นิชาตื่นมาในตอนเช้าของวันใหม่ด้วยท่าทางที่สดชื่นหลังจากได้หลับเต็มอิ่ม เธอใช้เวลาอาบน้ำแต่งตัวไม่นานก็เดินลงมาชั้นล่างเพื่อทานอาหารเช้า แต่ยังไม่ทันถึงโต๊ะอาหารก็ต้องชะงักเท้าหยุดเดินเมื่อสายตาคู่สวยปะทะเท่ากับร่างสูงใหญ่ของมาเฟียหนุ่มที่นั่งรอทานอาหารเช้าอยู่ก่อนแล้ว
“มานั่งสิ นิชา”
เขาหันมาออกคำสั่งด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง ส่งผลให้หญิงสาวต้องรีบเดินมาหย่อนสะโพกลงบนเก้าอี้ตรงข้ามกับเขา โดยมีการ์ดช่วยเลื่อนเก้าอี้ให้
“เมื่อคืนหลับสบายดีไหม”
เขาชวนคุยขณะที่นัยน์ตาคมกริบจับจ้องอยู่ที่ดวงหน้างามตลอดเวลา แตกต่างจากเธอที่พยายามก้มหลบสายตาของเขาอย่างเต็มที่ ทั้งนี้ก็เพราะเธอคงยังเขินอายกับเรื่องเมื่อคืนที่เกิดขึ้นนั่นเอง
“ดีค่ะท่าน”
นิชาตอบสั้นๆ ไม่ยอมสบตา โดยที่ไม่รู้เลยว่าคำตอบของตัวเองนั้นจะไปกระตุกต่อมอารมณ์ขุ่นเคืองของเขาเข้าอย่างจัง ทั้งนี้ก็เพราะโลแกนรู้สึกถึงความไม่ยุติธรรมที่เกิดขึ้นระหว่างเขากับเธอ
เมื่อคืนเขาแทบจะไม่ได้หลับได้นอนเพราะร่างกายของเขาโดนแผดเผาด้วยไฟปรารถนา เอาแต่คิดถึงเรือนร่างเย้ายวนและกลิ่นกายอันหอมกรุ่นของเธอ ถึงแม้จะให้การ์ดเรียกผู้หญิงเข้ามาหาเพื่อผ่อนคลายความตึงเครียดในกายแล้ว แต่ก็ไม่มีสักคนเดียวที่ทำให้เขารู้สึกพิศวาสถึงขั้นอยากร่วมเตียงกับพวกเธอ จนเขาต้องไล่สาวงามทั้งหลายออกจากห้องไปกลางดึกอย่างเสียอารมณ์ และยอมอดทนต่อไฟปรารถนาตลอดทั้งคืน โดยที่ตัวต้นเหตุนั้นกลับนอนหลับอย่างสบายใจเฉิ่มไม่รู้สึกรู้สาอะไรเลยสักนิด ยิ่งคิดก็ยิ่งรู้สึกเจ็บใจตัวเอง
‘ไม่น่าปล่อยให้เธอกลับห้องไปเลย นิชา’
คิดแล้วก็ยังรู้สึกเสียดาย แต่เมื่อเรื่องผ่านไปแล้วก็ให้มันผ่านไป คราวหน้าโลแกนสาบานับตัวเองแล้วว่าจะไม่ให้ตัวเองค้างคาเหมือนอย่างเมื่อคืนนี้อย่างแน่นอน ยังไงเสียเธอก็ต้องเป็นของเขาโดยสมบูรณ์
“วันนี้คุณต้องตามผมไปทำงานที่ต่างเมือง ขอให้คุณเตรียมกระเป๋าเดินทางและเสื้อผ้าสักสองสามชุดนะนิชา”
ชายหนุ่มเอ่ยขึ้น ขณะที่แม่ครัวนำอาหารมาวางลงตรงหน้าทั้งสองคน ซึ่งเป็นอาหารง่ายๆ มีขนมปังปิ้ง ไส้กรอก ไข่ดาวตามแบบฉบับอาหารเช้าของชาวตะวันตก
“เราจะไปนอนเหรอคะ?”
“อืม หวังว่าคุณจะไม่มีปัญหานะ”
“ไม่มีค่ะท่าน”
“ดีมาก”
มาเฟียหนุ่มพยักหน้าอย่างพอใจ ก่อนจะตักอาหารเข้าปากและเคี้ยวมันอย่างเอร็ดอร่อย ต่างจากนิชาที่แทบจะกระเดือกอาหารไม่ลง เมื่อคิดถึงภารกิจตามติดมาเฟียหนุ่มในฐานะผู้หญิงที่ต้องคอยตามดูแลเขา ซึ่งแน่นอนว่าภารกิจของเธอนั้นคงหนีไปพ้นการปรนเปรอเขาในเรื่องบนเตียง
…………………………………………..
นิชาตัดสินใจอยู่นานก่อนจะหยิบชุดคอสเพลย์ที่เธอมียัดใส่กระเป๋าสองสามชุดให้เท่ากับวันที่เธอต้องตามมาเฟียหนุ่มไปต่างเมือง ขณะเดียวกันสมองของเธอยังวนเวียนอยู่กับบทสนทนาที่ได้พูดคุยกับเขาเมื่อคืน นั่นก็คือการเตรียมอุปกรณ์สำหรับรสนิยมทางเพศของเขา
“ผมจะชอบมากกว่านี้ถ้าเกิดคุณยอมให้ผมหยดน้ำตาเทียนลงบนตัวคุณ หรือไม่ก็ยอมให้ผมเฆี่ยนตีคุณแรงๆ ระหว่างทำรักกัน”
“ทะ…ท่านชอบความซาดิสม์เหรอคะ”
“คราวหน้าเตรียมอุปกรณ์ไว้ได้เลย”
คิดถึงตรงนี้แล้วนิชาอยากจะร้องไห้ดังๆ ออกมาให้รู้แล้วรู้รอด เพราะเธอนั้นไม่รู้ว่าจะจัดหามาตามความต้องการของมาเฟียหนุ่ม หรือปฏิเสธเขาอีกครั้งไปตรงๆ ดี
แต่ในความโชคร้ายก็ยังมีความโชคดี เพราะด้วยเวลาอันน้อยนิดนี้เธอสามารถหาข้ออ้างยืดเวลาสำหรับการถูกทรมานออกไปสักพัก โดยเธอจะหาข้อแก้ตัวไปก่อนว่ายังไม่มีเวลาจัดหาซื้ออุปกรณ์ดังกล่าวนั่นเอง เมื่อคิดได้ดังนั้นใบหน้างดงามก็ระบายยิ้มออกมาทันที
ก๊อก… ก๊อก… ก๊อก…
เสียงเคาะประตูห้องนอนของเธอดังขึ้น เดาได้ว่าต้องเป็นแม่บ้านหรือการ์ดที่มาตามตัวเธอ
“ค่ะ กำลังจะออกไปเดี๋ยวนี้แหละค่ะ”
นิชาหันไปตะโกนบอกคนด้านนอก แล้วล็อกกระเป๋าเดินทางก่อนจะลุกขึ้นยืน หมุนตัวลากกระเป๋าใบใหญ่เดินออกจากห้องนอน
สิบห้านาทีเธอก็เดินลงจากรถยุโรปคันหรูพร้อมมาเฟียหนุ่ม รอบๆล้อมรอบไปด้วยการ์ดร่างสูงใหญ่รวมถึงซามูเอล และเอเดนที่ต้องตามติดผู้เป็นนายไปด้วย
โลแกนคว้ามือเล็กของหญิงสาวแล้วจูงมาที่เครื่องบินเจ็ทส่วนตัวซึ่งภายในถูกตกแต่งอย่างหรูหรา มีนักบินและแอร์สาวสวยพร้อมปฏิบัติหน้าที่ตามคำสั่งรออยู่ก่อนแล้ว
“ท่านจะรับเครื่องดื่มอะไรไหมคะ”
แอร์สาวคนสวยรูปร่างได้สัดส่วนในชุดยูนิฟอร์มเอ่ยถาม หลังจากที่ทุกคนคาดเข็มขัดนิรภัยเรียบร้อยแล้ว
“ไม่ แล้วคุณล่ะนิชา”
โลแกนปฏิเสธ ก่อนจะหันมาถามเธอที่นั่งอยู่ข้างๆ นิชาที่เพิ่งจะทานอาหารเช้ามาส่ายหน้าปฏิเสธเช่นกัน
“ไม่ค่ะ”
เมื่อเธอไม่ต้องการอะไรเพิ่มเติม โลแกนก็ออกคำสั่งกับนักบินที่กำลังรอรับคำสั่งด้วยน้ำเสียงเรียบทว่าทรงพลัง
“ออกเดินทางได้”
สิ้นเสียงของมาเฟียหนุ่ม นักบินประจำเครื่องก็โน้มศีรษะรับคำสั่ง ก่อนที่จะหมุนตัวเข้าไปในห้องเครื่องเพื่อพาเครื่องบินเจ็ทส่วนตัวพุงทยานเหินขึ้นสู่ท้องฟ้าทันที
การเดินทางผ่านไปห้านาทีนิชาเริ่มรู้สึกเหมือนเครื่องสั่นราวกับมันกำลังตกหลุมอากาศอย่างรุนแรง หัวใจดวงน้อยของเธอเต้นแรงด้วยความกลัว เธอหลับตาปี๋ขณะที่มือเล็กพยายามควานหาที่ยึดเหนี่ยวกระทั่งคว้ามือใหญ่ของคนข้างๆ มาได้ เลยเผลอบีบมือเขาแน่นอย่างลืมตัว
“เป็นอะไรนิชา กลัวเหรอ?”
โลแกนที่เห็นท่าทางของเธอ ก็อดไม่ได้ที่จะเอ่ยถามด้วยความห่วงใย ทว่าเธอไม่ยอมตอบหากแต่พยักหน้าแทน
“ขยับมาใกล้ผม”
เขาออกคำสั่งพร้อมกับรั้งเอวคอดให้เข้ามาใกล้ แล้วกดศีรษะเล็กให้แนบเข้าหาอกแกร่งของเขาทันที
“ไม่มีอะไรน่ากลัวหรอก อีกสิบนาทีก็ถึงจุดหมายปลายทางแล้ว”
เสียงทุ้มนุ่มกระซิบบอกข้างใบหูเล็ก พร้อมกับยกมืออีกข้างที่ว่างขึ้นมาลูบหลังเธอเบาๆ เป็นการปลอบประโลมให้เธอหายจากอาการสั่นเทา โดยการกระทำที่แสนอ่อนโยนและอบอุ่นนั้นตกอยู่ในสายตาของการ์ดทั้งสองคนที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามตลอดเวลา แต่ก็ไม่มีใครกล้าพูดอะไรนอกจากมองดูการกระทำของผู้เป็นนายอยู่อย่างเงียบๆ เพียงเท่านั้น
นานเท่าไหร่ไม่รู้ที่นิชาฝังใบหน้างดงามกับอกกว้าง กระทั่งมารู้สึกตัวอีกทีก็ตอนที่ได้ยินเสียงทุ้มเอ่ยเรียกเธอเบาๆ
“ถึงแล้วนิชา คุณปลอดภัยดี”
เธอค่อยๆ ผละใบหน้างดงามออกจากอกแกร่ง พลางเงยหน้าขึ้นมากล่าวขอบคุณผู้มีพระคุณอย่างซาบซึ้งใจ เพราะอย่างน้อยการเดินทางครั้งที้ทำให้เธอรู้สึกอบอุ่นและปลอดภัยเมื่อมีเขา
“ขอบคุณค่ะ”
“ไม่เป็นไร เราลงไปได้แล้ว”
“ค่ะ”
เธอพยักหน้ารับอย่างว่าง่าย ปลดเข็มขัดนิรภัยออกแล้วลุกขึ้นยืนเดินตามร่างสูงใหญ่ลงจากเครื่องบิน หลังจากที่เครื่องจอดสนิทแล้ว ซึ่งเมืองที่เขาพามานั้นอยู่ในรัฐแคลิฟอร์เนีย จำเป็นที่จะต้องต่อรถจากสนามบินเดินทางไปยังโรงแรมที่ตั้งอยู่ไม่ไกลนัก
……………………………………………