4
วางแผน
“คุณปาล์มเห็นสุไหมครับ” กวีวัธน์ยิ้มร่าถามคนที่นั่งทำหน้าไม่ยินดียินร้ายอยู่ตรงระเบียงบ้าน
“อยู่ในห้องนอน”
“ขอบคุณครับ” ชายหนุ่มไม่ได้เอะใจสักนิดว่าทำไมเชิญภพถึงรู้ว่าคนรักของตนเองอยู่ในห้องนอนได้ รีบเดินขึ้นบันไดไปเพื่อมอบขนมในมือให้คนรัก
“พี่ปาล์มเป็นไงบ้างพี่ คุยกันรู้เรื่องไหม” เชิญขวัญกุลีกุจอไปนั่งด้านข้างพี่ชาย พร้อมกับจ้องเขาเพื่อรอคำตอบ
“เรียบร้อยดี”
“เรียบร้อยดียังไง คุณสุเขาว่ายังไงบ้างพี่ปาล์ม” คนอยากรู้เร่งเร้าถาม
“สุเขาตามใจพี่ แล้วแต่พี่จะจัดการ” คนพูดมองไปตรงบันไดบ้านที่บางคนเพิ่งเดินผ่านไปเมื่อครู่นี้
“จัดการ?”
“ใช่ แล้วแกยัยปานแกต้องช่วยพี่ด้วย”
“อีกแล้วเหรอพี่ปาล์ม ปานไม่อยากโกหกอีกแล้วนะพี่ แค่นี้ก็มองหน้าคุณวัธน์ไม่ได้แล้ว กลัวถูกเขาจับผิดได้”
“ฟังพี่นะยัยปาน นี่คือภารกิจทวงคนรักคืนของพี่ คนรักที่เข้าใจผิดว่าพี่พาผู้หญิงเข้าห้องจนทิ้งพี่ไปเมื่อหนึ่งปีก่อน ทั้งที่ผู้หญิงคนนั้นก็คือแก ฉะนั้นแกต้องรับผิดชอบ” เชิญภพย้ำทุกคำให้ชัดเจน และโยนความผิดทั้งหมดใส่น้องสาว
“เพราะปานเหรอพี่” คนเป็นน้องชี้นิ้วใส่หน้าตัวเองแบบงงๆ
“ก็เออน่ะสิ ถ้าแกไม่ไปค้างกับพี่ที่ห้องเรื่องมันก็คงไม่เกิด และถ้าแกไม่นอนกอดพี่สุก็คงไม่เข้าใจผิดไปใหญ่โตแบบนั้น” เชิญภพโบ้ยความผิดให้น้องสาวรับผิดชอบ
“เฮ้อ ผิดตลอดยัยปานเอ๊ย”
“ไม่ต้องมาบ่นเลย เดี๋ยวพี่จะพาสุไปปรับความเข้าใจที่รีสอร์ตลุงศักดิ์ แกไปทำยังไงก็ได้ไม่ให้คุณวัธน์เขามาขัดขวางการเดินทางของพี่กับสุ”
“แต่พรุ่งนี้คุณวัธน์จะพาปานไปหย่าแล้วนะพี่ ให้หย่าก่อนได้ไหม”
“ไม่ได้ เพราะว่าถ้าหย่าเสร็จหมอนั่นก็คงจะพาสุกลับกรุงเทพฯ เลย แกต้องหาทางไม่ให้เขาได้หย่าง่ายๆ และเพื่อไม่ให้เขาตามพี่กับสุไปได้ก็เจาะยางรถมันด้วย”
“เอาจริงเหรอพี่ปาล์ม”
“จริงแท้แน่นอนที่สุด” เชิญภพไม่สนว่าน้องสาวจะเอาตัวรอดอย่างไร เขาสนแค่หัวใจของตัวเองเท่านั้น ไม่คิดด้วยซ้ำว่าจะถูกเอาคืนในภายหลังอย่างสาสม
ชั้นสองของบ้านสุรมณรับขนมจากมือของแฟนหนุ่ม แล้วก็ชวนเขาไปนั่งตรงระเบียงข้างห้อง หญิงสาวพยายามที่จะเกริ่นเรื่องของตัวเอง แต่จนแล้วจนรอดกวีวัธน์ก็ไม่ได้เอะใจเลยสักนิด ยิ่งคิดก็ยิ่งรู้สึกผิดต่อเขา ทว่าหัวใจก็เรียกร้องคนรักคนเดิมคืนกลับมา
“ถ้าสุทำเรื่องไม่ดีต่อวัธน์ วัธน์จะเกลียดสุไหม” หญิงสาวลองหยั่งเชิงดูอีกรอบหลังจากลองทุกวิธีแล้วกวีวัธน์ก็ไม่รับรู้ด้วยเลย
“ไม่เกลียดหรอกครับ” เขาตอบแบบไม่ต้องคิด
“จริงเหรอคะ”
“จริงสิ เพราะผมเชื่อใจสุว่าสุไม่มีทางทำเรื่องไม่ดีกับผมแน่” สุรมณหน้าเจื่อนทันทีที่เขาเอ่ยต่อแบบนี้ หญิงสาวรู้สึกหน้าชาเล็กๆ ปวดใจหนึบๆ ก้มหน้าก้มตากินเครปเค้กที่เขานำมาฝากจากร้านของเชิญขวัญต่อไปอย่างเงียบๆ
“เอ่อสุ วันนี้คุณปานเป็นอะไรไม่รู้เลี้ยงกาแฟผมไม่พอ ยังชวนกินขนมเค้กตั้งหลายชิ้น นี่ใจดีให้เอามาฝากสุด้วย แถมไม่คิดเงินอีกต่างหาก ประหลาดคน” กวีวัธน์ตามไม่ทันเกมของสองพี่น้อง จึงได้แต่ยิ้มขำให้กับการกระทำของเชิญขวัญ ทว่าคนที่รู้อยู่เต็มอกว่าทั้งคู่ทำอะไรกันกลับกล้ำกลืนฝืนทนอยู่ข้างใน
“เค้กอร่อยมากค่ะวัธน์” หญิงสาวตั้งใจเปลี่ยนเรื่อง
“งั้นก็กินให้หมดนะครับ ให้มาตั้งสองชิ้นแน่ะ”
“ค่ะ” คนรู้สึกผิดกำลังตักเค้กเข้าปากอย่างไม่รู้รส ทำไมเธอถึงได้สองจิตสองใจแบบนี้ แต่ดูเหมือนจะเอนเอียงไปทางคนรักเก่าเสียมากกว่า กวีวัธน์ก็แค่ผู้ชายดีพร้อมคนหนึ่งที่บังเอิญผ่านเข้ามาในชีวิต แต่เชิญภพคือคนที่เธอรักหมดหัวใจ จะเลือกใครก็ทำลายอีกคนไม่ต่างกัน
“เฮ้อ”
“ถอนหายใจทำไมสุ เค้กไม่อร่อยเหรอ”
“เปล่าค่ะวัธน์ สุอิ่มแล้ว สุขอตัวไปเดินเล่นก่อนนะคะ”
“ครับ ตามสบายครับ เดี๋ยวพรุ่งนี้ผมจะรีบไปหย่าแล้วรีบกลับมารับสุไปเที่ยวต่อนะ”
“เที่ยวต่อเหรอคะ”
“ใช่ครับ ผมเล็งที่เที่ยวในจังหวัดนี้เอาไว้หลายที่เลย น่าไปพักผ่อนมาก” กวีวัธน์ยิ้มเมื่อจินตนาการไปถึงการคุกเข่าขอสุรมณแต่งงาน ท่ามกลางทุ่งดอกไม้ในรีสอร์ตแห่งหนึ่งที่เขาหมายตาเอาไว้ก่อนหน้า
“ค่ะ เอาที่วัธน์สบายใจเลยค่ะ” เมื่อไม่รู้จะพูดตรงๆ กับเขายังไง สุรมณก็ได้แต่ทำใจ อะไรจะเกิดก็คงต้องปล่อยส่วนผลที่ตามมานั้นเธอก็ต้องทำใจยอมรับมันให้ได้เหมือนกัน
คืนนี้กวีวัธน์เข้านอนด้วยรอยยิ้มแค่คนเดียว สามคนที่เหลือต่างอดตาหลับขับตานอนอย่างลำบากยากเย็น เพราะวันพรุ่งนี้บางอย่างกำลังจะเปลี่ยนไป
เช้าวันรุ่งขึ้นกวีวัธน์ในชุดลำลองกำลังเดินผิวปากอย่างคนอารมณ์ดี ตรงไปหาสองพี่น้องที่กำลังนั่งจิบกาแฟอยู่ตรงระเบียงด้านล่าง
“เชิญครับ” เชิญภพผายมือให้เขานั่งด้วย
“กาแฟไหมคะคุณวัธน์” คนเป็นน้องปั้นหน้ายิ้มแบบลำบากใจ
“ดีเหมือนครับ” คนไม่รู้เรื่องรู้ราวกับเขาก็ยังฉีกยิ้มอย่างสบายใจ
เชิญขวัญเห็นเขาแล้วเกิดความรู้สึกสงสารขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก ผู้ชายที่กำลังคิดว่าตัวเองมีความสุขกลับกำลังจะทุกข์มหันต์ในไม่กี่นาทีข้างหน้านี้ หญิงสาวเดินคอตกไปชงกาแฟมาให้เขาพร้อมกับมื้อเช้า
“คุณสุไม่ลงมาพร้อมกันเหรอคะ” วางถ้วยกาแฟไปตรงหน้าเขาพร้อมกับถามในสิ่งที่อยากรู้ไปด้วย
“สุเขาอาบน้ำอยู่น่ะครับ สักครู่คงลงมา หย่าเสร็จก็ว่าจะพาสุไปเที่ยวแถวนี้ก่อนสักวันสองวันค่อยกลับ” คนที่คิดว่าตัวเองกำลังมีความสุขไม่ได้มองหน้าของเชิญภพเลยว่าหนังตาเขาเริ่มจะกระตุกนิดๆ แต่ก็พยายามเบี่ยงเบนด้วยการยกถ้วยกาแฟขึ้นดื่ม
“กาแฟค่ะเดี๋ยวหายร้อน” เชิญขวัญบุ้ยหน้าไปที่ถ้วยกาแฟของเขา เพราะไม่รู้จะพูดอะไรออกมาดีในตอนนี้ รู้สึกปั่นป่วนตรงหน้าท้องอยู่ตลอดเวลา ผิดกับคนเป็นพี่ที่เอาแต่นั่งทำหน้านิ่งๆ ไม่สะทกสะท้านใดๆ
สักพักใหญ่ๆ กวีวัธน์ สุรมณ แล้วก็เชิญขวัญก็พากันขึ้นรถเพื่อที่จะไปจดทะเบียนหย่าในตัวอำเภอ ช่วงเวลานี้เองที่เชิญภพได้ขอตัวไปทำงาน เชิญขวัญไม่รู้ว่าพี่ชายตัวเองจะไปขัดขวางการเดินทางไปจดทะเบียนหย่าได้อย่างไร รู้แค่ว่าเธอต้องพยายามทำทุกวิถีทางไม่ให้กวีวัธน์หย่าสำเร็จ
‘โอ๊ย ปานคิดไม่ออกแล้วพี่ปาล์ม ไหนว่าจะพาคุณสุไปรีสอร์ตลุงศักดิ์แล้วนี้หายหัวไปไหน ตัวใครตัวมันก็แล้วกันนะพี่ปาล์ม’
เชิญขวัญจำใจต้องขึ้นไปนั่งด้านหลังโดยมีสุรมณนั่งเคียงข้างคนขับอยู่ด้านหน้า บ่อยครั้งที่สังเกตเห็นสีหน้าและแววตาของสุรมณเต็มไปด้วยคนรู้สึกผิดอยู่ตลอดเวลา ผิดกับกวีวัธน์ที่หน้าตาเบิกบานไม่รู้เรื่องราวกับเขาเลย