“หุบปากซะ” ฉันถอยกลับออกมา แล้วยิ้มให้เขาแทน
“ขอโทษนะคะพี่ดัชซ์ ถ้าได้อ้าแล้ว... นานะหุบไม่ค่อยได้อ่ะค่ะ” ฝ่ามือใหญ่บีบหมับที่แก้มฉันทันที
“เดี๋ยวเธอจะได้รู้ ว่าจุดจบของผู้หญิงร่านมันเป็นยังไง!”
เขาว่าจบก็ดันหน้าฉันจนฉันล้มฟุบไปกับเบาะอีกครั้ง ก่อนจะกลับไปขับรถต่อด้วยอารมณ์ฉุนเฉียว ที่ฉันรู้เพราะเขาออกรถแบบออกล้อฟรีและความเร็วของเครื่องยนต์ก็ดังอื้ออึงราวกับรีบบึ่งไปลงนรก
แต่ไม่ได้... ฉันจะไม่ยอมลงนรกไปกับเขาเด็ดขาด ฉันจึงตัดสินใจหยัดลุกนั่งอย่างทุลักทุเลและชวนคุยแทน
“พี่จะพาฉันไปไหน”
“ไม่พาไปตายหรอก”
“แต่ขับรถแบบนี้พาไปตายชัด ๆ”
“หุบปาก!” ฉันจิกตาใส่เขาผ่านกระจกมองหลัง แต่ได้รับเพียงสายตาพิฆาตกลับมาเท่านั้น ตอนนี้รถขับไปเรื่อย ๆ ผ่านฝนผ่านดวงไฟสีส้มข้างทาง และหลังจากนั้นก็มีแค่ความมืดและป่ารก
ทางข้างหน้าไม่รู้ฉันจะเจออะไร ฉันกลัวนะไม่ใช่ไม่กลัว แต่ตอนนี้จะหนีก็ไม่ได้ ทำได้แค่ทำใจดีสู้เสือเท่านั้น
จนรถเลี้ยวเข้าไปในซอยเปลี่ยว ผ่านซอยเล็ก ๆ ที่เข้าได้เพียงเลนเดียวมาจอดที่บ้านหลังนึง ไม่... มันไม่ใช่บ้าน พอมองชัด ๆ มันมีลักษณะคล้ายโกดังใหญ่อยู่กลางทุ่ง ถึงตอนนี้จะเป็นเวลากลางคืนแสงจันทร์ที่สาดส่องลงมาก็ทำให้ฉันเห็นได้ราง ๆ ว่าบริเวณรอบ ๆ เป็นทุ่งกว้างที่ไม่มีอะไรเลย
หรือว่า... นี่จะเป็นโรงชำแหละ เขาจะฆ่าฉันจริง ๆ เหรอ?
บ้าเอ๊ย! หอยยังไม่ได้ใช้เลยจะตายซะแล้ว
“พี่ดัชซ์ พี่จะทำอะไร?” ฉันถามทันทีเมื่อเขาลงจากรถเดินอ้อมมาเปิดประตู แต่เขาไม่สนใจจะตอบ กลับกระชากแขนฉันลงไปสุดแรง
“โอ๊ย ไอ้พี่ดัชซ์! พี่จะทำอะไรฉัน?”
“เงียบ”
“ไม่เงียบ ทำไมพี่เลวแบบนี้วะ พี่ฆ่าพี่แนนไม่พอยังจะฆ่าฉันอีกเหรอ?
เราไปทำอะไรให้ พี่ถึงได้จงเกลียดจงชังกันขนาดนี้” มือที่จับแขนกระตุกดึงฉันไปใกล้ ๆ ทันที ก่อนที่พี่ดัชซ์จะกัดฟันกรอดจ้องฉันตาเขม็ง
“ถ้าเธอไม่เงียบ... ฉันจะฆ่าเธอ”
ฉันหายใจหอบแรงมองหน้าเขา แต่ก่อนที่น้ำตาบ้า ๆ จะไหลลงมาโดยไม่รู้ตัว ฉันรีบหันมองทางอื่นแทน ไม่ฉันจะไม่ร้อง และจะไม่อ่อนแอเด็ดขาด อดทนไว้นานะ แกต้องอดทน
ไม่ว่าพี่ดัชซ์จะจับฉันมาทำอะไรก็แล้วแต่ แต่ที่แน่ ๆ ฉันจะไม่ยอมให้เขาลอยหน้าลอยตาทั้ง ๆ ที่ฆ่าพี่สาวฉันหรอก กับการสูญเสียที่ครอบครัวฉันได้รับติดคุกห้าปีมันยังน้อยไป
“ต้องให้ขู่ถึงจะฟัง เข้าไปข้างใน”
ฉันไม่ตอบ เดินตามแรงกระตุกที่ดึงเข้าไปข้างใน และเมื่อย่างเหยียบเข้าไปในอาณาเขตโกดังหัวใจก็แทบตกลงไปกองที่ตาตุ่ม เพราะข้างในมีผู้ชายนับสิบกำลังเลื่อยไม้ทำอะไรก็ไม่รู้ ทุกคนมีลายสักน่ากลัว หน้าดุตัวใหญ่บึกบึน แต่ยกเว้นหนึ่งคน คนที่ฉันเคยไว้ใจ
พี่บาส เขากำลังยืนมองฉันด้วยสีหน้าเรียบเฉย
“ห้องพร้อมแล้วเฮีย” หนึ่งในนั้นพูดขึ้นมา
“ดี ต่อไปนี้นานะจะมาอยู่ที่นี่ กูขอให้พวกมึงทุกคนให้เกียรติผู้หญิงของกู และจับตาดูให้ดีอย่าให้ผู้หญิงคนนี้หลุดออกไปเด็ดขาด”
“ครับ!” ทุกคนตอบพร้อมกันยกเว้นพี่บาสที่ยังมองฉันอยู่ ทำไมเหรอ? รู้สึกผิดงั้นสิ แต่ขอโทษทีตอนนี้ฉันก็เกลียดเขาไม่ต่างจากพี่ดัชซ์เลย เขาทำลายความเชื่อใจฉันไม่เหลือแล้ว
“ไอ้บาส” เสียงเรียกเรียบ ๆ ทำให้เขาละสายตาจากฉันมองพี่ดัชซ์ทันที
“เออ ว่าไง”
“ห้ามปล่อยนานะออกไป ไม่งั้นกูเอามึงตายแน่”
“อืม” พี่บาสรับคำแค่นั้นก็เดินไปหยิบบุหรี่บนโต๊ะจุดสูบคนเดียว และฉันก็ไม่ได้สนใจเขาอีกหันมองสภาพโกดังนี้แทน ฉันไม่ชอบที่นี่เลยมันน่ากลัวมาก
ดูสภาพแล้วคนพวกนี้ต้องเป็นคนที่เพิ่งออกมาจากคุกพร้อมพี่ดัชซ์แน่นอน
“ส่วนเธอ”
“ฉันทำไม?” ฉันถามกลับอย่างเอาเรื่อง
“ไม่ทำไม แต่ขึ้นไปนอนห้องฉัน” ฉันเบิกตามองหน้าคนบอกอย่างไม่เชื่อหู จะบ้าเหรอ? บนรถฉันไม่ได้คิดจะทำจริงนะ
“ไม่ ทำไมฉันต้องนอนห้องพี่ด้วย”
“หรือเธอจะนอนกับพวกนั้น” ฉันหันขวับมองผู้ชายเถื่อนนับสิบทันที
แต่เมื่อคนพวกนั้นยิ้มให้ก็รีบหันกลับมาตอบเขา
“ได้... ฉันนอนห้องพี่ แต่พี่ออกไปนอนที่อื่น” เท่านั้นแหละพี่ดัชซ์ก็ดึงแขนฉันเข้าไปใกล้ ๆ แล้วกัดฟันกระซิบ
“บนรถไม่ได้พูดแบบนี้ ที่แท้ก็เก่งแต่ปาก”
“ฉันไม่ได้เก่งแต่ปาก ถ้าพี่อยากเอาฉันให้เอาได้อยู่แล้ว แค่เรื่องเซ็กส์ฉันไม่ถือหรอก แต่ฉันแค่ไม่ชอบนอนค้างคืนกับใคร” ขณะพูดฉันไม่ละสายตาไปจากเขาแม้แต่น้อย
ตายกับเสียตัว ฉันเลือกเสียตัวยังดีกว่า
“แสดงว่าชอบชั่วคราว ไม่น่าล่ะถึงทำงานแบบนั้นได้”
“พี่อยากลองใช้บริการไหมล่ะ ถ้าติดใจถาวรได้นะ”
“ว้าย! พี่ดัชซ์!” ฉันตัวเบาหวิวเพราะอยู่ ๆ พี่ดัชซ์ก็อุ้มฉันพาดบ่าเดินขึ้นบันไดเหล็กอย่างรวดเร็ว จนคนของเขาโห่แซวตามหลัง อีกทั้งปรบมือรัวที่เห็นหัวฉันห้อยต่องแต่งแบบนั้น
ไอ้พวกโรคจิต
“ปล่อยนะพี่ดัชซ์!” เขาไม่สนใจแถมยังเดินเร็วขึ้นเรื่อย ๆ และเมื่อฉันได้ยินเสียงประตูเหล็กเปิดเข้าไปในห้อง ๆ นึงเท่านั้นแหละ พี่ดัชซ์ก็ทิ้งฉันลงพื้นทันที
‘ตุ๊บ’
“โอ๊ย!” เจ็บมาก เขาสูงเกือบร้อยเก้าสิบ และพื้นที่ทิ้งฉันลงคือพื้นปูน
เน้น ๆ ก้นฉันต้องช้ำแน่เลย
“ไปอาบน้ำซะ”
ว่าแล้วฉันก็หันมองรอบ ๆ ห้องทันที ห้องนี้เป็นห้องกว้างปูนเปลือยมีหน้าต่างที่เป็นกระจกหนึ่งบาน เตียงคือฟูกหนาคุมโทนสีเทา ไม่ได้หรูหราหมาเห่า แต่ทุก ๆ อย่างในห้องคือใช้ได้
“มองอะไร?”
“ทำไมพี่ให้ฉันมาอยู่ที่นี่? จับฉันมาทำอะไรกันแน่” เขาลอบถอนหายใจอย่างเบื่อหน่าย
“ฉันไม่ได้ฆ่าพี่สาวเธอ และยัยนั่นก็ยังไม่ตาย” เขาพูดอะไรออกมา ข่าวที่ออกโครม ๆ คือศพถูกตรวจสอบโดยสถาบันนิติเวชชั้นนำของประเทศไทย มีชิ้นเนื้อเขาติดในซอกเล็บพี่แนน ถึงศพจะเริ่มเสียรูปแต่ดีเอ็นเอก็คือพี่แนน
เมื่อห้าปีก่อนคดีใหญ่มาก หลังจากที่ฉันได้รู้จากปากยายฉันก็ไปหาข้อมูลในเน็ต แถมก่อนที่จะเห็นศพยังมีภาพจากกล้องวงจรปิดตอนที่พี่ดัชซ์ลากพี่แนน
ออกมาจากผับ ๆ นึงด้วย
ทำไมมันจะไม่จริง เขาโกหก
“ไม่จริง”
“จริง”
“ไม่จริง! พี่แค้นที่ถูกจับเข้าคุกใช่มั้ย? ถึงจับฉันมาที่นี่ มันไม่มีประโยชน์หรอกนะฉันไม่กลัวหรอก และอีกอย่างห้าปีที่อยู่ในคุกมันยังไม่สาสมกับที่พี่ทำกับ
พี่แนนด้วยซ้ำ คนอย่างพี่ต้องถูกติดคุกตลอดชีวิต หรือไม่ก็ถูกประหาร!”
พี่ดัชซ์กัดฟันจนสันกรามปูดจ้องฉันตาเขม็ง ก่อนที่สุดท้ายเขาจะเดินไปที่โต๊ะข้างเตียงแล้วคว้าอะไรบางอย่าง
‘โคร่ม’
“กรี๊ด...” อยากจะบ้า! เขาคว้าโคมไฟปาลงพื้น เฉียดหัวฉันไปนิดเดียว
“โง่!”
“วะ ว่าไงนะ?”
“พี่สาวเธอไม่ได้รักเธอกับยายสักนิด ผู้หญิงคนนั้นมันเลว และการที่ฉันจับเธอมาที่นี่ เพราะยัยนั่นกำลังต้องการตัวเธอ”
ฉันอยากจะหัวเราะให้ฟันร่วง ต้องการตัวฉัน พี่แนนกำลังหาตัวตาย
ตัวแทนรึไง ฉันเงยขึ้นมองพี่ดัชซ์อีกครั้ง ก่อนจะหัวเราะลั่นออกมา
“ฮ่า ๆ แล้วพี่จะทำยังไง พี่เป็นหมอผีปัดเป่าได้เหรอ? คนตายไปแล้วจะอยากได้ตัวฉันไปทำไม ตัวตายตัวแทน? ว้าวซ่ามากเลยนะที่พี่เชื่อเรื่องพวกนี้ด้วย”
พี่ดัชซ์ไม่ตอบ แต่เขาเดินไปที่โต๊ะหยิบกรรไกรมา ก่อนที่จะนั่งยอง ๆ ตรงหน้า มองหน้าฉันด้วยสายตาหยามเหยียด
“ฉันไม่คิดว่าเธอจะโง่ขนาดนี้”
“ไม่คิดว่าพี่จะเหี้ยขนาดนี้เหมือนกัน” ฉันว่ากลับแล้วจ้องหน้าเขา แต่ริมฝีปากหยักกระตุกยิ้มเบา ๆ
“ปากดี”
“ใช่ พี่ลองจูบดูมั้ยล่ะ” เขาไม่สนใจจะตอบคำถามใช้กรรไกรไล้เบา ๆ ตามใบหน้าฉัน ตอนที่แก้มสัมผัสกับโลหะเย็น ๆ ขนอ่อนฉันลุกซู่อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
สายตาพี่ดัชซ์มันไม่ใช่เขาเลย ไม่มีคำว่าอ่อนโยน ไม่มีคำว่าความเป็นคน นัยน์ตานิ่งลึกคาดเดาไม่ได้ว่าเขาคิดอะไรอยู่ รู้แต่ว่ายิ่งมองยิ่งน่ากลัว
“รู้มั้ยว่าฉันจัดการกับคนโง่ยังไง?” เขาพูดขณะที่ลดกรรไกรในมือลงไปเรื่อย ๆ จนถึงหน้าอกฉัน จนตอนนี้คอฉันเริ่มแห้งผาก แต่ทว่าจะน้ำลายสักหยดกลับไม่กล้ากลืน
จนอยู่ ๆ เขาตัดฉึบ จนเสื้อฉันเปิดเห็นบรา และตัดสายรัดที่ข้อมือออกให้ฉันเป็นอิสระ
“ไปอาบน้ำ”
“พี่จัดการคนโง่ด้วยการไล่ไปอาบน้ำเหรอ?”
“ทำไม? หรืออยากโดนเอาจริง ๆ”
“...” ฉันไม่ตอบ ยังคงมองหน้าเขาอยู่แบบนั้น
“หึ ฉันไม่ลงโทษใครด้วยเซ็กส์ ถ้าทำแบบนั้นเธอคงถูกเอาจนตาย เพราะเธอโง่มากนานะ”