สวัสดี...ความรัก!! บทที่1.

1542 คำ
สวัสดี...ความรัก!! วรดร/กัญนิชา นักเขียน บทนำ          ความรัก!! คำนิยามคำนี้ หมายถึงความสุข แต่มีบางคนปิดกั้นตัวเองไว้ เพราะความเจียมตน หลังเกิดปัญหาใหญ่ในชีวิต หนี้ก้อนมหาศาล ที่เธอแบกรับเอาไว้บนบ่า กับการผิดหวังที่ถูกคนที่เธอคิดว่ารักทอดทิ้ง ไม่มีแม้คำบอกลา ไม่มีแม้แต่สัญญาณเตือน เธอจึงซ่อนตัวหลังกำแพงแก้ว...เก็บหัวใจอ่อนแอไว้อย่างดิบดี เพื่อจะได้ไม่เจ็บช้ำอีกครั้ง          สวัสดีความรัก... ชายผู้หนึ่งที่โปรไฟล์หรู เขาหล่อ เขารวย เขาดูดีตั้งแต่หัวจรดปลายเท้า เขาเดินเข้ามาในชีวิตของเธอ พร้อมกับค้อน!! มกราทุบกำแพงแก้วที่เธอสร้างไว้จนละเอียด เขาเข้ามาป่วนหัวใจเธอ จนวันวาดต้องยอมใจอ่อน เปิดรับเขาเข้ามาในชีวิตจนได้ ชายหนุ่มเหมือนแสงสว่าง ที่ฉายฉานส่องนำทางเธอ ในวันที่มืดมัว มกราคือแสงนำทางเธอโดยแท้ ให้ทั้งความอบอุ่น ความปลอดภัย และมั่นคง...          “ผมก็แค่คนธรรมดา แต่ผมมันใจว่าคนที่ผมรอคือคุณนะ...มัฟฟิน” บทที่1.หนุ่มแปลกหน้าที่เข้ามาพร้อมกับความโชคดี “ยัยมัฟฟิน...แกรู้ยัง...มีร้านกาแฟเปิดใหม่ตรงหน้าซอยร้านแกอะ!!”          เสียงพราวฟ้าเพื่อนสาวคนสนิท เพื่อนคนเดียวที่ยังทนคบกับเธอ หลังวันวาด (มัฟฟิน) กรรณารายากจนลง สาเหตุเพราะบิดาถูกฟ้องล้มละลาย เมื่อกิจการที่ฝ่าฟันมานานหลายสิบปีอับปางลงเพราะพิษเศรษฐกิจ จากคุณหนูลูกสาวคนเดียวของเศรษฐีร้อยล้าน กลับกลายมาเป็นแม่ค้าขายขนม ในร้านเล็กๆ ริมถนนใหญ่บนพื้นที่ของมารดาที่ไม่ได้ถูกยึดทรัพย์ไปด้วย          “ก็พอรู้...แต่แน่ใจตอนแกบอกนี่ล่ะ แกก็รู้ว่าฉันไม่ค่อยออกไปไหน นอกจากออกไปส่งขนม” มือเรียวบางหยิบขนมอบที่เย็นสนิทใส่ลงไปในโหลแก้วเพื่อเอาไว้จำหน่ายเนื่องจากมีคนสั่งจอง          “แกเอ๋ย...คนอะไรไม่รู้ แต่ละคน...หล่อวัวตายควายล้มเลยอะแก!! อย่างนี้...ฉันต้องแวะมาหาแกบ่อยขึ้นแล้วแหละ จะได้แอบไปเหล่บาเรตต้าที่ร้านกาแฟเปิดใหม่นั่น”          วันวาดเกือบหัวเราะ มีผู้ชายคนไหนบ้างที่แม่เพื่อนสาวสุดแสบไม่ชม สายตาของหล่อนไม่เพี้ยนก็ไร้รสนิยมแหละ ตั้งแต่คบกันเป็นเพื่อน นับตั้งแต่มัธยมต้นยันจบมหาวิทยาลัยเพื่อนสาวของเธอคลั่งไคลบรรดาหนุ่มหล่อมาเป็นร้อยๆ แต่ไม่เคยเห็นลงเอยกับใคร ทำตัวเป็นผีเสื้อแสนสวยโฉบไปโฉบมา กรี๊ดกราดไปวันๆ แบบไม่มีพิษมีภัย          “อืม...หล่อขนาดไหน? เท่าชีวอน เจฮุน คิมยอก จงอิน ที่แกปลื้มนักหนาได้ไหมล่ะ?”          บรรดานักร้องบอยแบรนด์เกาหลีที่เพื่อนเธอปลื้มหนักปลื้มหนา ตามติดข่าวสารทุกนาทีไม่ยอมพลาดสักช็อตเดียวและเป็นชายในฝันที่พราวฟ้าคลั่งไคลอย่างหนัก          เสียงตอบอุบอิบ “คนล่ะแบบกันยะ นั่นน่ะซุปตาร์’ นี่คนธรรมดารัศมีคนล่ะแบบกัน แต่หล่อละลายเหมือนกันเปี๊ยบ”          “อ๋อ!! ไว้จะแวะไปส่องดูนะว่าจะสมคำชมของแกไหม...แต่วันนี้ลมอะไรหอบแกมาได้ล่ะ งานแกยุ่งจะตาย” สาวใสแต่มือฉมัง เป็นดีไซเนอร์ชื่อดังเพราะมีโอกาสได้ทำงานในร้านตัดเสื้อขนาดใหญ่ เพราะฉะนั้นพราวฟ้าจึงไม่ค่อยมีเวลาว่าง นานๆ จะโผล่หน้ามาหาเธอสักที          “แหมๆ ร้านกาแฟหนุ่มหล่อ กับร้านเบเกอร์รี่สาวโสด มันช่างเหมาะเหม็งอะไรแบบนี้” สาวสวยยกมือขึ้นกุมที่หว่างอก กะพริบเปลือกตาวิบวับทำตาเคลิ้มฝันจนเธออดหมั้นไส้ไม่ได้          “พอๆ ไม่ต้องมาคิดแทนฉันเลยแก...ฉันเข็ดแล้วล่ะ กลัวผิดหวังอีก”          หญิงสาวพูดเสียงเย็น ประสบการณ์หมาดๆ ยังเจ็บไม่ทันจาง มันทำให้เธอปิดตายหัวใจ ไม่อยากสานสัมพันธ์กับชายคนใด ให้หัวใจเจ็บช้ำเพิ่มขึ้น          พราวฟ้าชะงัก เธอลืมไปว่าวันวาดพึ่งจะอกหักรักคุด เพราะแฟนหนุ่มสุดหล่อ อนาคตไกล สถาปนิกของบริษัทยักษ์ใหญ่รายได้ปีละหลายแสนพึ่งสลัดเพื่อนเธอทิ้ง หันไปคบกับลูกสาวหุ้นส่วนในบริษัททั้งที่รักกันมาตั้งแต่สมัยเรียน เหตุการณ์เริ่มตั้งแต่ วันวาดเปลี่ยนสถานภาพจากลูกสาวของเศรษฐี กลายมาเป็นยาจกเต็มตัวไร้ญาติขาดมิตร เพราะบรรดาพี่ๆ น้องๆ หันหลังให้เพราะเกรงว่าจะต้องมีส่วนในหนี้ที่บิดาของหญิงสาวก่อไว้ ปริญทอดทิ้งเพื่อนของเธอทันที เขาไม่กล่าวแม้แต่คำลา ไม่เคยบอกเหตุผล แต่วันวาดรับรู้ได้เองจากภาพข่าวทางสังคมและหญิงสาวไม่เคยถามไถ่ถึงสาเหตุ ได้แต่กล้ำกลืนเก็บไว้ในอก          “ไอ้ผู้ชายใจหมาแบบนั้น... ไม่ต้องไปเสียดายหรอกฟิน!! ฉันเจอมันที่ไรเห็นแล้วสมเพชแทน...ยอมเป็นเบ้ให้ยัยคุณหนูนั่น เดินตามต้อยๆ เหมือนลูกหมา มันทิ้งแกไปน่ะดีแล้ว ดีกว่าตกลงปลงใจกันแล้วลายมาออกทีหลัง มันจะเจ็บหนักกว่านี้อีก”          “ฉันก็ว่าอย่างนั้นแหละ...นับว่ายังโชคดีไม่ได้เออออไปตอนนั้น ไม่อย่างนั้นฉันคงเจ็บหนักกว่านี้แน่ๆ”          “ว่าก็ว่านะฟิน...ฉันว่าแกไม่ได้รักปริญหร๊อก!! ฉันไม่เห็นแกร้องไห้สักเอะ...คนอกหักน่ะมันต้องฟูมฟายเป็นเหมือนคนบ้า แต่แกกลับเงียบเฉย” พราวฟ้าวิเคราะห์จากสิ่งที่เห็น เธอคาดว่าวันวาดไม่ได้รักไอ้ผู้ชายคนนั้นในฐานะคนรัก เพียงแต่ผูกพันเพราะคบกันมานาน เธอคิดว่าเพื่อนของเธอยังไม่รู้จักหรอก...ไอ้ความรู้สึกรักนี่น่ะ...          “มันก็วูบไปบ้าง เสียเซลฟ์นิดๆ แต่ไม่ได้เจ็บหนักอะไรมากนี่ ฉันบอกแกแล้วนี่นาว่าฉันคิดกับปริญแค่เพื่อน พวกแกยุกันดีนักฉันก็เลยตกลงไปงั้นเอง”          สมัยเรียนกลุ่มเพื่อนยุให้เธอรับปริญเป็นแฟน เพราะต้องการตัดรำคาญและไม่ต้องการให้ผู้ชายคนใหม่เข้ามาเกาะแกะ เพราะอยากตั้งใจเรียน ปริญจึงเป็นกันชนชั้นดี จนเธอหลงลืมไปเลยว่าความรู้สึกวูบวาบ เนื้อตัวเต้นเวลาเจอคนที่ถูกใจเป็นอย่างไรเพราะชินกับการที่มีปริญอยู่ข้างๆ          “ฉันล่ะอยากรู้จังเล๊ย!! ว่าคนที่ทำให้นางพญาหิมะอย่างแกหลงรักได้ จะเป็นคนแบบไหน เจ้าชายผู้แสนดี หรือว่ามหาโจรสุดหล่อ”          พราวฟ้าพูดประชด เธออยากให้วันวาดมีใครสักคนอยู่ข้างๆ เพื่อนจะได้ไม่อ้างว้างและโดดเดี่ยวแบบทุกวันนี้          “ไม่รู้สิ!! ถึงเวลามันก็มาเองมั้ง แม่ฉันบอกไว้นะแก ‘บทจะมามันก็มาเอง ไม่ต้องไปวิ่งไล่หรอก’ คำพูดมารดาลอยเข้ามาในหัว ในวันหนึ่งตอนที่เริ่มเป็นสาว เธอถามมารดาเรื่องนี้ และคำตอบที่มารดาอธิบายให้ฟังนั้นชี้ชัดจนเธอเข้าใจแจ่มแจ๋ว จึงได้แต่รอ...แต่ก็ยังไม่เคยพบผู้ชายคนไหนที่ทำให้เธอหัวใจเต้นสักคน...เธออาจจะเป็นปิศาจหิมะเหมือนที่พราวฟ้าบอกก็ได้...เพราะหัวใจตัวเองเย็นชากับเพศตรงข้าม ไม่ว่าจะมาในรูปแบบไหน เธอไม่เคยหวั่นไหวเลยสักครั้ง          “แปปนะแก ฉันไปสั่งกาแฟกินก่อน เอาป่ะ เพื่อโชคดีได้เบอร์โทรฯ บาเรตต้าหล่อๆ มาสักคนสองคน”          พราวฟ้ากระเด้งตัวลุกขึ้นยืน เธอพูดเสียงขี้เล่น แต่วันวาดคิดว่าเจ้าหล่อนเอาจริง เมื่อดวงตาที่เคยขี้เล่นกลับจริงจังจนน่าตกใจ          “เอาจริงอะ!!”          “เอาป่ะเดี๋ยวหิ้วมาเผื่อ กาแฟนะยะหล่อน บาเรตต้าน่ะแกต้องไปสอยเอง”          “เอสเปรสโซ่เย็นเผื่อแก้วก็ได้...ฉันกำลังอยากเหมือนกัน” หญิงสาวฉีกยิ้ม มองตามหลังเพื่อนสาวที่เดินลิ่วๆ ไปอย่างเร็ว จนอดคิดไม่ได้ว่า วันไหนมีเวลาว่างๆ จะต้องออกไปส่องร้านกาแฟร้านนั้นดูบ้าง เธอเคยเห็นแต่ตอนที่มันปิดแล้ว เพราะกว่าจะเคลียร์ร้าน ทำความสะอาดพื้นเสร็จ ไฟฟ้าตามร้านรวงก็ปิดเกือบหมด มีร้านเธอร้านเดียวที่เลิกดึกสุด เพราะหญิงสาวสาละวนทำงานเพลินเกินไป กรุ๊งกริ๊ง!!          เสียงกระพรวนดอกไม้เหนือประตูหน้าร้านสั่นดังกราวใหญ่!! พร้อมกับร่างสูงใหญ่ของผู้ชายผิวขาว สวมแว่นตากรอบสี่เหลี่ยมผืนผ้า ใบหน้าเขาชวนมองเชียวแหละ เพราะมันกระจ่างใส แถมริมฝีปากสีสดยังมีรอยยิ้ม จนเธออดไม่ได้ที่จะยิ้มตามไปด้วย “รับอะไรดีคะ ขนมอบใหม่ๆ ทำออกมาร้อนๆ เลยค่ะ ไม่ทราบจะรับอะไรดีเอ่ย มีคิดไว้บ้างหรือเปล่าคะ ฟินจะได้แนะนำให้” งานขายต้องมาก่อนเมื่อมีลูกค้าเข้ามาเยือน เธอส่งยิ้มให้แล้วจึงชี้ชวนให้คุณลูกค้าดูสินค้าที่มีวางจำหน่าย
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม