ตอนที่ 4 / 2

1136 คำ
ปวริศารีบกลับมารอเอมี่ที่ลานจอดรถ จากนั้นทั้งสองคนก็ได้ตกลงกันว่า จะไปเดินหาซื้อผ้ามาใช้ตัดเสื้อเพิ่มอีกสักหน่อย และสถานที่ที่จะไปซื้อหาก็คือที่พาหุรัด ดังนั้น ทั้งสองจึงนัดหมายที่จะไปเจอกันต่อที่นั่นราว ๆ บ่ายโมง                                         ปวริศายืนมองท้ายรถเก๋งของเอมี่ ที่แล่นออกจากบริษัทไปแล้ว จึงหันกลับมามองทางเจ้าบับเบิ้ลบีคันเก่งต่อ                     ขณะที่หญิงสาวจะเลี้ยวเจ้าบับเบิ้ลบีออกจากบริษัท จู่ ๆ ก็มีมอเตอร์ไซค์คันหนึ่งขี่พุ่งลงมาจากทางเท้าอย่างเร็ว ทำให้เธอไม่ทันได้หักหลบ รถคันนี้ก็มาชนคันของเธอเข้าอย่างจังจนเสียหลัก ทั้งเจ้าบับเบิ้ลบีและเธอจึงล้มไม่เป็นท่า แต่รถมอเตอร์ไซค์คันนั้นไม่ล้ม เพราะเจ้าของรถใช้เท้ายันกับพื้นทัน มิหนำซ้ำยังยื่นหน้ามาตะโกนด่าเธออย่างเจ็บ ๆ ซ้ำอีกว่า               "โง่! ขี่ออกมาได้ ไม่แหกตาดูหน่อยเหรอ ว่ามีรถวิ่ง" แล้วมันก็รีบขี่หนีไปทันที ท่ามกลางเสียงด่าแช่งของคนที่เห็นเหตุการณ์                           "ไอ้..." หญิงสาวจะด่ามันกลับไปบ้างก็ไม่ทัน มันมักง่ายขี่บนทางเท้าแล้วยังมีหน้ามาด่าคนที่เขาขี่ถูกกฏ ถูกกติกาอีก ... มันน่าล็อกคอมาแล้วถวายเข่ากลับไปนัก!                                           "อ้าว หนูศาเป็นอะไรมั้ย?" รปภ.ที่อยู่หน้าบริษัทถามขึ้นขณะวิ่งออกมาดู เวลานั้นคนที่กำลังเดินผ่านไปผ่านมาก็เริ่มมองหญิงสาวอย่างเห็นใจ และช่วยพยุงรถขึ้น แต่ขณะนั้นเอง...  รถตู้คันสีขาวมุกคันหนึ่ง ที่กำลังจะเลี้ยวเข้าบริษัทพอดี รถคันนี้ได้หยุดเอาไว้ จากนั้นคนที่อยู่ในรถก็รีบวิ่งลงมาช่วยประคองตัวเธอขึ้น พลางถามอีก "เกิดอะไรกันขึ้นคะ? แล้วเจ็บมากมั้ย...ให้เรียกรถพยาบาลมั้ยคะ"                                              "อุ๊ย! นี่น้องน้ำฝนนี่"                                                            "น่ารัก ใจดี อุตส่าห์ลงมาช่วยเหลือคนเจ็บด้วย"                   เสียงของคนที่เดินผ่านไปผ่านมาแถวนั้น ว่าขึ้นมา                     "อย่างนี้ต้องถ่ายรูปลงเฟซบุ๊ก คนจะได้รู้ว่าน้องน้ำฝนตัวจริงน่ารักแค่ไหน"                                                                  ใครคนหนึ่งว่าแล้วก็หยิบมือถือในกระเป๋าขึ้นมาถ่ายรูป ทำให้คนอื่น ๆ ที่มายืนรายล้อมเริ่มทำตาม...                              สลิลทิพย์จึงถือวิสาสะจับตัวคนเจ็บหมุนไปรอบ ๆ ทิศทาง คล้ายทำเหมือนสำรวจบาดแผล ทำเหมือนไม่ได้ตั้งใจจะถ่ายรูป แต่ก็แอบจัดวางใบหน้าและองศารับกับมุมกล้องที่เห็น ก่อนจะเอียงหน้ามาถามคนเจ็บอย่างห่วงใยอีกว่า "ไปหาหมอมั้ยคะ เดี๋ยวน้ำฝนพาไป"                                                                   "มะ ไม่!" ปวริศาว่าพร้อมกับส่ายหน้าปฏิเสธ ก็แค่มอเตอร์ไซค์เฉี่ยวชนแล้วล้มลงแค่นั้น ไม่ได้รุนแรงอะไรมาก อาจจะมีแผลฟกซ้ำ แต่ก็คงนิดหน่อย ว่าแล้วก็รีบก้มลงปัดฝุ่นตามเนื้อตัวออก ทว่า...                                                              ดาราสาวสวยหน้าหมวยยิ้มแล้วว่าอีก "งั้นหายไว ๆ นะคะ...ป้า"                                                                              ป้า... คำ ๆ นี้ทำให้ปวริศาเงยหน้าขึ้นทันใด เผลออ้าปากค้าง มองใบหน้าหมวยสวยของอีกฝ่ายที่ฉีกยิ้มกลับมาอย่างตะลึง เจ็บกายยังไม่เท่ากับเจ็บใจที่โดนดาราสวยหน้าหมวยคนนี้มาเรียกว่า 'ป้า' เลย                                                                     เอ่อ...การที่เธอไม่ได้นอนทั้งคืน อาจทำให้หนังตาหย่อนคล้อยและดำคล้ำไปบ้าง แถมตื่นเช้ามาน้ำก็ไม่ได้อาบ ไม่ได้แต่งหน้าทาบลัชออน และลิปสติก และหน้ายังมันแผลบ เพราะตั้งแต่ออกจากบ้าน ใบหน้านี้ก็ไม่ได้สัมผัสกับแป้งพัฟท์หรือแป้งฝุ่นอีกเลย ผมเผ้าอาจจะยุ่งเหยิง กระเซาะกระเซิงไปสักหน่อย เพราะต้องโต้ลมจากการขี่เจ้าบับเบิ้ลบีมาทำงาน แต่ทั้งหลายเหล่านี้ที่ว่ามา ก็ไม่น่าจะดึงกราฟอายุของเธอให้พุ่งกระฉูดขึ้น จนแม่ดาราสวยหน้าหมวยนี่ต้องมาเรียกเธอว่า 'ป้า' ได้หรอกมั้ง          ปวริศาเอียงหน้ามองใบหน้าสวย ๆ ที่หันไปฉีกยิ้มแจกคนอื่น ๆ แล้ว ถึงจะแอบเคืองเล็กน้อยที่ถูกอีกฝ่ายมาเรียกว่า 'ป้า' กระนั้น ยามเห็นถึงความตั้งใจของดาราสวยหน้าหมวยที่อุตส่าห์ลงจากรถตู้ มาช่วยพยุงตัวเธอขึ้น หญิงสาวก็ไม่อยากเก็บมาใส่ใจ ยังไงก็ขอมองบวกไว้ก่อนก็แล้วกัน!                         "ไปเถอะน้องน้ำฝน คนเจ็บช่วยเหลือตัวเองได้แล้ว" ผู้จัดการส่วนตัวที่เข้ามายืนข้าง ๆ ดาราสาวและคนเจ็บ ว่าแล้วลอบขยิบตาให้ดาราสาวอีกเล็กน้อย                                               สลิลทิพย์ จึงหันไปยกมือไหว้ให้กับคนที่กำลังชูกล้องมือถือเพื่อเก็บภาพ และเก็บคลิปวีดีโอของการลงมาทำความดีในครั้งนี้ แล้วก็เดินตามผู้จัดการส่วนตัวกลับขึ้นรถตู้เหมือนเดิน ทิ้งให้ ปวริศาหันไปมองตามคนทั้งคู่อย่างจะเอ่ยคำขอบคุณกลับ แต่ก็ไม่มีโอกาสแล้ว จากนั้น เธอก็รีบจับเจ้าบับเบิ้ลบีขยับหนีเพื่อเปิดทางให้รถตู้ที่กำลังจะเลี้ยวเข้าบริษัทต่อไป                                ขณะที่ปวริศาได้แอบชื่นชมดาราสวยหน้าหมวยอยู่ เธอก็หารู้ไม่ว่า ทั้งดาราคนนี้และผู้จัดการส่วนตัวต่างก็พากันยิ้มหน้าระรื่นอยู่ภายในรถ เพราะจากนี้ไม่เกินหนึ่งชั่วโมง คลิปและรูปที่สลิลทิพย์กระโดดลงจากรถตู้ เพื่อเข้าไปช่วยเหลือคนเจ็บจะต้องแพร่กระจายไปตามสื่อโซเซียลต่าง ๆ เป็นแน่                        แล้วแผนการพีอาร์ตัวเอง ในแบบที่ไม่ต้องลงทุนอะไรเลยก็จะสมบูรณ์แบบ...                                                                    โชคดีจริง ๆ ขณะที่นั่งอยู่บนรถตู้ส่วนตัวที่กำลังจะเลี้ยวเข้าบริษัทของพี่ขนิษฐ์ ทำให้ดาราสาวสวยและผู้จัดการส่วนตัวบังเอิญมาเจอมอเตอร์ไซค์เฉี่ยวชนกันตรงหน้าพอดี สลิลทิพย์ก็ตาไวหัวไว รีบบอกให้คนขับหยุดรถ แล้วรีบรุดลงไปดูเหตุการณ์ ทำทีเข้าไปช่วยเหลือคนเจ็บบ้าง ก่อนจะอาศัยไทยมุงที่เดินผ่านไปมาแถวนั้น ช่วยกันถ่ายรูปและคลิปวีดิโอแล้วอัปลงเฟซบุ๊กหรืออินสตาแกรมของใครของมันรัว ๆ                                                 และแล้วสิ่งที่ดาราสาวสวย และผู้จัดการส่วนตัวคาดหวังจะได้เห็นก็บังเกิดขึ้น ภาพเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อครู่ ทุกอริยาบถ ก็แพร่กระจายไปตามสื่อโซเซียลต่าง ๆ พร้อมกับแคปชั่นสวย ๆ อีกว่า   'มาดู น้องน้ำฝนสวยทั้งหน้าตาและจิตใจ กระโดดเข้ามาช่วยป้าคนหนึ่งที่ถูกรถมอ'ไซค์เฉี่ยวชนจนล้ม...'
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม