ระหว่างทางไปโรงแรม หญิงสาวทอดสายตามองออกไปนอกหน้าต่าง เพื่อชมวิวอันสวยงามที่ขึ้นชื่ออันดับต้นๆ ของโลก เพราะถนนที่เธอผ่านนั้นเป็นถนนที่ถูกสร้างขึ้นเลียบชายฝั่งมหาสมุทรแปซิฟิกของรัฐแคลิฟอร์เนีย ตลอดทั้งเส้นทางจะมีสถานที่ท่องเที่ยว และวิวของท้องทะเล หาดทราย รวมทั้งหน้าผาหินริมชายฝั่งทะเล ที่ถูกปกคลุมด้วยทุ่งหญ้าสีเขียว สร้างความรู้สึกผ่อนคลายตลอดการเดินทาง
เมื่อรถยุโรปคันหรูแล่นเข้ามาจอดหน้าโรงแรม หญิงสาวถึงกับร้อนอุทานออกมาเบาๆ กับความสวยงาม หรูหรา ของโรงแรมสไตน์ยุโรปที่ตั้งเด่นตระหง่านอยู่ท่ามกลางธรรมชาติที่ล้อมรอบ มันช่วงลงตัวและสวยงามที่สุดเท่าที่เธอเคยเข้าพักโรงแรมมา
“โรงแรม NL. อย่างนั้นเหรอ”
นิชาพึมพำถามตัวเองเบาๆ กับชื่อโรงแรมที่แปลกหูแปลกตา แถมยังสั้นจนไม่รู้ความหมายของมัน อยากรู้นักว่าทำไมเจ้าของโรงแรมถึงได้ตั้งชื่อไว้แบบนี้ หรือว่าอักษรย่อดังกล่าวจะเป็นชื่อของบุคคลสำคัญ แต่แล้วเธอก็ต้องละทิ้งความสงสัยทั้งหมดเพื่อเดินตามร่างสูงใหญ่เข้ามาภายใน
ซามูเอลทำหน้าที่ไปพูดคุยติดต่อเรื่องเข้าห้องพัก เพียงไม่นานพนักงานก็ต่างเข้ามาต้อนรับแล้วนำกระเป๋าเดินทางของทุกคนมายังห้องสวีทหรูซึ่งตั้งอยู่ชั้นบนสุดของโรงแรม
ยิ่งนิชาได้เข้ามาภายในห้องก็ยิ่งตะลึงกับการออกแบบตกแต่งที่รวมเอาความหรูหรา อลังการ เข้าไว้ด้วยกันอย่างลงตัว เหมาะแก่การท่องเที่ยวและพักผ่อนอย่างแท้จริง ซึ่งเธอไม่กล้าคิดถึงราคาการเข้าพักต่อคืนเลยว่าจะตกเป็นเงินเท่าไหร่กับบริการแสนพิเศษนี้
ดูเหมือนว่าตอนนี้นิชาจะเพลิดเพลินกับการกวาดสายตาชื่นชมสิ่งรอบตัวจนลืมไปว่าตอนนี้เธอได้เข้ามาในห้องนอนใหญ่กับมาเฟียหนุ่มเสียแล้ว กว่าจะรู้ตัวอีกที่ก็เมื่อประตูห้องนอนปิดลงหลงเหลือเพียงเขาและเธออยู่ในห้องตามลำพัง
“เอ่อ…เราไม่แยกห้องนอนกันเหรอคะ”
เธอเอ่ยถามด้วยความไม่ไว้วางใจ เพราะเมื่อกี้เธอได้ยินพนักงานแนะนำว่าห้องสวีทนี้มีสามห้องนอนให้พัก ไม่รวมห้องรับแขก และห้องอาหารสำหรับแขกวีไอพี แต่แล้วคำตอบในเวลาต่อมาก็ทำให้เธอต้องอ้าปากค้างเถียงไม่ออกขึ้นมาเสียอย่างนั้น
“จะแยกทำไม ในเมื่อกลางคืนคุณต้องมาหาผมอยู่ดี และอีกอย่างห้องอื่นเอเดนกับซามูเอลก็นอนเต็มหมดแล้ว”
“เอ่อ…แต่ว่า…”
หญิงสาวรู้สึกอึกอัก เพราะไม่ทันได้เตรียมตัวเตรียมใจกับการเข้าพักห้องร่วมกับเขา และท่าทางของเธอก็ทำให้เขาสังเกตเห็นได้จนต้องเอ่ยถาม
“คุณมีปัญหาอย่างงั้นเหรอนิชา?”
“ปะ…เปล่าค่ะ ฉันแค่เกรงว่าท่านจะไม่รู้สึกส่วนตัว หากมีฉันอยู่ร่วมห้องด้วย”
เธอปฏิเสธออกไปเสียงรัวเร็ว ไม่กล้าขัดใจโดยหาข้ออ้างกลบเกลื่อนความรู้สึกตื่นเต้น ปนหวั่นเกรงไว้ในใจ ภาวนาให้เขาเปลี่ยนใจแยกห้องนอนกับเธอ ทว่าคำตอบของเขาก็ดับความหวังของเธออีกครั้ง
“ไม่เป็นไร ผมอยู่ง่าย ไม่รำคาญหรอก”
‘คงใช้ห้องนอนร่วมกับผู้หญิงจนชินแล้วสินะ ถึงได้ดูชิวไม่อึดอัดเลย’
หญิงสาวต่อว่าคนตัวใหญ่ในใจด้วยความหมั่นไส้ เมื่อไม่สามารถปฏิเสธการอยู่ร่วมห้องกับเขาได้ก็จำเป็นต้องทำใจ แต่เพียงอึดใจเดียวเธอก็ต้องเลิกคิ้วขึ้นสูงพลางเอ่ยถามคนตัวใหญ่ที่เดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าเธอ เว้นระยะห่างเพียงศอกเดียวด้วยความไม่เข้าใจ
“อะไรคะ?”
“ช่วยถอดเสื้อผ้าให้หน่อย ผมจะอาบน้ำ”
คำตอบราบเรียบทว่าเสียงดังฟังชัดนั้น ส่งผลให้คิ้วโค้งงามต้องขมวดเข้าหากันยุ่งในทันที
“แล้วทำไมท่านไม่ทำเองละคะ?”
“เป็นหน้าที่ของคุณที่ต้องดูแลผม”
นิชาถึงกับต้องอ้าปากค้างด้วยความอึ้งไปชั่วขณะ ไม่คิดว่าภารกิจของผู้ติดตามเขาต้องทำแม้กระทั่งถอดเสื้อผ้าให้กับมาเฟียหนุ่มด้วย
“เอ่อ…ก็ได้ค่ะ”
เมื่อตั้งสติได้แล้วนิชาก็ต้องพยักหน้าเข้าใจ ก่อนที่เธอจะเริ่มจากเสื้อสูทตัวใหญ่ ปลดไปวางลงบนโต๊ะหน้ากระจก จากนั้นก็ต่อด้วยการปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตออกทีละเม็ดอย่างตั้งใจ ขณะที่คนตัวสูงใหญ่ยืนนิ่งๆ มองดูการกระทำของเธอเงียบๆ ไม่พูดอะไร
หญิงสาวพยายามอย่างยิ่งที่จะเบือนสายตาไปทางอื่น ไม่มองอกกว้างแข็งแกร่งที่เต็มไปด้วยกล้ามเนื้อแข็งแรง และหน้าท้องเป็นมัดๆ เพราะรู้สึกใจสั่นเวลาที่ได้เห็นความสมบูรณ์แบบเซ็กซี่ลงตัวของบุรุษเพศตรงหน้า แต่ถึงจะหลบสายตายังไง หน้าของเธอก็ยังแดงก่ำด้วยความรู้สึกเขินอายอยู่ดี
เธอไม่รู้ว่าต้องใช้เวลาทำใจนานแค่ไหนกว่าจะคุ้นชินกับเรือนร่างสมบูรณ์แบบของเจ้าชีวิตที่กำยำไปทุกสัดส่วน ไม่รู้ว่าต้องควบคุมตัวเองยังไม่ให้คิดไปไกล และก็ไม่รู้อีกนั่นแหละว่าต้องทำยังไงหัวใจดวงน้อยถึงจะหยุดสั่น โดยเฉพาะตอนที่ปลดเข็มขัดของเขาออก แล้วดึงกางเกงขายาวเนื้อผ้าดีลงมาตามขายาวๆ ช้าๆ กระทั่งเหลือเพียงกางเกงในเป็นชิ้นสุดท้าย
นิชาเม้มริมฝีปากเข้าหากันแน่น เมื่อคิดว่าต้องเห็นอะไรต่อมิอะไรของเขาในตอนนี้ ซึ่งเธอพยายามสูดลมหายใจเข้าปอดครั้งแล้วครั้งเล่า แต่ใจก็ไม่กล้าดึงอาภรณ์ชิ้นสุดท้ายของเขาออกอยู่ดี กระทั่งเสียงทุ้มนุ่มดังขึ้น
“ไม่เป็นไร เดี๋ยวผมทำเอง”
โลแกนที่ได้แกล้งเธอให้หน้าแดงจนพอใจแล้วลอบอมยิ้มกับตัวเองด้วยความเอ็นดูคนตัวเล็ก ก่อนจะหมุนตัวเดินไปหยิบผ้าขนหนูผืนใหญ่มาพันเอวไว้หลวมๆ เดินเข้าห้องน้ำไป
ทันทีที่ร่างสูงใหญ่ เดินหายเข้าไปในห้องน้ำนิชาถึงกับต้องพ่นลมหายใจออกมาอย่างโล่งอกแทบจะทันที
“โอ้ย! หัวใจจะวายแล้วไหมล่ะ ยายนิชา”
เสียงหวานพึมพำกับตัวเองเบาๆ พลางยกมือขึ้นมาทาบอก ซึ่งตอนนี้หัวใจของเธอยังคงเต้นแรงไม่เป็นจังหวะ ไม่อยากจะคิดเลยว่าถ้าเกิดเธอต้องเห็นท่อนล่างเปลือยเปล่าของเขาจริงๆ จะต้องทำสีหน้ายังไง
โล่งอกได้เพียงไม่นานเธอก็ต้องสะดุ้งอีกครั้งกับเสียงของชายหนุ่มที่ตะโกนดังออกมาจากห้องน้ำ
“นิชา ตามผมเข้ามาในห้องน้ำด้วย”
“ขะ…เข้าไปทำไมคะ”
เธอร้องถามเสียงหลงกลับไปด้วยความรู้สึกระแวง ก่อนที่จะได้รับคำตอบในเวลาต่อมา
“ถูหลังให้ผม ผมต้องการคนถูหลัง”
‘ต้องถูหลังให้ด้วยเหรอเนี่ย!’
เป็นอีกครั้งที่นิชารู้สึกอยากจะกลั้นใจตายเสียให้รู้แล้วรู้รอด เมื่อไม่สามารถหลุดพ้นจากเรื่องนี้ได้สักที และเธอก็ไม่รู้อีกนั่นแหละว่านอกจากจะถูหลังแล้วยังต้องเจอกับอะไรอีก เธอใช้เวลาทำใจอยู่ครู่ใหญ่ ในที่สุดก็ตัดสินใจหมุนตัวเดินตรงไปที่ประตูห้องน้ำอย่างมิอาจหลีกเลี่ยงได้