“หนูกลัวแล้ว…อย่าทำอะไรหนูเลยนะเสี่ยไทม์” เธอไม่มีแรงจะขัดขืนได้เลย ความรู้สึกหวาบหวามที่แทรกซึมเข้ามาจนเธออ่อนแรงจะต้านทานได้ไหวแต่ก็ยังกลัวมากอยู่ดี
“พูดมาว่าหนูเป็นของใคร?” ตอนนี้ลองถ้าพูดว่าไม่ใช่สิเขาต่อให้ขืนใจก็จะยอมทำ
“เป็น…เป็น…ของเสี่ยไทม์” เธอพูดอย่างกล้าๆกลัวๆออกมาด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา
“พูดชัดๆ” เขาได้ยินแต่มันเป็นเสียงที่ไม่แน่ใจเอาซะเลยถึงอยากฟังอีกครั้งให้เต็มสองหู
“หนูเป็นของเสี่ยไทม์ค่ะ” เธอพูดดังขึ้นไม่ติดขัดเหมือนตอนแรก ยอมรับเลยว่าตอนนี้กลัวมากกว่าเดิม ยิ่งลมหายใจอุ่นของเสี่ยไทม์รดต้นคออยู่ยิ่งน่ากลัวเข้าไปใหญ่
“ดีมากทูนหัวของเสี่ย” เขายอมปล่อยมือแล้วลุกออกจากตัวหนูหลินด้วยความเสียดายมาก
“หนูอยากกลับบ้าน” เธอพยายามกลั้นน้ำตาให้มากที่สุด
“ตอนบ่ายเสี่ยจะไปส่งเอง” เขาต้องปรับความเข้าใจกับหนูหลินก่อน ตอนนี้เธอกลัวเขามากจนจะร้องไห้แล้ว
“ไม่เอาหนูอยากกลับตอนนี้!” เธอไม่ไว้ใจอะไรทั้งนั้นแล้ว ตอนนี้น้ำตาที่กลั้นไว้ก็ใกล้ไหลเต็มที
“อย่าร้อง! เสี่ยบอกแล้วใช่ไหมว่ารักหนู ดังนั้นเสี่ยจะหวงหนูก็ไม่แปลก รู้ไหมว่าเสี่ยเป็นคนขี้หวงขี้หึงมากกว่าที่หนูคิดเยอะ” เขาหวงมากขึ้นทุกวันต่อให้หนูหลินไม่รู้สึกตัวก็ตาม
“แต่เมื่อกี้เสี่ยไทม์น่ากลัว” เธอยังไม่กล้าวางใจเขา
“ใช่ แต่ทุกอย่างที่มันเป็นไปแบบนั้นเพราะเสี่ยหึงหวงมากไปหน่อย” ถึงความจริงมันจะไม่หน่อยอย่างที่บอกก็เถอะนะ
“หนูกลัว…” อันนี้คือเรื่องจริงที่สุด ปรกติไม่เคยตบใครด้วยซ้ำแต่กับเสี่ยไทม์ที่เธอทั้งโกรธทั้งกลัวจนทำอะไรรุนแรงออกไป
“เดี๋ยวก็ชินเองแหละ หนูล้างหน้านอนพักก่อน ตัวเริ่มร้อนแล้วนะ” เขาก็ลืมไปว่าหนูหลินยังไม่สบายอยู่ถึงจะดีขึ้นก็เถอะ
เธอนอนลงอย่างที่เสี่ยไทม์บอกเพราะก็เริ่มปวดหัวแล้วเหมือนกัน แต่ก็ยังดีที่เสี่ยไทม์เดินไปหยิบยามาให้พร้อมกับน้ำอีกขวดก่อนจะลูบหัวเธอเบาๆแล้วเดินออกไป
“เสี่ยไม่กวนแล้วพักผ่อนเยอะๆนะ” เขามองหนูหลินก่อนจะตัดใจเดินออกมาเพื่อให้หนูหลินได้นอนพักยาวๆ ขืนถ้านั่งเฝ้าแบบนี้คงหลับไม่ลงเพราะกลัวมากแน่ๆ
ตอนแรกเขาโมโหมากที่เห็นไอ้ริวกอดหนูหลินแบบนั้นจนไม่ฟังเหตุผลอะไรทั้งนั้น แล้วก็มาโกรธที่หนูหลินพูดเหมือนว่าไม่รู้ว่าเขารู้สึกอะไรออกมา พอดึงมาจูบความโกรธที่มีก็เริ่มจางลงไปก่อนจะจูบซ้ำเพื่อย้ำชัดถึงรสชาติอ่อนหวานและความไร้เดียงสาที่โต้ตอบยังไม่เป็น เธอทำให้เคลิ้มจนมาได้สติตอนโดนตบ
หรือเขาจะหลงเด็กนะ
“เสี่ยครับคือว่ามันไม่มีอะไรจริงๆนะ” ริวเดินกลับเข้ามาในบ้านหลังทำแผลเสร็จแล้ว เขาเองก็ไม่มีทางเลือกเพราะถ้าผลักคุณหนูหลินจนล้มเสี่ยก็โกรธอีก แต่จะปล่อยให้ลูกมะม่วงร่วงใส่หัวคุณหนูหลินจนเจ็บแล้วเสี่ยก็ต้องโกรธเหมือนกัน หรือดึงคุณหนูหลินออกมาเสี่ยก็โกรธเหมือนเดิม แต่ที่เพิ่มเติมคือหมัดหนักมากเพราะหึงแบบไม่สนใจเหตุผลเลย
“กูสั่งแล้วใช่ไหมว่าหนูหลินเป็นของใคร” เขาสั่งมันแล้วตอนจัดการไอ้เอมเมื่อวันก่อน
“เสี่ยครับมันเป็นอุบัติเหตุจริงๆนะ ผมไม่ได้ตั้งใจ” ลูกน้องอย่างเขารู้ว่าเสี่ยน่ะเข้าใจเรื่องนี้ แต่ครั้งนี้เสี่ยหึงหวงคุณหนูหลินหนักมากจนน่ากลัว
“อย่าให้มีอีกครั้งเด็ดขาด มึงจำไว้ว่าคนของกูใครก็ห้ามแตะต้อง” เขาบอกด้วยน้ำเสียงนิ่งแล้วมองหน้าลูกน้องที่หลบตา
“ครับเสี่ย แล้วเอ่อ…คุณหนูหลินเป็นยังไงบ้าง?” ถึงจะรู้ว่าเสี่ยไม่ทำร้ายคุณหนูหลินให้เจ็บตัวแน่นอน แต่คุณหนูไม่เคยเห็นเสี่ยไทม์ในมุมนี้มาก่อนเลยอาจจะกลัวมากก็ได้ แล้วทีนี้ถ้าเสี่ยไทม์รอคุณหนูหลินนานเกินไปปัญหาก็จะมาตกที่ลูกน้องที่คอยรองรับอารมณ์สลับกับมือกับตีนที่โดนบ่อยๆ
ปรกติเสี่ยไทม์แม่งก็ไบโพล่าอยู่แล้ว
พอมีความรักอาการเลยหนักกว่าเดิมหลายเท่าเลย
“อย่าเสือก!”
หลินตื่นมาก็บ่ายกว่าแล้ว เพียงแค่เห็นเสี่ยไทม์มานั่งข้างเตียงเธอก็สะดุ้งจนขยับตัวหนีแทบไม่ทันด้วยความกลัว
“เสี่ยกำลังจะปลุกพอดี” เขาไม่ได้ตั้งใจจะกวนเลยนะ
“กลับบ้านได้แล้วใช่ไหมคะ?” เธอเตรียมทุกอย่างรอตั้งแต่ก่อนจะมีเรื่องแล้ว เลยถามออกไปเพื่อความแน่ใจ
“บ้านมันไม่หนีไปไหนหรอก หรือหนูอยากหนีจากเสี่ยไป” เขาไม่เข้าใจเลยว่าจะอยากกลับอะไรหนักหนา ในเมื่อที่นี่ก็บ้านเหมือนกันแถมร่มรื่นกว่าในเมืองตั้งเยอะ
“หนูปล่อยบ้านนานจะไม่ดีค่ะ” เธอหาข้ออ้างจนได้
“ก็ได้ ไปล้างหน้าให้สดชื่นก่อนเสี่ยจะไปส่งเอง” เขาไม่ใช่แค่ส่งเพราะจะไปนอนค้างด้วยอีกต่างหาก
เธอพยักหน้าอย่างดีใจแล้วลุกขึ้นไปที่ห้องน้ำ ในที่สุดก็จะได้กลับบ้านแล้ว! เธอคิดว่าจะหลบหน้าเสี่ยไทม์สักพักโดยการไปอยู่บ้านคุณย่าสักสองอาทิตย์แล้วค่อยกลับมาที่บ้านเพื่อเตรียมตัวรับเปิดเทอมในช่วงกลางเดือนพฤษภาคม
เอมมาขับรถวันนี้แทนไอ้ริวที่เขาส่งไปเช็คงานที่โกดังแทนและอีกสองสามวันน่าจะได้กลับ งานตรงนั้นยุ่งพอสมควรและนี่มันคือการลงโทษที่สมเหตุสมผลที่สุดแล้ว
“แล้วเสี่ยจะกลับตอนไหนเหรอคะ?” เสี่ยไทม์ไม่กลับสักที เธอนัดเพื่อนไว้ตอนเย็นนี่ก็ใกล้เวลาแล้ว
“ทำไม หนูจะไปไหนเหรอ?” มองแบบไม่ต้องใช้สมองก็รู้ว่าจะออกไปข้างนอกแน่ แต่ติดตรงที่เขาอยู่ตรงนี้
“หนูนัดเพื่อนกินหมูกระทะกันเย็นนี้”
“เอาสิเสี่ยไปด้วย เดี๋ยวเสี่ยเลี้ยงเอง” ไม่อยากให้หนูหลินคลาดสายตาแม้แต่นาทีเดียวเลยเพราะเธอยังกลัวเขาอยู่
“แต่ว่าหนูกลับดึกนะคะ” เธอเกรงใจมาก
“ไม่เป็นไร คืนนี้เสี่ยจะนอนกับหนู โอเคนะห้ามปฎิเสธ”
สุดท้ายเธอก็มากินหมูกระทะกับเพื่อนจนได้ ซึ่งป่านมากับพี่โชนที่คบกันมานานแต่ไปไหนมาไหนตามลำพังไม่ค่อยได้นอกจากจะเอาเธอไปด้วย เพราะงั้นทุกครั้งเธอก็จะมาเป็นก้างขว้างคอเพื่อนตามระเบียบ
“อ้าว! สวัสดีค่ะเสี่ยไทม์”
“เต็มที่เลยนะวันนี้เสี่ยเลี้ยงเอง” เขายิ้มอ่อนให้เพื่อนหนูหลินที่ควงแฟนมาด้วย
“ไงหลินจะไม่อัปเดตให้ฟังหน่อยเหรอ?”
“ทุกอย่างก็เหมือนเดิมแหละ” จะให้เธอพูดอะไรได้ในเมื่อเสี่ยไทม์ก็นั่งข้างๆกันนี่เอง
ไม่รู้ว่านี่เขาย้อนวัยรึเปล่า ตอนนี้เหมือนผู้ปกครองเด็กเลยแล้วช่วงเทศกาลคนก็เยอะมากด้วย นั่นเลยมีสายตาหลายคู่ที่แอบมองหนูหลินจนอยากจะเดินไปชกหน้ามันสักที
“อื้ม! หลินเค้าได้ข่าวว่าเทอมหน้าพี่คริสจะมาสอนภาษาพวกเราด้วยนะ ไม่น่าเชื่อเลย”
“ก็ช่างเขาสิ! เค้าไม่อยากพูดถึงเท่าไร” พี่คริสคือรุ่นพี่ที่เคยจีบเธอ แต่ว่าเธอไม่ได้ชอบขนาดจะรักได้เลยปฎิเสธไป
นั่นทำให้หลายคนมองว่าเธอใจร้าย
“เฮ้อ…สงสารพี่คริสจังมารักคนไม่มีหัวใจแบบหลิน”
“ใครเหรอเสี่ยอยากรู้จัก?” พอได้ยินแล้วมันจี๊ดเลย ไอ้นี่มันต้องชอบหนูหลินของเขาแน่ถึงได้พูดกันแบบนี้ แต่เท่าที่ฟังแล้วหนูหลินก็ไม่ได้รักหรือชอบมันด้วยซ้ำถึงไม่ใส่ใจ
“รุ่นพี่ค่ะ ไม่มีอะไรหรอกเสี่ยไทม์กินต่อสิเนื้อจะไหม้แล้วนะ” เธอมองค้อนเพื่อนที่ช่างพูดไม่ดูเวลาเลย แล้วดูหน้าเสี่ยไทม์ตอนนี้สิ ถ้ากลับบ้านไปคงสอบสวนเธอแน่นอน
หลังจากกินหมูกระทะจนอิ่มก็กลับมาบ้านทันที เขาอาบน้ำเสร็จแล้วกำลังนั่งรอหนูหลินที่อาบน้ำอยู่ นี่เขาควรจะเอาไงดีกับความสวยใสจนใครๆก็พากันชอบหมดแบบนี้นะ แล้วเขามันเป็นคนประเภทหึงหวงจนหน้ามืดเสียด้วยสิ ลองถ้ามีคนมาจีบหนูหลินแล้วเขารู้ได้ตามไปกระทืบแน่
“เสี่ยไทม์จะนอนเลยไหมคะ?” เธอแต่งตัวในห้องน้ำเสร็จแล้ว ตอนนี้แค่มานั่งไดร์ผมให้แห้งเท่านั้นเอง
“สระผมดึกๆเดี๋ยวไข้กลับหรอกหนูหลิน”
“ก็เหม็นหัวหนูเลยทนไม่ไหวจริงๆ” กินหมูกระทะแล้วควันติดตามตัวตามผมจนเหม็นมากๆ เธอทนไม่ไหวหรอก
เขาเดินไปใกล้แล้วหอมแก้มหนูหลินหนักๆเพื่อพิสูจน์ดูว่าเหม็นจริงรึเปล่า แต่อยู่ดีๆจมูกมันเพี้ยนต้องหอมซ้ำใหม่อีกครั้งก็ไม่เหม็น ตัวเธอออกจะหอมมากๆขนาดนี้
“เสี่ยไทม์ลวนลามหนูอีกแล้วนะ!” เมื่อเช้าก็จูบแล้วตอนนี้มาหอมแก้มกันอีก เสี่ยไทม์ไว้ใจไม่ได้เลย
“เสี่ยแค่พิสูจน์ว่าเหม็นรึเปล่า รู้ไหมแก้มหนูหอมมากเลยนะ” เขายืนขึ้นแล้วแย่งไดร์เป่าผมกับหวีมาจากมือเล็ก
“อย่ามากวนสิคะ”
“เสี่ยเปล่ากวนนะ เสี่ยแค่จะทำให้แค่นั้นเอง” เขาเปิดลมไม่ร้อนมากแล้วเป่าไปช้าๆ อันที่จริงเขาก็ไม่เคยทำแบบนี้ให้ใครเลย นี่เป็นครั้งแรกที่ทำให้แบบเต็มใจมาก
“ทำไมใจดีกับหนูจังคะ?” เธอเริ่มสับสนกับความรู้สึกตัวเอง ตอนนี้ใจเต้นแรงมากจนกลัวว่าเสี่ยไทม์จะได้ยินเสียง
“ก็เสี่ยรักหนูไง เหตุผลง่ายๆที่เสี่ยทำให้หนูได้ทุกอย่าง” เขาอยากให้หนูหลินซึมซับความรักของเข้าไปจัง ตอนนี้อาจจะแค่เริ่มหวั่นไหวอยู่เลยต้องพยายามยิ่งขึ้นที่จะได้ใจหนูหลิน
“เสี่ยไทม์เคยมีแฟนไหมคะ?” ไม่รู้เหมือนกันทำไมถึงถาม
“เคยมีสิ เสี่ยน่ะฮอตมากนะรู้ไหม แต่ตอนนี้เสี่ยมีแค่หนูคนเดียว” เอาง่ายๆเลยนะตั้งแต่เจอหนูหลินสองตาก็ไม่สนใจใคร ต่อให้ไปเที่ยวในผับบาร์ที่มีสาวสวยๆก็ไม่สนใจ เขาคิดถึงแค่หนูหลินคนเดียวจนตอนนี้ไอ้ฟอร์มกับไอ้พีมันล่อบ่อยๆ
“เสี่ยไทม์น่ะปากหวาน” เธอได้ฟังยังดีใจเลย ลองถ้าไปพูดแบบนี้กับคนอื่นสิมีเหรอจะไม่หลงคารมแน่นอน
“หนูจะชิมอีกก็ได้นะ” ปากหนูหลินก็หวานไม่แพ้กันเลย
“ไม่เอาหรอก เสี่ยไทม์นอนห้องโน้นนะ” เธอชี้ไปห้องว่างที่ใช้งานบ่อยเพราะป่านชอบมาค้างด้วยแล้วนอนห้องนั้นตลอด
“ฝันดีครับ อย่าลืมฝันถึงเสี่ยด้วยนะ” เขาพูดจบก็หอมแก้มนุ่นๆอีกฟอดก่อนจะลุกไปปิดประตูหน้าบ้านให้
เธอรีบวิ่งกลับมาที่ห้องนอนทันที ตอนนี้หัวใจเต้นแรงจนแทบจะกระเด็นออกมาได้แล้วนะ เสี่ยไทม์หอมแก้มตลอดทุกครั้งที่มีโอกาสเลย เธอรีบกดล็อกประตูก่อนจะมานอนนับแกะให้หลับเร็วๆมากขึ้นกว่าเดิม
“โอ๊ย! ทำไมใจเต้นแรงแบบนี้นะ” เธอปิดไฟนอนสักพักแล้ว แต่จะพลิกซ้ายพลิกขวาเท่าไรก็ไม่หลับเลย
เสี่ยไทม์เป็นต้นเหตุทำให้เธอเป็นแบบนี้
เสี่ยไทม์คนบ้า!