เช้าวันนี้ต่อมาคนไม่ค่อยเล่นน้ำกันมากแล้ว แต่ก็มีควันหลงบ้างซึ่งไม่เป็นอะไรหรอกเพราะเดี๋ยวลูกน้องจะมารับ แปลกจังเลยที่วันนี้หนูหลินตื่นสายมากไม่รู้ว่าไม่สบายอีกรึเปล่า
“หลับสนิทเชียว” เขาแอบเข้ามาอีกแล้ว
“อย่ากวนสิหนูจะนอน” เสียงพูดเบาๆติดจะขัดใจ เขาเลยไม่กล้าจะกวนเพราะเห็นหลับแบบนี้แล้วน่าอุ้มกลับบ้านที่สุด
ทำไมนะหนูหลินถึงใช้คำว่าน่ารักได้สิ้นเปลื่องขนาดนี้
เขาลุกออกไปสั่งอาหารมากินดีกว่าแล้วค่อยมาปลุกทีเดียว เด็กวัยกำลังกินกำลังนอนคงจะชอบแน่นอน แล้วน่าจะสั่งขนมมาให้เพิ่มโดยลืมวุ้นกระทิของโปรดหนูหลิน
เขาเอาใจเธอขนาดนี้ต้องตกหลุมรักบ้างแหละ
อยากเสียตัวให้เด็กแล้ว!
เธอกำลังแพ็คกระเป๋าเตรียมไปอยู่กับคุณย่าครึ่งเดือน แต่เมื่อกี้เสี่ยไทม์เข้ามาทำให้ต้องมาแกล้งนอนหลับ แล้วเธอไม่รู้ว่าเขาเข้ามาได้ยังไงในเมื่อล็อกประตูเอาไว้แล้วนะ แต่โชคดีหน่อยที่เสี่ยไทม์ไม่ทันสังเกตกระเป๋าเดินทางใบใหม่เอี่ยมไม่อย่างนั้นคงรู้แน่ว่าเธอจะไป เธอตั้งใจจะหลบหน้าเสี่ยไทม์สักพักจนกว่าจะเปิดเทอมแล้วค่อยกลับมาเรียน พอถึงตอนนั้นเสี่ยไทม์อาจจะไม่สนใจเธอแล้วไปสนใจคนอื่นแทนก็ได้
“เอาไงต่อดีละเนี่ยหลิน” เธอลุกมานั่งเก็บของต่อจนได้ยินเสียงแตรรถมอเตอร์ไซน์ที่หน้าบ้าน ถ้าให้เดาเสี่ยไทม์คงสั่งอะไรแน่ เธอก็จำเป็นต้องลุกไปดูหน่อยเพราะแค่นี้ก็ผิดปรกติจากที่เธอเป็นเยอะแล้ว
“เสี่ยสั่งอะไรมาเยอะเชียวคะ” เรียกเต็มไม้เต็มมือได้เลย
“อ๋อ อาหารเช้าของเรา” มันก็เป็นพวกผลไม้ข้าวขนมสารพัดนั่นแหละ เขาอยากให้หนูหลินกินอาหารให้ครบห้าหมู่
“ค่ะ งั้นหนูจัดใส่จานให้นะ”
เขาไม่ปล่อยให้หนูหลินทำคนเดียวหรอก เขาก็จัดการพวกผลไม้ใส่จานแช่ในตู้เย็น ถ้ากินข้าวอิ่มจะได้มีของหวานล้างคอ แล้วตอนบ่ายมีงานต้องทำด้วยสิ เขายังไม่อยากไปเพราะอยากอยู่กับหนูหลินมากกว่า อีกแล้วคือเขารู้สึกแปลกๆกับท่าทีแบบนี้ของหนูหลิน คล้ายว่าเธอกำลังหว่านล้อมให้ตายใจ
“เสี่ยต้องไปทำงานตอนบ่ายไปกับเสี่ยนะ” ในเมื่อเขาอยากอยู่แต่ทำไม่ได้ ดังนั้นหาเรื่องเอาหนูหลินไปด้วยเลยดีกว่า
“หนู...หนูปวดหัวค่ะ หนูอยากนอนที่บ้านมากกว่า” รู้สึกผิดนะที่โกหกแต่ทำไงได้ละ เธอจะหลบหน้าเสี่ยไทม์สักพักนี่นา
“งั้นเสี่ยคงคิดถึงหนูแย่เลย”
“หนูหลินคบกับเสี่ยนะ เสี่ยอยากมีสิทธิ์ในตัวหนูมากกว่านี้” เขาจริงจังเรื่องนี้มากนะ ตอนนี้แค่รอหนูหลินตอบเพียงไม่กี่วินาทียังรู้สึกเธอใช้เวลาคิดนานเกินไปเลย
“เอ่อ…หนูขอเวลาคิดค่ะ”
“งั้นเย็นนี้เสี่ยจะมาเอาคำตอบนะ เสี่ยต้องไปแล้ว” นี่ก็ใกล้ถึงเวลาประชุมที่สำคัญ แล้ววันนี้พ่อกับพี่ชายจะมาประชุมด้วยเลยส่งลูกน้องเข้าแทนไม่ได้
“สู้ๆนะคะ หนูเป็นกำลังใจให้นะ” เธอยิ้มหวานให้
โอ๊ย!! ใช้สายตาแบบนี้อีกแล้วนะ นี่หนูหลินจะรู้บ้างไหมว่าเขาแพ้สายตาหวานเชื่อมคู่นี้จนต้องหลบตาอีกแล้ว
อยู่ดีๆก็เขินเด็กมาก
สัตว์เอ้ย! ทีตอนจูบเด็กทำไมกูไม่เขินแบบนี้วะเนี่ย
หลังจากเสี่ยไทม์ไปทำงานแล้วเธอไปขึ้นรถตู้เพื่อไปหาคุณย่าที่ต่างอำเภอและโชคดีจังเลยที่รถยังมีอยู่ เธอไปถึงที่นั่นก็เย็นแล้ว คุณย่าก็รอทานอาหารด้วยพอดี
“ย่าหนูคิดถึงจังเลย” เธอกอดคุณย่าติดจะอ้อนนิดๆ
“กว่าจะมาได้นะเรา แล้วนี้หายป่วยรึยัง?”
“หายแล้วค่ะ หนูจะมาอยู่ให้ย่าเลี้ยงจนถึงเปิดเทอมเลย”
“ไปกินข้าวกัน วันนี้ย่ามีสอนเด็กรำหนูจะไปดูด้วยไหม?”
“ดูสิคะ หนูชอบมาก” เธอกินข้าวไปแล้วก็คุยกับคุณย่าไปเรื่อยๆอย่างมีความสุขและอบอุ่นมาก
นางรำที่มาซ้อมกันแบบนี้เธอเห็นบ่อยมาก คุณย่าก็จะเข้มงวดกับเรื่องนี้ตลอด เวลาสอนเธอเองยังกลัวเลย แต่พอสอนจบแล้วคุณย่าใจดีตลอดนั่นทำให้ทุกคนรัก
แต่ว่าโทรศัพท์ที่สั่นไม่หยุดมาสักพักแล้ว บ่งบอกได้ว่าคนโทรมาต้องเป็นเสี่ยไทม์แน่เพราะเธอเล่นหนีมาแบบไม่บอกกล่าวเลยสักคำเพราะกลัวเขาจะห้าม เธอยังไม่พร้อมให้คำตอบเสี่ยไทม์ในเรื่องขอคบด้วย ตอนนี้เธอยังกลัวเสี่ยไทม์อยู่เลยนะ
“เป็นอะไรลูกแล้วใครโทรมาทำไมไม่รับ?”
“คอลเซ็นเตอร์ค่ะ คงโทรมาขายของ”
เซอร์ไพรส์มาก! เขามารับหนูหลินไปที่บ้านแต่ไม่เจอใครเลย แถมบ้านยังปิดล็อกกลอนอย่างดีแค่นี้ก็รู้แล้วว่าไม่อยู่นานหลายวัน พอโทรหาก็ไม่รับทั้งที่จะสิบสายแล้วนะ
“เสี่ยครับใจเย็นๆก่อน”
เขาแค่จะปืนเข้าบ้านแต่ว่าลูกน้องมาห้ามไว้ไม่รู้มันกลัวอะไร คนแถมนี้ก็น่าจะเหนว่าเขามาที่นี่บ่อยๆ แล้วอีกอย่างบ้านใกล้ๆก็ไม่มีคนอยู่เพราะกลับไปบ้านกันหมด ดังนั้นไม่มีใครมาสนใจหรอกนอกจากลูกน้องสองคนนี่แหละ
“กลับก็ได้วะ! คืนนี้พ่อกับพี่กูค้างที่นี่ด้วยนะ” เขาอารมณ์เสียจนอยากจะไปหาหนูหลินให้เจอ แต่บ้านย่าหนูหลินอยู่ไหนใครจะรู้ละ นี่เขาต้องรอเธอกลับมาจริงๆใช่ไหม
เขาขับเฟอรารี่ไปที่บ้านทันที ป่านนี้พี่ชายคงเตรียมเหล้ามารอแล้วมั้ง แต่ก็ดีกินให้เมาจนลืมหนูหลินไปเลย
เด็กอะไรดื้อขนาดนี้
“ไงไทม์ไปไหนมาวะ” ไกด์ทักน้องชายที่หน้าบึงตึง
“มึงอย่าเสือกได้ปะ!” เขาหยิบเหล้ายกมาดื่มแทน
“เป็นเหี้ยอะไรของมึง กูถามดีๆทำไมอารมณ์เสียวะ”
“มึงแดกไปอย่ามาเสือกเรื่องของกู”
เอมขับรถตามมาทีหลังเห็นว่าเสี่ยไทม์กำลังพาลใส่ทุกคนเพราะหงุดหงิดเรื่องคุณหนูหลิน ขนาดพี่ชายกับพ่อยังไม่เว้นมีเหรอลูกน้องอย่างพวกเขาไม่โดน แล้วนี่คุณหนูหลินไปไหนแล้วนะ รู้ไหมว่าตอนนี้สถานการณ์ย่ำแย่ขนาดไหน
“คุณไกด์อย่าพึ่งกวนเสี่ยเลยครับ” เอมได้แค่พูดเตือนเพราะรู้ว่าพี่ชายเสี่ยว่าใจเย็นกว่าแล้วก็มีเหตุผลมากกว่า
“ดูนายมึงด้วย มันจะเมาหัวทิ่มก่อนแล้ว”
เขายังคงพยายามโทรหาหนูหลินเป็นสายที่ร้อยได้แล้วมั้ง ยิ่งตอนนี้กินเหล้าเข้าไปก็ยิ่งคิดถึงมากจนอยากจะไปหา แต่เธอตั้วใจหนีเขาไปแล้วเว้ย แม่งยิ่งคิดถึงยิ่งโคตรเศร้าเลย
“ไอ้ไกด์กูจะเอาไงดีวะ?” ไม่รู้ว่าเพราะเหล้าที่ชงจนเข้มแล้วเมา หรือคิดแต่เรื่องหนูหลินกันแน่ถึงได้ปรึกษาพี่ชายแบบนี้
“อะไรของมึงอีกห่ะไทม์ เล่ามากูจะได้แนะนำถูก” ใครทำอะไรน้องกูเป็นขนาดนี้วะเนี่ย ดูยกเหล้าเอาอย่างเดียวถ้าไม่อกหักก็คงผิดหวังมากๆ
ใครทำน้องกูเป็นแบบนี้วะแม่งโคตรเก่งเลย
สงสารแต่จะช่วยยังไงดีละ?
“กูรักเด็ก กูอยากได้เขามากๆให้กูทำไงดีวะ กูต้องฉุดไหมถึงจะได้มาเป็นเมีย”
“มึงใจเย็นๆก่อนไอ้ไทม์ มึงให้เวลาน้องเขาบ้าง บางทีเขาอาจจะชอบมึงเหมือนกันแต่ว่า…”
“เย็นเหี้ยอะไรวะ! เขาหนีกูไปแล้ว!! เขาทิ้งกูแล้ว!!”
และแล้วก็ถึงวันที่เธอต้องไปเผชิญโลกความเป็นจริงหลังจากหลบหน้าเสี่ยไทม์มาสามอาทิตย์เต็มๆ ฉันนั่นพี่วินเจ้าประจำมาจนถึงซอยเข้าบ้านก็ต้องรีบบอกให้พี่วินจอดด่วน
“หนูจะลงตรงนี้จริงเหรอลุงเป็นห่วงนะ”
“ค่ะ คือว่าหนู...จะแวะกินข้าวก่อนค่ะ” เธอมองไปเห็นร้านค้าตรงข้ามถนมอีกที
“งั้นมาขึ้นรถเดี๋ยวลุงขับไปส่ง เดินข้ามเองทันอันตราย”
“ขอบคุณค่ะ” เธอก็นั่งรถออกจากซอยทันทีแล้วมานั่งร้านอาหารที่น่าจะเปิดใหม่ ตอนนี้โทรศัพท์ในกระเป๋าสั่นไม่หยุด
“เสี่ยไทม์อีกแล้ว” เธอไม่ได้กดวางสาย แต่ก็ไม่ได้กดรับเพราะปล่อยให้มันดับไปเอง
“ให้ป่านมารับดีกว่า ยังไงตอนนี้ก็เข้าบ้านไม่ได้อยู่แล้ว” เพราะเมื่อกี้เธอเห็นรถเบนซ์สีดำของเสี่ยไทม์จอดหน้าบ้านอยู่ เห็นทีว่าคงต้องรอดึกๆถึงได้กลับมาอีกที
จะว่าไปแล้วการหลบหน้าใครสักคนก็ยากเหมือนกันนะเนี่ย ทุกวันเสี่ยไทม์จะโทรเกือบทุกชั่วโมงเลย เธอก็ตัดใจไม่รับสายจนเมื่อนาทีที่แล้วเสี่ยก็ยังโทรมาอีกครั้ง
จนถึงตอนนี้รถเบนซ์สีดำของเสี่ยไทม์ยังไม่ขับออกมาเลย เธอก็นั่งกินข้าวไปและแอบมองไปเงียบๆด้วยความหวั่นใจ
หวังว่าเสี่ยไทม์จะตัดใจจากเธอนะ
นี่มันเกิดอะไรขึ้นกับชีวิตเขาวะ ตอนแรกก็หนูหลินก็ดีแสนดีมากเลย แต่พอเขารุกหนักขึ้นก็หนีไปแบบนี้มันได้ด้วยเหรอวะ เขามีแต่คนอยากได้เป็นผัวนะ ทำไมหนูหลินไม่อยากได้บ้างละ
แล้วตอนนี้เขาคลั่งมากแล้วด้วย เขาอยากเจอหน้า อยากกอด อยากจูบ อยากหอม อยากทำอะไรที่มากกว่านี้เพื่อทำให้เธอเป็นของไม่หนีไปไหน อยากให้เธอรักเขาสักที
เขาอยากเป็นเจ้าของหนูหลินทั้งตัวทั้งใจ!!
“เสี่ยครับจะทุ่มหนึ่งแล้วคุณหนูหลินคงยังไม่มาเลย” ริวพึ่งกลับมาก็รู้เรื่องและเผชิญความบ้าคลั่งชนิดที่วิ่งหนีไม่ทัน
เมื่อไรคุณหนูหลินจะกลับมาสักที
“กลับ! พรุ่งนี้เอมไปรับไอ้ฟอร์มมา กูต้องพึ่งมันแล้ว” ในเมื่อมาเจอดีๆไม่ได้ก็ต้องใช้เทคนิคมารแล้วแหละ
“แต่ว่าคุณฟอร์มอาจจะไม่มานะครับเสี่ย” เอมพอจะรู้ว่าเพื่อนเสี่ยคนนี้ก็ไม่ธรรมดาเลยเหมือนกัน แต่ก็เป็นคนดีมากกว่าเจ้านายของเขาหลายขุมเลย
“ถ้ามันยากมากก็ทุบหัวลากมันมา!” เขาไม่ใจสนอะไรแล้ว เพื่อนก็ช่างแม่งเถอะตอนนี้หนูหลินสำคัญที่สุด
“ครับเสี่ย” เอมมองหน้าริวอย่างคิดไม่ตกกับคำสั่งสุดแสนเอาแต่ใจแบบนี้ของเจ้านาย แต่จะให้ขัดก็ไม่ได้เพราะเสี่ยจะอารมณ์เสียจนไล่กระทืบลูกน้องเล่นแทน
ยังไงซะเขาก็ต้องได้เจอหนูหลินเร็วๆนี้ให้ได้ เขาต้องเคลียร์ทุกอย่างให้จบแบบสวยงามโดยเฉพาะการขอคบเป็นแฟนที่เขาอยากรู้มาก ถ้าไม่ยอมเป็นแฟนคงต้องบังคับให้เป็นเมียแทน
คิดว่าหนูหลินจะยอมเป็นแฟนหรือเป็นเมียละ
เธอมีทางเลือกแค่นี้
เวลาสองทุ่มกว่าๆหลินกลับมาถึงบ้านอย่างปลอดภัยถึงแม้จะเพื่อนบ่นนิดๆที่เธอกลับช้ากว่าที่บอก แล้วนี่อีกสามวันจะเปิดเทอมแล้วเธออยากให้ถึงเร็วๆจังเลย
“เอ๊ะ! ใครเอาอะไรมาติด” ประตูบ้านมีกระดาษโน๊ตติดไว้อยู่ คนติดต้องปืนข้ามประตูหน้าบ้านเข้ามาแน่เลย!!
‘รอคำตอบอยู่นะ’
เธออ่านไปเท่านั้นก็รู้เลยว่าคนที่ปืนประตูเข้ามาติดโน๊ตแผ่นนี้คือใคร แต่เธอไม่ได้ทิ้งแต่คิดทับไว้ที่เดิมเพื่อเสี่ยไทม์จะได้คิดว่าเธอยังไม่กลับมาบ้าน
“พรุ่งนี้จะหลบยังไงดีนะ” เธอยังคิดไม่ออกว่าจะซ่อนตัวจากสายตาเสี่ยไทม์ยังไงในเมื่อเขาออกจะฉลาดขนาดนั้น
เสี่ยโทรมาอีกแล้ว! เธอไม่ได้รับแต่นั่งมองสลับกับโทรทัศน์จนสายวางไปเองแล้วก็โทรมาใหม่อีกครั้งเป็นสิบกว่าสาย
“หลินขอโทษนะแต่ว่าเราไม่เหมาะสมกันหรอก” พอมีเวลาได้คิดถึงความแตกต่างของเธอกับเสี่ยไทม์ว่ามากขนาดไหน
ความแตกต่างอย่างแรกและเห็นชัดที่สุดคืออายุ สังคมและนิสัย เธอเรียกได้ว่าต่างกันทุกอย่าง ส่วนเรื่องฐานะเธอกไม่รู้เหมือนกันว่าต่างมากรึเปล่า แต่ดูโดยรวมแล้วไม่มีทางที่เราจะไปกันรอดเลย ดังนั้นให้จบแบบนี้น่าจะดีที่สุดแล้ว
“ขอโทษนะที่หนูเลือกปกป้องหัวใจตัวเอง” แล้วอีกอย่างคือเธอกลัวจะเสียใจ กลัวว่าเราจะทำร้ายกันเอง กลัวที่จะต้องทะเลาะและด่าทอจนมองหน้าไม่ติด เธอกลัวจะพังเหมือนชีวิตของคู่พ่อแม่ที่ไม่สามารถมองหน้ากันติดหรือพูดคุยกันดีๆได้ นี่อาจเป็นสิ่งที่ทำให้เธอกลัวความรักมากจนถึงทุกวันนี้
เธอยอมรับเลยนะว่าเสี่ยไทม์คือคนที่ทำให้รู้สึกดีมาก เธอรู้สึกปลอดภัยและอบอุ่นทุกครั้งที่อยู่ใกล้เสี่ยไทม์ แต่กลับมีเหตุการณ์ให้เธอต้องคิดใหม่ว่าเสี่ยไทม์มีอีกมุมที่ไม่รู้จัก
สักวันหนึ่งเขาอาจจะเปลี่ยนไปเป็นคนไม่รู้จัก
เธอจะต้องโดยทิ้งอีกครั้ง
เช้านี้เขามีแขกคนสำคัญมาหาตามที่ต้องการ เขาส่งไอ้เอมไปเชิญเพื่อนมาหาถึงบ้านเพราะเรื่องเดียวที่ทำให้เขากินไม่ได้นอนไม่หลับแบบนี้ แล้วมันคือคนเดียวที่ช่วยได้ง่ายที่สุด
“มึงว่ามาเลย ช่วงนี้กูยุ่งอยู่มันใกล้เปิดเทอมแล้ว” เขายุ่งจริงๆเพราะยังเตรียมอะไรหลายอย่างแทบไม่ทัน
ไอ้ฟอร์มอารมณ์เสียนิดๆแต่ช่างดิเขาไม่แคร์
“เรื่องเด็กน้อยของกู ตอนนี้กูติดต่อไม่ได้เลย ไปหาที่บ้านก็ไม่อยู่ เรื่องนี้มึงต้องช่วยกู”
“กูก็นึกว่าเรื่องอะไร! อีกสองวันก็จะเปิดเทอมแล้วเดี๋ยววันศุกร์จะเลือกประธานนักเรียนคนใหม่ วันนั้นจะมีการประกวดดาวเดือนโรงเรียนด้วย หนูหลินน่าจะอยู่ทั้งวัน” การที่เพื่อนมีความรักแม่งก็ลำบากตลอด แล้วแบบนี้เด็กนักเรียนจะนับถืออยู่ไหมถ้ารู้ว่าอาจารย์ที่เคารพรู้เห็นเป็นใจทุกอย่างตั้งแต่ต้น
“งั้นกูจะไปวันศุกร์ทีเดียวแล้วกัน” เขาคิดว่าถ้าไปช่วงเปิดเทอมใหม่ๆหนูหลินอาจจะหาเรื่องหลบหน้าอีกแน่นอน
“กูถามหน่อยไอ้ไทม์ เรื่องนี้มึงจริงจังใช่ไหม?”
“เออดิ! ถ้าไม่จริงจังกูจะลงทุนลากมึงมาช่วยเหรอไอ้สัตว์!”
“งั้นกูก็ดีใจ กูกลับก่อนตอนบ่ายมีประชุม”
“กลับเองนะกูไม่ส่ง!”
“ไอ้เชี้ยไทม์มึงลากกูมาใช้งานจบแล้วเชดหัวกูทิ้งนี้นะ!”
“เดี๋ยวกูให้ไอ้เอม มันน่าจะอยู่หน้าบ้านมึงไปบอกมันเองแล้วกันกูจะทำงานต่อ”
“กูไม่น่ามีเพื่อนอย่างมึงเลยไอ้สัตว์!”
“สมน้ำหน้า!”