"ผมมาแล้วครับ!"
เสียงที่คุ้นเคยดังขึ้นที่หน้าประตูเข้างาน ภากรในสภาพที่สวมชุดเจ้าบ่าวเรียบร้อย หากแต่ผมเผ้ายังดูยุ่งเหยิง และมองปราดเดียวก็ดูออกว่าเขารีบแต่งตัวมากแค่ไหนเดินเข้ามาในงาน ท่ามกลางสายตาของแขกเหรื่อ
"ไอ้ลูกบ้า! แกหายหัวไปไหนมาฮะ นี่มันงานแต่งงานนะ ไม่ใช่นัดกินเลี้ยงสังสรรค์ ที่นึกอยากจะมาตอนไหนก็ได้" คงเดชรีบเดินเข้าไปหาบุตรชายแล้วว่ากล่าว
ชัยรัมภามองเจ้าบ่าวของตนด้วยสายตาเย็นชา เพราะหล่อนรู้ดีว่าทำไมเขาถึงได้มาช้า และทำอะไรไม่ไว้หน้าเธอเลยแบบนี้
"เมื่อคืนผมปาร์ตี้ส่งท้ายกับเพื่อนดึกไปหน่อย ก็เลยเผลอหลับยาว ขอโทษครับคุณพ่อ คุณแม่"
คงเดชไม่ตอบรับ หากแต่กันไผส่งซิกให้ธงไชยเพื่อให้อีกฝ่ายไปบรีฟงานกับพิธีกรใหม่เพื่อเริ่มพิธีในวันนี้อีกครั้ง
"คนที่ลูกควรขอโทษ ไม่ใช่พ่อกับแม่หรอกจ้ะ" มารดาเอ่ยพลางแตะบ่าลูกชายเบาๆ แล้วมองไปทางว่าที่เจ้าสาวของเขา
ภากรมองตาม ชัยรัมภาในวันนี้ ดูสวยและสง่างามกว่าในวันลองชุดเป็นไหนๆ ทว่าหน้าตาของหล่อนกลับดูไม่มีความสุข ไหนจะสายตาแปลกๆ และเสียงซุบซิบของคนในงานที่พากันพุ่งเป้าไปที่เธออีก
ภากรรู้ได้ในทันทีว่าทั้งหมดเป็นเพราะเขา เขาทำให้เธอตกเป็นขี้ปากของผู้คนภายในงาน ชายหนุ่มค่อยๆ เดินเข้าไปหาร่างเล็กนั้น ต้นกล้าเงยหน้ามองพวกเขาสลับกันไปมา
"ตกลงเราจะกลับบ้านกันไหมครับ" เด็กน้อยถามใสซื่อ
ภากรยิ้มเจื่อนๆ ก่อนจะลูบหัวต้นกล้าแล้วเอ่ยตอบคำถาม
"ไม่ได้กลับหรอกครับต้นกล้า ต้องรอให้ลุงกับคุณแม่เสร็จงานวันนี้ก่อนนะ"
"ครับ" ต้นกล้าพยักหน้ารับแล้วปล่อยมือออกจากชัยรัมภา วิ่งไปหาคงเดชที่กวักมือเรียกอยู่ ตรงนี้จึงเหบือเพียงภากรและชัยรัมภาสองคนเท่านั้น
"คือฉัน..." ชายหนุ่มอ้ำอึ้ง
"ขึ้นเวทีเถอะค่ะ เลยฤกษ์มานานมากแล้ว"
หล่อนไม่คิดจะฟังคำแก้ตัวอะไร เธอหมุนตัวเดินกลับไปทางเวที ภากรรีบเดินตามไปติดๆ
ครั้งนี้เขารู้ว่าตัวเองทำผิด ผิดมากเกินไปด้วยซ้ำ แต่จะให้พูดขอโทษหรืออธิบายอะไรกับเธอ เขาก็ไม่รู้จะเริ่มยังไง
ภากรจ้ำอ้าวตามชัยรัมภาขึ้นไปบนเวทีเพื่อเริ่มพิธีการของวันนี้ โดยที่ตลอดทั้งงานนั้น...
...เจ้าสาวของเขาไม่ยิ้มเลยแม้แต่ครั้งเดียว
"เราพบกันครั้งแรกเมื่อแปดปีก่อนค่ะ"
ชัยรัมภาเอ่ยใส่ไมค์ หลังจากถึงช่วงที่ให้เจ้าสาวและเจ้าบ่าวเอ่ยถึงกัน แน่นอนว่าภากรพูดไปตามสคริปต์ที่คงเดชให้คนเตรียมไว้ให้ ทว่าหล่อนกลับไม่เป็นเช่นนั้น
คนตัวสูงหันขวับมองเธอด้วยความตกใจนะคนแปลกใจ เรื่องที่พวกเขาเคยรู้จักกันมาก่อนนั้น นอกจากเขาและเธอ ทุกคนในงานไม่มีใครรู้ทั้งนั้น
"ในตอนนั้นคุณเซียนคือผู้ชายที่ดีมากๆ เขาเป็นเหมือน...ต้นไม้ใหญ่สำหรับฉัน เขาอบอุ่นในยามที่ฉันหนาวเหน็บ และเขาก็เย็นสบายในยามที่ฉันร้อนรน ทุกคนั้งที่ฉันมีเรื่องไม่สบาย เขาจะเป็นคนที่ยื่นมาเข้ามาเป็นคนแรกเสมอ ความใจดีของเขา ทำให้ฉันรู้สึกว่า...แย่จัง ขืนเป็นแบบนี้ต่อไป ฉันต้องขาดเขาไม่ได้แน่ๆ..."
น้ำเสียงหวานใสสั่นเครือ เธอยิ้มบางๆ ก่อนจะเงยหน้ามองเจ้าบ่าวของตัวเอง
"ขอบคุณนะคะ ที่ตอนนั้นคุณใจดีกับฉันเสมอ ฉันขอบอกคุณตรงนี้เลยว่า...ฉันจะตอบแทนความใจดีของคุณ ด้วยการรัก...และมีแค่คุณคนเดียวตลอดไปค่ะ"
ชัยรัมภาส่งไมค์คืนให้กับพิธีกร ทุกคนในงานพากันปรบมือให้กับคำพูดของเธอ แม้แต่ภากรเองก็ยังยืนตัวแข็ง ด้วยหวั่นไหวไปกับคำพูด สีหน้า และแววตาที่หล่อนมองมา
"มาถึงช่วงเวลาที่ทุกคนรอคอยที่จะเห็นแล้ว แน่นอนว่าผมเองก็เฝ้ารอเช่นกัน นั่นก็คือ...บ่าวสาวจุมพิตกันเลยครับผม!"
ภากรและชัยรัมภาต่างยืนหันหน้าเข้าหากัน ก่อนที่ร่างสูงจะค่อยๆ โน้มหน้าลงมาประกบปากจูบเธอเบาๆ
คงเดชและพิศมัยต่างก็ยิ้มให้กับภาพที่เห็น ต้นกล้ายกมือขึ้นปิดตาแต่ก็แอบมองลอดนิ้วมือของตนเองอยู่
เชฟกอร์ดอนที่มาร่วมงานด้วยตามคำเชิญของเธอยืนมองอยู่แถวประตูทางออก เขามองทั้งสองคนที่กำลังจูบแสดงความรักต่อกันด้วยหัวใจที่เจ็บปวด
'ยัยบ้า งานแต่งงานของตัวเองแท้ๆ ทำไมถึงได้ทำหน้าอมทุกข์ขนาดนั้นล่ะ แล้วแบบนี้จะไม่ให้ฉันเป็นห่วงได้ยังไง'
เขาคิดในใจ ตั้งแต่ตอนที่เห็นว่าเจ้าบ่าวหายไป เขาแทบจะเข้าไปคว้าตัวเธอแล้วพาออกจากไป แต่ก็ต้องห้ามใจตัวเองเอาไว้
ไม่ไกลจากเชฟกอร์ดอน ลินินที่มาที่นี่พร้อมกับภากรเองก็กำลังยืนมองอยู่ด้วยแววตาริษยา หล่อนกัดริมฝีปากตังเองแน่นด้วยคับแค้นใจ เมื่อที่ตรงนั้นที่ชัยรัมภายืนอยู่มันควรจะเป็นของเธอ!
'ฉันไม่ยอมแพ้แค่นี้แน่'
ลินินไม่คิดจะหยุดอยู่แค่นี้ เธอยังเตรียมแผนการที่จะแทรกซึมเข้าไประหว่างทั้งสองคนเรียบร้อย
พิธีการต่างๆ ในงานแต่งครั้งนี้ดำเนินไปได้ด้วยดี เว้นก็แต่คู่บ่าวสาวที่ทำหน้าบอกบุญไม่รับจวบจนกระทั่งจบงาน ได้ฤกษ์ที่ต้องส่งตัวพวกเขาเข้าห้องหอ ซึ่งเป็นห้องสวีตชั้นบนสุดสุดหรูของโรงแรมแห่งนี้ ทั้งสองยืนไหว้ขอบคุณแขกที่มางานอยู่ตรงหน้าประตู กระทั่งถึงกลุ่มเพื่อนร่วมก๊วนของภากรที่ไปปาร์ตี้ด้วยกันมาเมื่อคืน
"พวกเรากลับก่อนนะ ขอให้มีความสุขมากๆ นะเว้ย ยินดีที่ได้รู้จักนะครับคุณภา ผมคณิณครับ" คณิณแนะนำตัว
"ส่วนผมโจอี้ครับ"
"ผมพงศกรครับ เรียกว่าพงศ์เฉยๆ ก็ได้"
"ยินดีที่ได้รู้จักทุกคนเลยนะคะ ต้องขอโทษด้วยที่ฉันไม่ได้เดินไปทักทายตอนอยู่ในงานเลย ไว้ว่างๆ เชิญมาเที่ยวเล่นที่บ้านนะคะ ฉันจะทำอาหารรอต้อนรับเอง" ชัยรัมภาเอ่ยอย่างเป็นมิตรกับพวกเขาพลางฉีกยิ้มหวานละลายใจ
โจอี้รีบเดินเข้าไปใกล้ภากร สะกิดแขนชายหนุ่มแล้วกระซิบ
"ไอ้เซียน เมียแกโคตรสวยเลยว่ะ นี่มันนางฟ้าชัดๆ เลยนะเนี่ย"
"ลามปามละ ไปไกลๆ เลยไป" ภากรตอบเสียงเขียว
"โห ไรวะ มีหวงด้วย" โจอี้แซวปิดท้าย
"ไปละๆ ขอให้มีค่ำคืนที่แสนหวานนะเพื่อนรัก ไปนะครับคุณภา ลานะครับคุณพ่อ คุณแม่"
สามหนุ่มพากันยกมือไหว้ลาคงเดชและพิศมัยก่อนจะพากันเดินไปทางลิฟต์เพื่อกลับบ้าน ในงานไม่เหลือใครแล้ว จึงถึงเวลาที่จะส่งตัวพวกเขาเข้าห้องหอ
"พ่อว่าพวกเราไปที่ชั้นบน..."
