บทที่ 1 : ทางเดินสีเทา (1)

1424 คำ
เมื่อสิบห้าปีก่อน… “ท่านครับ ท่านต้องช่วยผมนะ พวกมันกำลังตามล่าผม ถ้าท่านไม่ช่วยผมต้องไม่รอดแน่ๆ” ชายไทยวัยกลางคนก้มลงกราบเท้าเด็กหนุ่มวัยยี่สิบห้าปีที่กำลังนั่งเอนหลังอยู่บนโซฟาตัวใหญ่ มีชายฉกรรจ์ทำหน้าที่เป็นการ์ดสวมชุดสูทสีดำสนิทยืนล้อมรอบไม่ต่ำกว่าสิบคนในห้องปรับอากาศเย็นเฉียบ พร้อมกับขอร้องอ้อนวอนราวกับอีกฝ่ายเป็นเทพเจ้าที่สามารถปกป้องคุ้มครองตนเองให้รอดพ้นจากกลุ่มมาเฟียที่ตามล่าเอาชีวิตของตนตอนนี้ได้ “ไหนลองบอกเหตุผลที่ผมต้องช่วยผีพนันอย่างคุณมาสิ ว่ามีน้ำหนักมากพอที่ผมจะเอาไปพิจารณาได้หรือเปล่า” เสียงเรียบนิ่งทว่าทรงพลังไม่ต่างจากท่าทางเคร่งขรึมเอ่ยถามออกไปด้วยท่าทีที่ยังคงสงบนิ่ง จริงอยู่ที่เขาอายุยี่สิบห้าปี แต่เพราะเกิดและเติบโตมาในตระกูลที่ทำธุรกิจสีเทาและถูกฝึกให้เป็นผู้นำมาตั้งแต่เด็กๆ โลแกนเลยไม่ต่างจากผู้ใหญ่ที่มีความคิดความอ่านเหมือนผู้นำที่เข้มแข็งถอดแบบจากบิดาที่ล่วงลับไปเมื่อไม่กี่ปีก่อนมาเป๊ะ ด้วยภาระหน้าที่ที่เขาต้องรับผิดชอบแทนบิดาทั้งหมด ทำให้เขาต้องลุกขึ้นมาเป็นผู้นำที่เด็ดขาด! หลายครั้งก็ต้องมานั่งชี้เป็นชี้ตายชีวิตของคนอื่นจนตอนนี้เขากลายเป็นคนที่เย็นชาไร้ความรู้สึกไปแล้ว แต่ถึงกระนั้นในส่วนลึกของหัวใจก็ยังคงมีความเมตตาอยู่บ้าง เช่นตอนนี้ที่ชายชาวไทยวัยกลางคนดังกล่าวมาขอร้องเขา ทั้งที่เขาก็เป็นเจ้าหนี้ของอีกฝ่ายอยู่เหมือนกัน “ผมมีลูกสาวที่ยังต้องส่งเรียน เธอยังเป็นเด็ก แม่เธอก็ตายจากไปตั้งแต่เล็กๆ เธอมีแค่ผมคนเดียวครับท่าน ได้โปรดช่วยเราด้วย” “มีลูกสาวที่ต้องดูแล แต่ทำตัวเสียคนเพราะการพนันแบบนี้ใช้ได้ที่ไหนกัน ผมจะบอกอะไรให้อย่างนะ ไม่มีใครรวยเพราะเลือกเดินเส้นทางการพนันหรอก มีแต่พวกนายทุนที่ปล่อยเงินกู้ หรือเจ้าของบ่อนพนันเท่านั้นแหละที่จะรวย” โลแกนพูดไปตามความเป็นจริง เพราะตนเองนั้นคลุกคลีอยู่กับบ่อนคาสิโนมาตั้งแต่เด็ก แถมธุรกิจครอบครัวยังพัวพันอยู่กับธุรกิจสีเทาพวกนี้เลยเห็นและมองทะลุชีวิตของพวกผีพนันทั้งหลาย ซึ่งแต่ละคนจบลงไม่สวยสักราย “ผมรู้ครับว่าผมทำผิดไปแล้ว แต่ตอนนี้ผมเป็นห่วงลูก ผมตายไม่ได้จริงๆ” “งั้นก็เอาลูกสาวของคุณมาอยู่ที่นี่ ตั้งแต่นี้ต่อไปผมสัญญาว่าจะดูแลเธอเป็นอย่างดี ส่วนคุณเกินเยียวยาแล้ว ถึงผมจะช่วยอีกเป็นร้อยเป็นพันก็ไม่สามารถเอาผีพนันออกจากตัวคุณได้ ชีวิตที่เหลือของคุณจากนี้ต่อไปขอให้เป็นไปตามที่ฟ้าลิขิตเถอะ” สิ้นคำพูดของเด็กหนุ่ม น้ำตาของธนัทไหลพรากออกมาทันที เพราะเขารู้ตัวดีว่าตัวเองนั้นรอดยากอย่างที่เด็กหนุ่มพูด แต่อย่างน้อยหากเขาได้ตายไปก็ยังมีคนที่จะมาดูแลลูกสาวเขาต่อ นั่นเป็นความเมตตาที่สุดจากคนตรงหน้าแล้ว “ขอบคุณครับท่าน แค่นี้ผมก็นอนตายตาหลับแล้ว ขอบคุณท่านที่เมตตาเรา” ธนัทกล่าวขอบคุณด้วยน้ำเสียงที่ตื้นตัน เพราะเขาเชื่อเหลือเกินว่าเด็กหนุ่มลูกครึ่งไทย-อเมริกาคนนี้จะรักษาสัญญาที่ให้ไว้กับตนแน่นอน ……………………………………….. สองวันต่อมา… เด็กสาววัยใสถูกนำตัวมายังห้องลับแห่งหนึ่ง ซึ่งภายในนั้นเย็นเฉียบด้วยเครื่องปรับอากาศขนาดใหญ่ทว่าเงียบกริบ รอบๆ ห้องถูกตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์หรู ทุกการดีไซน์และการจัดวางภายในห้องแลดูมีระดับอย่างมืออาชีพ บ่งบอกถึงรสนิยมเจ้าของห้องและการมีอำนาจเงินมหาศาลเท่านั้นที่จะสามารถเนรมิตห้องแบบนี้ขึ้นมาได้ “นี่หรือลูกสาวของ ไอ้ธนัท” เสียงของชายหนุ่มวัยยี่สิบห้าปีเอ่ยถาม ขณะที่กวาดสายตามองเด็กสาวในชุดนักเรียน ถักผมเปียตั้งแต่หัวจรดเท้าอย่างพิจารณา ภายใต้ท่าทีสงบนิ่ง ราวกับผู้มีอำนาจสูงสุดในห้องนี้ “ครับท่าน เธอชื่อนิชา อายุสิบห้าปี ตอนนี้กำลังเรียนอยู่มัธยมต้น ท่านจะให้เราทำยังไงกับเธอต่อไปดีครับ” ซามูเอลมือขวาคนสนิทร่างยักษ์กล่าวรายงานคร่าวๆ ก่อนจะเอ่ยถามขึ้นในตอนท้ายด้วยน้ำเสียงหนัก รอเพียงอึดใจเดียวก็ได้รับคำสั่งเฉียบขาด! จากผู้เป็นนายตามมา “ส่งเรียนจนกว่าจะจบระดับปริญญาตรี แล้วให้กลับมาเป็นผู้หญิงของฉัน” “ครับท่าน” สิ้นเสียงของผู้เป็นนาย ซามูเอลก็รับคำพร้อมกับหันมาสะกิดแขนเด็กสาวที่ยืนอยู่ตรงหน้าแล้วบอกกับเธอด้วยน้ำเสียงที่เบากว่าตอนรายงานเจ้านายเล็กน้อย “ไปกราบขอบคุณท่านสิ” นิชาก้มหน้าน้อยๆ ขณะที่เดินมาคุกเข่าลงตรงหน้าบุรุษหนุ่มลูกครึ่งที่รูปร่างหน้าตาออกไปทางยุโรปมากกว่าด้วยท่าทางที่เกรงๆ ปนหวาดกลัวเล็กน้อย เธอพยายามบังคับตัวเองไม่ให้สั่น และไม่ปล่อยน้ำตาแห่งความอ่อนแอให้ร่วงหล่นต่อหน้าของเขาอย่างสุดความสามารถ โลแกนก้มมองเด็กสาวตรงหน้าพลางเอามือมาวางลงบนศีรษะเล็กเบาๆ รับรู้ได้ถึงความเจ็บปวดภายในจิตใจของเด็กสาวที่กำลังเผชิญ ขนาดเขาที่เป็นผู้ชายอกสามศอก เมื่อรู้ว่าบิดาได้จากไปและต้องใช้ชีวิตอยู่เพียงลำพังบนโลกใบนี้หัวใจของเขายังแหลกสลายไม่มีชิ้นดี กว่าจะตั้งหลักกลับมาใช้ชีวิตปกติได้ก็ใช้เวลานานหลายเดือน นับประสาอะไรกับเธอที่เป็นเพียงเด็กสาวตัวเล็กๆ ที่เพิ่งสูญเสียที่พึงสุดท้ายในชีวิตเมื่อสองวันก่อนกันล่ะ “รู้ใช่ไหมว่าพ่อของเธอฝากเธอไว้ให้ผมดูแล” น้ำเสียงที่เรียบเย็นเปลี่ยนเป็นอาทรเล็กน้อย ขณะที่เอ่ยถามเธอด้วยภาษาอังกฤษ ยังดีที่นิชาเคยเรียนโรงเรียนนานาชาติเมื่อครั้งที่พ่อของเธอยังมีทุนส่งเรียนเลยทำให้เธอสามารถสื่อสารเป็นภาษาอังกฤษได้อย่างไม่ติดขัด “ค่ะ” “ฉันพยายามช่วยอย่างสุดความสามารถแล้ว แต่พ่อของเธอเลือกเส้นทางเดินนั้นเอง ฉันช่วยได้แค่นี้จริงๆ” “ค่ะ” นอกจากคำสั้นๆ นี้แล้วนิชาไม่รู้จะพูดอะไรอีก เพราะเธอรู้ดีว่าชีวิตที่เหลือของเธอนั้นอยู่ในกำมือของผู้มีพระคุณคนนี้ไปหมดสิ้นแล้ว “จำไว้นะลูก คุณโลแกนเป็นผู้มีพระคุณกับเรามาก ถ้าลูกได้ไปอยู่กับเขาต้องจงรักภักดี และซื่อสัตย์กับเขาจนกว่าชีวิตจะหาไม่ พ่อฝากหนูไว้เพียงเท่านี้” “แล้วคุณพ่อจะไปไหนคะ” “ผีพนันอย่างพ่อก่อหนี้ไว้มากมาย ตอนนี้พ่อไม่มีปัญญาที่จะชดใช้พวกเขา สักวันเจ้าหนี้ก็จะมาเอาชีวิตของพ่อไป ถ้าพ่อจากไปหนูจะต้องเข้มแข็งและอยู่ด้วยตนเองให้ได้นะนิชา” “พ่อ”เธอเรียกผู้เป็นบิดาด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ แม้จะทำใจมาบ้างแล้วแต่ก็รู้สึกใจหายอยู่ดี “พ่อขอโทษนะลูก ขอโทษที่เป็นพ่อที่ดีของหนูไม่ได้” “หนูไม่เคยโกรธพ่อเลย เพราะที่ผ่านมาพ่อเลี้ยงดูหนูด้วยตัวคนเดียวมาตลอด หนูรักพ่อนะคะ” “พ่อก็รักหนูเหมือนกัน” “ปัง!” ยังไม่ทันที่สองพ่อลูกจะได้ลากัน เสียงปืนก็ดังขึ้นหนึ่งนัดพร้อมกับร่างของบิดาที่ล้มไปต่อหน้าต่อตา เป็นภาพติดตาที่นิชาไม่อาจลืมมันได้ลง นั่นเป็นครั้งสุดท้ายที่เธอได้พูดกับบิดา ก่อนที่จะมีกลุ่มชายฉกรรจ์สองกลุ่มจะสาดกระสุนใส่กันอีกพักใหญ่ โดยมีชายฉกรรจ์อีกกลุ่มซึ่งมาจากไหนไม่รู้วิ่งมานำร่างของบิดา และนำตัวเธอออกจากที่เกิดเหตุครั้งนั้น กระทั่งเธอถูกพามาที่นี่ ที่ที่บิดาได้สั่งเสียไว้เป็นครั้งสุดท้ายก่อนที่ท่านจะจากไปอย่างไม่มีวันกลับ ……………………………………………
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม