หลินตื่นมาอีกครั้งด้วยความมึนงงปนสงสัยมาก เธอมานอนที่นี่ได้ยังไง? แล้วตอนนี้คนอื่นอยู่ที่ไหนละ เมื่อคืนเกิดอะไรขึ้นทำไมถึงไม่รู้ว่าตัวเองมาอยู่ที่นี่
นี่เธอหลับลึกขนาดนั้นเลยเหรอ?
ก๊อกๆ ๆ
“ตื่นแล้วแต่งตัวเถอะเร็วเราจะได้ไปทำบุญด้วยกัน” เขารอตั้งนานแหนะกว่าเธอจะตื่น
เธอมองเสี่ยที่เคาะประตูแล้วเปิดเองโดยที่ไม่ต้องมีคีย์การ์ดเลย พอเขาเดินเข้ามาในห้องก็ยิ่ทำให้รู้สึกสงสัยมากกว่าเดิม
“หนูมาอยู่ที่นี่ได้ยังไงคะ?” มากับเสี่ยไทม์ ดังนั้นคนที่ตอบได้คงมีแค่เขาคนเดียวเท่านั้นแหละ
“เสี่ยอุ้มมาเองแหละ เมื่อคืนตอนที่มาถึงที่นี่ หนูหลินดูหลับอร่อยมากซะจนเสี่ยไม่อยากปลุก”
“น่าอายจังเลย งั้นหนูไปอาบน้ำแต่งตัวก่อนนะคะ” แค่รู้ว่าตัวเองทำตัวเป็นภาระคนอื่นก็รู้สึกผิดมากเกินไปแล้ว
นี่ถ้ารู้ว่าเมื่อคืนเขาเกือบจะจับเธอกินแล้วหนูหลินจะหน้าแดงขนาดไหนเนี่ย ลำพังแค่รู้ว่าเขาอุ้มมาก็หน้าแดงรีบวิ่งไปอาบน้ำเลย ไม่คิดเลยว่าคบเด็กมันจะกระชุ่มกระชวยขนาดนี้
เมื่อไรจะรู้ว่าเขาชอบเธอนะ
การทำบุญวันนี้คือการมาเลี้ยงอาหารน้องๆที่บ้านพักเด็กกำพร้าที่ด้อยโอกาสและมอบเงินบริจาคให้ เธอชอบมาทำแบบนี้ให้กับคนที่ด้อยโอกาสกว่าเพราะอย่างน้อยก็ได้ช่วยเหลือ แต่เงินเธอก็ไม่ได้มีมากเลยต้องช่วยได้แค่นิดหน่อย
“ขอพี่ถ่ายรูปด้วยสิหลิน” พี่โชนประธานนักเรียน
“ได้สิค่ะ ยิ้มนะ” เธอขยับตัวเข้าไปใกล้จะได้ไม่หลุดเฟรม
“อ้าวสรุปนี่...คู่จิ้นหรือคู่จริงกันแน่เนี่ย?”
“อาจารย์ก็…พี่โชนเขามีแฟนแล้วนะ แฟนพี่โชนก็รู้จักหนูด้วย” ป่านคือแฟนพี่โชนแต่เป็นการคบแบบไม่เปิดเผย
“จริงเหรอ?”
“จริงครับอาจารย์”
เธอขี้เกียจที่จะตอบคำถามเดิมๆที่คนอื่นพยายามจับคู่เลยไปหยิบนมหลายแพ็คแจกให้น้องๆจะดีกว่า ดูท่าว่าตอนนี้ตัวจริงจะมาแล้ว เธอเลยต้องหลบให้เขาสวีตหวานกันนิดหนึ่ง
“ใครเหรอเมื่อกี้?” เขาเกือบจะเดินไปกระชากไอ้หน้าอ่อนที่บังอาจมาโอบไหล่หนูหลินถ่ายรูป แต่ไอ้ฟอร์มมาห้ามก่อน
“รุ่นพี่ค่ะ เสี่ยไทม์เป็นอะไรรึเปล่าหน้าเครียดจัง”
“เขามาจีบหนูเหรอ?” เขาไม่ไว้ใจใครทั้งนั้น ถ้าหากหนูหลินยังน่ารักอัธยาศัยดีแบบนี้ก็ยิ่งรู้สึกหวงเธอมากขึ้น
“พี่โชนมีแฟนแล้วค่ะ ดูสิแฟนเขามาแล้ว” เธอหลิ่วตาให้เสี่ยไทม์ดูว่าพี่โชนกับป่านสวีตหวานกันแค่ไหน
“ก็ดี แล้วเอามานี่เสี่ยช่วยถือดีกว่า” เขาหยิกนมกล่องสามแพ็คออกจากมือเธอ แล้วเดินตามให้หนูหลินหยิบแจก
ในสายตาเพื่อนและลูกน้องที่มองเสี่ยไทม์ตอนนี้เปลี่ยนไปมาก ใจเย็นและขี้หวงโดยที่หนูหลินไม่รับรู้อะไรเลย ทั้งที่แววตาและการกระทำหลายอย่างก็ชี้ชัดว่ามีใจให้อย่างเปิดเผย
“เหงื่อเยอะจัง หนูเช็คให้” ที่นี่ใช้พัดลมไม่ใช่แอร์อากาศร้อนเป็นธรรมดาของกลางเดือนมีนาคมแบบนี้
“ร้อนมากเลย” เขาก้มให้หนูหลินเช็ดหน้าง่ายขึ้น แต่ก็แอบมองผิวเนียนละเอียดจนแทบไม่เห็นรูขุมขนเลย ก่อนจะโดนจับได้ด้วยสายตาไร้เดียงสาที่จ้องตาตอบกลับมาเหมือนกัน
“อืม…หนูไปเข้าห้องน้ำก่อนนะคะ” เธอเรียกเพื่อนให้มาแจกนมแทนแล้วก็รีบไปเข้าห้องน้ำทันที เมื่อกี้หัวใจเต้นแรงมากจนน่ากลัว เพียงแค่เห็นสายตาเสี่ยไทม์ที่มองด้วยก็รู้สึกแปลกๆ เธอรู้สึกร้อนๆเหมือนเทียนที่ใกล้ไฟจนจะละลายออกมาได้
“ใจเย็นสิหลินเสี่ยไทม์เป็นรุ่นพี่นะ”
“อ้าวหลินเป็นไรหน้าซีดจังเลย”
“เปล่า เค้าปรกติดีแค่อากาศมันร้อนไปหน่อย”
“นึกว่าไม่สาบายซะอีก รอเค้าก่อนนะ”
เธอก็พยักหน้าตอบแล้วก็รอเพื่อนที่เข้าห้องน้ำ นี่เป็นเรื่องปรกติที่โรงเรียนเพราะอยู่แบบนี้อยู่แล้ว ไม่ว่าจะเข้าห้องน้ำ ไปโรงอาหาร หรือทำกิจกรรมอื่นๆก็จะมีเพื่อนไปมาด้วย ในระหว่างรอเพื่อนเข้าห้องน้ำแม่ก็โทรมาหาและน่าจะเป็นเรื่องเดิม
“ค่ะแม่”
[เรื่องพี่ซันว่าไง?]
“หนูให้พักด้วยไม่ได้จริงๆค่ะ”
[หลินรังเกียจพี่เขารึไงถึงให้อยู่ด้วยไม่ได้ ซันไว้ใจได้แม่รับประกัน อย่างน้อยๆเขาก็เป็นเหมือนพี่ชายหลินอีกคนนะ]
“หนูให้พักด้วยไม่ได้ค่ะ ถ้าพี่เขาจะมาเที่ยววันสงกรานต์แล้วมาอยู่บ้านก็ตามใจค่ะ หนูจะไปอยู่กับย่าในช่วงนั้นแทน แล้วถ้าเจอกันก็เจอที่อื่นก็ได้ค่ะ”
[ทำไมดื้ออย่างนี้เนี่ย! นี่พ่อบอกให้พูดแบบนี้ใช่ไหม? แม่บอกว่าไว้ใจได้ก็เชื่อหน่อยสิ หลินไม่ใช่คนดื้อกับแม่เลยนะ นี่ต้องเพราะพ่อแน่เลยที่เป่าหูจนเป็นแบบนี้]
“เปล่าค่ะ หนูคิดเองแค่นี้นะคะ” เมื่อวานก็ทีหนึ่งแล้ววันนี้ก็อีกครั้ง เธอไม่รู้ว่าคิดอะไรกันแน่ถึงให้ลูกเลี้ยงมาอยู่กับเธอหนึ่งเดือนเต็ม แต่ที่ไม่ให้อยู่ด้วยไม่ใช่เพราะรังเกียจอะไรแต่ว่าเธอไม่ได้ไว้ใจผู้ชายที่เคยเจอแค่ชั่วโมงเดียวในวันแต่งงานของแม่
หลังจากจบกิจกรรมหมดทำบุญวันนี้อย่างอบอุ่น ตอนนี้ทุกคนทยอยขึ้นรถเพื่อกลับที่พักและปาร์ตี้นิดหน่อยในคืนนี้ พรุ่งนี้เช้าจะเดินทางกลับในตอนสาย แต่ว่าหนูหลินของเขาอยู่ไหน
“ไอ้ฟอร์มเด็กกูอยู่ไหนวะ?”
“เข้าห้องน้ำมั้งมึงลองไปตามดิ กูต้องดูเด็กคนอื่นก่อน”
“เออ เดี๋ยวกูตามหาเอง” เขาตอบสั้นๆแล้วเดินตามหาทันทีด้วยความเป็นห่วง อยากให้เธออยู่ในระยะที่สายตามองเห็นตลอดเวลาจะได้ไม่คิดมากว่าใครจาแย่ง เขาเดินตามหาจนเจอหนูหลินนั่งบนโต๊ะด้านนอกเงียบๆคนเดียว แต่ว่าสีหน้าดูเศร้าเหมือนมีเรื่องบางอย่างในใจ เขาเดินเข้าไปนั่งข้างๆเพราะไม่อยากให้อยู่คนเดียวในเวลาแบบนี้
เธอเป็นอะไรกันแน่นะ
แค่พูดมาออกมา เขาจะพยายามทำให้รู้สึกดีขึ้น
“เป็นอะไรรึเปล่าหนูหลิน” เขามองเธอตลอดเวลา แต่เธอก็ก้มหน้าตลอดมองพื้นตลอดเวลาเลย
“หนูทำให้รอเหรอคะ แย่จังเลยนะ” เธอสูดลมหายใจเข้าลึกๆเพื่อเรียกกำลังใจ แล้วหันไปยิ้มให้เสี่ยไทม์ที่นั่งข้างๆ
“เหนื่อยไหม?”
“ไม่ค่ะ หนูสบายดี”
“เสี่ยหมายถึงฝืนยิ้มมันเหนื่อยไหม?” เขาเข้าใจดีว่าความรู้สึกแบบนี้มันเป็นยังไง แล้วสายตาของหนูหลินก็บอกได้หมดทุกอย่างว่ากำลังอยู่ในความรู้สึกแย่
“เสี่ยไทม์…”
“เสี่ยบอกแล้วไงมีอะไรก็บอกเสี่ยได้ อยากระบายอะไรก็ระบายกับเสี่ยได้นะไม่ต้องเกรงใจ” นิ้วเรียวเกลี่ยผมที่ทัดหูแล้วยิ้มอ่อนให้หนูหลินเผื่อจะรู้สึกดีขึ้น
ตกหลุมรักอีกแล้วทำไงดีวะ?
“หนูพึ่งทะเลาะกับแม่เรื่องพี่ชายค่ะ แต่ว่าเขาไม่ใช่พี่ชายแท้ๆของหนูหรอก แม่อยากให้เขามาอยู่กับหนูช่วงวันสงกรานต์แต่หนูไม่อยากให้อยู่ด้วย” เธอคุยเรื่องนี้หลายรอบแล้วแต่เหมือนเดิม แถมยังถูกว่าลามไปถึงพ่อและเรื่องไม่ย้ายไปอยู่ต่างประเทศตามที่แม่ต้องการอีกด้วย เรื่องนี้เป็นปัญหาที่ไม่รู้ว่าจะหาทางแก้ไขยังไงในเมื่อมืดบอดหมดเลย
“เอางี้สิ ถ้าเขามาหนูก็มาบ้านเสี่ยก็ได้ เสี่ยดูแลดีมากๆเลยนะ” เอาจริงๆเขาไม่ไว้ใจเหมือนกัน นั่นเป็นพี่ชายปลอมแล้วจะมานอนบ้านผู้หญิงแบบนี้มันไม่ใช่เว้ย
“มาอยู่ในฐานะอะไรก็ได้ เสี่ยรับรองว่าจะดูแลอย่างดี” สถานะเดียวที่จะมอบให้คือเมียเท่านั้น
“ขอบคุณเสี่ยไทม์นะคะ ทำไมใจดีกับหนูจังเลยละ” เธอไม่เข้าใจแล้วก็ไม่อยากคิดไปเองด้วย
“เพราะเสี่ย…ไปกันเถอะ!” เขาอยากจะบอกว่ารักตั้งแต่แรกพบ แต่ว่าก็กลัวว่าโดนปฎิเสธแล้วหนูหลินจะตีตัวออกห่าง
เธอต้องใช้เวลามากกว่านี้เพื่อจะรักเขา
แต่เขาไม่ต้องใช้เวลาเลย