บทที่ 2 : เจ้าบ่าวผิดฝา (1)

1418 คำ
“ทำยังไงดีคะคุณ จนป่านนี้แล้วตาวิตยังไม่กลับมาเลย” โสภาเขย่าแขนสามีเบาๆ ด้วยสีหน้าวิตกกังวลเมื่อยังไม่สามารถติอต่อลูกชายได้ ทั้งที่อีกไม่ถึงชั่วโมงพิธีก็จะเริ่มขึ้นแล้ว “แล้วคุณโทรตามหรือยัง” “โทรแล้วค่ะ แต่ตาวิตไม่ยอมรับสาย เดี๋ยวอีกไม่ถึงครึ่งชั่วโมงพิธีก็จะเริ่มแล้วนะคะ เราจะทำยังไงกันดี” “บ้าที่สุด! ไอ้ลูกคนนี้ทำไมถึงชอบสร้างปัญหาให้ผมนักนะ” คณิตสบถออกมาอย่างเหลืออดกับลูกชายตัวดี แต่ในขณะที่เขายังคิดแก้ปัญหาไม่ตกอยู่นั้น เสียงทักทายของผู้มาใหม่ก็ดังขึ้น ทำให้สองสามีภรรยาต้องหันมามองแทบจะพร้อมกัน “พี่คิท พี่สะใภ้ สวัสดีครับ” “อ้าวตาคีย์ มาถึงแล้วเหรอ” “ครับพี่ ลงจากเครื่องแล้วผมก็รีบตรงดิ่งมาที่นี่เลย ว่าแต่ตาวิตอยู่ไหนละครับ ผมยังไม่เจอหน้าหลานเลย” คีรินทร์บอก ก่อนที่จะหันซ้ายหันขวามองหาหลานชาย ซึ่งตอนนี้ไม่ได้อยู่รวมกับครอบครัวที่กำลังเตรียมตัวจะเริ่มเดินเข้าพิธีทางศาสนา ซึ่งถูกจัดขึ้นในโบสถ์ เป็นการแต่งงานในแบบคริสเตียน “มีเรื่องอะไรเหรอครับ ทำไมหน้าพี่สะใภ้กับพี่คิทถึงดูเครียดๆ” เมื่อสังเกตเห็นสีหน้าผิดปกติของพี่ทั้งสองคน คีรินทร์ก็เอ่ยถามด้วยความแปลกใจ เพราะใบหน้าของทั้งสองคนนั้นดูวิตกกังวลมากว่าจะมีความชื่นชมยินดีที่จะได้เห็นลูกชายแต่งงาน “เราติดต่อตาวิตไม่ได้ และไม่รู้ว่าตอนนี้มันอยู่ไหน” คณิตบอกกับน้องชายตามตรงถึงปัญหาที่กำลังพบเจออยู่ตอนนี้ ส่งผลให้คนฟังต้องทำตาโตด้วยความตกใจ “ว่าไงนะ! ก็อีกเดี๋ยวพิธีก็จะเริ่มแล้วไม่ใช่เหรอครับ” คีรินทร์เอ่ยถามพี่ชายด้วยน้ำเสียงเป็นกังวลแทน แต่ก่อนที่จะได้พูดอะไรมากกว่านั้น เสียงข้อความจากโทรศัพท์ในมือพี่สะใภ้ก็ดังขึ้นเสียก่อน “ลูกติดต่อมาแล้วค่ะคุณ” โสภาที่กำโทรศัพท์ไว้แน่นในมือระบายยิ้มออกมาเมื่อเห็นว่าเป็นข้อความมาจากลูกชาย นางรีบเปิดข้อความดูพร้อมกับส่งให้สามีดูด้วยอาการตื่นเต้น แต่แล้ว… ‘ฝากบอกคุณพ่อกับคุณปู่ด้วยว่าผมไม่ขอเข้าพิธีแต่งงานนะครับคุณแม่ แต่ถ้าคุณพ่อกับคุณปู่จะจัดงานให้ได้ก็ให้หาเจ้าบ่าวเอาเอง’ เมื่ออ่านข้อความจบโสภาก็รู้สึกเข่าอ่อนเหมือนตัวเองจะเป็นลม จนสามีต้องรีบประคองไว้ พร้อมกับสบถออกมาอย่างหัวเสีย “บ้าชิบ!” “เราจะเอายังดีละคะคุณ ตาวิตบอกว่าจะไม่มางานแต่ง แล้วเราจะทำยังไงต่อดี” โสภาเอ่ยถามสามีที่กำลังขมวดคิ้วยุ่งคิดหาทางออกอยู่ แต่แล้วจู่ๆ ก็เหมือนจะคิดอะไรขึ้นมาได้ เลยหันมาทางน้องชายด้วยสีหน้าที่มีความหวังอีกครั้ง “คีย์ นายต้องช่วยพี่ นายจะต้องเข้าพิธีแทนตาวิต” “ผมทำแบบนั้นไม่ได้หรอกครับพี่คิท จะให้ผมเข้าพิธีแต่งงานกับเจ้าสาวของหลานชายตัวเองได้ยังไง” คีรินทร์ส่ายหน้ารัวเร็ว ปฏิเสธทันทีเมื่อจู่ๆ หวยมาออกที่เขา “ได้สิคีย์ เท่าที่พ่อเคยบอกท่านไม่ได้ระบุว่าเจ้าบ่าวจะต้องเป็นตาวิตเท่านั้นนี่ แต่ท่านบอกว่าต้องเป็นคนของตระกูลเรา เพราะฉะนั้นนายเป็นคนของตระกูลเราแถมยังโสดอีกด้วย เพราะงั้นนายต้องทำได้” “แต่ผมมีคนรักแล้ว และเธอคงไม่ชอบใจแน่ถ้ารู้ว่าผมจะทำอะไรแบบนี้”คีรินทร์ปฏิเสธหัวชนฝา ไม่เห็นด้วยอย่างแรง “แล้วจะให้พี่ทำยังไง ในเมื่อเราไม่สามารถตามตาวิตให้กลับมาแต่งงานได้ และเราก็ไม่สามารถยกเลิกงานแต่งได้เหมือนกัน” “แต่…” “เราไม่มีเวลาแล้วนะคีย์ รีบเปลี่ยนเสื้อผ้าเร็ว เดี๋ยวเรื่องอื่นไว้ค่อยคุยกัน” “บ้าชิบ!” คีรินทร์สบถออกมาเมื่อไม่มีทางออกอื่นที่ดีกว่านี้ จู่ๆ อาผู้ใจดีอย่างเขาก็อยากจะจับหลานชายตัวก่อเรื่องมาตีก้นสักทีสองที แต่ก็ทำอะไรไม่ได้นอกจากยืนขบกรามอยู่แบบนั้น “เร็วสิคะคุณคีย์ เดี๋ยวจะไม่ทัน” เสียงรบเร้าของพี่สะใภ้ทำให้คีรินทร์ไม่มีเวลาคิดทบทวนอะไรมาก แต่ก่อนที่เขาจะได้ทำอย่างที่พี่ๆ ทั้งสองคนขอร้อง เขาก็อยากจะบอกเรื่องนี้กับคนรักสาวเสียก่อน เพราะไม่รู้ว่าหากเธอทราบเรื่องจะมีปฏิกิริยายังไง “ขอผมโทรหาคนรักก่อน” ชายหนุ่มว่าพลางดึงโทรศัพท์มือถืออกมาจากระเป่าปกเสื้อสูทด้านใน พร้อมกับต่อสายหาเธอทันที แต่เขาใช้เวลาพักใหญ่ เธอก็ไม่ยอมรับสายปล่อยให้เขาถือสายรอกระทั่งเสียงดังตูดๆ ดับไปเอง “รับสิโรส รับสักทีสิวะ!” คีรินทร์สบถออกมาอย่างหัวเสีย ก่อนจะเปลี่ยนจากการโทรเป็นฝากเสียงข้อความให้เธอแทน “ถ้าคุณว่างเมื่อไหร่โทรกลับมาหาผมด่วน!” …………………………………………………… สองสามีภรรยาที่หาทางออกเจอเมื่อครู่ ต้องพากันเดินเข้ามาในห้องพักที่ผู้เป็นบิดาพักอยู่ เพื่อสารภาพบางสิ่งบางเพราะเกรงว่าท่านจะมีอาการโรคหัวใจกำเริบหลังจากที่ต้องเห็นหน้าเจ้าบ่าวในพิธี “คุณพ่อครับ” “ว่าไง ไหนล่ะตาวิตเจ้าบ่าว” เจ้าสัวเด่นชัยหันมามองสองสามีภรรยาพร้อมกับเอ่ยถามถึงลูกชายของทั้งสองคน “คือ…ผมกับโสมีเรื่องจะสารภาพครับคุณพ่อ” “สารภาพเรื่องอะไร” คราวนี้คนถามถึงกับต้องเลิกคิ้วขึ้นสูง เมื่อเห็นความกังวลที่แสดงออกชัดบนใบหน้าของทั้งคู่ “คือ…”คณิตไม่รู้จะเริ่มต้นยังไงดี เลยได้แต่อึกอักจนทำให้คนรอฟังอยู่ต้องรบเร้าด้วยความรำคาญใจ “รีบพูดมา พิธีจะเริ่มแล้ว” “คือตาวิตหนีงานแต่งงานครับคุณพ่อ” “ว่าไงนะ!” เจ้าสัวเด่นชัยร้องเสียงดังลั่นกับข่าวใหม่ที่เพิ่งจะรับรู้จากปากลูกชายคนโต ไม่คาดคิดว่าเรื่องแบบนี้จะเกิดขึ้นในงานแต่งของหลานชายสุดที่รัก “ตาวิตหนีงานแต่งงานครับคุณพ่อ ยกโทษให้ผมกับโสที่เราไม่สามารถควบคุมลูกตัวเองได้ด้วยนะครับคุณพ่อ” “แล้วงานที่จะเริ่มในอีกไม่ถึงห้านาทีข้างหน้านี้จะเอายังไง!” “เราให้ตาคีย์เป็นเจ้าบ่าวแทนครับคุณพ่อ” “ตาคีย์อย่างนั้นเหรอ?” คราวนี้ดวงตาของชายชราหรี่แคบลงเล็กน้อย เมื่อคิดถึงอายุที่ห่างกันของเจ้าสาวและเจ้าบ่าวจำเป็น จริงอยู่ที่คีรินทร์นั้นมีรูปร่างหน้าตาที่ดีและเป็นที่หมายปองของสาวๆ จำนวนมาก แต่เขาไม่แน่ใจว่ากับดาวเรืองที่มีอายุห่างกันเป็นรอบนั้นเธอจะพอใจกับเจ้าบ่าวคนนี้หรือเปล่า “ครับคุณพ่อ คีย์กำลังแต่งตัวอยู่อีกสักพักก็คงเดินเข้าพิธี ผมกับโสเลยอยากมาแจ้งเรื่องนี้กับคุณพ่อก่อน” “ดีจังเลยนะ! หลานชายหนีงานแต่งงานแล้วได้อามาแต่งแทน แบบนี้เจ้าสาวคงปลื้มใจน่าดู” เจ้าสัวเด่นชัยอดไม่ได้ที่จะเอ่ยประชดลูกๆ ที่แก้ปัญหาเฉพราะหน้าด้วยกันสลับตัวเจ้าบ่าวกะทันหัน เรื่องอื่นเขาไม่กังวลเท่าความรู้สึกของว่าที่หลานสะใภ้ที่ตอนนี้จะกลายมาเป็นลูกสะใภ้ในอีกไม่กี่นาทีข้างหน้า ไม่รู้ว่าเจ้าหล่อนอทราบเรื่องหรือยัง แต่ถ้าจะให้เดาเขาคิดว่าเธอคงยังไม่ทราบเรื่องอย่างแน่นอน “ผมต้องขอโทษคุณพ่อด้วยนะครับ แต่เราไม่มีทางเลือกอื่นแล้วจริงๆ” “เอาเถอะ จะทำอะไรก็ทำ ขอแค่อย่ายกเลิกงานวันนี้ก็พอ” ในเมื่อไม่สามารถทำอะไรได้แล้ว สิ่งเดียวที่เจ้าสัวเด่นชายทำได้คือภาวนาให้พิธีวิวาห์ที่จัดขึ้นในโบสถ์ใหญ่โตผ่านพ้นไปด้วยดีเป็นอันพอ “ขอบคุณ คุณพ่อที่เข้าใจเรา” สองสามีภรรยาแทบจะเป่าปากโล่งอก ณ ตอนนั้น เพราะตอนแรกก็เกรงว่าท่านจะหัวใจกำเริบก่อนที่จะได้เข้าพิธีเสียอีก แต่เอาเข้าจริงเจ้าสัวกลับเข้มแข็ง และเข้าใจเรื่องง่ายกว่าที่คาดเอาไว้ …………………………………………
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม