ตอนที่ 11

1608 คำ
“แล้ววันนี้หนูจะไปเที่ยวที่ไหนอีกรึเปล่า?” “ไม่หรอกค่ะ แค่นี้ก็จะไม่รอดแล้วขืนหนูไปเที่ยวอีกคืนคงต้องห่ามส่งโรงพยาบาลแน่” แค่สองวันที่เล่นน้ำยังต้องหาซื้อยามากินเลย ลองถ้าเที่ยวเหมือนคนอื่นสิยังไงก็ป่วยแน่นอน เขากำลังจะหันไปบอกว่ามีเพื่อนเป็นหมอที่โรงพยาบาลถ้าเป็นอะไรก็ให้บอกเดี๋ยวจะพาไปเอง แต่สายตากลับไปสะดุดรอยสีขาวที่แก้ม นี่มันรอยโดนปะแป้งชัดๆเลย “หนูหลินใครปะแป้งที่แก้มหนู?” อยากจะส่งคนไปสั่งสอน “คนรู้จักค่ะ” เธอนึกว่าหลุดออกหมดแล้วซะอีก “ชายหรือหญิงเสี่ยหวงรู้ไหม?” “หวงเหรอคะ?” “แล้วเสี่ยหวงหนูได้ไหมละ?” ตอนนี้ถึงจะรู้ว่าไม่ได้สิทธิ์อะไรในตัวเธอ แต่เขาก็หวงมากถึงขนาดนอนเฝ้า เธอไม่รู้เลยว่าจะตอบอะไรดีกับคำถามง่ายๆที่น่าจะมีอะไรมากกว่านั้น แล้วเสี่ยไทม์ก็มองเธอรอคำตอบอยู่ “หวงรุ่นน้องเหรอคะ?” คงเป็นเหมือนรุ่นพี่ทั่วไปที่เป็นห่วงรุ่นน้องเลยแสดงออกมาแบบนี้ เธอต้องคิดแบบนี้เข้าไว้ “หวงในฐานะผู้ชายคนหนึ่ง” เขาตอบแล้วสบตาไปพร้อมกัน หนูหลินยังไม่รู้หรือแกล้งไม่รู้ว่ากันแน่ว่าเขาคิดอะไรอยู่ “ได้สิคะ เสี่ยไทม์อิ่มยังคะ?” เธอต้องเป็นฝ่ายหันหน้าหนีแววตาที่มองกันตลอดเวลาเพราะเริ่มจะรู้สึกอึดอัด “อิ่มแล้ว แล้วนี่เป็นอะไรถึงซื้อยามา หนูไม่สบายเหรอ?” เธอไม่ได้ตอบอะไรนอกจากหยิบชามที่กินเสร็จแล้วไปล้างให้เรียบร้อยก่อนจะถือน้ำมาให้เสี่ยไทม์แล้วก็กินยาด้วย เธอรู้สึกครั่นเนื้อครั่นตัวแปลกๆเลยต้องกินยากันเอาไว้ก่อน “ยาแก้หวัดค่ะ แล้วก็ยาแก้ไข้ด้วย” เธอกำลังจะหยิบถุงยาแต่ว่าเสี่ยไทม์หยิบไปก่อน เขาอ่านตัวยาแต่ละตัวซึ่งมันก็เป็นยาสามัญทั่วไป แต่ยาแก้หวัดกินไปแล้วจะง่วงนี่ แล้วอย่างนี้ใครจะดูแลถ้าเป็นอะไรไป เห็นทีว่าเขาจะปล่อยให้อยู่คนเดียวไม่ได้แล้ว “ไปบ้านกับเสี่ยนะ” เขาไม่ได้คิดจะทำอะไรนะแค่อยากดูแลแบบใกล้เฉยๆ อย่างน้อยจะได้เบาใจขึ้นมาบ้าง “ไม่ได้หรอกค่ะ เดี๋ยวหนูจะไปหาคุณย่าแล้ว” “แล้วหนูจะกลับมาวันไหนครับ?” หมดกันความหวังที่อยากจะดูแลหนูหลินทั้งวันทั้งคืน “น่าจะวันมะรือค่ะ เสี่ยไทม์มีอะไรรึเปล่าคะ?” สีหน้าของเสี่ยไทม์เหมือนมีอะไรจะถามแต่ก็ไม่พูดออกมา “เสี่ยไปส่งนะ เสี่ยอยากรู้จักญาติผู้ใหญ่ของหนูบ้าง” “คงไม่ได้หรอกค่ะเพราะว่าลุงนิดจะมารับแทน” เขาพึ่งจะมารู้ว่าภายใต้หน้าตาใสซื่อนี้มีความดื้อซ่อนไว้อย่างแนบเนียบ แต่ก็ดีเขาชอบ อีกอย่างเด็กอายุแค่ 17 ปีคงไม่มีความเจ้าเล่ห์เท่าเขาที่อายุ 30 หรอก “งั้นเสี่ยฝากเฟอร์รารี่ไว้ที่นี่นะ ถ้าขับออกไปเดี๋ยวคนจะสาดน้ำใส่ เสี่ยขี้เกียจเอารถไปล้าง” “แล้วเสี่ยไทม์จะกลับยังไงเหรอคะ?” “ไม่ต้องห่วงเดี๋ยวลูกน้องเสี่ยก็มารับแล้ว หนูไปหาย่าให้สนุกนะไม่ต้องห่วง” “ค่ะ งั้นหนูฝากปิดบ้านด้วยนะคะ” เธอเห็นรถลุงนิดมาพอดีเลยหยิบกระเป๋าเป้ใบเล็กๆไปแล้วโบกมือลาเสี่ยไทม์ รู้สึกแย่จริงๆนะที่ทิ้งเข้าไว้ที่บ้านแบบนี้ ในเมื่อเขาชวนหนูหลินดีๆแล้วไม่ไปที่บ้านด้วยกัน งานนี้คงต้องใช้เล่ห์เหลี่ยมกันหน่อย เธอไปหาคุณย่าวันอื่นก็ได้แต่วันนี้ และคืนนี้หนูหลินต้องอยู่กับเขาเท่านั้น “เสี่ยแน่ใจเหรอ?” เอมถามอีกครั้งเพราะมันเป็นการเสี่ยงเหมือนกันที่จะทำแบบนนี้ “เออดิ รถกูก็จ่ายประกันทุกปีมึงจะกลัวอะไรนักหนา” เขาไม่ได้ให้มันไปไล่ชนคนนะ พวกมันก็ทำหน้าเครียดไปได้ “แต่ว่า…” “กูสั่ง! เอาใครที่หนูหลินยังไม่เคยเห็นทำเข้าใจไหม?” ต้องรัดกุมนิดๆเพราะหนูหลินไปบ้านจะได้ไม่รู้สึกสงสัยอะไรได้ “ครับเสี่ย” “แล้วถ้าเด็กกูมีรอยช้ำแม้แต่นิดเดียวโดนตีนกูยกทีมแน่” ในช่วงเทศกาลที่มีวันหยุดยาวและคนอออกมาเล่นน้ำกันตลอดทางทำให้รถติดมาก แบบนี้มันน่าเบื่อจังเลย เธอกินยาแก้ไขและยาแก้หวัดไปด้วยเลยรู้สึกง่วงนอนมาก แต่นอนไม่หลับเพราะเสียงเพลงที่เปิดกันดังลั่นแทบทุกคันเลย “คุณหนูง่วงมากไหมครับ?” ลุงนิดคงเห็นสภาพเธอแล้วสงสารมั้ง เอาจริงๆก็แทบจะไม่ไหวแล้วละ เธอปวดหัวปวดตัวแล้วยังแทบจะลืมตาไม่ขึ้น “ก็ไม่มากค่ะ แต่หนูหนาวลุงช่วยลดแอร์หน่อย” “นอนพักก่อนเลยเดี๋ยวถึงแล้วลุงจะปลุกเอง” “ค่ะ” ในที่สุดเสียงเพลงที่ดังกระหึ่มกันเมื่อกี้ก็ลดลงแล้วเพราะว่าขับรถออกมาจากเมืองได้ ที่นี่เธอก็จะได้หลับสบายสักทีพอตื่นมาก็น่าจะถึงบ้านย่า จากนั้นค่อยคิดดูอีกทีว่าจะทำอะไรต่อ โครม!!! “ใครมาชนท้ายอีกวะ!” เธอสะดุ้งตื่นด้วยความตกใจมาก แล้วเดินลงจากรถไปดูท้ายรถกับลุงนิดท่ามกลางสภาพอากาศที่จัดจ้านเสียแทบไหม้ “คุณหนูไม่รอลุงในรถละครับ” “ก็หนูอยากดูด้วยนี่คะ แล้วอย่างนี้เอาไงต่อคะ?” เธอมองสภาพท้ายรถที่ยับเยินไม่ใช่น้อยเลย “เดี๋ยวลุงคุยกับเขาก่อน” แต่ในระหว่างที่รอผู้ใหญ่สองคนเคลียร์กันเรื่องรถแดดก็แรงมาก คอก็แห้งและหิวน้ำแบบสุดๆ เธอเลยเดินไปซื้อน้ำที่ร้านข้างทางมาให้ลุงนิดแล้วก็ตัวเองด้วย ดูแล้วว่าคงรอประกันนานแน่เลย ยิ่งอยู่ในช่วงเทศกาลแล้วยิ่งนานเข้าไปใหญ่ แต่อากาศร้อนแบบนี้จะทำให้ปวดหัวยิ่งกว่าเดิมอีก คิดผิดรึเปล่าที่กลับบ้านวันนี้ เขาเห็นแล้วแหละว่าเกิดอะไรขึ้นบ้างเพราะคิดแผนนี้มาเอง แต่ก็รอสักพักก่อนจะขับรถตามมาทำเนียนเฉยๆ แล้วได้มองแบบนี้ก็น่าสงสารหนูหลิน แต่ทนนิดหนึ่งนะทูนหัวของเสี่ย “เสี่ยเอาไงต่อผมว่านานไปแล้วนะ” “ถ้ากูไปตอนนี้คงจับได้พอดีว่าเป็นกูทำ” “แต่ว่าคุณหนูหลินไม่สบายนะเสี่ย” “งั้นไปเลยก็ได้แต่เอาเนียนๆนะพวกมึง!” เอมขับรถไปไม่เร็วมากเพื่อความแนบเนียน แล้วในใจก็แอบตลกเจ้านายตัวเองที่อยากให้เขามาอยู่ด้วยมากขนาดนี้ แต่เสือกไม่กล้าบังคับจนต้องใช้แผนนี้แทน แม่งโคตรลงทุน ว่าแล้วก็กดแตรทักทายว่าที่เมียเจ้านายหน่อย ปรี๊ดๆ “หนูหลินเกิดอะไรขึ้น” เขาจอดรถที่ข้างทางก่อนจะเดินไปถามด้วยความเป็นห่วงมากทั้งที่รู้เรื่องทั้งหมด “รถชนกันน่ะค่ะ เสี่ยไทม์จะไปไหนเหรอคะ?” ถนนเส้นนี้สามารถขับออกนอกเมืองได้เร็วมาก เธอเลยสงสัย “หน้าหนูซีดจังเลย ไปกับเสี่ยดีกว่าไหมหนูไม่สบายเดี๋ยวเป็นลมเอา” เขาเป็นห่วงจริงๆก็หนูหลินเล่นหน้าซีดมาก “แต่ว่า…” “ไปเถอะตรงนี้มันร้อนนะ ไว้หนูหายไข้ก่อนค่อยไปหาย่าก็ได้” ไม่เข้าใจเลยทำไมต้องดื้อกับเขาด้วยเนี่ย “แต่คุณย่าน่าจะรอหนูอยู่นะ” ตอนนี้คุณย่าคงเตรียมขนมอร่อยๆรอแล้ว เธอก็อยากค้างที่บ้านด้วย “แต่หนูเป็นไข้เกิดเอาไปติดคุณย่าขึ้นมาละ ท่านแก่แล้วนะฟื้นตัวยากกว่าเรา หายแล้วค่อยไปดีกว่า” งานตะล่อมเด็กเขาโคตรถนัด ดูจากสีหน้าหนูหลินแล้วคงต้องออกแรงอีกนิดนะ “ถ้าคุณย่าไม่สบายเพราะหนูจนต้องเข้าโรงพยาบาลละ หนูลองคิดตามเสี่ยสิว่าจะรู้สึกผิดขนาดไหน” เธอลองนึกตามเสี่ยไทม์แล้วมันก็จริงนะ ถ้าเกิดคุณย่าไม่สบายเพราะติดไข้จากเธอจนอาการหนักเข้าโรงพยาบาลขึ้นมาละ เธอคงรู้สึกผิดแน่ๆดังนั้นคงต้องไปตอนหายแล้วดีกว่า “ก็ได้ค่ะ งั้นเดี๋ยวหนูไปบอกลุงนิดก่อนนะ” เธอเดินไปบอกลุงนิดให้เข้าใจแล้วก็ขอโทษด้วยที่ทำให้เสียเวลา จากนั้นถึงเดินกลับไปขึ้นรถเสี่ยไทม์ที่จอดรอแล้ว “ไปบ้าน” ไม่อยากจะระบุว่าที่ไหนแต่ลูกน้องมันรู้เรื่องแน่ “ง่วงก็นอนเลยตัวหนูร้อนมากเลยรู้ไหม?” เขานั่งติดกับหนูหลินพอดีเลยรู้สึกได้ว่าตัวเธอร้อนมากจริงๆ “ถ้าหนูหลับก็ปลุกด้วยนะ” เธอแทบจะลืมตาไม่ขึ้นอยู่แล้วทตอนนี้หวัดและไข้มาพร้อมกันเลย “ครับ…ทูนหัว” คำหลังเขาพูดดังกว่ากระซิบแค่นิดเดียว แต่หนูหลินคงไม่ได้ยินเพราะหลับไปแล้ว
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม