แต่ทว่าหากตามมารยาทที่ควรมี เขาจำเป็นที่จะต้องฝืนยิ้มทำทีว่ายินดีด้วยเป็นอย่างยิ่ง “ท่านอาซู” เสวี่ยช่างเจิ้นถือจอกสุรามาหยุดอยู่ตรงหน้าซูม่อเยี่ยแล้วกล่าวทักทาย “มา ๆ นั่งเถอะ” ซูม่อเยี่ยกวักมือให้เสวี่ยช่างเจิ้นมานั่งฝั่งตรงข้าม “คารวะท่านอาซูหนึ่งจอกขอรับ” เสวี่ยช่างเจิ้นยังคงทำเหมือนกับที่ผ่านมาก่อนหน้านี้ คือยื่นจอกสุราออกไปคารวะแล้วยกดื่ม โดยที่ซูม่อเยี่ยก็ทำเช่นกัน “ดื่มให้เจ้า” เขายกสุราขึ้นดื่มแล้ววางลง จากนั้นก็ตัดสินใจเอ่ยบางอย่างขึ้นมา “ความจริงแล้วข้าเสียดายเป็นอย่างยิ่ง เดิมทีข้าหมายปองเจ้าไว้ให้หลิงเจียวบุตรสาวข้า แต่ทว่าฮ่องเต้ก็ทรงตัดสินพระทัยไปแล้วคงเปลี่ยนแปลงอะไรไม่ได้อีก ช่างน่าเสียดายจริง ๆ” ซูม่อเยี่ยเอ่ยขึ้น เนื่องจากเสียดายแม่ทัพหนุ่มที่หมายมั่นไว้ว่าจะเอามาเป็นบุตรเขยของตน “หลานว่าน้องหลิงเจียวต้องได้คู่ครองที่ดีในภายภาคหน้าเป็นแน่” เสวี่ยช่างเจิ้นตอบก