"สักครู่นะคะคุณลุง หนูขอเวลาแป๊บนึงนะคะ"
ชัยรัมภาขัดขึ้น เธอโค้งศีรษะให้คงเดชเล็กน้อย ก่อนจะเดินเลี่ยงไปทางด้านขวาของทุกคน เชฟกอร์ดอนยืนมองเธอจากตรงนี้มานานแล้ว เขาตั้งใจจะอยู่ให้นานที่สุด
"ฉันนึกว่าเชฟจะไม่มาเสียแล้ว" เธอยิ้มอย่างดีใจที่เห็นเขามาร่วมงาน
ด้วยหล่อนไม่ได้มีเพื่อนหรือคนสนิทที่ไหนมากนัก หมวดเรย์ก็ติดภารกิจในงานของตำรวจ ส่วนป้าล้อมก็อายุมากแล้ว ไม่ชอบมางานที่มีคนเยอะๆ หรือต้องอยู่จนดึก จึงทำได้แค่อวยพรให้เธอก่อนงานแต่งเท่านั้น ญาติจากฝั่งของชัยรัมภาจึงมีแค่ต้นกล้าเพียงคนเดียว พอเธอได้เห็นว่าเชฟกอร์ดอนมา จึงปลาบปลื้มเป็นพิเศษ
"ต้องมาสิ เธอเป็นพนักงานดีเด่นของร้านฉันนี่" เขาตอบพลางเอื้อมมือไปข้างหน้าหมายจะลูบหัวของหล่อนแต่ก็ยั้งเอาไว้
ภากรที่ยืนจ้องเขม็งถึงกับขมวดคิ้วเมื่อเห็นท่าทีแบบนั้นของเชฟกอร์ดอน ด้วยเป็นผู้ชายเหมือนกัน ทำให้เขาพอจะมองออกว่าอีกฝ่ายคิดเช่นไรกับชัยรัมภา
"ฉันต้องขอโทษเชฟจริงๆ นะคะ ที่ทุกอย่างมันกะทันหันแบบนี้ งานที่ร้านต้องเดือดร้อนเพราะฉันไหมคะ?"
"ก็มียุ่งกันนิดหน่อยเรื่องแลกเวรล่ะนะ แต่ถ้าเธอสัญญาว่าจะกลับไปทำงานเหมือนเดิมหลังเสร็จเรื่องทุกอย่าง ฉันก็จะยกโทษให้กับความวุ่นวายทั้งหมดที่เกิดขึ้นเพราะเธอ" เชฟกอร์ดอนพยายามทำตัวให้เป็นปกติมากที่สุด เพราะเขารับรู้ถึงแรงกดดันบางอย่างจากตัวของอีกฝ่าย
"แน่นอนค่ะ ฉันบอกแล้วไงคะว่าฉันจะยังทำงานเหมือนเดิม ถ้าเชฟให้โอกาส"
"ว่าแต่...เธอกับเจ้าบ่าวของเธอ ไม่ได้มีปัญหาอะไรกันใช่ไหม" เขาตัดสินใจถามในที่สุด
กับผู้ชายที่ขนาดงานแต่งของตัวเองยังมาสายจนทำให้หล่อนต้องถูกคนในงานซุบซิบนินทา เขาไม่มั่นใจเลยว่าจะฝากชีวิตของเธอไว้กับผู้ชายแบบนี้ได้
หากจะให้เขายอมแพ้เรื่องของชัยรัมภา ผู้ชายคนนั้นก็จะต้องเป็นคนที่ดีพร้อม และรักเธอที่สุดของหัวใจเท่านั้น!
"ไม่มีอะไรหรอกค่ะ เชฟไม่ต้องเป็นห่วงนะคะ"
หมับ!
"ใช่ครับ คุณไม่ต้องเป็นห่วงภรรยาผมหรอกครับ ผมจะดูแลเธอเป็นอย่างดีในฐานะสามีเอง ยินดีที่ได้รู้จักนะครับ ผมภากร แล้วคุณคือ..." ภากรที่ทนยืนดูเฉยๆ ต่อไปไม่ไหว เดินจ้ำอ้าวเข้ามาโอบเธอเพื่อแสดงความเป็นเจ้าของพร้อมรอยยิ้มเย้ยหยัน