SOMETHING 23
***************************
เมื่อคืนฉันจำไม่ได้ว่าทำอะไรไปบ้าง เพราะโดนเพื่อนๆ มอมเหล้าจนจำอะไรไม่ได้เลย
แย่ชะมัด
ก่อนที่ภาพจะตัดไปฉันจำได้ว่าเจอพี่อรุณอยู่ทางเข้าหอ เขาชวนฉันคุยเรื่องนั้นเรื่องนี้แล้วหลังจากนั้นฉันก็จำอะไรไม่ได้เลย ไม่รู้ด้วยว่าตัวเองกลับจากผับมาได้ยังไง แล้วเพื่อนๆ ฉันหายไปไหนหมด
นี่ถ้าถูกลวงไปข่มขืนก็คงไม่ต้องไปโทษผู้ชายหรอกนะ โทษที่ตัวฉันเองมากกว่าที่เมาไม่ได้เรื่องแบบนี้
พอสำรวจว่าตัวเองว่าไม่ได้ถูกทำอะไรฉันก็เดินออกมาจากห้องน้ำ และเห็นว่าโฟร์ไม่ได้ให้ความสนใจกับฉันแล้ว วันนี้เขามาแปลกแฮะ ปกติจะชวนคุยโน้นนี่นั่นไม่ใช่หรือไงแล้วนี่ทำไมเงียบจัง
ฉันนอนเล่นอยู่ที่เตียงตัวเองคอยชำเลืองมองโฟร์ที่เสียบหูฟังดูอะไรไม่รู้ในมือถือของเขา แล้วเขาก็กัดปากตัวเองเหมือนกำลังข่มอารมณ์บางอย่างเอาไว้ นี่เขาดูมันคืออะไรนะ
ฉันที่ไม่ทันได้ตั้งตัวก็ถูกโฟร์หันมามองเลยทำให้เราสบตากันพอดี เขาจะคิดหรือเปล่าว่าเมื่อกี้ฉันแอบมองเขาอยู่น่ะ ละสายตาจากเขาเดี๋ยวนี้เลยนะ
ตอนนี้ฉันไม่สามารถละสายไปจากโฟร์ได้เลย แววตาของเขาเหมือนสะกดฉันให้เคลื่อนไหวไม่ได้ กลายเป็นหินที่รอให้เขามาหลอมละลาย
“เห็นนะว่าแอบมองฉันอยู่” โฟร์พูดขึ้นเพื่อทำลายบรรยากาศที่เงียบสงัดเมื่อกี้ ฉันละสายตาไปจากเขาทันที
เมื่อกี้ตอนที่เราสบตากันหัวใจฉันเต้นแรงมาก มากซะจนฉันกลัวว่าอีกฝ่ายจะได้ยินด้วยซ้ำ แปลกมากที่มีความรู้สึกแบบนี้ให้โฟร์ ทั้งที่เมื่อก่อนไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อนเลย
โฟร์ลุกขึ้นนั่งก่อนจะถอดหูฟังของเขาออกแล้วถอดเสื้อที่ใส่อยู่ออกด้วย นี่เขาจะทำอะไรของเขาอ่ะ พอถอดเสร็จเขาก็โยนมันเข้าตะกร้าผ้าที่อยู่หน้าห้องน้ำ
ฉันมองเขาอย่างตกใจก่อนจะมองต่ำลงไปเห็นกล้ามหน้าท้องของเขาที่เรียงตัวสวยมาก ไม่บอกก็รู้ว่าเจ้าตัวดูแลตัวเองดีแค่ไหน
“มองตาไม่กระพริบเลยนะ”
“อะ...เอ่อ...” โดนพูดแบบนี้รู้สึกอายยังไงไม่รู้ ให้ตายเถอะนี่ฉันสนใจกล้ามหน้าท้องของเขาเหรอเนี่ย ไม่ๆ ฉันไม่ได้สนใจก็แค่ตกใจที่เขาถอดเสื้อก็เท่านั้นเอง หลงตัวเองชะมัดเลยไอ้คนตรงหน้าฉันเนี่ย “ฉะ...ฉันก็แค่ตกใจเท่านั้นเอง”
“เหรอ?” พูดแบบนี้เหมือนไม่เชื่อเลย
ฉันพูดจริงๆ นะ ฉันก็แค่ตกใจอ่ะ อีกอย่างก็ไม่เคยมีผู้ชายที่ไหนมาถอดเสื้อต่อหน้าฉันด้วย การที่ฉันมองมันก็ไม่ใช่เรื่องน่าอายอะไรใช่มั้ยล่ะ ถ้าถอดกางเกงก็ว่าไปอย่าง
“นี่ถ้าฉันถอดหมดเธอมองมั้ย?”
“มอง เอ้ย! ไม่ใช่”
เอาแล้วไงเขาทำให้ฉันสับสนแล้วอ่ะ ใครจะบ้าไปมองกันฉันไม่ใช่ผู้หญิงทุเรศขนาดนั้นนะ ถ้าบังเอิญเห็นก็แล้วไปแต่ถ้าจะให้ไปจ้องเอาเป็นเอาตายขนาดนั้นฉันคงไม่ทำ
โฟร์ฉีกยิ้มกว้างเหมือนไม่เชื่อที่ฉันพูด จนใจจะอธิบายให้ฟังจริงๆ ป่านนี้เขาคงเข้าใจว่าฉันเป็นผู้หญิงลามกไปแล้วล่ะ
“ลองสัมผัสมันดูมั้ย?”
เดี๋ยวก่อนๆ สัมผัสอะไร จะให้ฉันสัมผัสตัวเขาน่ะเหรอ แต่ดูท่าว่าคงไม่ใช่ เพราะโฟร์ก้มลงมองที่ตรงนั้นของเขาพร้อมกับยิ้มกรุ้มกริ่ม ก็เพราะอย่างนี้ไงฉันถึงบอกว่าเขาเป็นโรคจิต ชอบพูดเรื่องแบบนี้
ฉันเมินหน้าไปทางอื่นไม่อยากให้เขาเห็นใบหน้าของฉันที่ขึ้นเป็นสีแดงด้วยความเขินอายแบบนี้
“เออ! ลืมบอกว่าเสื้อที่เธอใส่มาแขวนไว้ที่หน้าตู้เสื้อผ้าของเธอนะ”
“เสื้อเหรอ?”
ฉันมองไปที่ตู้เสื้อผ้าของตัวเองก็เห็นว่ามีเสื้อผู้ชายแขวนเอาไว้อยู่ มันมาอยู่บนตัวฉันได้ยังไงอ่ะ ทำไมเมื่อคืนจำอะไรไม่ได้เลยสักอย่าง แต่ก็คงเดาได้ไม่ยากว่าเสื้อตัวนี้จะต้องเป็นของพี่อรุณแน่ๆ เพราะตอนสุดท้ายที่ฉันจะจำอะไรไม่ได้ฉันอยู่กับพี่อรุณ
“ไม่ยักรู้ว่าเธอมีแฟนอยู่แล้ว” โฟร์ทำหน้านิ่วคิ้วขมวดเหมือนเขาไม่พอใจที่พูดถึงเรื่องนี้ เขาจะบ้าหรือไงแฟนอะไรฉันยังไม่มีและไม่คิดที่จะมีด้วย ฉันเองก็เคยบอกเขาไปแล้วนี่ว่าโสด “แฟนเธอนี่ก็ใจกว้างเนอะที่ยอมให้เธอมานอนกับฉัน”
“ไม่ใช่แฟนหรอกแต่เป็นพี่อรุณน่ะ” ก็ไม่รู้ว่าจะบอกเขาทำไม ให้เขาคิดแบบนั้นก็น่าจะดีอยู่แล้วเขาจะได้ไม่ต้องมายุ่งกับฉัน แต่อีกใจหนึ่งมันก็ไม่อยากให้เขาเข้าใจผิด อยู่กับโฟร์นานฉันก็จะกลายเป็นคนบ้าเข้าไปทุกทีแล้ว
“พี่อรุณไม่ใช่แฟนเธอหรอกเหรอ?”
“จะบ้าหรือไงฉันไม่ได้คิดกับพี่อรุณแบบนั้นนะ” ฉันตกใจกับความคิดของคนตรงหน้ามาก
เขาคิดได้ยังไงว่าฉันกับพี่อรุณเป็นแฟนกัน เราสองคนไม่เคยแสดงออกแบบนั้นให้คนอื่นได้เข้าใจผิดเลยนะ พี่อรุณกับฉันเราเป็นแค่พี่น้องกัน พี่อรุณเป็นคนแรกที่ฉันรู้จักตั้งแต่ที่เข้ามาเรียนที่นี่ฉันก็เลยสนิทกับเขามากเป็นพิเศษเท่านั้นเอง
“อย่าพูดแบบนี้อีกนะฉันไม่ชอบ”
“ถ้าเกิดว่าพี่อรุณแอบชอบเธอล่ะ?” โฟร์ยังถามไม่หยุด
ไม่รู้ว่าเขาเอาความคิดนี้มาจากไหน อีกอย่างเขาจะอยากรู้เรื่องของฉันไปทำไมในเมื่อเขาก็มีแฟนอยู่แล้ว เล่นมาถามแบบนี้ฉันก็ต้องเข้าข้างตัวเองสิว่าเขากำลังแอบชอบฉันอย่างที่เขาบอก
“เธอจะชอบพี่อรุณตอบมั้ย?”
“ไม่รู้สิ มันยังไม่ถึงวันนั้นฉันเองก็ตอบไม่ได้เหมือนกัน”
ฉันไม่รู้หรอกนะว่าอนาคตมันจะออกมาเป็นแบบไหน ฉันยังไม่อยากพูดไปก่อน อยู่กับปัจจุบันน่ะดีที่สุดแล้ว อีกอย่างเรื่องของความรักฉันเองก็ไม่ค่อยได้สนใจเท่าไหร่ด้วย ไม่อยากเอาเรื่องแบบนี้มาผูกคอตัวเองทั้งที่ยังเรียนไม่จบ
“แล้วถ้าฉันจะจีบเธอล่ะ เธอจะว่าไง?” ฉันเบิกตากว้างด้วยความตกใจ เพราะเขาชอบพูดเล่นแบบนี้ไงฉันถึงไม่ค่อยอยากพูดเรื่องความรักกับเขาเท่าไหร่ ปากก็บอกว่าจะจีบฉันจะจีบได้ยังไงทั้งที่เขาก็ยังไม่โสด ฉันไม่ยอมเป็นมือที่สามที่ทำให้คนอื่นเลิกกันหรอกนะ
โฟร์เดินข้ามเส้นแบ่งเขตมาหาฉันที่นั่งนิ่งมองหน้าเขาอยู่ แถมเสื้อเขาก็ไม่ได้ใส่ด้วย ใบหน้าฉันร้อนผ่าวขึ้นมาทันทีเมื่อมองเห็นกล้ามหน้าท้องที่แข็งแรงของเขา
ใจเต้นแรงจนแทบจะทะลุออกมาเต้นข้างนอกอยู่แล้วคือมันไม่เคยเข้าใกล้ผู้ชายถอดเสื้อแบบนี้มาก่อนเลย เขาเป็นคนแรกที่ทำให้ฉันหัวใจเต้นแรงมากขนานดนี้
“นี่ฉันซีเรียสนะรัน”
“คือ...ฉัน” ฉันพูดอะไรไม่ออกเลย
ฉันรู้ว่าเขาจะต้องซีเรียสแน่ๆ เพราะหน้าของเขามันฟ้องอยู่แล้วว่าเขาจริงจังกับเรื่องนี้มาก แต่ฉันไม่อยากให้เขามาจีบฉันเพียงแค่คิดสนุกเท่านั้น
เพราะถ้าเกิดว่าฉันตกหลุมรักเขาขึ้นมา แล้วเขามาทิ้งฉันฉันจะทำยังไง เราจะต้องอยู่ห้องด้วยกันอีกนานเลยนะ ฉันไม่อยากให้เกิดเรื่องแบบนั้นขึ้น
“จีบแบบจริงจัง” โฟร์โน้มใบหน้าเข้ามากระซิบข้างหูฉันทำให้ริมฝีปากของเขาเสียดสีกับใบหูฉันเล็กน้อย แต่มันกับเพิ่มอนุภาพในการเต้นของหัวใจฉันแรงขึ้นจนเกินที่จะต้านทาน “จีบแบบให้เธอหลงรักฉันแค่คนเดียว”
“ฟะ...โฟร์” ฉันพยายามเขยิบตัวถอยออกห่างจากเขาเมื่อเขาเริ่มขยับตัวเข้ามาคลอเคลียฉันมากขึ้น บอกเลยว่าถ้าเขาทำแบบนี้ทุกวันฉันคงต้องตายก่อนแน่ๆ หัวใจฉันอาจจะหยุดเต้นฉับพลันก็ได้
“ฉันกำลังอ่อยเธออยู่นะ”