จู่โจม

1212 คำ
๗ @เพนต์เฮาส์หรูใจกลางเมือง ความเย็นของเครื่องปรับอากาศกระทบลงมาบนใบหน้างดงามในตอนที่กระต่ายก้าวขาเข้าไปในห้องพักหรู เฟอร์นิเจอร์ทุกชิ้นมีระดับและมีราคา ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าฐานะของผู้อาศัยอยู่ในระดับไหน เขาเคยมีแฟนเป็นถึงดาราระดับนางเองบนหน้าจอทีวีที่เธอเองก็เคยเห็น และเธอก็รับรู้จากคุณย่าของเธอว่าคุณย่าณัฐวิภาซึ่งเป็นคุณย่าของเขาถือหุ้นที่ช่องโทรทัศน์แห่งหนึ่ง เขาไม่มีอะไรด้อยเลยสักอย่าง คงไม่แปลกที่พอเธอเข้ามาในที่ของเขาจะรู้สึกถึงความเป็นอยู่ในระดับที่ดีมาก "นั่งก่อนสิ อยากได้กาแฟสักแก้วหรือเปล่า" การกระทำของอีกฝ่าย ซึ่งกระต่ายไม่แน่ใจว่าเป็นเพราะความเมาหรือเปล่าที่ทำให้เขามองเธอด้วยสายตาแบบนั้น ซ้ำยังมีพฤติการณ์ที่แปลกไปจากเดิม "ไม่เป็นไรค่ะ ต่ายแค่ขึ้นมาส่งพี่นนท์เท่านั้น" ว่าไปพลางหยัดกายลุกจากที่นั่ง ขาสวยก้าวถอยห่างในตอนที่รชานนท์ขยับตัวเข้ามาหาเธอ "กลัวผมเหรอ?" "ต่ายคิดว่าพี่นนท์คงดื่มมากเกินไป หากอยากทำความรู้จักกันให้มากกว่านี้ พรุ่งนี้เรานัดทานข้าวกันได้ค่ะ" "ทานข้าว?" รชานนท์ทวนคำนั้นออกมาพลางหลุดเสียงหัวเราะออกมาเบาๆ "สุดท้ายเราก็ต้องลงเอยกันแบบนี้อยู่แล้ว หากคุณไม่ยอมบอกเหตุผลที่น่าจะเป็นไปได้ว่าคุณตกลงคบกับผมทำไม ผมจะคิดว่าคุณมีแผนนะ" "พี่นนท์คิดว่าต่ายมีแผนอะไรเหรอคะ" "อยากเป็นดารา?" "ไม่จำเป็นค่ะ ต่ายชอบกินขนม มีความฝันที่จะเปิดร้านเบเกอรี่หลายๆ สาขา มีรายได้ มีอาหารของร้านตัวเองให้ได้ชิม สามารถปรับเปลี่ยนรสชาติได้ตามใจชอบ หากเลือกได้ต่ายจะทำตามความฝันของตัวเองมากกว่าการทำอย่างอื่น" "มันก็ยังมีเหตุผลอีกหนึ่งข้อ" "..." "และเหตุผลนั้น มันอาจจะเป็นเพราะว่าคุณแอบชอบผมอยู่" ดวงตากลมโตกระพริบถี่ สาเหตุเพราะคาดไม่ถึงว่าอีกคนจะเอ่ยถ้อยคำแบบนั้นออกมา ความมั่นใจระดับนั้น บางทีคนอย่างเขา อาจจะได้รับความรู้สึกแบบนี้มาจนนับไม่ถ้วน หน้าตา การศึกษา สถานะทางสังคม ไม่มีอะไรด้อยเลย สาวๆ หลายคนคงชอบเขาอยู่ แต่หากเธอจะพูดออกไปว่าเธอไม่ได้รู้สึกหรือคิดแบบนั้น มันก็อาจจะเป็นการหักหน้าเขาจนเกินไป "วันนี้พี่นนท์เมามาก..." "จูบกันไหมครับ" "วะ ว่าไงนะคะ" กระต่ายเบิกตาโพลงด้วยความตกใจ มือเรียวกระชับสายกระเป๋าสะพายข้างเอาไว้แน่น หลายเรื่องแล้วที่เธอคาดไม่ถึง และเหมือนว่าเรื่องนี้จะเป็นเรื่องที่คาดไม่ถึงและไม่คาดคิดจริงๆ "บททดสอบที่จะทำให้ผมรู้ว่าคำพูดของผมมันจริงแท้แค่ไหนก็คือการจูบ" "กำลังใช้วิธีนี้ให้ต่ายถอนตัวเหรอคะ" "คนที่รักษาคำพูดเป็นที่หนึ่ง หากไม่อยากถอนตัวและยังรักษาคำพูดแบบที่เคยบอกมาตั้งแต่ต้น หวังว่าคุณจะไม่ปฏิเสธในสิ่งที่ผมเสนอออกไปนะครับ" รชานนท์แสยะยิ้มร้ายกาจ ยิ่งเห็นความกังวลหลุดออกมาบนใบหน้าของอีกฝ่าย เขาก็ยิ่งมองเห็นชัยชนะที่รออยู่ "ว่าไงครับ แค่จูบกัน มันไม่ใช่ปัญหาของคนที่จะคบกันไม่ใช่เหรอ?" "..." "หรือคุณหวง?" "..." "ถ้าคุณหวงจูบของคุณ เพราะอยากเก็บมันไว้ให้กับคนอื่นที่คุณรักหรือชอบอยู่ คุณบอกผมได้นะ จากนั้นเราค่อยมาคุยกันเรื่องเหตุผลว่าเพราะอะไรคุณถึงไม่ยอมปฏิเสธผู้ใหญ่ แต่ถ้าที่ผมพูดมันไม่ใช่ ผมว่าเหตุผลที่คุณไม่ยอมปฏิเสธ มันก็คงจะเป็นเพราะคุณชอบผมหรือไม่คุณก็ไม่ได้อยากเปิดร้านขายขนม แต่อาจจะอยากเป็นดาราที่มีชื่อเสียงมากกว่าแค่ไม่กล้าพูดตรงๆ ผมพูดถูกไหม" "ดาราคนนั้นที่พี่นนท์เคยคบเธอทำแบบนั้นกับพี่นนท์เหรอคะ" คำถามแบบตรงไปตรงมาส่งผลให้รชานนท์ชักสีหน้าด้วยความไม่พอใจ ใบหน้าคมคายเมินหนี หลานสาวของเพื่อนสนิทคุณย่า หากไม่นึกได้ว่าคุณย่ามีเพื่อนเพียงไม่กี่คน และคนที่คุณย่าเลือกคบจะเป็นเพียงเพื่อนแท้เท่านั้นเธอคงถูกเขาตอบกลับด้วยถ้อยคำแรงๆ ออกไปแล้ว "ต่ายไม่รู้หรอกนะคะว่าที่ผ่านมาพี่นนท์เคยเจอผู้หญิงแบบไหนมาบ้าง แต่ว่า..." "ถ้าคุณอยากรู้ว่าผมเคยเจอผู้หญิงประเภทไหนมาบ้าง ผมก็จะบอกคุณให้รู้ว่าผู้หญิงที่ผมเคยเจอมา ไม่ว่าฉากเริ่มต้นจะโรยด้วยกลีบบุหลาบจนสวยงามแค่ไหน สุดท้ายก็เห็นแก่ตัว เมื่อได้ในสิ่งที่ต้องการก็พร้อมจะทิ้งทุกอย่างที่ไร้ค่า มองแค่ผลประโยชน์ที่มีมากกว่าเพียงอย่างเดียว" กระต่ายจ้องลึกเข้าไปในดวงตาคู่นั้น ทั้งที่จริงแล้วเธอไม่ได้พร้อมที่จะเข้าใจใครทั้งนั้นเพราะเธอก็พึ่งเจอเรื่องแย่ๆ มา แต่ลึกๆ แล้วกระต่ายบอกตัวเองเสมอ หากอยากให้คนอื่นเข้าใจเธอ เธอเองก็ควรหัดเข้าใจคนอื่นก่อนเช่นกัน "ผู้หญิงคนนั้นเธออาจจะมีเหตุผลที่ทิ้งพี่นนท์" "ผมไม่สนใจแล้วว่าผู้หญิงคนนั้นจะมีเหตุผลอะไร สุดท้ายมันก็ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับเรื่องของเรา" ขายาวภายใต้กางเกงยีนส์แบรนด์ดังก้าวมาที่เบื้องหน้า กระต่ายถอยห่างทันที "พะ พี่นนท์เมามากแล้ว ต่ายว่าพรุ่งนี้เราค่อยคุยกันดีกว่านะคะ" "กลัวผมเหรอ" "คะ คนทุกคนไม่ได้เหมือนกันหรอกนะคะ ต่ายสัญญาว่าต่ายจะไม่ทำเหมือนผู้หญิงคนนั้น" หัวใจดวงน้อยเต้นไม่เป็นส่ำ ยิ่งคนที่ย่างสามขุมเข้ามาหาก้าวขาเข้ามาเร็วเท่าไหร่ อาการตกใจมันก็ยิ่งถาโถมเข้ามา '...ย่าไม่ได้อยากให้ต่ายคบกับหลานชายของเพื่อนย่าเพราะว่าอกหักหรอกนะ ความสัมพันธ์ระหว่างต่ายกับหมอปกรณ์มันจบลงเร็วเกินไป มันกระทันหัน ย่ารู้ว่าหลานย่าไม่ได้ตั้งตัว ยิ่งหมอปกรณ์เห็นแก่ตัวด้วยการพยายามปรับความเข้าใจกับหลานโดยการให้หลานเข้าใจเขา ย่าว่ามันอันตรายกับต่ายมากเกินไป...' '...ย่าจะไม่ยอมให้หนูเป็นมือที่สาม ใจอ่อนให้กับความรู้สึกดีๆ ที่หมอปกรณ์เคยทำให้เด็ดขาด รชานนท์หลานชายเพื่อนย่านิสัยดีมาก อ่อนโยน เป็นสุภาพบุรุษ บางครั้งการเปิดใจให้ใครสักคนเพื่อลืมเรื่องราวของอีกคน มันอาจจะใช้ได้จริงก็ได้นะ...' '...ย่าเห็นว่ามีหลายคู่ที่เริ่มต้นด้วยการคบหากับคนที่ไม่รู้จัก สุดท้ายรักกันมากถมเถไป!' "วะ วันหลังได้ไหมคะ วันนี้ต่ายไม่พร้อมจริงๆ"
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม