“ทำไมออกมาแบบนี้ล่ะคะ” นับดาวรีบหันหน้าหนี ใบหน้าเริ่มร้อนผ่าว ไม่รู้จะชอบโชว์อะไรกันนักหนา
“ก็ใครใช้ให้เธอมากดกริ่งเสียงดังรบกวนกันล่ะยัยโง่”
“พี่จะเลิกด่าว่าฉันโง่สักทีจะได้ไหม” นับดาวหันมาจ้องใบหน้าหล่อแล้วเถียงกลับ จากนั้นก็รีบเบี่ยงสายตาหนีคนที่โป๊อยู่
“แล้วมาทำไมแต่เช้า” ไต้ฝุ่นเอ่ยพลางเดินเข้าไปในห้อง นับดาวรีบเดินตามเข้ามาก็ปิดประตู
“ฉันมีธุระเลยมาเช้าหน่อย จะได้รีบทำแล้วรีบออกไป”
“คนอย่างเธอมีธุระกับเขาด้วยเหรอ”
“ธุระส่วนตัวขอไม่บอกนะคะ” เอ่ยจบเธอก็รีบไปหยิบอุปกรณ์ทำความสะอาด เพราะขี้เกียจจะต่อความยาวสาวความยืดกับคนที่ชอบหาเรื่องไม่เว้นแต่ละวัน
“ก่อนออกไปกรุณาทำงานให้เสร็จด้วยนะ เพราะวันนี้ฉันต้องการให้เธอทำความสะอาดทั้งหมด ทั้งห้องครัว ห้องน้ำ และห้องนอน”
“อะไรนะ” นับดาวหันมาถามเสียงสูง นี่กะจะหาเรื่องเธอใช่ไหมถึงได้ใช้ให้เธอทำมากขนาดนี้
“จะแหกปากทำไม รีบไปทำงานของเธอซะ ถ้าไม่เสร็จห้ามออกจากห้องไปเด็ดขาด”
นับดาวขมวดคิ้วยืนนิ่งจ้องหน้าอีกฝ่าย เห็นว่าเธอรีบเพราะมีธุระ เขาก็เลยจงใจจะแกล้งแน่ๆ คนอะไรไม่รู้จักโต
“จะจ้องอีกนานไหม นี่ถ้าเป็นปลากัดฉันท้องไปแล้วนะ” ไต้ฝุ่นกระตุกยิ้มโต้กลับ คนอย่างนับดาวก็ทำได้แค่จ้องเท่านั่นแหละ
นับดาวที่ขี้เกียจเถียงก็หันหลังให้แล้วเริ่มทำหน้าที่แม่บ้าน แต่เวลาผ่านไปแล้วครึ่งวัน งานของเธอก็เพิ่งจะเสร็จแค่เช็ดทำความสะอาดห้องครัว ปัดฝุ่นทั่วชั้นล่าง และล้างห้องน้ำ
เสียงเตือนที่ประตูดังขึ้น ไต้ฝุ่นที่ขึ้นไปนั่งเล่นบนห้องตั้งแต่ที่เธอเริ่มปัดกวาดเช็ดถูก็ลงมาเปิดประตู สักพักเขาก็ถือถุงอาหารมาวางไว้บนโต๊ะ
“เอาไปใส่จานให้ด้วย”
นับดาวขมวดคิ้วจ้อง เธอมาเป็นแม่บ้านไม่ได้มาเป็นคนใช้ แล้วเธอก็ทำงานมาตั้งครึ่งค่อนวันข้าวเที่ยงก็ยังไม่ได้กินเหมือนกัน
“มองอะไร ฉันสั่งก็ไปทำสิ”
“ค่ะ” นับดาวถอนหายใจทำตามที่เขาบอก เห็นว่าเธอติดหนี้อยู่ก็ใช้เอาๆ
เธอนำอาหารที่ไต้ฝุ่นสั่งมาแกะใส่จาน พลางคิดในใจว่าคนอะไรกินคนเดียวสั่งมาตั้งเยอะตั้งแยะ จากนั้นหยิบจานอาหารมาวางไว้บนโต๊ะ
“ต้องเอาน้ำมาเสิร์ฟด้วยไหมคะ”
“ถ้าได้ก็ดี” เธอกะจะพูดประชดไม่คิดว่าหนุ่มรุ่นพี่ก็ต้องการแบบนั้นจริงๆ
นับดาวเอาน้ำขวดและแก้วเปล่ามาวางไว้ตรงหน้าของคนที่นั่งรออยู่ด้วยใบหน้าง้ำงอ
“ไปเอาจานมาอีกใบ แล้วเอาช้อนส้อมมาด้วย”
แม้จะไม่อยากทำตามคำสั่ง แต่เธอก็ต้องหันหลังเดินไปหยิบตามที่เขาบอก เพราะถ้ายิ่งต่อปากต่อคำเธอคงจะไม่ได้กลับออกไปง่ายๆ
“นั่งสิ” ไต้ฝุ่นส่งสายตามองเก้าอี้ว่างที่อยู่ตรงข้ามกับที่เขานั่ง
“จะให้ฉันมานั่งเฝ้าพี่กินข้าวเนี่ยนะ ไม่เอาหรอก งานฉันยังไม่เสร็จ และฉันก็มีธุระที่ต้องไปทำ” นับดาวเอ่ยจบก็หันหลังให้เพื่อจะได้เร่งมือกับงานที่เหลือต่อ
“นั่งลง” ไต้ฝุ่นรีบลุกขึ้นยื่นแล้วควาข้อมือของเธอเอาไว้ คนที่ถูกเหนี่ยวรั้งก็หันมาขมวดคิ้วใส่ เขาจึงพูดต่อ “กินข้าว”
นับดาวยืนนิ่งราวกับไม่เชื่อหู กระตุกยิ้มที่ริมฝีปากเล็กน้อย
“นึกว่าจะปล่อยให้หิว”
“เห็นฉันเป็นคนไร้น้ำใจขนาดนั้นเลยรึไง ค่าข้าวแค่ไม่กี่บาทฉันมีปัญญาจ่าย”
“รู้ค่ะว่ารวยมาก”
ไต้ฝุ่นจัดการแบ่งข้าวในจานของตัวเองออกครึ่งหนึ่งใส่จานที่นับดาวเอามา เพราะเธอเทข้าวที่สั่งมาไว้ในจานของเขาทั้งหมด แล้วยื่นให้กับเธอ
ข้าวมื้อแรกที่ทั้งสองคนกินด้วยกันก็ทำให้บรรยากาศเริ่มกระอักกระอ่วนเล็กน้อยเพราะทั้งคู่ไม่มีใครปริปากพูดคุยกันเลย
สำหรับนับดาวถือเป็นเรื่องแปลกใหม่ที่ต้องมานั่งกินข้าวกันด้ายกันสองต่อสอง แถมยังอยู่ในห้องของผู้ชายอีกต่างหาก และไต้ฝุ่นเองก็ไม่ต่างกัน ปกติเวลาจะควงสาวก็มักจะพาไปร้านเหล้าไม่ก็คอนโด ไม่เคยมานั่งกินข้าวกับใครเป็นจริงเป็นจังแบบนี้แม้แต่ครั้งเดียว
“กินแบบนี้ถึงว่าไม่เห็นจะโต” เสียงบ่นพึมพำดังขึ้นจากปากของคนที่นั่งตรงข้าม พร้อมกับสายตาที่จ้องมองที่จานอาหารสลับกับใบหน้าของเธอ
“กินแบบนี้แล้วมันทำไมคะ” เธอก็แค่รู้สึกอึดอัดขึ้นมานิดๆ จึงทำให้กินข้าวไม่ค่อยลง
“อาหารที่ฉันสั่งมามาแต่ของดีๆ ทั้งนั้น เพราะฉะนั้นกินมันให้หมด” ทุกอย่างที่สั่งมาล้วนมาจากเจ้าดังและราคาก็ค่อนข้างแพง
“คนเผด็จการ”
“ฉันได้ยิน”
“อ่อ นึกว่าหูหนวก” นับดาวทำปากมุบมิบเสียงเบา จากนั้นก็ก้มหน้ากินข้าวต่อ
แต่จะว่าไปอาหารทุกอย่างก็อร่อยมาก พอได้รับคำสั่งว่าต้องกินให้หมด บวกกับความหิวที่สูญเสียพลังงานไปเยอะก็ทำให้เธอลืมอายแล้วตั้งหน้าตั้งตากินข้าว จะได้มีแรงทำงานต่อ
“ธุระสำคัญของเธอคืออะไร”
“จำเป็นต้องบอกด้วยเหรอคะ”
“งั้นหนี้ของเธอคงต้องยืดระยะเวลาออกไป”
“ทำไมเป็นคนแบบนี้ล่ะ ก็ไหนเราตกลงกันแล้วไงคะว่าถ้าฉันมาทำงานให้พี่ห้าปี หนี้ของเราก็จบลง” นับดาวเริ่มมีสีหน้าง้ำงอส่งเสียงประท้วง ในเมื่อคุยกันเรื่องระยะเวลาแล้ว แต่ทำไมเขาถึงชอบเอาเรื่องหนี้สินมาขู่เธออยู่เรื่อย
“จะบอกดีๆ หรือว่า…”
“บอกก็ได้ค่ะ ฉันจะไปหาหอพัก” นับดาวจำใจต้องบอกออกไป และที่จริงมันก็ไม่ใช่ความลับอะไร เธอแค่คิดว่าไม่จำเป็นต้องบอกเรื่องส่วนตัวกับคนที่ไม่ได้สนิทกัน
“ทำไมต้องหาหอพัก พ่อแม่เธออยู่ที่นี่ไม่ใช่เหรอ”
“พวกเรากำลังจะขายบ้าน พ่อกับแม่จะย้ายไปอยู่เชียงใหม่ ฉันเลยต้องหาหอพักอยู่แทน” เธอเล่าออกไปก็รู้สึกเศร้าใจขึ้นมาจนเผลอแสดงออกทางสีหน้าให้อีกฝ่ายได้เห็น
“หรือว่าเป็นเพราะพ่อของเธอ” เขาคาดเดาว่าคงเป็นเพราะเรื่องหนี้พนันอย่างแน่นอน
“หึ พี่นี่เดาเก่งนะคะ น่าจะไปเป็นหมอดู” นับดาวแค่นหัวเราะกลบเกลื่อนความเศร้าที่กำลังก่อตัวขึ้น
เธอจะมาแสดงอาการน้อยใจในโชคชะตาต่อหน้าคนอื่นแบบนี้ไม่ได้ ต่อไปเธอต้องพึ่งพาตัวเอง เธอจะต้องเข้มแข็งแล้วผ่านมันไปให้ได้
“เรื่องหอฉันจะจัดการให้เอง ถือซะว่าเป็นสวัสดิการให้ลูกหนี้ก็แล้วกัน อย่างน้อยที่เธอต้องมาทำงานก็เพราะพ่อของเธอ ไม่ใช่เพราะตัวเธอเป็นคนสร้าง” ไต้ฝุ่นรู้สึกเห็นใจ ไหน ๆ ก็ช่วยแล้ว ก็ช่วยเธออีกสักเรื่องก็แล้วกัน
“ไม่เอาดีกว่าค่ะ ฉันหาเองได้ ฉันไม่อยากติดหนี้บุญคุณใคร” เธอรีบปฏิเสธทันที แค่หนี้ห้าล้านก็ยังทำงานชดใช้ให้ไม่หมด นี่ยังจะมาหาหอพักให้ เดี๋ยวก็จะมาทวงบุญคุณกันทีหลังอีก
“ฉันไม่ได้ขอความเห็น ล้างจานเสร็จแล้วก็เตรียมตัวไปได้ละ ฉันจะเป็นคนไปส่ง” ไต้ฝุ่นยืนยันเสียงแข็ง
นับดาวขมวดคิ้วให้กับคนเอาแต่ใจและชอบออกคำสั่ง เธอแอบบ่นในใจว่าไม่ได้ร้องขอความเห็นใจหรือขอให้เขาช่วยเสียหน่อย ทำมาเป็นเสียงแข็งและบังคับให้ทำตามใจอยู่ได้ สงสัยคงจะโดนตามใจมาตั้งแต่เด็กเลยถูกขัดใจไม่ได้จะลงแดงตาย