“เอเดน คุณพอจะทราบเรื่องที่เกิดขึ้นกับคุณลินดาเมื่อคืนนี้ไหม”
จู่ๆ เสียงหวานก็เอ่ยถามการ์ดหนุ่มที่ยืนอยู่ตรงหน้าด้วยความอยากรู้ เพราะเมื่อคืนเรื่องของผู้หญิงที่ถูกการ์ดหิ้วปีกออกไปจากบ้านกลางดึกยังคงรบกวนอยู่ในสมองของเธอตลอดเวลาจนนอนไม่หลับตลอดทั้งคืน
เอเดนรู้สึกตกใจเล็กน้อยกับคำถามของหญิงสาว คิดไม่ถึงว่าเธอจะทราบเรื่องของลินดาทั้งที่เธอเพิ่งจะมาถึงเมื่อคืนนี้
“คุณนิชาทราบเรื่องนี้ด้วยเหรอครับ”
“ฉันเห็นเธอโดนไล่ออกจากบ้านเมื่อคืน”
คำบอกเล่าของเธอทำให้เอเดนเข้าใจว่าเธอทราบเรื่องที่เกิดขึ้นกับลินดาไปหมดแล้ว เลยไม่คิดจะปิดบังเธออีกต่อไป
“ตอนนี้เธอเสียชีวิตแล้วครับ”
“เสียชีวิต!”
หญิงสาวอุทานออกมาด้วยความตกใจ ดวงตากลมโตเบิกกว้างไม่อยากจะเชื่อในสิ่งที่ตัวเองได้ยิน
‘นี่มันเรื่องอะไรกัน แค่เธอไม่ยอมกลับไปทำงานที่ฮาเรมถึงกับต้องฆ่าเธอเลยหรือ ทำไมถึงได้โหดร้ายนักนะ’
“ครับ ท่านกำลังเดินทางไปร่วมพิธีศพ อีกเดี๋ยวก็คงกลับมา ยังไงคุณนิชาเตรียมตัวไปพบกับท่านที่ห้องทำงานด้วยนะครับ”
เอเดนยืนยันเสียงหนัก ก่อนที่เขาจะบอกกับเธอในตอนท้าย ดึงสติของคนที่กำลังช็อกให้กลับมาอยู่กับความเป็นจริง นิชากลืนน้ำลายลงคออย่างฝืดเคือง ตระหนักได้ถึงความอันตรายของมาเฟียหนุ่ม ก่อนจะพยักหน้ารับอย่างว่าง่าย
“ค่ะ”
เพียงไม่ถึงครึ่งชั่วโมง นิชาก็ต้องพาร่างบางระหงเข้ามาในห้องทำงานส่วนตัวของมาเฟียหนุ่มตามคำสั่ง เธอหยุดยืนอยู่ตรงหน้าโต๊ะทำงานขณาดใหญ่ ขณะที่มาเฟียหนุ่มกำลังนั่งเอนหลังพิงเก้าอี้มองมาที่เธออยู่ก่อนแล้ว
ท่าทางนิ่งขรึมแลดูน่าเกรงขามนั้นแฝงไปด้วยความอันตรายชวนขนหัวลุก ทว่าในเวลาเดียวกันเธอปฏิเสธไม่ได้ว่าเขามีเสน่ห์อันร้ายกาจที่สามารถดึงดูเพศตรงข้ามได้ชนิดที่เขาไม่จำเป็นต้องพยายามเลย แต่สำหรับเธอเวลานี้คงไม่มีความพิศวาสต่อความหล่อเหลาและรูปร่างสมบูรณ์แบบภายใต้ชุดสูทแบรนด์หรูสุดเนี๊ยบนั้นได้ ทั้งนี้ก็เพราะเรื่องของผู้หญิงที่ชื่อว่าลินดายังคงรบกวนอยู่ในสมองไม่คลาย
‘ผู้ชายเลือดเย็น ฆ่าได้แม้กระทั่งผู้หญิงตัวเล็กๆ ไม่มีทางสู้’
แม้จะรู้ว่าผู้ชายตรงหน้าคนนี้เป็นผู้มีพระคุณกับเธอ แต่ก็อดไม่ได้ที่จะต่อว่าอีกฝ่ายในใจ และด้วยความคิดของตัวเองจึงเผลอแสดงออกมาทางสายตาโดยการจ้องเขานิ่งอย่างไม่รู้ตัว จนคนถูกจ้องรู้สึกได้
“คุณมีปัญหาอะไรกับผมงั้นเหรอนิชา ทำไมถึงได้จ้องผมด้วยสายตาแบบนั้น”
นัยน์ตาคมกริบสีน้ำตาลทองหรี่แคบลงเล็กน้อยขณะเอ่ยถามเธอด้วยน้ำเสียงราบเรียบทว่าทรงพลัง ส่งผลให้คนที่เผลอจ้องเขาสะดุ้งเล็กน้อย ก่อนจะรีบดึงสติกลับมาพร้อมปฏิเสธเสียงรัวเร็ว
“ปะ…เปล่าค่ะ”
“มานั่งนี่สิ”
โลแกนไม่อยากคิดอะไรมาก เขาตบลงบนต้นขาแข็งแรงของตัวเองสองสามทีพร้อมออกคำสั่งกับเธอโดยที่ยังคงนั่งอยู่บนเก้าอี้ทำงานตัวใหญ่แบบนั้น
นิชาที่ทำใจมาก่อนแล้ว เผลอกลืนน้ำลายลงคออย่างฝืดเคือง เมื่อเวลานี้มาถึงจริงๆ เธอก้าวช้าๆ แล้วมาหยุดอยู่ข้างๆ เขา ก่อนจะทำตามคำสั่งอย่างว่าง่าย โดยไม่คิดจะร้องโวยวาย หรือทำตัวมีปัญหาแต่อย่างใด สร้างความพึงพอใจให้กับมาเฟียหนุ่มจนเขาต้องคลี่ยิ้มที่มุมปากเล็กน้อย
ผู้หญิงที่เขาอดทนรอมานานถึงสิบปี ในที่สุดเธอก็ได้กลับคืนสู่อ้อมกอดของเขา เวลานี้โลแกนรู้สึกได้ถึงความคุ้มค่าของการรอคอย เพราะเด็กสาวที่เขาตั้งใจชุบเลี้ยงมา ตอนนี้เธอสวยสะพรั่งทั้งรูปร่างหน้าตา เครื่องหน้าทุกชิ้นบนใบหน้ารูปไข่ขาวเนียน สวยสดงดงามโดยไม่จำเป็นต้องพึ่งเครื่องสำอางใดใด ดวงตาสีดำสนิททั้งสองหวานหยดสะกดใจ ทรวดทรงองค์เอวนั้นก็ช่างอรชรอ้อนแอ้น อกอวบอึ๋มเกินตัว เอวคอด สะโพกผาย เหมาะเจาะลงตัวไร้ที่ติเสียจริง
หญิงสาวสะดุ้งเล็กน้อยเมื่อมือใหญ่วางลงบนเอวคอดพร้อมกระชับเข้าหาตัว ส่งผลให้ตอนนี้เธอต้องพิงหลังกับอกแกร่งของเขาอย่างมิอาจหลีกเลี่ยงได้
‘โหดร้ายที่สุด เพิ่งจะฆ่าคู่นอนของตัวเองยังไม่ค่ำวันก็มากอดผู้หญิงอีกคน นี่ไม่รู้สึกรู้สาอะไรบ้างเลยหรือไง’
ถึงแม้ในใจจะรู้สึกเกรงกลัว และยังตำหนิเขาไม่หยุด แต่ใจกลับไม่รู้สึกรังเกียจสัมผัสของเขาเลยแม้แต่น้อย นิชารู้สึกหายใจไม่ทั่วท้องเมื่อลมหายใจอุ่นๆ ของเจ้าของตักที่เธอนั่งอยู่เป่ารดมาใกล้ๆ แก้มเนียน และลำคอระหงของเธอ
“พร้อมที่จะเป็นผู้หญิงของผมหรือยัง”
เสียงทุ้มเอ่ยถาม ขณะที่จงใจจรดปลายจมูกโด่งลากไล้ลงมาตามพวงแก้มงามอย่างใจเย็น โดยที่เจ้าของแก้มนั้นนั่งแข็งทื่อกับสัมผัสจากบุรุษเพศที่เธอไม่เคยสัมผัสจากที่ไหนมาก่อน
“ค่ะ”
นิชาพยายามอย่างยิ่งที่จะควบคุมเสียงไม่ให้สั่น แต่ก็ยากเสียเหลือเกินเมื่อเธอต้องมานั่งอิงแอบ และอยู่ในอ้อมกอดของผู้ทรงอิทธิพลมากอำนาจอย่างเขา
“คุณมีสิทธิ์ปฏิเสธ ถ้าหากยังไม่พร้อม”
“ไม่ค่ะ ฉันไม่ปฏิเสธ”
เพราะเธอรู้ดีว่าไม่มีประโยชน์ที่จะปฏิเสธหรือขัดใจ ไม่ว่าจะช้าหรือเร็วสักวันก็ต้องตกเป็นของเขา เธอเลยเลือกที่จะไม่เล่นตัว ถึงแม้ว่าชีวิตนี้จะยังไม่เคยใกล้ชิดอิงแอบกับชายใดมาก่อนก็ตามที
“ดี ถ้าเธอทำตัวน่ารักฉันจะตบรางวัลให้เธออย่างงาม”
“ค่ะท่าน”
“นอกจากค่ะแล้วเธอไม่อยากพูดอะไรนอกเหนือจากคำนี้อีกแล้วเหรอนิชา ผมว่าเสียงของคุณก็ไพเราะนะ พูดให้ยาวกว่านี้หน่อยก็คงไม่ทำให้ผมรู้สึกรำคาญหรอก”
เขาพูดพร้อมกับจับคางมนให้เอียงมามองเขา นัยน์ตาคู่คมจับจ้องอยู่ที่ริมฝีปากอวบอิ่มสีหวาน ข่มใจอย่างยิ่งที่จะไม่โน้มลงไปจูบมัน
“ฉันไม่มีอะไรจะพูด นอกจากทำตามคำสั่งของท่านเพียงเท่านั้นค่ะ”
“คุณไม่ใช่หุ่นยนต์นะนิชา ทุกคนมีสิทธิ์ที่จะพูดและออกความคิดเห็น ซึ่งผมก็พร้อมที่จะรับฟังความคิดเห็นของคุณ”
‘แน่ใจเหรอคะว่าถ้าฉันพูดตามใจตัวเอง ชีวิตจะไม่จบลงเหมือนคุณลินดา’
หญิงสาวย้อนอีกฝ่ายในใจโดยไม่คิดที่จะพูดมันออกมา เพราะรู้ดีว่าหากพูดทุกอย่างตามใจชีวิตของเธอก็คงไม่ต่างจากหญิงสาวเมื่อคืนที่ขัดคำสั่งเขานั่นเอง
“ฉันไม่มีความคิดเห็นอะไรค่ะ ขอเพียงท่านสั่งมาฉันพร้อมที่จะทำตามคำสั่งทุกอย่างค่ะ”
“แน่ใจแล้วเหรอที่พูดคำนี้ออกมา คิดดีแล้วใช่ไหม”
เสียงราบเรียบเปลี่ยนเป็นเข้มห้วนเล็กน้อยราวกับกำลังไม่พอใจเธอ นิชารู้สึกใจหายวูบแต่ก็ยังพยักหน้ายืนยันในสิ่งที่ตนเองได้พูดไปเสียงหนัก
“ค่ะ”
“งั้นถ้าผมสั่งให้คุณไปฆ่าคน คุณจะทำไหม”
“เอ่อ…ฉะ…ฉัน”
คราวนี้เธอถึงกับพูดไม่ออก เมื่อเจอคำถามนี้ของเขา จริงอยู่ที่ตลอดเวลาสิบปีมานี้เธอถูกเลี้ยงด้วยมาเฟีย แต่ถ้าถึงกับต้องฆ่าคนเป็นผักปลาเธอคงยังไม่เลือดเย็นพอ
“ถ้าทำไม่ได้ก็อย่าพูดกับผมแบบนี้อีก เพราะถ้าผมออกคำสั่งไปแล้วเกิดคุณทำไม่ได้ คุณก็จะต้องรับโทษนั้นเอง เข้าใจใช่ไหมนิชา”
“เข้าใจค่ะท่าน”
“เข้าใจก็ดีแล้ว ไปนั่งที่โซฟา เพราะอีกเดี๋ยวซามูเอลจะนำรายละเอียดการปฏิบัติตัว ระหว่างเป็นผู้หญิงของผมมาให้คุณศึกษาดู ถ้าอันไหนทำไม่ได้ก็บอกมาได้เลย เพราะผมไม่ชอบบังคับใคร”
เขาบอกพร้อมกับปล่อยเธอให้เป็นอิสระ ทำเอาหญิงสาวถึงกับต้องลอบถอนหายใจโล่งอกพลางขยับตัวลุกขึ้นจากตักแข็งแรงของมาเฟียหนุ่มเพื่อทำตามอย่างว่าง่าย