บทที่ 4
เสียงร้องของหญิงสาวขาดหายไปพร้อมกับที่เธอต้องสะดุ้งเมื่อคนเอาแต่ใจเสือกไสลิ้นสากหนาเข้าไปในปากของเธออีกครั้ง คราวนี้เขาจูบเธออย่างหนักหน่วงจนลีลาวดีรู้สึกเจ็บจี๊ดบนริมฝีปาก
ลีลาวดีรู้นิสัยของอีธาน เขาเป็นคนมุ่งมั่นไม่เฉพาะกับหน้าที่การงานแต่ยังรวมถึงเรื่องส่วนตัวด้วย ถ้าเขาจะทำอะไรก็จะไม่มีวันถอย เขาจะทำมันถึงที่สุดเหมือนที่กำลังบีบคั้นเธออยู่ตอนนี้
แต่โอ...มันช่างเป็นการบีบคั้นแสนหวานที่หญิงสาวไม่อยากสัมผัส เธอไม่อยากอยู่ใกล้เขา ไม่อยากถูเนื้อต้องตัวเขา ลีลาวดีกำลังคิดถึงวันคืนเก่า ๆ ที่ไม่เคยปฏิเสธรสรักอันเร่าร้อนของมหาเศรษฐีหนุ่มผู้นี้ได้เลย
“อีธาน...อา...”
ร่างเล็กถูกกอดรัดจนเนื้อตัวของเธอแทบจะหลอมเข้ากับเขาได้อยู่แล้ว แต่อีธานก็ยังไม่หยุด เขาทั้งจูบทั้งจับต้องตัวเธอพลางก็ครางอยู่กับริมฝีปากของหญิงสาว
“ลิซ...คุณยังดื้อเหมือนเมื่อก่อนไม่มีผิด แต่ครั้งนี้ผมจะไม่ยอมปล่อยคุณไปไหนอีกแล้ว”
“อย่าค่ะ อีธาน..โอ...อย่าค่ะ”
ลีลาวดีร้องเสียงแหบเบา เธอรู้ดีว่าถ้าอยู่ในสภาพแบบนี้จะเกิดอะไรขึ้นในอีไม่กี่นาทีข้างหน้า แต่เธอจะหลีกลี้ไปจากเขาได้อย่างไรในเมื่อจิตใต้สำนึกยังคงร่ำร้องหาเขา
“อีธาน...ไม่นะคะ”
“ผมแน่ใจว่าคุณไม่เคยมีใคร...ลิซ...แต่...ให้ตายเถอะ!...ผมอยากจะรักคุณตอนนี้”
“อีธาน”
ลีลาวดีได้แต่ส่งเสียงดังอยู่ในลำคอเมื่ออีธานหยัดลำตัวสูงใหญ่ของเขาขึ้นนั่งคร่อมอยู่บนตัวเธอ เขาถอดเสื้อทิ้งไปอย่างไม่ใยดีเผยให้เห็นกล้ามเนื้อหนั่นแน่นบนเรือนร่างกำยำก่อนจะโน้มลำตัวลงไปหาหญิงสาวอีกครั้ง
“อีธาน...คุณทำแบบนี้ไม่ได้นะคะ” หญิงสาวพยายามปัดป้องแต่ไม่ทันวงแขนแกร่งที่กระหวัดรัดร่างขอหญิงสาวซึ่งอยู่ในชุดพนักงานเสิร์ฟอย่างรวดเร็ว
“ทำไมจะไม่ได้...คุณเป็นเมียผมแล้วนะลิซ...จำไม่ได้รึยังไง”
“แต่ตอนี้ฉันเป็นพนักงานเสิร์ฟของรงแรมนะคะ ถ้าผู้จัดการรู้เข้าฉันโดนไล่ออกแน่ ๆ “
“ช่างหัวผู้จัดการ!” เขาว่าแล้วซุกไซ้ใบหน้าไปตามลำคอของหญิงสาว ลีลาวดีอยากจะหายตัวได้ในวินาทีนั้น วินาทีที่หัวใจของเธอเริ่มสั่นด้วยการปลุกเร้าของเขา
“ถ้ามีใครเข้ามาเห็นเราตอนนี้ผมจะบอกเขาว่าคุณเป็นเมียผม”
“อีธาน...อื๊อ...อย่ามาวางอำนาจกับฉันนะคะ”
“ผมไม่ได้วางอำนาจ แต่เชื่อเถอะว่า คุณจะไม่ปฏิเสธผม”
“คุณรู้ได้ยังไง”
“สายตาคุณมันฟ้อง...พระเจ้า...ลิซ”
ร่างสูงเลื่อนใบหน้าของเขาขึ้นมาจากลำคอขาวผ่อง เขาจ้องเธอนิ่งนานและมันยิ่งทำให้หัวใจดวงนั้นหวั่นหวาม
“ผมรู้ว่าคุณก็อยากให้ผมรัก”
“ฉันไม่...อือ...”
เสียงหวานขาดหายไปอีกครั้ง แต่คราวนี้อีธานไม่ได้ปิดปากเธอไว้ เขาซุกใบหน้าลงไปที่ซอกคอหอมกรุ่น ตวัดลิ้นร้อนไล้เลียและขบเม้มติ่งหูของหญิงสาว ลีลาวยิ่งกว่าโดนยากระตุ้นชั้นดีเข้าไป ร่างกายของเธอกำลังหวั่นไหวและกำลังจะกลายเป็นส่วนหนึ่งในอารมณ์ร้อนรุ่มของเขา
“อีธาน...ได้โปรดเถอะค่ะ...อย่าทำอย่างนี้เลยนะคะ ฉันขอร้อง”
ซึ่งก็เป็นคำร้องขอที่เบายิ่งกว่ากระซิบ ร่างน้อยบิดไปมาเบา ๆ เธอคุ้นเคยกับสัมผัสของอีธานที่เคยทำให้เธอทุกข์ทรมานและโหยหาเขาในเวลาเดียวกัน
ลีลาวดีสะดุ้งอีกหนเพราะมือซุกซนของชายหนุ่มกำลังล้วงลึกเข้าไปใต้ชายเสื้อ ลูบไล้บนหน้าท้องและบนสะดือของเธอก่อนจะเลื่อนสูงขึ้นและสัมผัสกับเนินเนื้ออวบอิ่มใต้บราเซีย
“อีธาน...ยะ...อย่า...”
หญิงสาวหอบหายใจ ร่างแน่งน้อยสั่นระริกเหมือนกลีบดอกไม้ที่กำลังจะเฉาต้องหยาดฝน เขาทำทุกอย่างด้วยความรวดเร็วแม้กระทั่งล้วงมือเข้าไปใต้บราเซียแล้วกอบกุมพวงถันหยุ่นนุ่มเอาไว้
ร่างกายของเขาเคร่งเครียดจนเธอสัมผัสได้ อีธานกำลังปลดปล่อยความอัดอั้นที่สุมเอาไว้นานนับปีกับเรือนร่างที่เขาเฝ้าคอยและปรารถนาของเธอ และไม่ใช่เพียงเขาที่อัดอั้น สำหรับลีลาวดีแล้วนี่คือสิ่งที่เธอกำลังหวั่นกลัวมากที่สุด นั่นคือกลัวว่าความต้องการที่ถูกกดไว้ในส่วนลึกจะแตกระเบิดออกมาเหมือนพลุไฟ
“อีธาน...อย่าค่ะ...ฉันไม่...อา...ไม่เต็มใจจะให้คุณทำอย่างนี้”
“ผมรู้ว่าคุณโกหก ลิซ...คุณจะโกหกใครก็ได้ แต่ไม่ใช่ผม”
“คุณไม่มีวันรู้ อีธาน...อา...อา”
ลีลาวดีเริ่มครางเสียงแหบเมื่ออีธานงัดไม้เด็ดของเขานั่นคือการบีบเคล้นทรวงสวยใต้เสื้อเชิ้ตของหญิงสาวและตวัดปลายนิ้วสัมผัสบนยอดถันเบา ๆ เรียกเสียงครางจากร่างเล็กราวกับเธอทุกข์ทรมาน
“อีธาน...ฉันไม่ยอมคุณหรอกนะ...อ๊า...อืม...อา”
ปากจิ้มลิ้มที่พยายามปฏิเสธผ่อนลมหายใจหนักออกมาพร้อมกันด้วย ลีลาวดีกำลังเหนื่อยหอบ เธอกำลังถูกทดสอบและดูเหมือนว่าร่างกายของเธอกำลังอ่อนแอและพ่ายแพ้แก่สัมผัสรุกรานทว่าวาบหวามรันจวนนั่นทุกขณะ
บทที่ 5
อีธานไม่เพียงสัมผัสนิ่มเนื้อใต้บราเซียบอบบางของเธอเท่านั้น แต่เขายังรุกล้ำปากของเธออีกครั้งด้วยลิ้นสากหนาที่แทรกเข้าไปดูดดื่มความหอมหวานอย่างไม่รู้จักพอ
ชายหนุ่มกำลังพรึงเพริดต่อรสหวานล้ำที่เขาเฝ้าคอยและตามหามานานนับปี ทำไมเขาถึงไม่มีใครอื่นนอกจากลีลาวดี...ก็เพราะเธอเป็นผู้หญิงที่ทั้งอ่อนหวานและดึงดูดเขามากขนาดนี้นี่เอง