ฉันอยู่อย่างกระเบียดกระเสียรชีวิตนี้ต้องดิ้นรน

1214 คำ
ตอนที่ 5 “ไม่ค่ะ ขอบคุณที่ชวน แต่ฉันไม่รู้สึกหิวอะไรเลยในตอนนี้ รู้สึกไม่อยากทานข้าว” “ อ้าว อย่างนี้ไม่ไหวนะ ไม่ดีด้วยต่อสุขภาพนะ เกลียว เอ้อ ถ้าเกิดคุณไม่ทานข้าวบ้าง แล้วนี่อดทนอยู่ได้ยังไง ท้องไส้มิปั่นป่วนแย่หรือ” “ดูเถอะ สภาพของคุณในตอนนี้ ตั้งแต่ตอนที่ผมแอบสังเกตดู ทำท่าเหมือนคนไม่สบาย เดินสะโหลสะเหลเหมือนคนไม่มีเรี่ยวแรง หน้าตาก็ซีดอิดโรยอย่างนี้ จะเป็นลมเป็นแล้งหรือเปล่าก็ไม่รู้ เกลียวจ๋า แล้วนี่ จะให้ผมคิดยังไงจ้ะเกลียว” หล่อนรู้สึกขอบคุณในคำห่วงใยของเขา แต่มันก็ทำให้หล่อน ไม่สามารถตอบคำถามของเขาได้ “เครียดเกี่ยวกับเรื่องผลสอบหรือเปล่าจ้ะ ยังไงๆมันก็ต้องจบอยู่ดีล่ะน่า” “ค่ะ”เกลียวลินินพยักหน้า เครียดเรื่องนี้ แต่มันคนละส่วนกัน หล่อนเครียดเพราะไม่มีเงินจำนวนมากในการใช้จ่ายค่าเทอมที่จะจบจากมหาวิทยาลัย ดูเหมือนว่า ภิญตรัย จะทำให้หล่อนรู้สึกสบายใจอยู่บ้าง แต่มันก็ไม่ใช่ทั้งหมดหรอก สอบผ่านไปแล้ว หากแต่เหลือ เพียงค่าเทอมหน่วยกิตอย่างเดียว ประมาณห้าหมื่นกว่าบาท ซึ่งเป็นเงินมากมายสำหรับเธอ ******************** 3 เมื่อสักครู่ใหญ่ ภิญตรัยได้เจอกับชุติมาด้วย มีการพูดทักทาย จึงนำมาเล่าให้เกลียวลินินฟังอีกคน “เมื่อตะกี้ได้เจอชุและชุบอกว่าจะไปเรียนต่อที่ออสเตรเลีย ไม่ทราบเกลียวรู้ข่าวหรือยัง” ภิญตรัยถามเกลียวลินินสู่กับความทุกข์ทรมานในใจแต่ก็ตอบเขา ด้วยสีหน้าที่ซีด ทุกวันนี้เกลียวลินินต้องอดทนอย่างมากที่สุด..เพื่อนสนิทบางคนแทบไม่รู้เลยสินะว่าวันหนึ่งๆในบางครั้งหล่อนไม่มีอะไรที่ตกลงไปในกระเพาะของหล่อนเลยฝึกการอดจนเคยชิน เพราะชีวิตเธอไม่มีทางเลือก แต่ เขา ภิญตรัยก็หยิบยื่นน้ำใจให้ความช่วยเหลือเป็นบางครั้ง.ซึ่งที่ผ่านมาหล่อนก็ขอบคุณเขา “ค่ะ ทราบแล้ว เพราะชุ เคยบอกเอาไว้เหมือนกัน นี่ไปแล้วหรือคะ” “ยังจ้ะ แต่ว่าเร็วๆนี้ล่ะ ถึงจะบินไป รอเอกสาร พาสปอร์ต” เหมือนกับได้บรรยากาศเหมาะสม และใต้ร่มศรีตรังภายในมหาวิทยาลัยซึ่งมีเก้าอี้นั่งเป็นแผ่นไม้กระดานสะอาดสามารถอิงพิงหลังได้ หล่อนครุ่นคิดไปนานพอสมควร หลังจากที่ภิญตรัยเองตัดสินใจนั่งลงข้างกาย พูดกรุยทางในเรื่องอื่นก่อน รวมทั้งเรื่องการรับปริญญาที่ใกล้งวดเข้ามาทุกขณะ และในวันนี้ทั้งภิญตรัยและเกลียวลินินรวมทั้งเพื่อนคนอื่นๆจะต้องอยู่เตรียมซ้อมรับปริญญาในเวลาหกโมงเย็นถึงทุ่มและช่วงเวลาดังกล่าวยังอีกหลายชั่วโมง.. และมีนักศึกษาเพิ่งจะทยอยเดินทางเข้ามารอก่อนเวลากำหนดเห็นกระจัดกระจายเป็นกลุ่มอยู่ตามอาคารชั้นเรียน ในห้องสมุด ลานกีฬา ห้องคอมพิวเตอร์ หรือแม้แต่ริมสนามหญ้าในมหาวิทยาลัย ขณะนี้ที่บริเวณสระน้ำมีร่างของภิญตรัยกับเกลียวลินินนั่งคุยกันอย่างเงียบๆปราศจากคนอื่นมารบกวน หากแต่ว่าจู่ๆเกลียวลินินพูดขึ้น “เอ้อขอถามอะไรหน่อยได้ไหมคะว่าภิญชอบเที่ยวกลางคืนบ่อยครั้งหรือเปล่าคะ” เขาแปลกใจ ทำไมหล่อนถามคำนี้ “เอ นี่ ถามทำไม หรือว่าเกลียว นึกอยากจะเที่ยวขึ้นมาบ้างหรือยังไง” คำพูดและท่าทางของเขา เหมือนไม่พอใจ “ใช่ ค่ะที่ถามเพราะอยากรู้ข้อมูลว่าภิญชอบอะไรที่มัน เอ้อ เป็นทีเด็ดแล้วก็ลีลารสชาติแบบ ผู้ชายผู้หญิงหรือเปล่าคะ” เขายิ่งแปลกใจที่หล่อนถามคำแบบนี้ขมวดคิ้วมองจ้องหล่อน “นี่ คุณหมายความว่า ยังไงเกลียว” “อ้าวแหม หมายความแบบนี้สิคะ ภิญออกจะฉลาด ต้องเดาออก แบบลงอ่างลงนวดอะไรทำนองนี้ไงคะ” “อ้อ แสดงว่าคงจะมีอะไรเด็ดๆเหมือนอย่างคุณว่า” “ค่ะ ก็เด็ดมากพอสมควร” หล่อนเอ่ยตามเขา ทั้งๆที่ตนเองไม่ได้มีประสบการณ์ในด้านนี้เพียงเพราะหล่อนต้องการหาทางออกให้ตัวเองเท่านั้น ทำไม ต้องเป็นภิญตรัย เป็นผู้ชายที่หล่อนรักอย่างสุดซึ้ง และหล่อนไม่คิดจะตัดสินใจแบบนี้กับใครที่ไหนอีกตอบแทนในความดีของเขาตลอดเวลาที่ผ่านมาใครจะคิดว่าหล่อนนั้นคิดแบบโง่ๆก็ตาม เพราะไม่มีเวลามาก และมีเวลาพอในการทนนิ่งเฉย อยู่ต่อไปอีก ทั้งๆที่อกของหล่อนมันแทบจะระเบิด เหมือนคนอับจนหนทาง “แล้วชอบหรือเปล่าล่ะค่ะ” “ก็ชอบนะเพราะมันมีรสชาติหลายอย่างให้ชอบอย่างที่คุณว่านั่นล่ะ” เขาเลยก็เล่นลิ้นยั่วยวนหล่อนกลับไปบ้างหล่อนก็พอจะรู้ว่าเขาน่าจะคุ้นเคยเรื่องแบบนี้พอสมควรประสาชายหนุ่มผู้มีอันจะกิน ไม่เคยขาดเหงาผู้หญิงข้างกาย “ค่ะสินค้านั้นก็ไม่ต่างจาก.ตุ๊กตาดิ้นได้มีหน้าที่ ทำให้ผู้ชายร้อยมีความสุขเหมือนขึ้นสวรรค์” เขามีความรู้สึกว่าเกลียวลินินไม่เหมือนคนเดิมเลย เหมือนคนกร้านและกล้าในเรื่องอย่างว่า ซึ่งเขาไม่เคยเห็นพฤติกรรมแบบนี้ของหล่อนเลย รู้สึกตกใจลึกๆ แต่อยากจะรู้ว่า หล่อนพูดแบบนี้เพราะอะไร แต่คำตอบจากปากของหล่อนก็ชัดเจนมาก จนเขาอึ้ง ถามกลับไปด้วยน้ำเสียงต่ำในลำคออย่างรู้สึกประหลาดใจ ที่ อะไรทำให้หล่อนเปลี่ยนไปอย่างนี้ “คุณรู้จักงานแบบนี้ด้วยหรือเกลียว” ภิญตรัยมีสีหน้าที่ตึงใส่หล่อน “อ๋อ ค่ะ ก็รู้จักสิคะเพราะเพื่อนบอก” “แหม..เพื่อนของคุณคนนี้ช่างรู้ไปหมดนะรู้ไปทั่ว เรื่อง ในบ้าน ในมุ้ง ฮึ แต่ว่ามันก็น่าสนใจไม่น้อยนี่ถ้ามีอะไรเสนอขาย” เหมือนเขาจะตรงเป้าหมายเหมือนกัน เป็นการประชดใส่หล่อน ซึ่งเกลียวลินินรับรู้แต่หล่อนกลับนิ่งเพราะอยากให้แผนครั้งนี้สำเร็จ เพราะหล่อนจะโน้มน้าวใจของเขาให้ยอมตกลงในสิ่งที่หล่อนปรารถนาและต้องการ นัยน์ตาของภิญตรัยเริ่มพราวกรุ้มกริ่มใส่เขาจ้องสายตามายังหล่อนด้วยความรู้สึกแปลกๆ และเริ่มมองจ้องไปที่เนื้อตัว ดวงหน้า และลดลงต่ำกว่านั้น คือเนินทรวงอก อยากลองดูนะฮึ ถ้ามีข้อเสนอเด็ดอย่างว่าเพื่อนของคุณนี่ร้ายจริงเกลียวแล้วเพื่อนคุณให้เปอร์เซ็นต์คุณเท่าไหร่กันล่ะเกลียว” “ก็ไม่มากมากนักหรอกค่ะ แค่พอใช้” เกลียวลินินเลยตอบแบบรับลูกของเขาทำเออออห่อหมกไปด้วย ทั้งๆที่หล่อนไม่เคยรู้เรื่องในวงการพวกนี้ ก็เพื่อให้ภิญตรัยตอบตกลง กระดากแต่ก็จำต้องทำ..หล่อนคิดว่านี่คือความอยู่รอดของตัวเอง แม้มันจะผิดมากผิดมหันต์ ผิดศีลธรรมก็ตาม “ใจเย็นๆหน่อยได้มั๊ยค่ะ.รับรองภิญได้แก้เครียดคลายเครียดแน่ ถ้าภิญตกลงค่ะแล้วเกลียวจะไปบอกเพื่อนให้รู้ในสถานที่นัดพบกัน เอาเป็นว่า เอง พรุ่งนี้ เวลาสามทุ่ม นะคะ”
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม