นานะ | พบเจออีกครั้ง

1736 คำ
“ตื่นได้แล้ว” “อื้อ ไม่ตื่น... ไม่อาว จะนอนต่อ” “ฉันบอกให้ตื่น น้ำลายยืดหมดแล้ว” คำว่าน้ำลายยืดทำให้อีนานะรีบดีดตัวลุกทันที ก่อนที่จะรีบกอดหน้าอกตัวเองที่มันล่อนจ้อนไว้ และหันไปมอง พี่ดัชซ์ตกใจ เขาแต่งตัวอาบน้ำเสร็จแล้ว แต่ทำไมฉันเปลือยแบบนี้ล่ะ หรือเมื่อคืน... เมื่อคืน มันคือความจริง! “กรี๊ด...” “เงียบ!” ริมฝีปากบางเม้มแน่นทันที ก่อนที่นิ้วชี้เรียวที่ชี้หน้าอยู่จะชี้ ไปที่พื้น “เมาเหมือนหมา ทั้งอ้วกทั้งโวยวาย ตื่นแล้วก็เก็บอ้วกตัวเองซะ ฉันจะได้พาไปดูหน้าพี่สาวเธอให้เห็นกับตา” ดะ เดี๋ยวนะ เมื่อคืนสรุปเรามีอะไรกันรึเปล่า? ฉันเริ่มสับสนจนเปิดผ้าห่มดูหลายครั้ง ฉันโป๊จริง ๆ บั้นท้ายก็เจ็บแทบยกไม่ขึ้น ภาพเมื่อคืนตัดตอนไหนวะ ไม่นะ... ฉันอม เอ๊ย ฉันออรัลเซ็กส์ ฉันขึ้นขย่ม แถมตกลงเป็นเมีย พูดทุกอย่างเลยรวมถึงสารภาพรักด้วย “ทะ ทำไมฉันแก้ผ้า?” ฉันตัดสินใจถามไปตามตรง หวังว่าอีนานะจะไม่ทำอะไรบ้า ๆ นะคะซิส “ฉันเป็นคนถอดให้เอง เพราะเธอเมาและอ้วกรดตัวเอง” ถอดให้? แล้วอย่างอื่นมันจะรอดมั้ย “แล้วหลังจากนั้นล่ะ พะ พี่ทำอะไรฉันรึเปล่า?” “ถ้าโง่จนไม่รู้ตัวเองฉันก็ช่วยอะไรไม่ได้ ไปอาบน้ำซะ ก่อนที่พี่สาวเธอจะโผล่หัวมาเราต้องไปหาที่ซุ่มรอ” ว่าแล้วเขาก็เดินออกไปจากห้องนอนฉัน ทิ้งให้ฉันนั่งหัวยุ่ง อ้าปากค้างอยู่คนเดียว สรุปมี หรือไม่มี คนมีสติดีทำไมไม่บอก ให้รู้เองฉันจะไปตรัสรู้ได้ไง ในเมื่อจิโมะโกะยังไม่เคยถูกใครจิ้มเลยสักครั้ง เมื่อง่วนคิดหาคำตอบเองอยู่นานพี่ดัชซ์ก็เปิดประตูเร่งให้ฉันไปอาบน้ำ ซึ่งฉันอ้วกจริง ๆ ลงจากเตียงคือต้องเช็ดอ้วกตัวเองและเก็บเสื้อผ้าที่ถูกถอดทิ้งไปแช่ แต่ก็ยังไม่ยอมแพ้ที่จะหาคำตอบ พอล็อคประตูห้องน้ำเท่านั้นแหละ ฉันก็รีบนั่งที่ชักโครกก้มสำรวจเนินเนื้อสาวตัวเอง มีหรือไม่มีวะ ถ้ามีจะเจ็บแค่ไหน? แต่เอาจริง ๆ ฉันรู้สึกเจ็บอยู่นะ แต่ไม่มากเท่าไหร่ โอ๊ยอีนานะบ้าเอ๊ย! เมื่อคืนมึงทำอะไรลงไปเนี่ย! กว่าจะอาบเสร็จกินเวลาไปครึ่งชั่วโมง อาบน้ำห้านาที ก้มดูหอยยี่สิบนาที แล้วเมื่อแล้วเสร็จฉันก็เดินออกมาที่ห้องนั่งเล่นด้วยอารมณ์ที่ยากจะอธิบาย แต่พี่ดัชซ์เขาชิลมาก พอฉันมาถึงก็หยิบหมวกแก๊ปและแว่นกันแดดจากไหนไม่รู้ มาสวมให้ “ต้องแต่งแบบนี้เลยเหรอ?” “เธอต้องเห็นแนน ก่อนที่แนนจะเห็นเธอ” “ทำไม?” “เพื่อความปลอดภัย” ตอนนี้ฉันก็ยังสงสัยนะ ถ้าพี่แนนยังมีชีวิตอยู่จริง ๆ พี่แนนจะทำร้ายฉันทำไม ในเมื่อฉันไม่เคยทำอะไรให้ และอีกอย่างเราก็สายเลือดเดียวกันตั้งครึ่งนึง ฉันเดินตามพี่ดัชซ์ออกมาจากห้อง แต่เราไม่ได้ไปที่ลิฟต์หรอกนะเขานำฉันลงบันไดหนีไฟ ระหว่างที่ก้าวลงทีละชั้นเขาจะหยุดพัก และหยิบกล้องส่องทางไกลอันจิ๋วขึ้นมาส่องไปที่ลานจอดรถ แต่จะบอกอะไรให้ พอฉันมองเขาแล้วหยุดคิดถึงภาพเมื่อคืนไม่ได้เลย รูปร่างแบบนี้ลายสักแบบนี้ หุ่นดี เอวดี มันดีเอามาก ๆ ถ้าเป็นฝันก็ดีไปจะได้ไม่เสียใจทีหลัง แต่ถ้าเป็นความจริงฉันจะทำยังไงต่อดีวะ ปล่อยผ่าน หรือเบิ้ลสักหน่อยให้พอฟิน ว้ายแกคิดอะไรนานะ แกเป็นผู้หญิงนะเว้ย (เถียงกับตัวเองเหมือนคนบ้า) “พี่สาวเธอมาแล้ว เหอะ คงจะอยากได้ตัวเธอมากสินะ” พอได้ยินแบบนั้น ฉันก็รีบเดินไปยืนข้างพี่ดัชซ์มองไปข้างล่างทันที ก่อนที่เขาจะส่งกล้องส่องทางไกลอันจิ๋วให้ส่องบ้าง ขณะที่ปรับเลนส์มองไปที่รถอัลฟาร์ดคันสีดำหัวใจฉันเต้นกระส่ำอย่างลุ้นระทึก เหงื่อเต็มมือ คอแห้งผาก เฝ้ารอคนในรถโผล่หน้าออกมา จนฉันซูมไปเห็นลูกน้องที่ตามมาอีกคันลงมาจากรถ และวิ่งไปเปิดประตูรถอัลฟาร์ดคันนั้น ใช่... มันมีผู้หญิงคนนึงนั่งอยู่จริง ๆ เธอใส่ส้นสูงสีแดงแต่งตัวเปรี้ยว ซึ่งเห็นแว๊บแรกฉันคิดว่าไม่ใช่ ยังไงก็ไม่คล้ายพี่แนนเลยสักนิด แต่ด้วยที่เราอยู่เพียงชั้นสองของตัวตึก ฉันจึงลองปรับเลนส์ซูมลงไปอีกที่ใบหน้าเพียงเสี้ยว ของเธอ ทันใดนั้นหัวใจก็กระตุกวูบจนเผลอทิ้งกล้องลงพื้นทันที ‘แกร๊ก’ “ไม่จริง พะ พี่แนน พี่แนนยังไม่ตายได้ยังไง ทำไมหน้าพี่แนนเปลี่ยนจนเกือบจำไม่ได้” ฉันถามคำถามมากมายราวกับคนสติแตก จนพี่ดัชซ์ก้มลงหยิบกล้องขึ้นมา แล้วเดินมาประชิดตัวฉัน “พี่สาวเธอไปทำหน้าใหม่ที่เกาหลีทั้งหน้า” ฉันเงยขึ้นมองพี่ดัชซ์น้ำตาคลอ ความรู้สึกตอนนี้ทั้งดีใจและไม่เข้าใจ พี่แนนยังไม่ตายแสดงว่าไม่ได้ถูกฆาตกรรม พี่ดัชซ์บริสุทธิ์ แต่เป็นแฟนแท้ ๆ ทำไมถึงไม่ช่วยพี่ดัชซ์ออกมาจากคุก? “ทีนี้รู้แล้วใช่มั้ย ว่าพี่สาวเธอมันสารเลวแค่ไหน” “พี่ดัชซ์ ฮึก ๆ” “ร้องทำไม?” “ฮือ ๆ” ฉันร้องไห้หนักกว่าเดิมจนข้อมือสองข้างถูกเขากระตุกเข้าไปหา “ฉันถามว่าร้องทำไม?” “พะ พี่แนนหาตัวฉัน ทำไมพี่แนนถึงไม่ไปหายายเลย ฮือ ๆ ฉันสับสนไปหมดแล้ว” เขาเหยียดยิ้มอย่างสมเพช มองฉันเหมือนเป็นอีโง่ที่มีเขาสวมบนหัว “ฉันไม่รู้หรอกว่ายัยนั่นต้องการตัวเธอไปทำไม แต่รู้ว่ามันไม่เคยหวังดีกับเธอ ฉะนั้น... เธอต้องระวังตัวไว้” ฉันกลืนก้อนสะอื้นลงคออย่างยากลำบาก ช่วยตอบฉันที ในสถานการณ์ตอนนี้ฉันควรตัดสินใจยังไง ยายฉันกำลังจะตายรอกำลังใจจากคนที่คิดว่าตายไปแล้ว ขณะที่ฉันเจอคนคนนั้นและมีคนบอกว่าเป็นตัวอันตราย ไม่ควรเข้าใกล้ เธอเป็นพี่สาวฉัน เราโตมาด้วยกัน ตลอดเวลาที่ผ่านมาฉันไม่เคยถูกพี่สาวรังแกเลย แถมตอนที่พี่แนนมาเรียนกรุงเทพ ยังส่งค่าเรียนค่าขนมให้ฉันตลอด และคนที่บอกกลับเป็นคนนอก ถึงแม้ว่าฉันจะเคยชอบ แต่ยายฉันล่ะ! พี่สาวฉันล่ะ! ครอบครัวเรามีกัน แค่นี้เองนะ “พี่ดัชซ์ฉันถามตรง ๆ พี่ช่วยฉันทำไม?” เขามองหน้าฉันนิ่งเรียบราวกับคนไร้ความรู้สึก จนฉันตัดสินใจถามต่อแข่งกับเสียงสะอื้น “ฮึก ๆ พี่จะแก้แค้นที่พี่แนนทำให้พี่ติดคุกใช่มั้ย” “ฉันแค่ไม่อยากให้เธอเป็นเครื่องมือเสวยสุขของผู้หญิงคนนั้นเหมือนฉัน” “แค่นี้เหรอ?” “...” “พี่เคยรู้สึกอย่างอื่นกับฉันบ้างมั้ย ฮึก ๆ พี่บอกฉันมา สิ อย่างน้อย ๆ ฉันจะได้ตัดสินใจถูกว่าฉันควรเชื่อพี่มากแค่ไหน” ในที่สุดฉันก็ถามเขาออกไปด้วยตัวเอง และพี่ดัชซ์ก็ตอบกลับมาทันทีโดยไม่ลังเล “ฉันเห็นเธอเป็นแค่น้องสาวคนนึง จะให้ฉันรู้สึกอะไร” ฉันสะบัดมือพี่ดัชซ์ออกแล้วก้มหน้าลงมองพื้น มือที่แนบข้างลำตัวกำแน่นจนสั่นเทา แกหวังอะไรอยู่เหรอนานะ แกรู้อยู่แล้วแกจะถามทำไม? หวังคำว่ารักจากเขาเหรอ? ต่อให้ไม่มีพี่แนนพี่ดัชซ์เขาก็ไม่รู้สึกอะไรกับแกอยู่แล้ว แกจะหวังให้เขาเห็นแกเป็นคนสำคัญ หรือใช้คำว่ารักให้แกเชื่อใจเขา มันไม่ได้ เมื่อฉันตอกย้ำตัวเองให้ใจแข็งเพื่อการตัดสินใจ ฉันก็เงยขึ้นมอง เขาอีกครั้ง “ขอบคุณที่ทำให้ฉันตัดสินใจง่ายขึ้น แต่ฉันขอเลือกครอบครัว ฉันจะพาพี่แนนกลับไปดูใจยาย” “ไม่ได้ ฉันไม่อนุญาต!” “พี่ไม่มีสิทธิ์มาห้ามฉัน!” เท่านั้นแหละเขาก็จับไหล่ฉันสองข้างกดเข้ากับผนังทันที สายตานิ่งเรียบเมื่อกี้ตอนนี้มองมาอย่างโกรธจัด “ทำไมเธอไม่ฟังคำเตือนฉันนานะ!” “พี่แนนคือครอบครัวฉันไง แล้วพี่เป็นใคร?” “อย่าให้ฉันจัดการกับเธอขั้นเด็ดขาดนะ กลับขึ้นห้องเดี๋ยวนี้” ฉันกัดฟันมองเขาทั้งที่น้ำตานองหน้า บังคับฉันแล้วได้อะไร ไม่รู้รึไงว่ายายฉันจะตรอมใจตายอยู่แล้ว พี่แนนไม่ฆ่าฉันหรอก ฉันไม่ตายง่าย ๆ หรอก ยายนู้นที่จะตาย และฉันอยากยื้อท่านไว้ เพิ่มเวลาอีกน้อยนิดให้เราอยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตาก็ยังดี เพราะท่านเป็นร่มโพธิ์ร่มไทรคนสุดท้ายในชีวิตของฉัน! “เลิกยุ่งกับฉันเถอะพี่ดัชซ์ ฉันเกลียดพี่ ได้ยินไหมว่าฉันเกลียดพี่!” เขานิ่งไปสักพัก ก่อนจะพยักหน้าเบา ๆ แล้วถอยหลังไปหนึ่งก้าว “งั้นไปสิ ฉันก็เบื่อที่จะคุยกับคนโง่แบบเธอเหมือนกัน” “...” ฉันมองเขาทั้งน้ำตา “ไป!” เท่านั้นแหละฉันก็ไม่มองคนตวาดไล่แม้แต่หางตา รีบสะบัดหน้าเดินลงบันได และวิ่งไปที่ลานจอดรถเผชิญหน้ากับพี่แนน ซึ่งก่อนที่จะไปถึงฉันหยุดยืนอยู่กลางถนน มองหน้าพี่สาวตัวเองที่เปลี่ยนไปแทบจำไม่ได้ทั้งน้ำตาที่ไหลออกมาไม่หยุด จนพี่แนนก้าวลงมาจากรถและส่งยิ้มให้ รอยยิ้มที่ฉันเคยเห็นตั้งแต่เด็กจนโตนั้น มันไม่ได้เปลี่ยนไปเลย “นานะ จำพี่ได้มั้ย” “ฮือ ๆ พะ พี่แนน!” และเราสองคนก็วิ่งโผเข้ากอดกันทันที
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม