เล่ห์รัก 17

1419 คำ
เสียงหัวเราะดังลั่นจากด้านหลัง เป็นเสียงที่ฟังคุ้นหูและมีเพียงผู้เดียวที่กล้าหัวเราะในสถานการณ์ที่เลวร้ายของสตรีเพียงนางเดียว ที่นั่งลงคุดคู้แนบพื้นสองมือปิดตาอยู่ตรงนั้น เสียงหัวเราะค่อยๆหายไปจากบรรยากาศโดยรอบ หลงเหลือเพียงความเงียบที่เริ่มกดดันความรู้สึกของใครบางคน มือน้อยค่อยๆ ลดลงเพื่อมองสรรพสิ่งตรงหน้า แต่เมื่อภาพชายหลากหลายรูปร่าง ลักษณะ ยืนรายล้อม เสียงกรีดร้องก็ดังขึ้นอีกระลอก จนเจ้าจอมทัพอดทนกับเรื่องสนุกของตนมิไหวแล้ว กระชากนางจากพื้น แล้วสั่งด้วยเสียงอันดังว่าให้นางเงียบจากการส่งเสียงกรีดร้องนี้เสีย เมื่อเสียงของ หลางเฉี่ยวอวี้หยุดลง เสียงของเทียนฟ่งอวิ๋นก็ดังขึ้นแทน " แค่เพียงนิดเดียวเท่านั้น ไม่นานเจ้าก็ชิน " " ไม่ ข้าไม่เอาอย่างนี้นะ ท่านโหดร้ายเกินไปแล้ว " น้ำตาที่ไหลออกมาดั่งทำนบแตก มิได้ทำให้เขารู้สึกสงสารแต่อย่างใด " โหดหรือ? ไม่ ข้ายังโหดกว่านี้ได้อีก เพียงแต่.." เขาจ้องมองไปที่นางด้วยสายตาเจ้าเล่ห์ " ข้าเลือกที่จะทำหรือไม่ก็เท่านั้น " " ท่านหมายความว่าอย่างไร " นางปาดน้ำตาที่เปื้อนสองข้างแก้มอย่างลวกๆ " ทหารข้านุ่มนวลกับสตรีนะ เจ้าน่าจะลองดูเสียหน่อย อย่างนายกองคนนั้นไง ข้าเคยเห็นเขามักช่วยเหลือและเข้าหาเจ้าบ่อยๆ เห็นอย่างนั้น เขากลับสุภาพ เอาใจสตรีเก่งกว่าข้า หากโกนเคราสักนิด สตรีที่พบเห็น จะยอมอยู่ใต้ร่างเขาเชียว เจ้าจะลองกับเขาคนแรกก็ได้ ข้ามิถือ " " เลว!" นางยกมือหมายจะตบหน้าแต่เขาจับมือนางแล้วจับไขว่หลัง ทำให้เวลานี้ตัวเขาไปอยู่ข้างหลังนาง แขนทั้งสองข้างของนางถูกเขาจับไขว้ไว้ด้านหลัง เขากระซิบข้างหูนาง ส่วนนางเวลานี้ในใจมีแต่ความเกลียด ชิงชัง ในตัวเขาเหลือเกิน " คนนั้นก็ดี รูปร่างอาจจะเล็กกว่าท่านนายกอง แต่มือเขาว่องไว และเบาหวิว เรี่ยวแรงไม่ต้องพูดถึง ไม่หลับมาร่วมเดือนเขาก็ยังเคย หรือจะเอาเจ้านั่น ที่นั่งกินมื้อค่ำฝีมือเจ้า ไม่ปล่อยให้เจ้าร้องขอ เขาจะจัดให้เจ้าทุกท่วงท่า จนกว่าเขาจะทำภารกิจสำเร็จ หรือหากเจ้ายังไม่สะใจ และชื่นชอบบุรุษที่ปากหวาน ข้าขอยกให้กับชายที่ยืนพิงต้นไม้ต้นโน้น เหล่าคณิกายอมพลีกายให้เขาโดยมิต้องจ่ายสักแดงเดียว หน้าตาหล่อเหลา วาจายิ่งกว่าน้ำผึ้ง เจ้าสนแบบไหนเล่า หรือจะเอาทั้งกองเลยก็ได้ จะเอารูปแบบเดี่ยวหรือทีเดียวพร้อมกันเล่า แค่เอ่ยวาจามาข้ายินดีจะสั่งพวกเขา เพื่อทำให้เจ้าได้ชาชิน " " ท่านจะทรมานข้าเพื่ออะไร " น้ำเสียงสั่นเครือเปล่งออกมาอย่างยากยิ่ง " ใครทรมานเจ้า ข้าแค่จะทำให้เจ้าชินกับพวกเขา อยู่จวนข้ามาเป็นเดือน ควรรู้จักและมีความสัมพันธ์ที่ดีได้แล้ว แม่นางเฉี่ยวอวี้ " " สัมพันธ์สวาทนะหรือ ข้าไม่ต้องการ หากท่านอยากมอบล่ะก็ เรียกมารดาท่านมาบำเรอพวกเขาเองสิ " " หึ! มารดาข้าหรือ ป่านนี้มีความสุขกับบิดาข้า อีกนานกว่าจะกลับมามอบความสุขให้กับพวกเขา " " ห๊า! ท่านอย่าบอกนะว่า... อี๊! เลว ข้าล่ะสงสารแทนบิดาท่านเหลือเกิน ที่แท้ความเลวของท่านคงไม่ต้องบอกนะว่าได้มาจากที่ใด ความคิดมีแต่ตัณหา ราคะ " " ข้ารู้ และรู้ดีว่าข้าเลวมาจากใคร บิดา มารดาข้าย่อมสอนให้ข้าเลวเพื่อแว่นแคว้น แต่จะว่าไปข้าอยากรู้แล้วสิว่าทหารของข้าจะทำอย่างไรกับเจ้านะ สตรีผู้งดงามที่คอยทำอาหารให้สามมื้อ ซักผ้า ปะ ชุนผ้าให้ มาอยู่ตรงหน้านี้แล้ว เขาจะเริ่มทำกับเจ้าตรงไหนก่อนดี จะเป็นที่ฝ่ามือ เรียวแขน ขาอ่อน หรือไม่...ก็... หึ! ข้าจะไม่ให้คลาดสายตาแม้แต่นาทีเดียวเลยแม่นางเฉี่ยวอวี้ รับรองว่าทหารของข้าจะหลงเจ้า กว่าหญิงอื่นในเมืองหลวง " เขาพูดชัดถ้อยชัดคำ เว้นจังหวะให้นางนึกภาพตามคำเขาทุกคำพูด " ทำคิดจะทำอะไรกันแน่?" " เดี๋ยวเจ้าก็รู้ " " ท่านแม่ทัพ ข้ามั่นใจว่าท่านเป็นคนดีคนหนึ่ง ถึงข้าจะชั่วช้าในสายตาท่านแต่สิ่งที่ท่านคิดจะทำกับข้า ข้าคิดว่ามันเป็นบทลงโทษที่ดูไม่สมเหตุสมผล " " ข้าว่ามันสมควรกับสิ่งที่เจ้าทำนะ " " โทษข้าคือส่งมอบยาพิษให้ท่านเสนาบดีหวง โทษข้าคือต้องตายตกไปตามกัน ไม่ใช่ให้ทหารของท่านรุมข่มขืนข้า ถึงแม้ท่านจะได้รับอนุญาตให้เป็นผู้ตัดสินคดีนี้ แต่ก็ควรคิดพิจารณาไตร่ตรองให้ถ้วนถี่ หากใครมารู้เข้าว่าท่านสั่งทหารภายใต้อาณัติของท่านมารุมข่มขืนข้า มันจะผลเสียกับท่านในอนาคตนะเจ้าคะ " นางพยายามพูดเกลี้ยกล่อมให้เขาคิดตามให้จงได้ แต่ทว่าคำตอบของเขาทำให้นางถึงกับขนหัวลุก " ข้าไม่กลัว ข้าชอบ " เมื่อจบคำพูด เขาก็ตะโกนไปยังเบื้องหน้า " ทุกคน เชิญ นางอยู่ตรงนี้แล้ว " เขาปล่อยมือแล้วผลักนางไปด้านหน้า แต่ละคนเมื่อได้ยินเสียงของเทียนฟ่งอวิ๋นแล้วก็ หยุดการกระทำของตน แล้วเดินตรงมาหาสตรีนามหลางเฉี่ยวอวี้ พวกเขาเดินเขามา นางก้าวถอยหลัง จนแผ่นหลังไปชนกับอกกว้างของเทียนฟ่งอวิ๋น เขามิได้ช่วย เพียงแค่จับไหล่ของนางทั้งสองข้างให้เผชิญหน้ากับเหล่าทหารกล้าตรงหน้า นางยืนสั่นเพราะหนีไปไหนไม่ได้แล้ว มือเท้าเย็นไปหมด เรี่ยวแรงที่จะยืนนั้นแทบจะไม่ไหว ก่อนที่ขาจะอ่อนระทวย ทหารนายหนึ่งก็ได้มาอยู่เบื้องหน้า " แม่นางเฉี่ยวอวี้ พวกข้ามาขอขอบคุณ ที่ช่วยดูแลพวกเราในทุกเรื่อง " " ห๊า! " นัยน์ตาของนางยามนี้โพลงโต และหูอื้อไปหมด สมองพยายามเรียบเรียงเนื้อความที่เขาเอ่ย " อะ..อะไรนะ ทะ..ท่านกล่าวว่าอะไรนะ? " " ไม่ต้องกลัว พวกข้าแค่จะขอบคุณแม่นาง ที่คอยดูแลทั้งอาหาร เสื้อผ้า " นางฟังคำชายที่มีใบหน้ารกรุงรังไปด้วยหนวดเครา ขาทั้งสองข้างก็ล้มพับไปนั่งกับพื้น นางชันเข่าขึ้นก้มหน้าร้องไห้ " แม่นาง เจ้าร้องไห้ทำไม? " นางเงยหน้าขึ้นหลังจากคำถามถูกส่งมา สักพักนางก็รวบรวมความกล้าตอบเขาไปด้วยอารมณ์ที่เจือโทสะ " ข้ากลัว เพราะว่าข้ากลัว " " กลัว? แม่นางกลัวสิ่งใด?" คนฟังทำหน้ากังขา รอนางมาไขคำตอบนี้ " เป็นใครจะไม่กลัวเล่า พวกท่านเล่นเดินเรียงหน้ากันเข้ามา อีกทั้งทำหน้าหื่นกระหายบ้าง ยิ้มแสยะบ้าง บ้างก็มองข้าศีรษะจรดปลายเท้า ส่วนเจ้าของจวนของพวกท่านกลัวข้าจะไม่รู้ความเก่งของพวกท่าน ช่างมีความเมตตาช่วยเล่าความเก่งกาจเรื่องบนเตียงของพวกท่าน ในยามฟ้ามืดเช่นนี้ " นางตอบด้วยเสียงอันดังคล้ายตวาดเพราะเกรงพวกทหารตรงหน้าจะไม่ได้ยิน พวกเขาอึ้งกับคำที่นางกล่าว จริงดังว่า พวกเขาเดินเรียงหน้ากันมา แต่ผู้ที่ฟังคำนางเหมือนเป็นเรื่องสนุกคงมีแต่ชายข้างหลังที่ส่งเสียงหัวเราะเหนือศีรษะนาง ทำให้นางเงยหน้าขึ้นไปมองศัตรูตัวฉกาจที่ทำให้นางอับอาย นางลุกขึ้นพรวดขึ้นมา และหันไปเผชิญหน้ากับชายที่ยิ้มหน้าระรื่น นางอยากจะชกเขาเสียให้เต็มแรง แต่จะทำได้อย่างไรในเมื่อเขาเป็นทหาร แรงนางอาจเป็นเพียงลมสัมผัสผิวกาย หากนางชกแล้วเขาเกิดเจ็บปวด ชายกลุ่มหลังไม่ปล่อยนางเป็นแน่ ใบหน้างามโกรธจัด กัดฟันเพื่อระงับโทสะ แต่ฝ่าเท้าของนางก็ยกกระทืบไปที่ฝ่าเท้าของชาย นางเลือกให้ตรงกับปลายนิ้วเพื่อให้เขาได้รู้สึกเจ็บ แล้วนางก็เดินสวนเขาไป ปล่อยให้เขากำหมัดระงับความเจ็บที่ได้รับจากสาวเมื่อครู่นี้
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม