาถามมะลิที่เดินตามหลังอยู่ "หมดแล้วค่ะ"  "งั้นพี่ไปตรวจคนไข้แผนกอื่นต่อก่อนนะ"  "ค่ะ" รับคำแล้วเดินออกไป  แต่ทางเดินเพิ่งจะถูเสร็จใหม่ๆทำให้มะลิลื่นจะล้มลง  โชคดีที่หมอต้นรีบเข้าไปคว้าตัวเอาไว้ก่อนทำให้มะลิตกอยู่ในกอดแขนไปโดยปริยาย ทุกการกระทำของทั้งคู่อยู่ในสายตาของไอซ์หมดที่แอบมองดูอยู่ห่างๆ "มะลิเป็นอะไรไหม" โอบเอวไว้ "ไม่เป็นไรค่ะ ขอบคุณนะคะที่ช่วยไว้ทัน"ผลักออกห่างจากหมอต้นทันที "ไม่เป็นอะไรก็ดีแล้ว เดินระวังอีกนิดก็แล้วกัน พื้นมันลื่นอยู่" "ค่ะ มะลิจะระวังให้มากกว่านี้" "พี่ไปก่อนนะ" "ค่ะ" เดินกลับไปทำงานของตัวเองต่อ มะลิรู้ว่าหมอต้นคิดกับเธอมากไปกว่าความเป็นพี่น้องกัน แต่เธอกลับไม่คิดอย่างนั้น ที่เธอสนิทกับหมอต้นก็เพราะความเป็นกันเองของหมอต้นมากกว่าที่เป็นมิตรกับทุกคนในโรงพยาบาล ถึงแม้ว่าหมอต้นจะเพิ่งย้ายมาอยู่ไม่กี่เดือนก็ตาม  พอตกเย็นน้อยก็เข้าไปข้างในห้องของภาคินเพื่อช่วยจัดการเรื่องส่วนตัวต่างๆ ของภาคิน "คุณคินจะอาบน้ำเลยไหมคะ เสร็จแล้วจะได้ไปทานข้าว"  "ไม่ต้องเดี๋ยวฉันจะเข้าไปอาบเอง เอาผ้าเช็ดตัวไปแขวนไว้ในห้องน้ำก็พอ"  "ไม่ได้นะคะ อย่างน้อยให้พี่ช่วยยกตัวคุณวางลงตรงเก้าอี้ในห้องน้ำก็ได้ ถ้าไม่อย่างนั้นคุณจะลงจากรถเข็นยังไงคะ"  "ฉันบอกว่าจะทำเองไง ออกไป!" ตวาดเสียงดัง น้อยสะดุ้งตกใจรีบออกไปจากห้องตรงไปหามินที่บ้านหลังใหญ่ทันที เพราะกลัวภาคินจะไปล้มในห้องน้ำ "อ้าว พี่น้อยมีอะไรหรือเปล่าคะ"  "คือคุณคินเขาไม่ยอมให้พี่ช่วยเหลืออะไรเลยค่ะ พี่กลัวว่าจะไปล้มในห้องน้ำ"  "ให้มันได้อย่างนี้สิพี่คิน รีบไปกันค่ะ" ถอนหายใจแรงๆ แล้วเดินตรงไปยังบ้านหลังเล็ก พอมินเข้าไปในห้องก็เจอแต่ความว่างเปล่า แต่ประตูห้องน้ำกลับปิดอยู่ มินจึงเคาะประตูเรียก "พี่คินค่ะ มินเข้าไปได้ไหมคะ"  "เข้ามาเลย ประตูไม่ได้ล็อค" มินได้ยินอย่างนั้นก็เปิดประตูเข้าไปก็เจอภาคินล้มลงไปกองนอนอยู่บนพื้นห้องน้ำ พยายามจะลุกขึ้นนั่งบนเก้าอี้ไม้ที่เอาไว้สำหรับนั่งอาบน้ำโดยเฉพาะ "ตายแล้ว!พี่คิน พี่น้อยมาช่วยกันค่ะ" มินกับน้อยจึงช่วยกันพยุงตัวภาคินนั่งลงบนเก้าอี้ "พี่คินทำไมดื้อ จังเลยคะ ทำไมไม่ให้พี่น้อยช่วยตั้งแต่แรก"  "พี่อยากจะทำเองบ้าง ให้คนอื่นช่วยเหมือนไม่มีค่ายังไงก็ไม่รู้"  "มินรู้ค่ะ แต่มินอยากให้พี่เปิดใจรับความช่วยเหลือจากคนอื่นบ้าง" พูดพลางถอดเสื้อกับกางเกงของภาคินออกจนเหลือแต่กางเกงชั้นในตัวเดียว "จะอาบเองหรือว่าจะให้มินอาบให้ค่ะ" หยิบแชมพูกับสบู่เหลวอาบน้ำมาวางไว้ใกล้ๆตัวภาคิน "พี่อาบเองดีกว่า"  "อาบเสร็จแล้วก็บอกด้วยนะคะ มินจะรออยู่ตรงหน้าประตู" หยิบฝักบัวพร้อมกับเปิดน้ำยื่นให้ภาคินแล้วปิดประตูออกมายืนรออยู่ตรงหน้าห้องน้ำ "พี่น้อยอดทนหน่อยนะคะ"  "ค่ะ พี่จะพยายามทำให้ดีที่สุด" ด้านภาคินต้องอาบน้ำด้วยความยากลำบากเพราะนั่งอยู่กับที่ขยับได้แต่ท่อนบนส่วนท่อนล่างขยับไม่ได้ ใช้เวลาสักพักก็อาบเสร็จ "มินพี่อาบน้ำเสร็จแล้ว" ภาคินตะโกนออกมาจากในห้องน้ำ "ค่ะ" เปิดประตูเข้าไปก็เห็นภาคินเอาผ้าเช็ดตัวพันเอวไว้แล้ว "มาค่ะพี่น้อยช่วยกันยกตัวพี่คินไปนั่งลงบนวีลแชร์" "ค่ะ" เข้าไปช่วยมินพยุงภาคินลงบนวีลแชร์  จากนั้นมินก็เข็นวีลแชร์ไปตรงตู้เสื้อผ้าแล้วจัดการใส่เสื้อผ้าให้พี่ชายตัวเองจนเสร็จ แล้วเข็นภาคินไปทานข้าวเย็นที่บ้านหลังใหญ่ต่อ  "ทานเยอะๆ นะลูก"อัมพรส่งยิ้มให้ภาคิน "ครับ" ตักข้าวเข้าปาก "แล้วเป็นไงบ้าง น้อยเขาดูแลลูกดีไหม" สุวัตรถามขึ้น "เพิ่งจะวันแรกเองต้องดูไปหลายๆ วันก่อนค่ะ" มินเอ่ยขึ้น เธอหวังว่าภาคินจะยอมให้คนอื่นเข้าใกล้บ้าง "น้อยเขาผ่านงานมาเยอะแล้ว คงจะไม่มีปัญหาอะไร" อัมพรเอ่ยขึ้น "ทานข้าวกันต่อเถอะ" สุวัตรเอ่ยขึ้น หลังจากที่ทานข้าวเสร็จมินก็เข็นภาคินกลับไปที่บ้านหลังเล็กเพราะเริ่มจะมืดแล้ว โดยมีน้อยเดินตามไปติดๆ พอเข้าไปในห้องมินก็พาภาคินไปแปรงฟันในห้องน้ำแล้วกลับมาที่เตียง มินกับน้อยช่วยกันพยุงตัวภาคินให้นั่งลงบนเตียง พร้อมกับจัดท่าให้นอนได้สบาย  จากนั้นน้อยจึงทำกายภาพโดยการยกบริหารขาและเท้าทั้งสองข้างก่อนนอน โดยมีมินยืนมองอยู่ใกล้ ๆ พอครบเซ็ทตามที่กำหนดน้อยก็ออกไปจากห้อง "เป็นไงคะ หลังจากที่ได้คลายกล้ามเนื้อแล้ว" มินถามขึ้น "ก็เฉยๆ ไม่เห็นจะรู้สึกอะไรเลย ไม่ต้องจ้างมาให้เสียเวลาหรอก"  "พี่คินอย่าพูดอย่างนั้นสิคะ มินอยากให้พี่กลับมาเดินได้อีก อย่าเพิ่งท้อนะคะ"  "มินกลับไปเถอะ พี่ง่วงแล้ว"  "ก็ได้ค่ะ ฝันดีนะคะ มีอะไรก็เรียกพี่น้อยได้เลยนะคะ กระดิ่งอยู่ข้างๆ นี้เอง" มินหยิบกระดิ่งวางไว้บนโต๊ะหัวเตียง "พี่รู้แล้วไปเถอะ" หลับตาลง มินจึงเดินไปปิดสวิชต์ไฟในห้องแล้วเดินออกจากห้องไปเงียบๆ พอมินเข้าไปในบ้านหลังใหญ่ก็ตรงเข้าห้องนอนตัวเองแล้วจัดการอาบน้ำแต่งตัว กำลังจะเข้านอนก็นึกถึงมะลิขึ้นมา จึงหยิบโทรศัพท์มาโทรหามะลิทันที "ฮัลโหลมะลิ นอนหรือยัง" "ยังจ้ะ "  "ฉันพาพี่คินกลับมาอยู่บ้านแล้วนะ เพิ่งกลับมาวันนี้เอง" "จริงเหรอ แล้วพี่คินเขาเป็นยังไงบ้าง" "ก็ชอบเก็บตัวอยู่แต่ในห้อง คงเป็นเพราะสภาพจิตใจยังแย่อยู่" ถอนหายใจเบาๆ "เรื่องแบบนี้คงต้องใช้เวลาช่วยเยียวยาเท่านั้นแหละ"  "แล้วเธอจะมาเยี่ยมพี่คินไหม"  "ไปสิ วันพรุ่งนี้เลยก็แล้วกันตอนเย็นนะ" "งั้นฉันไปรับเธอที่โรงพยาบาลนะ แล้วจะกลับไปส่งด้วย"  "ไม่เป็นไรหรอก ฉันไปเองก็ได้"  "ฉันไปรับนั้นแหละดีแล้ว เธอจะมาเองให้ลำบากทำไม" "ก็ได้ ฉันจะรอก็แล้วกัน"  "งั้นแค่นี้ก่อนนะฉันง่วงแล้ว ไว้เจอกันวันพรุ่งนี้ตอนเย็น" มินยกมือขึ้นปิดปากหาว "จ้ะ ฝันดีนะ"   หลังจากที่มินวางสายไปมะลิก็นึกถึงใบหน้าอันคมเข้มของภาคินที่เธอไม่ได้เห็นมานานแล้ว ไม่รู้ว่าป่านนี้เขาจะเปลี่ยนไปมากน้อยเพียงใด ล้มตัวลงนอนแล้วหลับตาลง
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม