INCENTIVE 04
****************************
ฉันกลับเข้ามาในห้องนอนตัวเอง คำพูดของพี่เซอร์คัสยังคงวนเวียนอยู่ในหัวหัวฉันตอนนี้ซ้ำไปซ้ำมา
ที่บอกว่าถ้าอยากให้เขาช่วยพี่มาร์คฉันก็ต้องยอมเป็นเด็กเลี้ยงของเขา
และเขาก็มีกฎเหมือนกันก็คือถ้าฉันตอบตกลงที่จะเป็นเด็กเลี้ยงใต้ปกครองของเขาฉันก็ห้ามมีใครเด็ดขาด และต้องเป็นผู้หญิงของเขาแค่คนเดียวด้วย
แต่ฉันไม่ได้ต้องการแบบนั้นหรือเปล่าล่ะ ฉันไม่ได้อยากเป็นเด็กเลี้ยงหรือเด็กใต้ปกครองของใคร
ที่ฉันมาอยู่กับเขาเพราะพี่มาร์คบอกให้ฉันมา แต่ถ้าฉันไม่ทำพี่มาร์คก็ไม่ได้กลับมาหาฉันเร็วๆ นี้แน่
“ก็แค่เสียตัวเอง ไม่ได้ไปนอนกับผู้ชายหลายคนสักหน่อย”
ฉันพูดกับตัวเองอยู่อย่างนั้น รู้นะว่าการที่ยอมพี่เซอร์คัสน่ะมันก็ไม่ต่างอะไรจากการที่ตัวเองเอาตัวเข้าแลก และมันก็ไม่ต่างจากการขายตัวด้วย
แต่อย่างน้อยมันก็ดีกว่าการไปนอนอ้าขาให้ผู้ชายไม่ซ้ำหน้าไม่ใช่เหรอ ก็แค่นอนกับเขาคนเดียวเท่านั้นเอง
อีกอย่างฉันก็ไม่มีทางเลือกที่มันดีกว่านี้ด้วย รู้มั้ยว่าตอนที่พี่เซอร์คัสบอกว่าจะรับดูแลฉันเองน่ะฉันก็ไม่เชื่อหรอกนะว่าเขาจะใจดีกับฉันแบบนั้น
เขาจะต้องขออะไรแลกเปลี่ยนแน่ๆ และมันก็เป็นอย่างที่ฉันคิดเอาไว้เลย นั่นก็คือการที่เขาขอให้ฉันมีอะไรกับเขาแค่คนเดียว
อีกอย่างพี่มาร์คก็บอกกับฉันอีกว่าพี่เซอร์คัสคือคนที่มีบุญคุณกับเราอะไรที่ยอมเขาได้ก็ต้องยอม
แต่ฉันคิดว่าการที่จะให้ฉันเอาตัวเข้าแลกเพื่อตอบแทนบุญคุณน่ะมันมากเกินไปหรือเปล่า
ฉันนอนคิดอยู่ในห้องคนเดียวอยู่นานเหมือนกันก่อนที่เสียงเคาะประตูจะดังขึ้น ทำให้ฉันลุกเดินไปเปิดประตูและเห็นว่าเป็นพี่เซอร์คัสที่ยืนอยู่หน้าห้องฉัน
“มีอะไรหรือเปล่าคะ?”
“พี่จะออกไปข้างนอก เราอยากออกไปกับพี่หรือเปล่า?”
“ไปไหนเหรอคะ?”
“ผับน่ะ อยากออกไปเปิดหูเปิดตามั้ย”
“หนูไปได้เหรอคะ มันจะไม่เป็นการรบกวนการทำงานของพี่เซอร์คัสเหรอ?”
“ถ้าเราไม่ดื้อกับพี่ก็ไปได้ พี่อนุญาต”
“ก็ได้ค่ะ”
ที่จริงแล้วฉันเองก็ไม่ค่อยชอบเที่ยวอะไรแบบนี้หรอกนะ แต่ลองไปเที่ยวหน่อยก็ดีเหมือนกัน
ที่ฉันบอกว่าไม่ค่อยได้ไปเที่ยวเพราะว่าพี่มาร์คหวงฉันมาก ไม่ยอมให้ฉันได้ลองเที่ยวกลางคืนเลย
แต่ในเมื่อตอนนี้เขาไม่อยู่แล้วฉันคิดว่าตัวเองลองไปเปิดหูเปิดตาหน่อยก็ดีเหมือนกันนะ เพราะตอนนี้พี่เซอร์คัสก็ถือว่าเป็นผู้ปกครองของฉันแล้วไง
ฉันเข้าไปแต่งตัวด้วยชุดเดรสสายเดี่ยวเว้าหลังความยาวเหนือเข่าขึ้นมานิดหน่อย และทำผมลอนทาปากด้วยลิปสติกสีแดงไปเลย
พอเดินออกมาก็เห็นว่าพี่เซอร์คัสนั่งรอฉันอยู่ที่โซฟา เขาหันมามองหน้าฉันที่หันไปมองหน้าเขาเหมือนกัน ก่อนที่เขาจะมองสำรวจร่างกายของฉันตั้งแต่หัวจรดเท้า
“มีอะไรหรือเปล่าคะ ทำไมมองหน้าหนูแบบนี้ล่ะ”
“จะใส่ชุดนี้ไปเหรอ?”
“ค่ะ อย่าบอกนะคะว่าจะห้ามหนู”
“เปล่า ก็เซ็กซี่ดี”
คนตรงหน้ายกยิ้มมุมปากก่อนที่เขาจะเดินออกจากห้องแล้วฉันก็เดินตามเขาออกมา เขาบอกว่าผับที่เขาจะพาฉันไปเป็นผับของเพื่อนเขาอีกคนที่สนิทกับพี่มาร์คเหมือนกัน
ฉันไม่ค่อยได้รู้จักกับเพื่อนพี่มาร์คเท่าไหร่ และไม่ค่อยรู้เรื่องงานที่เขาทำด้วย เขาบอกฉันแค่ว่าฉันมีหน้าที่เรียนให้จบเท่านั้น
พอมาถึงผับมันก็ทำให้ฉันรู้ได้ไม่ยากเลยว่าที่นี่จะต้องมีชื่อเสียงระดังหนึ่งแน่ๆ ไม่งั้นก็คงไม่มีคนมาเที่ยวที่นี่กันเยอะมากหรอกนะ
พี่เซอร์คัสเอื้อมมือมาจับมือฉันเอาไว้แล้วบอกว่าห้ามปล่อยมือจากเขาเด็ดขาด ฉันพยักหน้าแล้วเดินตามเขาเข้ามา
ภายในจะถูกแยกออกเป็นสัดส่วน ก็คือโซนธรรมดาและโซนวีไอพี พี่เซอร์คัสพาฉันมาที่โซนวีไอพี ก่อนที่จะพาฉันมาที่โต๊ะที่เขาบอกว่าเป็นโต๊ะประจำของเขาเวลาที่มาที่นี่
พอมาถึงก็เห็นว่าเพื่อนของเขามานั่งรออยู่ก่อนแล้ว คุณมาร์ตินลูกน้องคนสนิทของพี่เซอร์คัสก็อยู่ด้วย
ที่ฉันรู้จักคุณมาร์ตินเป็นเพราะว่าพี่เซอร์คัสชอบให้เขาเอางานมาให้ที่บ้านของฉันน่ะก็เลยได้รู้จักกัน
“โทษทีมาช้าไปหน่อย”
“พาใครมาให้กูรู้จักอีกล่ะ มึงนี่เปลี่ยนผู้หญิงเป็นว่าเล่นเลยนะเซอร์คัส”
“นี่มายาน้องสาวของไอ้มาร์คมันน่ะ ตอนนี้กูเป็นผู้ปกครองของเธอ”
“เป็นผู้ปกครองหรือเป็นผัวเอาให้แน่ๆ เหอะมึงอ่ะ”
“มึงก็พูดเกินไป ไอ้มาร์คมันฝากให้กูดูแลน้องสาวมันเท่านั้น”
พี่เซอร์คัสหัวเราะออกมาก่อนจะบอกว่าฉันเป็นน้องสาวของพี่มาร์ค และเขาก็แนะนำให้ฉันได้รู้จักกับพี่ทิกเจ้าของผับที่นี่ด้วย
“นี่ทิกเพื่อนอีกคนของมาร์คมันน่ะ”
“สวัสดีค่ะ”
“หวัดดีค่ะ น้องสาวของไอ้มาร์คก็น่ารักดีเหมือนกันนะคะ กูจีบน้องสาวเพื่อนได้มั้ยเนี่ย”
“อยากจีบหนูเหรอคะ พี่ชายหนูดุนะ”
“ก็อยากจะรู้เหมือนกันค่ะว่าจะดุแค่ไหน”
“ไม่ได้!!!”
พี่เซอร์คัสตอบกลับไปทันทีว่าเขาไม่ให้พี่ทิกมาจีบฉัน และน้ำเสียงที่เขาพูดขึ้นมานั้นก็ดูจริงจังมากเลยนะเหมือนเขาไม่ชอบให้พี่ทิกพูดแบบนี้
“อะไรของมึง กูจีบมายาเหอะไม่ได้เกี่ยวอะไรกับมึงไง”
“กูบอกว่าไม่ได้ไง”
อีกครั้งที่พี่เซอร์คัสพูดด้วยน้ำเสียงที่ไม่ใจกับเพื่อนตัวเอง ก่อนที่เขาจะบอกว่าที่จริงแล้วฉันเป็นอะไรกับเขากันแน่
“นี่เด็กกู”
“โธ่ ไอ้สัสเมื่อกี้ล่ะบอกว่าเป็นแค่น้องสาวเพื่อน”
“...”
ฉันไม่รู้ว่าพวกเขาพูดเรื่องอะไรก็เลยเงียบไป พี่เซอร์คัสให้ฉันนั่งอยู่ข้างเขาก่อนที่เขาจะสั่งค็อกเทลให้ฉันชนิดอ่อนสุดเลยล่ะ
ฉันไม่ได้เมาง่ายขนาดนั้นหรือเปล่า แต่ก็พอจะรู้ว่าเขาคงไม่อยากให้ฉันเมาหรอก
“พี่พามาด้วยแต่ไม่ได้จะบอกให้เราดื่มจนเมานะมายา”
“ไม่ต้องห่วงหรอกค่ะ หนูไม่ใช่คนที่เมาง่ายขนาดนั้นหรอกนะ หรือถ้าหนูเมาพี่เซอร์คัสก็สามารถดูแลหนูได้ไม่ใช่เหรอคะ”
“แต่พี่ไม่อนุญาตให้เราเมาไง”
“รู้แล้วค่ะ”
ไม่นานพี่เซอร์คัสก็หันหน้าไปคุยเรื่องงานกับพี่ทิกก่อนที่ในหัวของฉันมันจะนึกถึงคำพูดของเขาที่เขาต้องการให้ฉันเป็นผู้หญิงของเขาขึ้นมา
และถ้าเกิดว่าฉันยอมที่จะเป็นผู้หญิงของเขาไม่ว่าฉันอยากได้อะไรเขาก็จะให้ฉันได้หมดทุกอย่างเลย
อีกอย่างเขาก็ไม่ได้บังคับฉันด้วย มันก็ขึ้นอยู่ที่ว่าฉันอยากช่วยพี่ชายตัวเองมากแค่ไหนก็เท่านั้นเอง
ถ้าเกิดว่าฉันอยากให้พี่มาร์คกลับมาเร็วๆ ฉันก็ต้องเอาตัวเข้าแลก แต่ถ้าไม่ทำตามที่เขาเสนอฉันก็อาจจะไม่ได้เจอพี่มาร์คก็ได้
เมื่อกี้ฉันก็ได้ยินพี่ทิกบอกว่าพี่เซอร์คัสมีผู้หญิงควงเยอะมากเลยนะ ฉันก็คงไม่ใช่ผู้หญิงที่เขาต้องการคนเดียวสินะ
เฮ้อ แล้วฉันเลือกอะไรได้บ้างล่ะนอกจากยอมเป็นเด็กเลี้ยงของเขาด้วยความจำใจเพื่อที่จะให้เขาช่วยพี่มาร์คอ่ะ
ฉันตัดสินใจแล้วล่ะว่าฉันจะยอมเป็นผู้หญิงของเขาและให้เขาดูแลฉันแบบนี้ เพราะฉันไม่มีทางเลือกไง
“เดี๋ยวพรุ่งนี้กูจะให้ลูกน้องเอาไวน์มาส่งให้มึงแล้วกัน”
“มาช่วงเย็นๆ ก่อนร้านเปิดก็ได้เพราะเลขาของกูจะเข้ามาเช็กของพอดี”
หลังจากที่นั่งดื่มกันอยู่นานเหมือนกัน ฉันก็เริ่มมึนหัวขึ้นมาก็เลยบอกพี่เซอร์คัสว่าฉันจะออกไปสูดอาการข้างนอกหน่อยเพราะในนี้มันทำให้ฉันอึดอัดมาก
แต่พอฉันจะลุกไปเขาก็คว้ามือฉันเอาไว้ก่อนทำให้ฉันหันกลับไปมองหน้าเขาที่มองหน้าฉันอยู่ก่อนแล้ว ก่อนที่เขาจะบอกว่าให้คุณมาร์ตินพาฉันออกไป
แต่พอฉันจะปฏิเสธเขาก็บอกว่าเขาไม่อยากให้ฉันออกไปคนเดียวเพราะอาจจะมีเจ้าหนี้ของพี่มาร์คอยู่ที่นี่ด้วยก็ได้ ฉันก็เลยพยักหน้าแล้วยอมให้คุณมาร์ตินออกมากับฉันด้วย
“หนูขอออกไปสูดอากาศข้างนอกหน่อยนะคะ รู้สึกมึนหัวแล้ว”
“ให้มาร์ตินไปด้วย”
“แต่ว่า...”
“เราก็รู้ใช่มั้ยว่าตอนนี้เรากำลังหลบเจ้าหนี้ของพี่ชายตัวเองอยู่”
“ก็ได้ค่ะ”
ฉันเดินออกมาข้างนอกพร้อมกับคุณมาร์ติน พอออกมาแล้วฉันก็เดินไปนั่งที่เก้าอี้ไม้ตัวยาว
คุณมาร์ตินเองก็เดินมานั่งข้างฉันเหมือนกัน ก่อนที่เขาจะหันหน้ามามองหน้าฉันแล้วพูดขึ้นมาว่าพี่เซอร์คัสเจ้านายของเขาไม่เคยเป็นห่วงผู้หญิงคนไหนมาก่อนเลย
และฉันก็เป็นคนแรกที่เขาเป็นห่วงมากขนาดนี้ด้วย อีกอย่างเขาก็ไม่เคยรับเลี้ยงเด็กคนไหนด้วยซ้ำ
ไม่ว่าจะเป็นน้องสาวเพื่อนหรือใครก็ตาม เรื่องของเขาน่ะฉันไม่รู้หรอกเพราะฉันไม่ได้สนใจอะไรแบบนี้มานานแล้วไง
“จริงๆ คุณไม่ต้องตามหนูมาแบบนี้ก็ได้นะคะ หนูอยู่คนเดียวได้”
“คุณเซอร์คัสเป็นคนสั่งฉันก็ต้องทำตาม”
“รักเจ้านายมากเลยนะคะ”
ฉันอดที่จะพูดประชดไม่ได้ เมื่อเห็นว่าคุณมาร์ตินทำงานได้เป็นอย่างดี ไม่ว่าเจ้านายของเขาบอกให้ทำอะไรเขาก็พร้อมที่จะทำให้หมดทุกอย่างเลยล่ะ
“เธอรู้มั้ยว่าคุณเซอร์คัสไม่เคยเป็นห่วงใครแบบนี้มาก่อนเลยนะ และไม่เคยพาผู้หญิงคนไหนเข้าไปอยู่ในเพนท์เฮ้าส์ของเขาด้วย และที่สำคัญเลยก็คือเขาไม่เคยรับเลี้ยงเด็ก แต่เธอเป็นคนแรกที่คุณเซอร์คัสทำแบบนี้”
“หนูควรดีใจใช่มั้ยคะที่พี่เซอร์คัสสนใจหนู?”
“ที่ฉันเล่าให้เธอฟังเพราะฉันอยากให้เธอรู้ว่าเธอควรจะตอบแทนเขายังไงเท่านั้น”
“…”
“เพราะทุกอย่างที่เขาทำอยู่ตอนนี้ เขาก็ทำเพื่อเธอ เธอควรจะตอบแทนเขานะมายา”
ฉันรู้อยู่แล้วล่ะว่าตัวเองควรจะทำยังไง ถ้าเกิดว่าฉันไม่คิดที่จะตอบแทนเขาน่ะฉันดื้อกับเขาไปนานแล้ว ไม่เชื่อฟังเขาแบบนี้หรอก
อีกอย่างนะฉันก็คิดแล้วว่าฉันจะยอมเป็นเด็กเลี้ยงของเขาให้เขาดูแลฉันแบบนี้และช่วยเหลือพี่มาร์คด้วย
อย่างน้อยตัวเองก็ไม่ต้องไปลำบาก จะบอกว่าฉันมันรักความสบายก็ได้นะ เพราะตั้งแต่ที่ฉันเกิดมาฉันก็ไม่เคยต้องลำบากเลย
พี่มาร์คดูแลฉันเป็นอย่างดี อะไรที่ทำให้ฉันสุขสบายได้เขาก็ทำหมดเลย
และตอนนี้เขากำลังลำบากแล้วคิดว่าฉันจะยอมทิ้งเขาไปแล้วตัวเองก็มาสุขสบายคนเดียวหรือเปล่าล่ะ
ฉันไม่ใช่น้องสาวที่ไม่รักดีขนาดนั้นหรอกนะ