เอมเดินไปตามหนูหลินที่เข้าห้องน้ำนานไปหน่อย ส่วนเขาก็ไปซื้อของกินเล่นระหว่างทางไว้ให้จะได้ไม่ต้องหิว แล้วถ้ากินด้วยกันก็จะหาเรื่องคุยกับเธอเพิ่มความสนิทเร็วๆ
แม่โทรมาพอดีเธอเลยคุยนิดหน่อย แม่อยากจะให้ลูกเลี้ยงของแม่มาพักกับเธอที่นี่แทนโรงแรม ซึ่งเธอปฎิเสธไปแม่ก็เลยพาลโกรธหาว่าเธอรังเกียจพี่ชายทั้งที่เขาไม่ใช่พี่ชายด้วยซ้ำ
“คุณหนูหลินครับเสร็จธุระยังเอ่ย?” เอมสังเกตเห็นว่าคุณหนูดูซึมๆไปและนัยน์ตาก็มีประกายคล้ายจะร้องไห้
“เสร็จแล้วค่ะ” เธอหันไปยิ้มให้แล้วเดินตามพี่เขาไป
“พี่ชื่อเอมนะส่วนอีกคนชื่อริวมีอะไรคุยกับพวกพี่หรือเสี่ยได้นะ” อาจจะเป็นเพราะว่าคุณหนูหลินน่ารักมาก แล้วเขาเองก็เอ็นดูเลยนึกเป็นห่วงขึ้นมาที่ซึมไป
“ขอบคุณค่ะพี่เอม...อุ้ย!” ฉันยิ้มออกไปน้ำตาที่กลั้นเอาไว้เลยไหลออกมาจนต้องรีบเช็คแล้วเดินขึ้นรถไป
เอมเห็นเจ้านายตัวเองยังไม่มาเลยเดินไปตามในร้านสะดวกซื้อ ตั้งใจจะบอกเรื่องคุณหนูหลินให้เจ้านายรู้ด้วย
“เสี่ยครับคุณหนูหลินเป็นอะไรไม่รู้ ผมเห็นร้องไห้”
“อะไรนะหลินร้องไห้!” เขาได้ยินแค่นี้ก็รีบเดินไปเลยครับ
รถมีแสงสว่างเข้ามาทำให้เห็นว่าเด็กน้อยของเขาเหมือนจะร้องไห้มาจริงๆ แต่ว่าเพราะอะไรในเมื่อก่อนหน้านี้ยังปรกติดี
“หนูหลินเป็นอะไรครับบอกเสี่ยได้นะ” ผมพูดก่อนจะยกมือโอบไหล่บางดึงเข้ามาชิดตัวด้วยความเป็นห่วงมาก
“หนูเปล่าค่ะ” เธอจะบอกได้ไงในเมื่อเขาเป็นคนนอก
“งั้นกินขนมกับเสี่ยสิจะได้อารมณ์ดีขึ้น เสี่ยซื้อมาเยอะเลยต้องมีสักอย่างที่หนูชอบ”
“ขอบคุณค่ะ ความจริงเสี่ยไทม์ไม่ต้องดูแลหนูขนาดนี้ก็ได้นะคะ แค่ติดรถมาด้วยก็เกรงใจมากแล้ว”
“ถ้าเป็นหนูยังไงเสี่ยต้องดูแลให้ดีสิ อ้าปากเร็วเดี๋ยวป้อน”
“หนูไม่ใช่เด็กๆแล้วนะ หนูกินเองได้ค่ะ” เธอจำเป็นต้องกินขนมตามที่เสี่ยไทม์ต้องการจะได้ไม่ต้องเสียน้ำใจ
ตอนนี้หนูหลินยิ้มออกแล้วแต่เหตุผลที่ทำให้ร้องไห้คืออะไรละ เขาอยากจะรู้จริงๆนะเผื่อจะได้ช่วยบ้าง
“เสี่ยไทม์ชิมอันนี้สิอร่อยนะ” เธอแกะห่อช๊อคโกแลตออกแล้วป้อนเองเพราะภายในรถมองไม่ค่อยเห็นเท่าไร
“อื้ม…อร่อยจริงด้วย” ทำไมมีความสุขจังแค่หนูหลินป้อนช๊อคโกแลตนิดเดียวเอง แล้วรู้สึกว่าถ้าเธอป้อนอะไรมาก็คงจะอร่อยไหมดทุกอย่างแน่นอน แต่อยากกินเด็กมากกว่าขนมนะ
ริวและเอมต่างสบตากันอย่างเป็นนัยโดยไม่ต้องพูดก็รู้ว่าเรื่องอะไร ยิ่งเสี่ยไทม์แสดงออกแบบนี้มันยิ่งชัดเจนมาก
อนาคตเจ้านายกูแพ้ทางเมียชัวร์!
เด็กก็คือเด็กอะนะ พอกินเสร็จไม่นานก็เล่นโซเชียวตามประสาวัยรุ่นทั่วไปซึ่งเขาก็สายตายาวมากพอแอบดูว่าหนูหลินคุยอะไรกับเพื่อนบ้าง แล้วเธอก็มีคนส่งข้อความมาค่อนข้างเยอะ
“หนูหลินทำไมต้องอยู่บ้านคนเดียว?”
“คือว่าพ่อกับแม่แต่งงานใหม่ไปแล้วค่ะ ท่านก็ไม่ได้จะทิ้งหนูนะ แต่ว่าหนูเป็นคนขอมาอยู่คนเดียวเองน่าจะสบายใจกว่า” เธอนึกภาพตอนไปอยู่กับครอบครัวใหม่ของพ่อได้เลยมันอึดอัดจนทนไม่ไหว ส่วนการอยู่กับแม่ก็คงไม่ต่างกันเท่าไร
“มาอยู่กับเสี่ยก็ได้นะถ้าเหงา เสี่ยก็ไม่มีใคร” ไม่จำเป็นต้องเหงาหรอกเขาพร้อมเสมอถ้าเธอมาหา
“เสี่ยไทม์ก็พูดบ้าๆจะให้หนูไปอยู่ในฐานะ รุ่นน้องรึไงคะ?” ก็เสี่ยแก่กว่าเธอหลายปีถึงจะเป็นรุ่นพี่ก็เถอะ
เขาก็ได้แต่อมยิ้มเพราะมันไม่ใช่ฐานะรุ่นน้องหรือรุ่นพี่หรอก แต่ในฐานะเมียคนเดียวต่างหาก เขาหรี่ตามองลูกน้องสองคนที่มันแอบหัวเราะจนแทบสำลักเมื่อรู้ว่าเขาไม่พอใจ
“ง่วงก็นอนเถอะเดี๋ยวถึงโรงแรมเสี่ยจะปลุกเอง” ก็หนูหลินเล่นนั่งโงนเงนไปมาคงจะง่วงมากแล้ว
“งั้นปลุกหนูด้วยนะคะ”
“ซบไหล่เสี่ยดีกว่านะจะได้ไม่เมื่อยคอ” เขาดันหัวหนูหลินให้มาซบไหล่แทนเบาะรถซึ่งก็ยอมเพราะจะหลับแล้ว
“ถ้าเมื่อยบอกหนูได้นะคะ”
ความจริงโรงแรมก็อยู่ไม่ไกลมาก แต่เขาอยากให้หนูหลินไปนอนซบแบบนี้มากเพราะมีไม่กี่ครั้งที่เราจะได้ใกล้ชิดกันขนาดนี้ เขาหันไปก้มหน้าลงแอบหอมแก้มนุ่นที่จ้องมานานแล้ว
“หิวหญ้าอ่อนแล้วเหรอเสี่ย?” ริวอดจะแซวไม่ได้
“เออ” เขาก็ยอมรับตรงๆเลยว่าหิว หนูหลินจะรู้ไหมว่าเขาต้องอดใจไม่ทำเรื่องชั่วๆกับเธอมันยากลำบากขนาดไหน
“หิวมากก็งาบเลยสิครับ จะรออะไรอีกเสี่ย?” เอมพูดแทรกชี้ทางที่เจ้านายที่ไม่ได้นิสัยดีหรือสุภาพบุรุษเลย แต่ดูทรงแล้วไม่น่าจะทำเล่นหลงเด็กขนาดนั้นทั้งที่พึ่งรู้จักกัน
“ไม่เสือกเรื่องกูสักเรื่องเถอะ”
เขาก็อยากจะทำมากกว่านี้แล้วไม่รู้จะห้ามตัวเองได้นานแค่ไหน งานนี้ต้องงัดสารพัดไม้เด็ดมาล่อล่วงให้ได้หนูหลินมาครอง
ใครจะว่าเขาเลวช่างมันเลย
แต่มันมากเกินไปก็ระวังได้กินข้าวผ่านธูปก็พอ
ในที่สุดก็มาถึงโรงแรมกวินดรีมของเขาเอง ที่ได้มาที่นี่เพราะเขาลงทุนลดค่าห้องยี่สิบเปอร์เซ็นไปแลกกับให้หนูหลินมากับเขา จากนั้นก็จัดการให้ห้องของเราอยู่ติดกันเลย
เด็กน้อยใสซื่อน่ารักขนาดนี้จะให้ห่างตัวได้ไง
“เสี่ยจะลักหลับคุณหนูหลินเหรอ?”
ปากไอ้ริวมันน่าเตะสักทีให้เลือดกบ!
“ยัง มึงออกไปได้แล้ว” เขาโคตรรำคาญพวกมันเต็มทีแล้ว แม่งพูดอยู่นั้นแหละไม่รู้ผีตัวไหนเจาะปากมา
พวกมันออกไปเขาก็เดินไปล็อกประตูห้องกันเสือกทันที ไอ้พวกนี้ยิ่งสนิทยิ่งลามปาม! แล้วจากนั้นก็มานอนกอดหนูหลินที่หลับสนิทบนเตียงที่ชมพูอ่อน ดูแบบนี้เธอช่างคล้ายกับเจ้าหญิงในนิทานแสนหวานสักเรื่อง ส่วนเขาก็คงเป็นพระเอกไม่ได้เพราะไม่ได้แสนดีขนาดนั้น แต่จะเป็นตัวร้ายก็ไม่ได้เพราะไม่ยอมยกเธอให้ใครได้ครอบครองหรือแย่งไปเด็ดขาด
รู้จักแค่ไม่กี่วันก็คิดถึงคำว่าตลอดไปแล้ว
เด็กคนนี้มีผลต่อใจมาก
“เสี่ยไม่ปล่อยหนูนานหรอก กลับจากที่นี่เมื่อไรหนูเตรียมตัวมาเป็นเมียเสี่ยได้เลยคนดี เสี่ยจะดูแลให้ดีที่สุดเอง” เขารอวันนั้นจะไม่ไหวแล้วนะ ดังนั้นขอหอมแก้มหน่อยเถอะ
“แก้มหอมจังเลยนะ แล้ว…ตรงนั้นจะหอมเหมือนกันไหมนะ?” แต่ก่อนความคิดชั่วๆจะครอบงำก็รีบล้มตัวลงนอนกอดเด็กน้อยคนนี้แนบแน่น แล้วก็พยายามข่มใจเอาไว้ให้มากที่สุด
“อย่าโกรธเสี่ยเลยนะทูนหัว”
นึกแล้วก็ตลกตัวเองที่เกิดมาตั้งสามสิบปี ผ่านผู้หญิงมาก็ไม่ใช่น้อยๆจนเพื่อนบางคนด่าว่าเป็นเสือผู้หญิง คนรักก็เคยมีมาก่อน แต่พอเป็นเรื่องของหนูหลินกลับไม่มีปัญญาระงับความต้องการตัวเองเลยสักนิด เธอทำให้เขาเสียการควบคุมตั้งแต่วันแรกที่เจอ ยิ่งเมื่อได้สบตายิ่งคล้ายว่าได้หยิบยื่นหัวใจไปให้ แล้วความหวงก็เพิ่มพูนขึ้นมาจนน่าตกใจมาก
เพราะทำให้เขาสูญเสียตัวแบบนี้
ทำไมต้องเป็นเด็กคนนี้ด้วย!
ปลายจมูกค่อยๆเริ่มซุกไซ้อย่างอ่อนโยนและพรมจูบด้วยความต้องการแทบคลั่ง แต่ก่อนจะทำอะไรไปมากกว่าทิ้งรอยสีแดงก่ำก็รีบผละตัวออกมา แล้วรีบเดินหนีไปราวกับว่าเธอคือสิ่งที่น่ากลัวเกินกว่าจะอยู่ใกล้ได้นาน
เขาเดินไปเข้าห้องน้ำก่อนจะถอดกางเกงออก มือหยาบเลื่อนลงไปจับลูกชายที่ตื่นตัวเสียจนแข็งทื่อ แล้วขยับข้อมือเป็นจังหวะเพื่อปลดปล่อยตัวเองจากความต้องการที่มี
“ทรมานตัวเองทำเหี้ยไรวะ!” สถบไปมือก็จับลูกชายชักด้วยจังหวะถี่ยิบพร้อมกับจินตนาการว่ามีเซ็กซ์กับหนูหลิน
หลังจากจัดการตัวเองแล้วก็ล้างมือให้สะอาด เดินออกมาเธอก็หลับสนิทอยู่เสียจนอดจะยิ้มด้วยความเอ็นดูไม่ได้เลย เขาหอมแก้มนุ่มอีกครั้งแล้วเดินออกไปด้วยความเสียดายมาก
ไม่อยากช่วยตัวเองจนเสร็จเลย
อยากให้หนูหลินเป็นคนที่ทำให้น้ำแตกมากกว่า