บทนำ เจ้าบ่าวที่หายไป
ณ โรงแรมหรูแห่งหนึ่ง
เสียงพูดคุยดังเซ็งแซ่ เมื่อพิธีกรประกาศเรียกเจ้าบ่าวให้ออกมาตามกำหนดการ ทว่ากลับไร้วี่แววของเจ้าบ่าวที่ทุกคนมองหา ร่างเพรียวในชุดสีขาวบริสุทธิ์ที่ยืนอยู่บนเวทีเพียงลำพังกวาดตามองไปทั่ว ‘ชัยรัมภา’ เม้มปากแน่น รอบดวงตารื้นขึ้นด้วยน้ำใสๆ หากแต่ก็พยายามกลั้นมันเอาไว้
“เอ่อ…เจ้าบ่าวครับ ขอเชิญออกมาได้เลยครับ”
พิธีกรประกาศเรียกอีกครั้ง แขกเหรื่อนับพันต่างส่งเสียงระงมดังไปทั่วห้องโถงของโรงแรมหรู สถานที่ที่ถูกใช้จัดงานแต่งงานของบรรดาไฮโซมากที่สุดในประเทศ
ทุกสายตาเริ่มโฟกัสไปยังเจ้าสาวที่ยังคงยืนนิ่ง บ้างก็สงสาร บ้างก็สมเพชเวทนา ข่าวลือที่ว่าหล่อนได้แต่งงานกับเขาเพียงเพราะคำสัญญาของบิดาคงเป็นเรื่องจริง แวดวงไฮโซพากันเม้าท์สนุกปากเรื่องที่ฝ่ายชายมีคนรักที่คบหากันมาหลายปีอยู่แล้ว และที่ต้องแต่งงานก็เพราะไม่อาจขัดคำสั่งของคุณพ่อได้
“เอ่อ เจ้าบ่าว…”
“พอเถอะค่ะ พวกเรา…เริ่มพิธีโดยไม่มีเจ้าบ่าวได้ไหมคะ?” เจ้าสาวหันมาถามพิธีกร
“ครับ? ระ…เริ่มพิธีโดยไม่มีเจ้าบ่าวเหรอครับ?” พิธีกรไปไม่เป็น
ด้านบิดาและมารดาของฝ่ายเจ้าบ่าวที่นั่งอยู่ที่โต๊ะของตน ต่างพากันร้อนรน พยายามโทรหาคนที่หายไปในเวลาสำคัญแบบนี้จนมือเป็นประวิง
“ตาเซียนไม่รับสายเลยค่ะคุณ” ‘คุณหญิงพิศมัย’ ผู้เป็นมารดาของว่าที่เจ้าบ่าวเอ่ยกับ ‘คงเดช’ ผู้เป็นสามี
“ไอ้ลูกบ้านั่น หาเรื่องจนได้สินะ”
“ทำยังไงดีคะคุณ แขกมากันเต็มงานไปหมด”
“ยกเลิกงานให้หมด ให้พิธีกรประกาศไปว่าเจ้าบ่าวไม่สบายกะทันหัน”
คงเดชตอบ ก่อนจะมองไปยังชัยรัมภาที่ยังยืนนิ่งอยู่บนเวทีด้วยความสงสารและรู้สึกผิด ชายสูงวัยส่ายหน้ากับตัวเอง นึกโกรธลูกชายที่สร้างเรื่องในวันสำคัญแบบไม่ไว้หน้าใครเลยเช่นนี้
“แม่ครับ” เสียงใสๆ เอ่ยขึ้น
เด็กชายวัยหกขวบในชุดสูทสำหรับเด็กเอ่ยเรียกหญิงสาวที่อยู่บนเวที หลังจากที่เล่นจนหลับไปตั้งแต่ช่วงบ่าย เมื่อตื่นขึ้นมาจึงเดินตามหามารดาไปทั่วจนเจอ
“ต้นกล้า” เจ้าสาวบนเวทีตะโกนเรียกชื่อเด็กชาย ก่อนจะถลกกระโปรงของชุดเจ้าสาวขึ้นแล้วเดินจากเวทีลงมาหา ‘ลูกชาย’ ของเธอ
‘ได้ยินไหม เด็กคนนั้นเรียกเธอว่าแม่ล่ะ’
‘มีลูกแล้วเหรอเนี่ย’
‘นี่มันเรื่องอะไรกัน’
เกิดประเด็นขึ้นมากมายทันทีที่ผู้คนในงานรู้ว่าเจ้าสาวอย่างหล่อนมีลูกชายแล้ว นั่นก็เพราะ…เด็กผู้ชายคนนี้ไม่ใช่ลูกของว่าที่เจ้าบ่าวของเธอ!
“แม่ครับ มาทำอะไรที่นี่เหรอ”
“ไม่มีอะไรหรอกครับ งานจบแล้วล่ะ เรากลับบ้านกันดีกว่าเนอะ” เธอส่งมือให้ลูกชายพลางยิ้มหวาน
เป็นการยิ้ม…ที่พยายามฝืนยิ้มอย่างทุกครั้ง
“หนูรัมภา” คงเดชเดินเข้ามาหา “ลุงต้องขอโทษสำหรับเรื่องที่เกิดขึ้นด้วยนะ ลุงสัญญา…ว่าเจ้าเซียนต้องชดใช้”
“ไม่เป็นไรหรอกค่ะคุณลุง ภาเข้าใจค่ะ เรื่องมันกะทันหันมากเกินไป คุณเซียนคงต้องการเวลาอีกนิด”
“ถึงงานแต่งวันนี้จะล่ม แต่ไม่ว่ายังไง วันพรุ่งนี้หนูกับเจ้าเซียนก็จะได้จดทะเบียนสมรสกันตามกำหนดเดิม ลุงสัญญา ลุงจะพลิกฟ้าตามล่าไอ้ลูกชายตัวแสบของลุงมาให้ได้” คงเดชให้คำมั่น
ชัยรัมภาซึ้งใจในน้ำใจที่คงเดชมีต่อเธอ หากแต่เธอก็เข้าใจลูกชายของเขาเช่นกัน คงไม่มีใครอยากถูกบังคับให้แต่งงานกับผู้หญิงที่ตนเองไม่ได้รักหรอก
“งั้นภาขอตัวพาต้นกล้ากลับก่อนนะคะ”
“กลับพร้อมลุงสิ ไปรถลุงเลย”
“ไม่เป็นไรค่ะ ภาจะแวะไปหาแม่ก่อนด้วย ขอบคุณมากนะคะ ต้นกล้า สวัสดีคุณปู่ก่อนสิครับ”
“สวัสดีครับคุณปู่” ต้นกล้ายกมือสวัสดีอย่างน่ารักน่าเอ็นดู
คงเดชมองต้นกล้าด้วยความชื่นชม ก่อนที่สองแม่ลูกจะพากันเดินออกจากงานไป ชายสูงวัยหันไปส่งสายตาเรียก ‘ธงไชย’ เลขาส่วนตัวของเขา อีกฝ่ายรีบปรี่เข้ามาหา
“ครับ ท่านประธาน”
“เรียกคนของเรามาให้หมด หาเจ้าเซียนให้เจอ ใครเจอตัวมันฉันให้หนึ่งล้านบาท หรือถ้าใครให้เบาะแส ก็จ่ายไปเลยห้าหมื่น เข้าใจไหม”
“ครับ ท่านประธาน” ธงไชยรับคำก่อนจะแยกตัวออกไปเพื่อทำตามคำสั่ง
คงเดชมองไปรอบๆ งานที่กำลังวุ่นวายเพราะงานแต่งถูกยกเลิกกะทันหันเนื่องจากเจ้าบ่าวหายตัวไป แม้จะแก้ตัวว่าเขาไม่สบาย แต่ชายสูงวัยรู้ดีว่าทุกคนในงานต่างก็ทราบเหตุผลที่แท้จริง
ดูท่าว่าเขา…คงจะต้องใช้ไม้แข็งกับลูกชายของตัวเองซะแล้ว!