บทที่ 3 : เรือนหอชุลมุน (1)

1274 คำ
สิบห้านาทีต่อมาคีรินทร์เดินออกมาจากห้องน้ำในชุดนอนตัวใหญ่ปกปิดเรือนร่างกำยำอย่างมิดชิด หลังจากที่อาบน้ำเสร็จเรียบร้อย ใบหน้าหล่อเหลาคลี่ยิ้มบางๆ เมื่อเห็นว่าร่างอรชรในชุดเจ้าสาวนั่งทำหน้าบูดบึ้งอยู่ตรงปลายเตียง ถ้าเดาไม่ผิดเจ้าหล่อนคงหนีออกจากห้องไปไม่ได้ เนื่องจากเขาได้วางการ์ดเฝ้าประตูห้องหอไว้ “มานี่เดี๋ยวผมช่วย” ชายหนุ่มว่าพลางพาร่างสูงสง่าเดินมาหยุดยืนอยู่ข้างหน้าเธอ เมื่อเห็นว่ามือเล็กพยายามเอื้อมรุดซิบชุดเจ้าสาวที่อยู่ทางด้านหลังไม่ถนัด ทว่าพอจะช่วยเจ้าหล่อนกลับพลิกตัวหนีไปอีกทาง “ไม่ต้อง ฉันทำเองได้” ดาวเรืองปฏิเสธความช่วยเหลือด้วยน้ำเสียงกระด้าง ไม่แม้แต่อยากจะมองหน้าเขา เพราะเธอยังคงโกรธเรื่องวันนี้ไม่หาย ทว่าชายหนุ่มที่ทนดูไม่ได้กลับไม่สนใจที่เธอต่อต้าน เขาจับร่างบางพลิกหันหลังให้พร้อมกับลงมือรูดซิบให้กับเธอเสียเอง “ถ้าทำเองได้ก็คงทำสำเร็จไปนานแล้ว” “บอกว่าอย่ามายุ่งไง” “นึกว่าอยากยุ่งนักหรือไง ถ้ามันไม่รำคาญลูกกะตาก็ไม่ช่วยหรอก” “แล้วใครใช้ให้ดูล่ะ ไม่ได้บังคับให้ดูสักหน่อย” “รู้ไหมว่าผมอายุห่างกับคุณเป็นรอบเลย เพราะฉะนั้นกรุณาให้เกียรติสามีของคุณที่มีอายุมากกว่าคุณด้วย” “คิดว่าอายุมากแล้วจะมาข่มเด็กให้กลัวง่ายๆ งั้นเหรอ ไม่มีทาง!” คีรินทร์พ่นลมหายใจออกมาแรงๆ ด้วยอารมณ์กรุ่นๆ เมื่อสาวน้อยเถียงคำไม่ตกฟาก และเพราะความโกรธเลยเผลอรูดซิบแรงๆ จนเสียงหวานต้องร้องขึ้นมาด้วยความเจ็บปวด “โอ๊ย! เบาๆสิ เจ็บนะ!” หญิงสาวหน้ามุ่ยตวัดสายตามามองเขาขุ่นๆ ดึงสติคนที่กำลังโมโหให้กลับคืนมา คีรินทร์รู้สึกตกใจเล็กน้อยเมื่อเห็นรอยแดงๆ บนแผ่นหลังเนียนซึ่งเกิดจากฝีมือของตัวเอง เขาอยากจะกล่าวขอโทษและถามว่าเจ็บมากไหมด้วยความรู้สึกผิด แต่เมื่อเห็นสายตาเขียวปัดของเธอก็เปลี่ยนใจพูดในสิ่งที่ตรงข้ามกับใจ “ถ้าอยากให้เบาก็หุบปากสิ” “……….” คราวนี้ดาวเรืองเม้มริมฝีปากเข้าหากันแน่นอย่างขัดใจ เพราะเธอไม่อยากจะเจ็บตัวมากไปกว่านี้ เธอนั่งนิ่งๆ ระหว่างที่เขาช่วยรูดซิบแกะเชือกผูกโบที่อยู่ทางด้านหลัง ซึ่งเธอไม่สามารถทำเองได้ กระทั่งเสียงทุ้มเอ่ยออกมา “เสร็จแล้ว ไปอาบน้ำซะ” คีรินทร์บอกพร้อมกับหมุนตัวก้าวยาวๆ ไปหยิบผ้าขนหนูผืนใหญ่ในตู้เสื้อผ้ามาโยนให้กับเธอ “ไม่! คุณไม่มีสิทธิ์มาสั่งฉัน” “ทำไมจะไม่มีสิทธิ์ ในเมื่อตอนนี้ผมเป็นสามีที่ถูกต้องตามกฎหมายของคุณ หรือจะให้ผมช่วยอาบ” “บ้า! อย่าเข้ามานะ ฉันอาบเองได้” ดาวเรืองรีบลุกพรวดจากที่พร้อมพันผ้าขนหนูผืนใหญ่เอาไว้ ขณะที่จ้องมองเขาด้วยสายตาหวาดระแวง “อาบเองได้ก็รีบๆ เข้าห้องน้ำไปสิ ถ้ายังยืนเถียงผมอยู่แบบนี้ ผมจะอาบให้เอง” “ไม่ต้อง!” พูดจบร่างอรชรก็วิ่งเข้าห้องน้ำไปอย่างรวดเร็ว ก่อนที่จะปิดประตูตามหลังเสียงดัง ปัง! คีรินทร์มองตามร่างบางพลางส่ายหน้าไปมาเบาๆ ด้วยความรู้สึกหนักอก เมื่อคิดว่าต้องมาใช้ชีวิตร่วมกับเด็กดื้ออย่างเธอ เขาไม่รู้ว่าจะหาวิธีปรองดองกับเธอยังไงดี ระหว่างที่ยังคิดแก้ปัญหาทางออกเรื่องนี้ เพราะเขาอยากจะมีชีวิตที่สงบสุขในทุกๆ วัน ไม่อยากมาปวดหัวหรือเถียงกับเธอเป็นเด็กๆ อย่างวันนี้ เกือบสองชั่วโมงต่อมา… ร่างอรชรเดินออกมาจากห้องน้ำด้วยผ้าขนหนูพันรอบอกผืนเดียวด้วยความเคยชิน เพราะเวลาอยู่บ้านซึ่งเป็นห้องนอนส่วนตัวเธอมักจะเดินออกมาเป่าผมให้แห้งก่อนแล้วค่อยใส่ชุดนอนก่อนเข้านอน โดยคิดไปว่าเจ้าบ่าวป้ายแดงของเธอคงจะหลับไปนานแล้ว เนื่องจากเธอใช้เวลาอาบน้ำนานพอสมควร ทว่าดูเหมือนเธอจะคาดการณ์ผิดไปอย่างถนัด ดาวเรืองชะงักเท้ายืนตัวแข็งทื่ออยู่กับที่เมื่อสบเข้ากับนัยน์ตาคู่คมของคนที่นั่งเอนหลังอยู่บนเตียงนอนกว้าง สายตามองมาที่เธอพลางกวาดสำรวจตั้งแต่หัวจรดเท้าอย่างถือวิสาสะ “คราวหลังถ้าอาบน้ำเสร็จก็เปลี่ยนเสื้อผ้าในห้องน้ำเลย อย่าออกมาในสภาพแบบนี้อีก” เสียงราบเรียบแฝงไปด้วยคำตำหนิของเจ้าบ่าวป้ายแดง ทำให้ใบหน้าขาวเนียนร้อนผ่าวขึ้นมาด้วยความรู้สึกเจ็บใจปนเขินอาย ตั้งแต่เกิดมาสาบานได้ว่าเธอไม่เคยรู้สึกอับอายเท่านี้มาก่อน ‘ก็ใครจะไปรู้ล่ะ นึกว่าหลับไปแล้วซะอีก’ ดาวเรืองเม้มริมฝีปากเข้าหากันแน่น อยากจะมุดดินหนีเสียให้รู้แล้วรู้รอด แต่เมื่อไม่อาจทำได้ดังใจหวังก็รีบก้าวยาวๆ ไปคว้าไดร์เป่าผมที่วางอยู่ตรงหน้าเครื่องแป้ง แล้วจัดการโกยชุดนอนจากกระเป๋าเดินทางลวกๆ แล้ววิ่งเข้าไปในห้องน้ำอีกครั้งโดยไม่คิดแม้แต่จะเหลียวหลังกลับมามอง คีรินทร์ทำได้เพียงมองตามร่างอรชรของภรรยาสาวพลางพ่นลมหายใจออกมาอย่างหนักหน่วง จริงอยู่ที่เขามีคนรักเป็นตัวเป็นตน แต่ถ้าหากเธอแต่งตัวยั่วเขาแบบนี้บ่อยๆ เกรงว่าจะไม่ส่งผลดีทั้งต่อเธอและต่อเขา เพราะเขาไม่ใช่พระอิฐพระปูนที่จะนิ่งเฉยต่อเรือนร่างเย้ายวน และผิวขาวเนียน ของสาวงามดุจกวางน้อยเนื้ออ่อนน่าลิ้มลองได้ทุกครั้งไปนั่นเอง ……………………………………. ดาวเรืองย่องออกมาจากห้องน้ำอีกครั้งหลังจากที่ใช้เวลาเป่าผมอยู่ในห้องน้ำจนแห้งสนิท รวมทั้งเปลี่ยนเสื้อผ้าเกือบชั่วโมง และครั้งนี้เธอก็ต้องถอนหายใจโล่งอกเมื่อพบว่าคนตัวใหญ่กำลังทอดกายนอนอยู่บนเตียงดวงตาปิดสนิท บ่งบอกว่าเขาหลับไปแล้ว ใบหน้างดงามยิ้มกริ่มเมื่อทางสะดวก เธอคิดว่าเวลานี้คงไม่มีการ์ดมายืนหน้าห้องแล้ว นี่จะเป็นโอกาสอันดีที่เธอจะหนีออกจากห้องหอ แล้วกลับไปยังไร่บ้านนอกที่เธอจากมา แต่เดินย่องออกไปยังไม่ถึงประตูก็ต้องชะงักเท้านิ่งราวกับถูกสาป “จะไปไหน?” เสียงเข้มห้วนของคนที่เธอคิดว่าหลับไปแล้วนั้นทำให้เธอสะดุ้งสุดตัว พร้อมกับหันกลับมามอง แล้วก็พบว่าตอนนี้คนตัวใหญ่กำลังลุกขึ้นนั่งบนเตียงจ้องมองเธอด้วยสายตาดุดันเอาเรื่อง “ปะ…เปล่าสักหน่อย เเค่จะออกไปหาน้ำดื่มแค่นั้นเอง” ดาวเรืองจำต้องหาข้ออ้างให้ตัวเองรอด แต่ดูเหมือนเขาจะรู้ทันเลยชี้ไปทางมุมหนึ่งของห้องนอนพร้อมบอกกับเธอ “น้ำดื่มในห้องก็มี ในตู้เย็นอะ ไปหยิบเอาสิ” สิ้นประโยคของเขาดาวเรืองก็เหมือนจะรู้ชะตาของตัวเองแล้วว่า ยังไงเสียคืนนี้เธอก็หนีออกจากห้องนี้ไม่ได้อย่างแน่นอน สิ่งเดียวที่เธอพอจะทำได้ตอนนี้คือทำใจ และยอมรับชะตาชีวิตซะ! เมื่อคิดได้ดังนั้นก็ต้องหมุนตัวเดินคอตกกลับเข้ามาในห้องตามเดิม …………………………………………..
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม