“กุ้ยเหลียน… อาหารใกล้หมดแล้วใช่ไหม… ”
มีความกังวลในน้ำเสียงของจางหมิงอย่างเห็นได้ชัด
“หมดข้าก็จะหา… ท่านพี่ไม่ต้องห่วง… ”
กุ้ยเหลียนกล่าว นางเป็นคนเข้มแข็ง จึงไม่เคยเผยด้านที่อ่อนแอออกมาให้สามีได้เห็น ไม่ว่าความจริงจะย่ำแย่เพียงใด
“ลำพังเจ้าจะหายังไง… ”
“อีกไม่นานข้าจะได้เงินค่าจ้างเก็บใบชา”
“ข้ารู้สึกสงสารเจ้าเหลือเกิน ถ้าดวงตาของข้ากลับมามองเห็นได้อีกครั้งข้าคงช่วยเจ้าได้มาก”
“ท่านพี่ไม่ต้องคิดมาก… ”
กุ้ยเหลียนปลอบ
“ข้าอยากรักษาดวงตา”
จางหมิงนึกถึงพ่อหมอเทวดา
“ถ้าเรื่องรักษาดวงตา… ในหมู่บ้านแห่งนี้คงมีเพียงคนเดียวที่จะช่วยท่านได้”
กุ้ยเหลียนเองก็พอจะรู้
“ใช่… นี่ถ้าท่านหมอเถิงชิวยอมรักษาดวงตาให้ ข้าคงกลับมามองเห็นได้เหมือนเก่า และข้าจะช่วยเจ้าทำงานได้สารพัด ตอนนี้ขาข้างที่หมดความรู้สึกไปนานค่อยๆ กลับมาดีขึ้นจนข้าเริ่มมีหวัง”
จางหมิงกล่าว
“จริงหรือท่านพี่… ”
“จริง… เจ้าก็เห็นแล้วใช่ไหมว่าช่วงนี้ข้าเริ่มเดินได้มากขึ้นกว่าก่อน”
“งั้นข้าจะไปขอร้องท่านหมอเถิงชิวให้ช่วยรักษาดวงตาท่านพี่… ”
กุ้ยเหลียนเริ่มมีความหวัง…
อันที่จริงนางเคยคิดถึงเรื่องนี้เช่นกัน เถิงชิวเก่งจนได้รับฉายาว่าหมอเทวดา จะยากก็ตรงที่เขาเป็นคนสันโดษ มีโลกส่วนตัวสูง ผู้คนเข้าถึงได้ยาก
เวลาส่วนมากของหมอเทวดาคนนี้จะหมดไปกับการขึ้นเขาหาสมุนไพรมาปรุงยา
“แต่เจ้าก็รู้ว่าเถิงชิวคนนี้ใช่ว่าจะยอมรักษาใครง่ายๆ… ”
จางหมิงลืมฉุกคิดถึงความจริงข้อนี้
“ยังไงข้าก็จะลองไปอ้อนวอนดูก่อน เพราะว่าเมื่อคราวที่ท่านได้รับบาดเจ็บท่านหมอเถิงชิวก็ยอมมารักษาช่วยเข้าเฝือกแขนขาที่หัก”
“นั่นเป็นเพราะว่าต้าเหว่ยเพื่อนของข้าขอร้อง… ต้าเหว่ยเป็นญาติกับหมอเถิงชิว”
“ข้าจะลองด้วยตัวเองก่อน… ถ้าไม่สำเร็จคงต้องให้ต้าเหว่ยช่วยเหลืออีกแรง… ”
“งั้นข้าก็พอมีหวังว่าจะกลับมามองเห็นได้อีกครั้ง… ”
“ท่านพี่อย่าได้เป็นกังวล… ข้าสัญญาว่าจะทำทุกทางเพื่อให้ท่านกลับมามองเห็นได้อีกครั้ง”
กุ้ยเหลียนให้สัญญา เอื้อมมือเรียวมากุมมือใหญ่ของสามี บีบเบาๆ ให้กำลังใจจางหมิงที่วันนี้เริ่มกลับมาเข้มแข็งและมีความหวังกับชีวิตอีกครั้ง
ในเวลาต่อมา
เมื่อเวลาล่วงเลยมาถึงตอนใกล้ค่ำ กุ้ยเหลียนตัดสินใจออกมาหาป้าจื่อ หญิงม่ายที่อาศัยอยู่เพียงลำพังใกล้กับบ้านของนาง เพื่อจะขอข้าวสารเอาไว้หุงแก้ขัดสำหรับมื้อเช้าของพรุ่งนี้
“เสียใจด้วย เห็นทีว่าครั้งนี้ข้าคงช่วยเจ้าไม่ได้ เพราะว่าข้าวสารข้าก็เพิ่งหมดไปเมื่อสองวันก่อน… ”
ป้าจื่อบอกข่าวร้ายกับกุ้ยเหลียน
ช่วงนี้นางอยู่ได้ด้วยผักผลไม้ที่ปลูกเอาไว้หลังบ้าน กำลังคิดว่าจะไปขอยืมข้าวสารที่บ้านกุ้ยเหลียนอยู่เหมือนกัน ช่างบังเอิญที่นางมาก่อน
“ตายจริง… ”
กุ้ยเหลียนตกใจ…
ดูเหมือนว่าช่วงนี้สถานการณ์หลายๆ อย่างผิดไปจากแผนที่นางตั้งใจไว้ นี่กว่าจะได้เงินค่าจ้างจากการเก็บใบชา ก็ต้องรอเวลาอีกหลายวัน
“เจ้าไม่ต้องตกใจ… ถ้าเจ้าอยากได้ข้าวสารโดยที่ไม่ต้องเสียเงินซื้อ… ข้ามีวิธีจะแนะนำเจ้า”
ป้าจื่อเพ่งมองใบหน้างดงามของกุ้ยเหลียนอย่างพินิจพิจารณา กวาดสายตาลงมาที่ทรวงอกอวบใหญ่ ไล่ลงมาที่สะโพกผายจนถึงปลายเท้า
วิธีการมองของป้าจื่อ ทำเอาหญิงสาวรู้สึกประหลาดใจ
“ท่านหมายความว่ายังไง”
หัวคิ้วของกุ้ยเหลียนชิดเข้าหากัน
“วันนี้ข้าเห็นเรือบรรทุกข้าวสารของลู่ซือผ่านมาจอดเทียบท่าริมแม่น้ำ ในเรือมีข้าวสารมากมาย… ”
ป้าจื่อพูดแล้วก็หยุด
“แต่ตอนนี้ข้าไม่มีเงิน”
หญิงสาวส่ายหน้า
“ข้าเข้าใจ… และข้าก็รู้ว่าผู้ชายมักมากในกามอย่างลู่ซือไม่ได้ต้องการเงินเสมอไป… โดยเฉพาะกับผู้หญิงที่มีความเย้ายวนใจอย่างเจ้า… ”
คำพูดที่ได้ยิน…
ทำเอากุ้ยเหลียนตกใจ จ้องมองตาป้าจื่อ และเข้าใจได้ในความหมายที่หญิงวัยกลางคนบอกได้อย่างกระจ่าง ในวันที่โชคชะตากำลังทดสอบชีวิตนาง
ในเวลาต่อมา
พระอาทิตย์ลับลงแล้ว ความมืดคลี่คลุมไปทุกหย่อมย่านของหมู่บ้าน กุ้ยเหลียนเดินเลาะป่าไผ่ริมแม่น้ำมาจนถึงจุดที่เรือขายข้าวสารจอดเทียบท่าพักนอน
“ท่าน… ท่านลู่ซือใช่ไหม… ”
กุ้ยเหลียนร้องถาม เมื่อสายตาของนางสะดุดเข้ากับชายร่างสูงใหญ่ เขาไม่สวมเสื้อ เนื้อตัวกำยำไปด้วยกล้ามเป็นมัด ที่แผงอกเต็มไปด้วยเส้นขน กำลังนั่งดื่มสุราอยู่ด้านหลังเรือเอี้ยมจุ๊นลำใหญ่
“ใช่แล้ว… เจ้ามามืดๆ ค่ำๆ แบบนี้ต้องการซื้อข้าวสารใช่ไหม… ”
ลู่ซือถามพลางยกสุราในจอกขึ้นดื่ม สายตามองเรือนร่างเย้วยวนของกุ้ยเหลียน เต้านมอวบใหญ่ที่เห็นถึงกับทำให้เขาแอบกลืนน้ำลาย
“ใช่… ข้าต้องการข้าวสาร แต่ว่า… ”
พูดแล้วก็หยุด เหมือนฉุกคิดได้ว่าเหตุการณ์นี้กำลังจะนำพาให้นางถลำเข้าไปสู่เรื่องน่าอาย
“แต่อะไร… ”
ลู่ซือหรี่ตามองเรือนร่างเอิบอิ่ม เพราะไม่เคยเห็นหญิงงามอย่างกุ้ยเหลียนบ่อยนัก
“แต่ข้าไม่มีเงิน… ”
“โถ… เรื่องแค่นี้เอง… สำหรับเจ้าข้าจะให้โดยไม่คิดเงิน… อยากได้ก็ขึ้นมาบนเรือของข้า… ”
ลู่ซือทำเสียงเห็นใจ…
กุ้ยเหลียนสูดหายใจแรงลึก รวบรวมความกล้า นางไม่รอรีที่จะก้าวขึ้นมาบนเรือของเขา
“สำหรับเจ้าข้าไม่เอาเงิน… ข้าขออย่างอื่นเป็นสิ่งแลกเปลี่ยน… ”
ลู่ซือกล่าวอย่างตรงไปตรงมา หญิงสาวแอบเห็นประกายความหื่นกระหายผุดวาบขึ้นในดวงตาเจ้าของเรือ